รวมข่าวอสังหาฯ วันพฤหัสบดี ที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2568
รวมข่าวอสังหาฯ วันพฤหัสบดี ที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2568
สิงห์ เอสเตท คว้ารางวัล ‘The Best of ESG’จาก Future Trends Awards 2025เสริมความเชื่อมั่นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชูรีอย่างยั่งยืน
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชูรีและการลงทุนระดับสากลนำโดย ศิริธร ธํารงนาวาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ กฤษฐ์หิรัญ อริยมหาพงศ์ รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ รับรางวัล “The Best of ESG” จาก Future Trends Awards 2025 ซึ่งเป็นเวทีรางวัลที่ Future Trends จัดร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ด้านธุรกิจหลาย ๆ ท่านร่วมคัดเลือกผู้ผ่านเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มอบให้แก่บริษัทและองค์กรที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่นในการขับเคลื่อนอนาคต ผ่านการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน รางวัลนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของสิงห์ เอสเตท ในการดำเนินกลยุทธ์ด้านการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน (ESG) อย่างจริงจัง โดยได้พัฒนาโครงการที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เช่น การใช้พลังงานสะอาด การลดการปล่อยคาร์บอน การออกแบบและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งกระบวนการก่อสร้าง และการบริหารอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรฐานความยั่งยืน หนึ่งในหลาย ๆ โครงการที่แสดงถึงความมุ่งมั่นด้านการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของสิงห์ เอสเตท คือ นิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง ซึ่งมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่สอดคล้องและตอบโจทย์ความยั่งยืนโดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบและใกล้เคียงเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่รอบนิคมอุตสาหกรรมในระยะยาวหรือธุรกิจอาคารเพื่อการพาณิชย์โครงการ S-OASIS บนถนนวิภาวดีรังสิต โครงการระดับพรีเมียมที่สะท้อนถึงความสำเร็จในการออกแบบอาคารอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีสอดคล้องกับแนวคิด “Sustainability & Well-being” ด้วยมาตรฐาน LEED Gold Version 4 อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี และประหยัดพลังงาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของสิงห์ เอสเตท ในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการปี 2567มียอดรับรู้รายได้ทั้งปีที่ 3,696.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 588.04 ล้านบาทพร้อมจ่ายปันผลทั้งปี 2567 รวม 0.34 บาท/หุ้น
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) ประกาศผลประกอบการปี 2567 มียอดรับรู้รายได้ที่ 3,696.59 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิที่ 588.04 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาจ่ายปันผลทั้งปีที่ 0.34 บาท/หุ้น ซึ่งหากคิดที่ราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield อยู่ที่ระดับราว 6.4%โดยผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 ท่ามกลางสภาพตลาดที่หดตัว บริษัทฯ สามารถทำยอดรับรู้รายได้ที่ 3,696.59 ล้านบาท โดยยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ราว 39% และมีตัวเลขกำไรสุทธิที่ 588.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 16% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของสภาวะอุตสาหกรรมโดยรวม โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเห็นชอบนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในการจัดสรรกำไรสำหรับปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.34 บาท หรือราว 314.5 ล้านบาท ซึ่งหากคิดที่ราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield อยู่ที่ระดับราว 6.4% โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.165 บาท ดังนั้นจะเหลือจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.175 บาทต่อหุ้น โดยได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 14 มีนาคม 2568 (หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 มีนาคม 2568) และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568
BRI โชว์รายได้ปี 67 รวม 3,860 ล้านบาท กำไรสุทธิ 427 ล้านบาท
Britania โชว์รายได้กลุ่มบริษัทปี 2567 รวม 3,860 ล้านบาท กำไรสุทธิ 427 ล้านบาท เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเคาะแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน-แจกวอแรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เสริมความแข็งแกร่งของฐานทุน รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ดร.ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI กล่าวว่าสำหรับผลประกอบการของบริทาเนีย ในปี 2567 จากการดําเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Crafting for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท นําไปสู่การสร้างยอดขาย (Presale) รวม 6,551 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ได้มีการร่วมทุนพัฒนาโครงการจากพันธมิตรท้ังสิ้น 7 โครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยหนึ่งในนั้นบริทาเนียได้รับความไว้วางใจจาก โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท ในเครือโซเท็ตซึ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านรถไฟฟ้า-อสังหาฯ-ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น สําหรับปี 2567 บริทาเนีย มียอดโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 3,441 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการที่ไม่ได้เป็นโครงการร่วมทุนเท่ากับ 2,848 ล้านบาท และเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการร่วมทุน 593 ล้านบาท นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีรายได้ค่าบริหารโครงการ เท่ากับ 536 ล้านบาท กําไรจากการจําหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย362 ล้านบาท รายได้อื่น 114 ล้านบาท จากรายการดังกล่าวทําให้บริทาเนียมีรายได้รวม เท่ากับ 3,860 ล้านบาท กําไรสุทธิ เท่ากับ 427 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 บริทาเนียมียอดขายที่รอรับรู้ได้รายได้เท่ากับ 802 ล้านบาท
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer