ทำเลและการเดินทาง

ทำเลที่ตั้งโครงการ

ที่ตั้งโครงการ Supalai Park Tala Phlu Station (ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู) จะอยู่ตรงถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก ห่างจาก BTS สถานีตลาดพลู เพียงประมาณ 250 เมตร เส้นทางการเดินทางไปยังโครงการสามารถมาได้หลายเส้นทาง เข้าออกจากถนนรัชดาภิเษก | ถนนรัชดา-ท่าพระ | ถนนกรุงธนบุรี | ถนนราชพฤกษ์ รถไฟฟ้าที่ใกล้สุดคือสถานีตลาดพลู และสามารถไปเปลี่ยน MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (Interchange) ตรงสถานีบางหว้า (ยังไม่เปิดใช้)

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครกงการ The Mall ท่าพระ, Big C ดาวคะนอง, Riverside Plaza เจริญนคร, Asiatique the river front, Tree on 3,Homepro พระราม 3
สถานศึกษา โรงเรียนศึกษานารี, โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย,โรงเรียนราชินี, มหาวิทยาลัยสยาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
โรงพยาบาล โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี, โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า, โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์, โรงพยาบาลตากสิน, โรงพยาบาลศิริราช

การเดินทางจริงเราจะเดินทางจากถนนพระราม 3 (ขาเข้า) มุ่งหน้าไปข้ามฝั่งไปยังฝั่งธนบุรี โดยใช้สะพานกรุงเทพข้ามไป

ตอนนี้กำลังอยู่บนสะพานกรุงเทพข้ามฝั่งไปยังฝั่งกรุงธนบุรี

ลงสะพานมาเสร็จให้ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ ขวามือข้างหน้าจะเป็น The Mall ท่าพระ

ขับมาถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายตามทาง

เลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเห็น BTS สถานีตลาดพลู ให้วิ่งซ้ายเอาไว้นะครับ

ลอดใต้สถานีตลาดพลู ให้ขับตรงตามทางไปก่อน

ขับมาได้สักพัก โครงการ Supalai Park Tala Phlu Station (ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู) จะอยู่ซ้ายมือ

ถึง Supalai Park Tala Phlu Station (ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู) คอนโดใหม่จากศุภาลัยละครับ

Floor Plan ขอเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 5 ซึ่งที่พักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นนี้ อาคารจะเป็นรูปตัว L ตามแปลนทิศเหนือจะหันไปซ้ายมือ ส่วน Facilities จะหันไปทิศตะวันตก และทิศใต้ ชั้นที่ 5 นี้นอกจากห้องพักอาศัยแล้ว จะเป็นพื้นที่ของ Facilities ที่จะมีสระว่ายน้ำ, ที่นั่งเล่น, สวนส่วนกลาง และห้องออกกำลังกาย

ลิฟท์โดยสารมีทั้งหมด 3 ตัว เป็น Service 1 ตัว ส่วนของห้องพักอาศัย Room Type แต่ละ Type จะวางไว้ต่างกัน แบบ 2 ห้องนอน จะเป็นห้องมุมทั้งหมด แบบ 1 ห้องนอน ส่วนใหญ่จะเป็นตำแหน่งวิวสระว่ายน้ำ และ Studio จะอยู่ตำแหน่งรอบนอก สำหรับชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตอยู่ทั้งหมด 29 ยูนิต Floor Plan 18th – 20th จำนวนยูนิตทางทิศใต้จะหายไปอีก 3 ยูนิต

Floor plan ชั้นที่ 6 – 10 ตำแหน่ง Type ห้องต่างๆ จะเหมือนกัน โดยห้องแบบ 2 ห้องนอนเป็นห้องมุม แบบ 1 ห้องนอนจะเป็นตำแหน่งวิวสระว่ายน้ำ ซึ่งจะหันไปทางทิศตะวันตก และทิศใต้ แบบ Studio อยู่ตำแหน่งรอบนอกที่จะหันไปทางทิศเหนือ และทิศตะวันออก

Floor Plan 11 จะแตกต่างกับชั้นอื่นๆตรงที่บนชั้นนี้จะมีพื้นที่สวนส่วนกลางที่เป็นขั้นบันไดจากการออกแบบ ทำให้จำนวนยูนิตตั้งแต่ชั้นนี้จะค่อยๆลดลง ชั้นนี้ห้องแบบ 2 ห้องนอนจะหายไป 2 ยูนิตทางทิศเหนือ นอกนั้นจะเหมือนกับชั้น 6 – 10

Floor Plan 12th – 16th จะแตกต่างจากชั้น 11 ตรงที่ไม่มีสวนส่วนกลางเพียงเท่านั้น

Floor Plan 17th – 20th จำนวนยูนิตที่หายไป 3 ยูนิตจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนบนชั้นที่ 17

Floor Plan 21st – 23rd จำนวนยูนิตหายไปอีก 2 ยูนิตตรงทิศใต้ และเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนเช่นเดิม

Floor Plan 22nd – 23rd จำนวนยูนิตก็จะลดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากการออกแบบเป็นขั้นบันได

Floor Plan 24th – 27th จำนวนยูนิตจะเหลืออยู่ 24 ยูนิต

Floor plan 27th สำหรับชั้นนี้ห้องแบบ 1 ห้องนอนที่หันไปตะวันตก (วิวสระว่ายน้ำ) จะกลายเป็นยูนิตที่ได้ Single corridor

Floor Plan 28th – 30th จะเหมือนกันเพียงแต่ชั้นที่ 28 จะมีพื้นที่สวนเพิ่มขึ้นมา

Floor Plan 31st -33rd ก็จะเหมือนกันเช่นกัน และมีพื้นที่สวนบนชั้นที่ 31

Floor Plan 31st -33rd ก็จะเหมือนกันเช่นกัน และมีพื้นที่สวนบนชั้นที่ 31

ห้องแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. ห้องแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือ และทิศตะวันออก ฟังก์ชั่นของห้องแบบ Studio นี้ถือว่าได้ตามมาตรฐาน โดยนำส่วนครัว และห้องน้ำมาไว้ด้านหน้าสุดของห้อง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนที่พักอาศัย ซึ่งเตียงจะอยู่วางไว้ตำแหน่งถัดจากชุดโซฟาที่อยู่ระหว่างห้องน้ำกับตำแหน่งเตียงนอน ปลายเตียงจะ Built in จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเชื่อมกับตู้เสื้อผ้า ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยไปได้มาก ด้านในสุดจะเป็นส่วนของระเบียง และมุมสามารถทำเป็นโต๊ะทำงานได้ โดยรวมแล้วห้องแบบ Studio สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า และลงตัว

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดจะอยู่ที่ 35 ตร.ม. ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะถูกวางไว้ทิศใต้ และตะวันตก ซึ่งทั้ง 2 ทิศจะได้วิวสระว่ายน้ำทั้งคู่ ฟังก์ชั่นของห้องแบบนี้คือจัดแยกส่วนได้อย่างชัดเจน โดยเอา Living Area มาไว้ด้านหน้าสุดตรงทางเข้าห้อง พื้นที่ของส่วน Living Area ก็มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างเวลาอยู่แล้วจะไม่ค่อนอึดอัด เนื่องจากเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา และเอาส่วนครัวไปไว้ด้านในสุดของห้อง (ครัวปิด)ซึ่งได้ครัวแบบนี้จะสามารถช่วยเรื่องกลิ่นอาหารได้ดีสามารถระบายกลิ่นจากการทำอาหาร และของที่แช่อยู่ในตู้เย็น ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดของห้องเช่นกัน สำหรับห้องแบบนี้ ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ห้องแบบสุดท้ายจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 72.50 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะอยู่ตำแหน่งมุมทั้งหมด ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่สุด และอยู่ตำแหน่งุมม ทำให้ห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้สามารถรับวิวจากด้านนอกได้ถึง 2 ทิศ ฟังก์ชั่นของห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้ทางโครงการจะเอา Living Area มาไว้ตำแหน่งตรงกลางระหว่างครัว กับห้องนอน ห้องนี้จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง ทั้ง 2 ห้องจะมีทั้งส่วนแห้ง ส่วนเปียกทั้งคู่ ส่วนของ Living Area จะอยู่ตรงกลางยาวมาตั้งแต่ประตูทางเข้าห้องจนไปสุดที่ระเบียงหลังห้อง ห้องนอนจะอยู่ด้านบนสุด โดยถูกแยกออกกันไว้คนละมุม

รีวิวคอนโด Supalai Park Tala Phlu Station

คอนโดใหม่แกะกล่องโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู (Supalai Park Tala Phlu Station) เป็นคอนโดสูง 34 ชั้น ถ้าดูจากโมเดลของอาคารนี้ด้านหน้าทางเข้าจะอยู่ทางถนนราชพฤกษ์ รูปแบบอาคารด้านหน้าจะเป็นรูปทรงเหมือนคอนโดสูงมาตรฐานทั่วไป แต่ด้านหน้าจะออกแบบให้เล่น Step คล้ายขั้นบันได เพราะเนื่องจากกฎหมายอาคารจึงทำให้ต้องมีระยะหล่นเข้าของอาคาร แต่ก็ทำให้อาคารดูมีสไตล์ และได้ความสดชื่น เพราะตรงขั้นบันไดเค้าจะตกแต่งเป็นสวน

ภายใต้ Concetp ที่ว่า  “ STEP TO PARALLEL LIVING : นิยามการก้าวไปสู่การใช้ชีวิตแบบคู่ขนาน ระหว่างการอยู่อาศัยใช้ชีวิตประจำวัน และการเดินทางเพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การทำงาน การท่องเที่ยวภายในเมือง-นอกเมืองต่างๆ ที่ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การ ออกแบบโดยให้ความสำคัญในการประหยัดพลังงาน เน้นการออกแบบที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน อาคารจึงถูกออกแบบและให้ความสำคัญในเรื่องต่างๆ อาทิ การวางผังโครงการให้แนวอาคารอยู่ห่างจากถนนสายหลัก เพื่อลดผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงและอากาศ”

มุมนี้มองจากทางทิศเหนือเข้าไปยังโครงการ ชั้นสำหรับจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ช้นที่ 1 – 4 ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 5 – 33 และ Facilities ส่วนกลางนั้นจะอยู่บนชั้นที่ 5 เช่นกัน

ZOOM ไปยังทางเข้าชัดๆอีกสักครั้ง มุมนี้จะมองจากทิศตะวันออก

มุมนี้จะเป็นทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

ชั้นที่ 1 – 4 จะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ

อ้อมมาถึงด้านทิศใต้กันบ้าง ฝั่งนี้จะสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่บริเวณชั้นที่ 5

อาคารทางทิศใต้นี้อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น อาคารด้านทิศนี้จะมี Step เป็นขั้นบันได และเป็นพื้นที่สวนสีเขียว ทำให้อาคารดูมีสไตล์ และทำให้หน้าตาของคอนโดมิเนียมแห่งดูไม่แข็งจนเกินไป

อาคารทางทิศใต้นี้อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น อาคารด้านทิศนี้จะมี Step เป็นขั้นบันได และเป็นพื้นที่สวนสีเขียว ทำให้อาคารดูมีสไตล์ และทำให้หน้าตาของคอนโดมิเนียมแห่งดูไม่แข็งจนเกินไป

ด้านหน้าสุดทางทิศเหนือ ฝั่งนี้จะหันไปทาง

แบบห้องพักอาศัย

ห้องพักอาศัยที่นี่จะมีอยู่ 3 แบบ ด้วยกัน โดยแบ่งเป็น Studio (มีห้องตัวอย่างให้ชม) 1 Bedroom (มีห้องตัวอย่างให้ชม) และ 2 Bedroom ซึ่งขนาดห้องของห้องจะเริ่มต้นตั้งแต่ 27.5 – 72.5 ตร.ม. ซึ่งถือว่าขนาด Studio ค่อนข้างใหญ่กว่าที่อื่นๆ โมเดลในภาพนี้จะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. ห้องแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือ และทิศตะวันออก

ฟังก์ชั่นของห้องแบบ Studio นี้ถือว่าได้ตามมาตรฐาน โดยนำส่วนครัว และห้องน้ำมาไว้ด้านหน้าสุดของห้อง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนที่พักอาศัย ซึ่งเตียงจะอยู่วางไว้ตำแหน่งถัดจากชุดโซฟาที่อยู่ระหว่างห้องน้ำกับตำแหน่งเตียงนอน ปลายเตียงจะ Built in จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเชื่อมกับตู้เสื้อผ้า

ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยไปได้มาก ด้านในสุดจะเป็นส่วนของระเบียง และมุมสามารถทำเป็นโต๊ะทำงานได้ โดยรวมแล้วห้องแบบ Studio สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า และลงตัว

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดจะอยู่ที่ 35 ตร.ม. ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะถูกวางไว้ทิศใต้ และตะวันตก ซึ่งทั้ง 2 ทิศจะได้วิวสระว่ายน้ำทั้งคู่

ฟังก์ชั่นของห้องแบบนี้คือจัดแยกส่วนได้อย่างชัดเจน โดยเอา Living Area มาไว้ด้านหน้าสุดตรงทางเข้าห้อง พื้นที่ของส่วน Living Area ก็มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างเวลาอยู่แล้วจะไม่ค่อนอึดอัด เนื่องจากเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา และเอาส่วนครัวไปไว้ด้านในสุดของห้อง (ครัวปิด)

ส่วนครัวนี้จะถูกมาวางไว้ด้านในสุด และกั้นด้วยประตูกระจกใส ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอก ซึ่งได้ครัวแบบนี้จะสามารถช่วยเรื่องกลิ่นอาหารได้ดีสามารถระบายกลิ่นจากการทำอาหาร และของที่แช่อยู่ในตู้เย็น ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดของห้องเช่นกัน สำหรับห้องแบบนี้ ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ฟังก์ชั่นของห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้ทางโครงการจะเอา Living Area มาไว้ตำแหน่งตรงกลางระหว่างครัว กับห้องนอน ห้องนี้จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง ทั้ง 2 ห้องจะมีทั้งส่วนแห้ง ส่วนเปียกทั้งคู่ ส่วนของ Living Area จะอยู่ตรงกลางยาวมาตั้งแต่ประตูทางเข้าห้องจนไปสุดที่ระเบียงหลังห้อง ห้องนอนจะอยู่ด้านบนสุด โดยถูกแยกออกกันไว้คนละมุม

ห้องแบบสุดท้ายจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 72.50 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะอยู่ตำแหน่งมุมทั้งหมด ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่สุด และอยู่ตำแหน่งุมม ทำให้ห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้สามารถรับวิวจากด้านนอกได้ถึง 2 ทิศ

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. ความสูงภายในห้อง Floor to ceiling 2.5 เมตรเข้าไปชมด้านในกันเลยครับ

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องแบบ Studio ส่วนแรกจะเจอส่วนครัวก่อนเป็นอันดับแรก

ชุดครัวที่มีทั้งตู้ล่าง และบนที่มาพร้อมกับเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ชุดครัวนี้จะตั้งไว้ตำแหน่งด้านหน้าสุดของตัวห้อง

พื้นตรงส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้อง แต่ในส่วนด้านในที่เป็นพื้นที่พักอาศัยจะปูด้วยไม้ลามิเนต

มุมนี้จะสามารถมองเห็นตั้งแต่ด้านหน้าสุดของตัวห้องเข้าไปยังด้านในสุดของห้องที่เป็นส่วนเตียงนอน ด้านหน้ายังสามารถ Built in ตู้เก็บรองเท้า เก็บของได้อีกด้วยนะครับ

ขยับเข้ามาหน่อย เดี๋ยวจะพาไปชมภายในห้องน้ำหันก่อน

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก และแห้งไว้อย่างชัดเจน

สุขภัณฑ์ที่นี่เลือกใช้เป็น Cotto

อ่างล้างหน้าจะได้เป็นทรงนี้

ส่วนที่อาบน้ำสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน

ระยะเว้นระหว่างโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้า

เดินออกมาจากห้องน้ำจะเห็นส่วนครัวอยู่ตรงข้าม ซึ่งจะเตรียมช่องสำหรับวางตู้เย็น

เข้ามาถึงส่วนห้องนอนกันบ้าง ถ้าดูจากรูปนี้ ฟังก์ชั่นของห้องนี้จะถูกวางไว้ได้อย่างลงตัวโดยเอาโซฟา และเตียงวางไว้ติดกัน ทำให้พื้นที่การพักผ่อนมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โต๊ะทำงานเอาไปวางเข้ามุมกระจกด้านในสุด โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า Built in ติดผนังไว้อีกฝั่งของเตียง ฟังก์ชั่นการจัดวางแบบนี้เป็นการจัดวางและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

ชุดโซฟาทรงตรงวางติดผนัง ขนาดของโซฟาสามารถนั่งได้ถึง 3 คน

โซฟาวางชิดกับเตียง และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้อีก 1 ตัว

หันไปอีกฝั่งจะเห้นทางโครงการจะ Built in โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางทีวี ชั้นวางของ และตู้เสื้อผ้า ตกแต่งออกมาได้สวยเลยทีเดียว

ZOOM เข้าไปตรงโต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวี

ผนังฝั่งหัวเตียง ทางโครงการตกแต่งห้องตัวอย่างให้เป็นไอเดีย เผื่อลูกค้าจะได้นำไปทำกันบ้าง

ถัดจากเตียงนอนเข้ามาในสุด จะเป็นมุม และมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติจากด้านออก ซึ่งตรงนี้จะสามารถทำเป็นมุมโต๊ะทำงานได้

มุมโต๊ะทำงาน และทางออกไปยังระเบียง

ส่วนของระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

มุมโต๊ะทำงาน และทางออกไปยังระเบียง

ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม.

ฟังก์ชั่นห้องแบบนี้จะได้พื้นที่ในแต่ละส่วนคุ้มค่ามาก เพราะการจัดวาง Layout ทำออกมาได้ดีมาก ส่วนแรกที่เจอตอนเข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ Living ดูจากภาพนี้จะเห็นได้ว่าพื้นที่ตรงบริเวณนี้มีขนาดที่กว้าง หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์ยังมีพื้นที่ว่างสำหรับใช้สอยอย่างอื่นได้อีก ซ้ายมือจะ Built in ชั้นวางทีวี และชั้นวางของโดยติดกับผนัง ตู้ก็จะเป็นตู้ลอยเพื่อง่ายในการทำความสะอาด

มุมนี้จะหันไปทางโซฟา ผนังสามารถตกแต่งได้เพิ่ม เผื่อบางคนไม่ชอบผนังที่ทาสีเฉยๆ ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ห้องซ้ายมือด้านในจะเป็นส่วนครัวซึ่งจะได้เป็นครัวปิด และอีกห้องจะเป็นห้องนอน

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหาร

ยืนอยู่ตรงโต๊ะรับประทานอาหารมองไปยังชั้นวางทีวี

ชั้นวางของ และทีวีจะเป็นตู้ลอย เหมาะกับการทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดโซฟา และโต๊ะกลาง

เก้าอี้ และโต๊ะรับประทานอาหาร

ซ้ายมือจะเป็นครัว ขวามือคือห้องนอน

เข้ามาถึงในส่วนครัว ตู้เย็นจะตั้งไว้บริเวณหน้าสุดของห้องครัว ถัดเข้าไปคือชุดครัวมีทั้งตู้บน และล่าง ด้านในสุดจะเป็นทางออกไปยังระเบียง

ตู้บนจะเป็นพื้นที่เก็บของ และมีช่องสำหรับวาง Microwave ผนังจะกันด้วยการปูด้วยกระเบื้อง เวลาล้างถ้วยชามจะไม่ทำให้ผนังเป็นรอย หรือบวม

Top ครัวคือลามิเนตสีดำ

เตาไฟฟ้า 2 หัว ที่นี่เลือกใช้ของ MEX

เครื่องดูดควันก็เป็นของ MEX เช่นกัน

ก๊อกน้ำสำหรับล้างจานจะได้เป็นทรงแบบนี้

ระเบียงที่เข้า ออกทางครัว บริเวณระเบียงทางโครงการจะเตรียมท่อสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย

มองย้อนกลับไปภายในห้อง

เข้ามาภายในห้องนอน ตำแหน่งการวางเตียงนอน และชั้นวางของตามนี้เลยครับ หน้าต่างเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง พื้นที่การเดินภายในห้องยังเหลืออยู่เยอะพอสมควรหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์ไปแล้ว สรุปการจัด Layout ของที่นี่ทำออกมาได้ดีเลย ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

ชั้นวางของที่อยู่ปลายเตียง

ตู้เสื้อผ้าจะถูกวางไว้ถัดจากเตียงนอนบริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ

มุมนี้จะยืนอยู่บริเวณมุมห้องมองย้อนไปทางเข้า ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือเดี๋ยวเข้าไปชมกัน

ตู้เสื้อผ้าจะวางไว้ด้านหน้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำดูแล้วสว่างสบายตา เพราะสีกระเบื้องที่เลือกมาใช้ และShower Box ที่เป็นกระจกใส ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด       

ฟังก์ชั่นของเตียงจะมีช่องเก็บของไว้ให้ด้วย

โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ เป็นของ Cotto