ค้นหารีวิวและสาระน่ารู้ เรื่องบ้านมากมายได้ที่นี่!
รีวิวบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ทำเล โครงการพรีวิว ข่าวอสังหาฯ และสาระน่ารู้กว่า 2,000 รายการ
รีวิว อาคิน วิภาวดี (ARKIN VIBHAVADI)
UNIT B บ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 36.7-44.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ
UNIT A PLUS บ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 36.7-38.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ
UNIT B PLUS บ้านแฝด 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 36.7-37 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ
Gated community
Main park
Swimming pool
Conference room
Outdoor lounge
Fitness and gym
เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ
ทำเลและการเดินทาง
โครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) ตั้งอยู่ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 84 ห่างจากถนนใหญ่วิภาวดีรังสิตเพียง 50 เมตรเท่านั้น ข้อดีในการอยู่ในซอยคือจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยระยะเพียง 50 เมตรสามารถเดินเข้าออกได้อย่างสบายๆ และรวดเร็ว สำหรับที่ตั้งของโครงการถือว่าอยู่ใจกลางแหล่งสำคัญของโซนดอนเมือง-วิภาวดีรังสิต หรือกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมหลักๆ และเป็นแหล่ง Lifestyle ที่มีความครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย
โซนดอนเมือง – วิภาวดีรังสิต ถือว่าเป็นทำเลที่มีการเติบโตสูงมาก เนื่องจากมีการพัฒนาในด้านต่างๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดความเจริญมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง แต่ถ้าให้พูดถึงโซนดอนเมือง-วิภาวดีรังสิต จะมีความเจริญเป็นต้นทุนเดิมมาอยู่แล้ว เพราะสนามบินดอนเมืองเคยเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยมาก่อน ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นสนามบินหลักที่บินภายในประเทศ และต่างประเทศ จึงการันตีได้ว่าทำเลโซนดอนเมืองนี้ เป็นทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก บวกกับเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของกรุงเทพฯตอนเหนือ ซึ่งจะประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่ศูนย์การค้าต่างๆ, อาคารสำนักงาน, โรงเรียน มหาลัยชื่อดัง, โรงพยาบาลชั้นนำ รวมไปถึงการคมนาคมหลักๆ อีกมากมาย
ในส่วนของการเดินทางถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดกับถนนวิภาวดีรังสิต ที่เป็นถนนหลักสำคัญในการเดินทางเข้าออกเมืองชั้นใน โดยถนนวิภาวดีรังสิตจะเป็นถนนเส้นยาวที่เชื่อมต่อเมืองชั้นในกับ ถนนพหลโยธินบริเวณโซนรังสิต จุดเด่นของถนนวิภาวดีรังสิตคือ จะเป็นถนนที่ตัดกับถนนสำคัญหลักๆ อีกมากมาย เริ่มตั้งแต่
ถนนรามอินทรา – ถนนแจ้งวัฒนะ 2 ถนนนี้ถือว่าเป็นถนนหลักสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซน นนทบุรี มีนบุรี และเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู
- ถนนรามอินทรา จะเชื่อมกับถนนเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา และไปเชื่อมกับโซนมีนบุรี
- ถนนแจ้งวัฒนะ จะเป็นถนนที่เชื่อมกับโซนปากเกร็ด ข้ามฝั่งไปยังถนนชัยพฤกษ์ นนทบุรี มากไปกว่านั้นยังตัดกับทางด่วนพิเศษศรีรัชอีกด้วยครับ
ถนนงามวงศ์วาน สำหรับถนนเส้นนี้จะเป็นถนนเส้นหลักสำคัญมากๆ ในการเดินทางของคนกรุงเทพ โดยถนนงามวงศ์วานจะเป็นถนนที่เชื่อมกับ ถนนรัตนาธิเบศร์ (แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง) และถนนประเสริฐมนูกิจ หรือถนนเกษตรนวมินทร์
ถนนรัชดาภิเษก ถนนเส้นนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นถนนหลักสำคัญที่เชื่อมกรุงเทพเป็นรูปวงกรม และเป็นถนนสามารถเชื่อมตรงสู่ NEW CBD พระราม9 – อโศก สุขุมวิท ได้อย่างง่ายดาย ถนนรัชดาภิเษกนี้ก็ยังเป็นถนนแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอีกด้วย
ถนนพหลโยธิน ถนนหลักอีกเส้นที่เริ่มมาตั้งแต่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ วิ่งยาวมาตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว แล้วตัดยาวไปเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณโซนรังสิต ซึ่งตลอดแนวของถนนพหลโยธินนี้จะเป็นถนนของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถือว่าเป็นจุดเด่นหลักสำคัญของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเลยครับ
ถนนลาดพร้าว เป็นถนนเส้นหลักสำคัญอีกเส้นในกรุงเทพฯ ถนนลาดพร้าวจะเป็นถนนค่อนข้างยาวเลยครับ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าว ที่เชื่อมมาจากถนนวิภาวดี ยาวจนไปสุดที่โซนบางกะปิ เสรีไทย ถนนศรีนครรินทร์ และถนนลาดพร้าวก็เป็นถนนของแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทุกถนนที่กล่าวมานั้นจะเป็นถนนหลักเส้นสำคัญของกรุงเทพฯ และเป็นถนนของแนวรถไฟฟ้าทั้งหมด
ถนนวิภาวดีรังสิต จะมาเชื่อมกับกรุงเทพชั้นในบริเวณโซนดินแดง ซึ่งตลอดแนวของถนนวิภาวดีรังสิตจะเป็นแนวของทางด่วนพิเศษดอนเมืองโทลล์เวย์ และเชื่อมกับทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร
ซึ่งการเดินทางด้วยรถยนต์จากโครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) ไปยังจุดสำคัญต่างๆ เดินทางได้อย่างสะดวก และง่ายดายมากๆ นอกจากเดินทางเข้าออกเมืองชั้นในแล้ว ยังสะดวกในการเดินทางไปทางเหนือของประเทศ เพราะถนนวิภาวดีรังสิตจะเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินที่สามารถเดินทางไปยังภาคตอนเหนือของประเทศได้สะดวก ซึ่งใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเส้นนี้เป็นหลักในการเดินทางเลยครับ
รถไฟฟ้า
ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) ที่ตั้งของโครงการจะอยู่กึ่งกลางกับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีดอนเมือง และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแยกคปอ
สำหรับ Lifestyle ของโซนนี้ จะใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เรียกว่าครบครันจนไปต้องเข้าเมืองให้เสียเวลาเลยครับ มีอะไรบ้าง?
ศูนย์การค้า
ZPELL | Major Cineplex รังสิต | เซียร์รังสิต | Future Park รังสิต | Central ลาดพร้าว | สวนจตุจักร
สถานศึกษา
มหาวิทยาลัยรังสิต | มหาวิทยาลัยศรีปทุม | มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ | โรงพยาบาลวิภาวดี | โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน | โรงพยาบาลวิมุต
อาคารสำนักงาน
อาคารชินวัตร 3 | TTB สำนักงานใหญ่ | ปตท | SCB สำนักงานใหญ่ | Sun Tower และอีกมากมาย
ภาพรวมของทำเลที่ตั้งของ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว และตอบโจทย์ในการอยู่อาศัยเป็นอย่างมากครับ
เรามาชมการเดินทางจริงๆ กันครับ ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 84 ซึ่งจะอยู่ฝั่งขาเข้า (ฝั่งเดียวกับสนามบินดอนเมือง) โดยเราจะเริ่มต้นบนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก จากกรุงเทพชั้นในมุ่งหน้าไปยังโครงการ โดยจะขับบนถนนวิภาวดีรังสิต แล้วไปเลี้ยวเข้าวงแหวนเพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน แล้วกลับรถมายังถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า เพื่อจะไปเข้าถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า พอเลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาเข้า) ขับตรงตามทางประมาณ 1 กม. ซอยวิภาวดีรังสิต 84 จะอยู่ซ้ายมือ พอเลี้ยวเข้าซอยแล้ว ประมาณ 50 เมตร ตัวโครงการจะอยู่ทางขวามือ เราไปชมการเดินทางจริงๆกันเลยครับ
การเดินทางเราจะเริ่มต้นตั้งแต่บนถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาออก) มุ่งหน้าไปยังโครงการ ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ
ขับตรงตามทางมาเรื่อยๆ จะผ่านสนามบินดอนเมือง อยู่ฝั่งตรงข้ามนะครับ เราขับตรงไปก่อน
พอผ่านสนามบินดอนเมืองมาประมาณ 2.5 กม. ให้สังเกตป้ายไปสะพานใหม่ไว้นะครับ ให้ขับชิดซ้ายขึ้นสะพานวนซ้ายตามป้ายเลยนะครับ
พอลงมาแล้วจะเป็นถนนพหลโยธิน ให้ขับตรงไปแล้วไปกลับรถใต้สะพาน
ไม่ต้องขึ้นสะพานไปสะพานใหม่นะครับ ให้ไปกลับรถตามป้ายรังสิตเลยครับ
กลับรถใต้สะพาน เพื่อกลับไปยังถนนวิภาวดีรังสิต
กลับรถมาแล้วให้ขับตรงตามทางไปนะครับ แล้วเตรียมตัวชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิต ตามป้ายบอกทางเลยครับ
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาเข้า)
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีรังสิตมาแล้ว มาให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1 กม. ซอยวิภาวดีรังสิต 84 จะอยู่ทางซ้ายมือ
ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ
ขับมาประมาณ 1 กม. ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 84
ถึงละครับ เลี้ยวเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 84 เลยครับ
เลี้ยวซ้ายเข้าเลยครับ
พอเลี้ยวเข้ามาแล้ว ขับตรงตามทางไปประมาณเพียง 50 เมตร ตัวโครงการจะอยู่ทางขวามือครับ
ผังโครงการ
Concept Design
เรามาทำความรู้จักที่เกี่ยวกับโครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) กันก่อนครับ สำหรับโครงการนี้จะมีคอนเซ็ปท์ในการออกแบบโดยหลักๆ จะเน้น 3 อย่างนี้ที่เป็นองค์ประกอบในการทำโครงการนี้ นวัตกรรม (Innovation) สภาพแวดล้อม (Environment) สังคม (Co-Living) โดยแกนหลักทั้งหมดนี้จะแตกออกมาเป็นส่วนๆ ในการออกแบบตามส่วนต่างๆ ภายในโครงการ เพื่อตอบโจทย์ในการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบ และมีความสุขมากที่สุด ในเวลาที่ได้อยู่อาศัยภายในโครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี)
Innovation จะแยกออกเป็น
- Design & Function ประกอบไปด้วย
- Living Room ออกแบบให้เป็น Flexible Semi-outdoor ที่มีความโปร่ง กว้าง สามารถเชื่อมต่อกับสวนด้านนอกได้อย่างลง Double Volume มีความสูงถึง 5.9 เมตร และประตูกระจกใสบานเลื่อน Laminated ขนาดใหญ่เป็นรูปตัว L มีความแข็งแรง คุณภาพสูง
- Working Space ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ในการอยู่อาศัย สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ต่างๆ ได้อีกมากมาย
- Master bedroom กินพื้นที่ชั้น 2 ทั้งหมดเปรียบเสมือน Penthouse
- Façade ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย แต่มี Detail อยู่ในแต่ละจุด ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
- Smart Technology นำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมกับการออกแบบบ้าน ประกอบไปด้วย
-Health ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ติดตั้ง Air Quality Control เป็นนวัตกรรมทำให้อากาศภายในบ้านดีขึ้น ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ ช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ และกรองฝุ่น PM 2.5
-Safety เป็นห่วงความปลอดภัยโดยติดตั้ง Intercom System เชื่อมต่อกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, Motion Sensors เป็นเครื่องมือตรวจจับการเคลื่อนไหว แรงสั่นสะเทือนภายในบ้าน, Digital Door Lock, CCTV ติดตั้งให้ 3 จุด และภายในบ้านอีก 1ตัว และ Magnetic Door Cube ระบบกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า ประตู หน้าต่าง จะแจ้งเตือนทันที่ถ้ามีการเปิด ปิด
-Comfort สรรสร้าง Application เพื่อความสะดวกในการงาน เปิด ปิด ระบบในส่วนต่างๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงระบบต่างๆ ภายในโครงการ อาทิเช่น สามารถจองส่วนกลางอย่างห้องประชุม เป็นต้น
-Cost Saving ประหยัดค่าไฟ จากระบบ Active Airflow ดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาในบ้าน, ดูดอากาศภายในบ้านขึ้นไปเหนือฝ้า และดูดอากาศจากบริเวณใต้หลังคาออกนอกตัวบ้าน, Solar Energy ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และ Laminated Glass กระจกสามารถลดอุณภูมิของแสงแดดเข้ามาภายในบ้าน ลดแสง UV 100% ลดความร้อนได้ 60%
- Common Facilities
- Sanctuary of Life ให้ความสำคัญกับ ธรรมชาติ โดยมีต้นไม้จำนวนมาก
- Common Area ประกอบไปด้วย Gate Community ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย มีระบบสแกนป้ายทะเบียน ระบบเช็คอินล่วงหน้า และ CCTV, Main Park สวนสีเขียวเน้นธรรมชาติ, Swimming Pool ระบบน้ำเกลือความยาว 15เมตร พร้อม Jacuzzi รายล้อมไปด้วย Vertical Garden (กำแพงต้นไม้), Conference Room ห้องประชุมขนาดใหญ่ มาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับ VDO Conference, Outdoor Lounge พื้นที่พักผ่อน และ Fitness and Gym ห้องออกกำลังมาพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดี
- Location & Neighbourhood
- ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
Co – Living
-Community การอยู่รวมกันของคนที่มี แนวคิด มุมมองชีวิต คล้ายๆกัน นี่คือที่มาของคำว่า Co-Living ได้ความเป็นส่วนเพราะมีเพียง 32 ยูนิต และออกแบบบ้านที่มีฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว ได้ความเป็นส่วนตัวในทุกส่วนภายในบ้าน และนี่คือคอนเซ็ปท์ในการออกแบบของโครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี)
ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) จะมีแบบบ้านให้เลือกอยู่ 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะออกแบบมาเหมือนกัน จะแตกต่างตรงแค่ Mirror สลับฝั่งกัน และมีขนาดพื้นที่ที่แตกต่างกันนิดหน่อย ส่วน Layout และฟังก์ชันการใช้งานจะเกือบเหมือนกันทั้งหมด
บ้านแบบ Type A จะเป็นบ้าน 3 ชั้น ครึ่ง ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ สำหรับแบบบ้านที่นี่เค้าจะออกแบบทางเข้าออกบ้านอยู่ด้านข้าง ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ด้านหน้าซึ่งสามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน
1st Floor Plan ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่จอดรถ 3 คัน ติดกันจะมีห้องเก็บของที่กั้นส่วนมาให้เรียบร้อย รอบตัวบ้านทางโครงการจะปูหญ้ามาเลเซียมาให้เลยนะครับ ข้อดีของหญ้ามาเลเซียคือ ไม่จำเป็นต้องโดนแสงแดดเยอะ ดูแลรักษาง่ายกว่าหญ้าชนิดอื่นๆ และทนแดด ทนอากาศร้อน ทนทานเวลาน้ำขังอีกด้วย ส่วนทางเข้าบ้านจะอยู่ด้านข้าง ถัดเข้าไปด้านในจะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ และโปร่งสูง บริเวณ Living Area จะเป็นแบบ Double Volume โดยความสูง Floor to Ceiling สูงขึ้น 5.9 เมตร ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังชั้น M (ชั้นลอย) ที่เป็นพื้นที่ Flexible Space สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ ได้ สำหรับบริเวณ Living Area จะมีพื้นที่วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ถึง 4 – 5 ที่นั่ง ติดกันจะเป็นตำแหน่ง Dining Area จุดเด่นของชั้นนี้จะเป็นประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนที่เป็นรูปตัว L ทำให้บริเวณ Living Area ดูโปร่งโล่งสบายตาเข้าไปอีก สามารถรับวิวสวนจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่ เสมือนนั่งอยู่ในสวนสีเขียวเลยครับ ส่วนถัดมาจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งจะอยู่ติดกับบันไดขึ้นลง ถัดเข้าไปด้านใน จะเป็นตำแหน่งของครัวที่เชื่อมต่อออกไปด้านนอกที่เป็นพื้นที่ซักล้าง
M Floor Plan ชั้นนี้จะเป็นชั้นลอยที่เชื่อมต่อมาจากโถง Living Area ชั้นที่ 1 ที่มีความสูงถึง 5.9 เมตร สำหรับพื้นที่บนชั้นนี้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานเป็นห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัยเลยครับ ตัวอย่าง ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่น ก็ได้ครับ และบริเวณโถงบันไดทางโครงการออกแบบมาให้มี Pocket Garden มาให้ด้วยครับ
2nd Floor Plan สำหรับชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งชั้น ฟังก์ชันการใช้งานภายในถือว่าออกแบบ แบ่งสัดส่วนต่างๆ มาได้อย่างลงตัว ตำแหน่งของเตียงจะอยู่ด้านในสุด และอยู่ติดกับระเบียงด้านนอก สามารถรับวิวรับลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ถัดมาจะเป็นในส่วนของ Walk in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ภายในห้องน้ำ Master Bedroom ทางโครงการจะให้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยนะครับ และกั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้งมาให้เรียบร้อยเช่นกัน
3rd Floor Plan ขึ้นมาชั้นบนสุด สำหรับชั้นนี้จะประกอบไปด้วยห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 สำหรับห้องนอนที่ 2 จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนที่ 3 นิดหน่อย ทั้ง 2 ห้องจะมีระเบียงส่วนตัว ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ ออกแบบให้ทุกห้องมีระเบียงส่วนตัว ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลยครับ
บ้าน Type B สำหรับแบบนี้จะออกแบบ และฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้าน จะเหมือนกับบ้าน Type A เลยครับ จะแตกต่าง ตรงที่ Mirror เพียงเท่านั้นครับ ซึ่งบ้านตัวอย่างจะเป็นบ้านแบบ TypeB นี้นะครับ
สำหรับบ้านอีก 2 แบบ TYPE A Plus กับ TYPE B Plus (ทาวน์โฮม) แปลนบ้านจะแตกต่างตรงบริเวณชั้น 1 กับ M โดยจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาบริเวณด้านในของตัวบ้าน นอกนั้นจะเหมือนกับบ้านแฝดแบบอื่นทั้งหมด
Zoom โชว์รูม
เรามาเดินชมภายในโครงการกันจริงๆ ครับ สำหรับที่นี่จะมีจำนวนยูนิตเพียง 32 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ส่วนแรกจะเป็นส่วนกลาง Clubhouse 2 ชั้น ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการเลยครับ โดยทางโครงการจะเน้นในเรื่องของความร่มรื่นที่มาจากธรรมชาติอย่างต้นไม้ โดยจะเน้นเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ทั่วภายในโครงการ
ภายใน Clubhouse จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม, ห้องฟิตเนส, Outdoor Lounge, สวนสีเขียวแบบ Vertical Garden และ Sundeck
สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 15 เมตร กว้าง 2.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ถือว่าเป็นขนาดที่ได้ตามมาตรฐาน สังเกตบริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำ จะเป็นกำแพงต้นไม้ขนาดใหญ่ จะได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ เพิ่มความพิเศษเข้าไปอีก โดยรอบสระว่ายน้ำทางโครงการจะปลุกต้มไม้เกล็ดแดง จะเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นเป็นสีแดง
บริเวณนี้จะเรียกว่า Outdoor Lounge จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ ชมวิวสระว่ายน้ำ และต้นไม้อีกมากมาย
สำหรับชั้นที่ 2 ของ Clubhouse จะเป็นห้องฟิตเนส และห้องประชุมครับ
Vertical Gander ก็ถือเป็นจุดเด่นอีกจุด เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ และมีต้นไม้ล้อมรอบได้ความเป็นธรรมชาติอย่างมาก
บ้านตัวอย่างจะเป็นบ้านแบบ Type B นะครับ
เรามาชมบ้านหลังจริงๆ กันต่อครับ สำหรับบ้านที่นี่จะเป็นบ้าน 3 ชั้น ครึ่ง หน้าตาภายนอกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมสวยแปลกตา ภายใต้คอนเซปต์ดีไซน์ Simple but not simple ตัวบ้านภายนอกออกแบบเรียบง่าย แต่ก็มีดีเทลอยู่เยอะเหมือนกัน โดยเน้นทั้งด้านหน้าของบ้าน และด้านข้างของบ้านที่เป็นทางเข้าบ้าน จุดเด่นอีกจุดจะเป็นการพ่นสีเม็ดทรายสีเทาบนผนังชั้น M และชั้น 2 และ3 สำหรับพื้นที่ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 3 คัน มีความกว้างประมาณ 10 เมตร ความลึกเริ่มต้นที่ 12.2 เมตร ถ้าสังเกตดีๆบนชั้น M และชั้น 2 จะเห็นเป็นกระจกใส ส่วนนั้นจะเป็น Pocket Garden สร้างบรรยากาศภายในบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อีกด้วย
หน้าตาด้านหน้าให้ความรู้สึกเรียบหรูไม่เหมือนใคร สำหรับบ้านที่นี่จะออกแบบโดยบริษัทออกแบบอันดับต้นๆของประเทศเลยครับ มีผลงานออกแบบมากมายในประเทศ และได้รางวัลต่างๆอีกมากมาย ดังนั้นการันตีได้เลยว่าที่นี่ บ้านสวยไม่เหมือนใครแน่นอน
สำหรับบ้านที่นี่จะมี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ บริเวณด้านหน้านี้จะจอดรถได้จำนวน 3 คัน และมีห้องเก็บของให้ สำหรับทางเข้าบ้านจะอยู่ทางด้านข้าง ให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะปกติบ้านทั่วไป ทางเข้า-ออกบ้านจะอยู่ด้านหน้าติดกับพื้นที่จอดรถด้านนอก ซึ่งคนที่อยู่ด้านนอกจะสามารถมองเข้ามาภายในบ้านได้ แต่ที่นี่ออกแบบให้ทางเข้าออกอยู่ด้านข้าง ทำให้พื้นที่ภายในบ้านได้ความเป็นส่วนไปทันที ไม่มีใครสามารถมองเข้ามาได้อย่างแน่นอน บวกกับกำแพงบ้านสูงถึง 2.4 เมตร ดังนั้นไม่มีทางที่คนด้านนอกจะมองเข้ามาภายในบ้านได้ครับ
สำหรับภาพนี้จะเป็น Façade ด้านข้างของตัวบ้าน ถ้ามองดีๆ ข้างนี้จะมีลูกเล่นมากกว่าด้านหน้า ถือว่าสวยโดดเด่นทั้ง 2 ข้างเลยครับ
บริเวณนี้จะเป็นบริเวณด้านข้างสำหรับเข้าบ้าน พื้นที่ด้านข้างที่เห็นนี้ทางโครงการจะปูหญ้ามาเลเซีย และต้นเศรษฐีเรือนนอกหลังละ 190 ต้นมาให้เรียบร้อย ซึ่งบริเวณนี้สามารถเรียกว่าเป็น Semi Outdoor ได้เลยครับ เพราะสวนบริเวณข้างบ้านนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับ Living Area ด้านในได้อย่างสุดพิเศษ เดี๋ยวเข้าไปชมกันว่าเป็นยังไงครับ
ทุกหลังจะเป็นประตูเข้าบ้านเป็น Digital Door Lock ความพิเศษของประตูนี้จะรับรองได้ถึง 4 Mode เข้าออกโดย สแกนลายนิ้วมือ, เข้าออกโดยผ่านรหัส, เข้าออกด้วย Card และกุญแจปลดล็อก ข้อพิเศษอีกอย่างของ Digital Door Lock นี้คือตัวเนื้อกระจกจะมีความหนา และป้องกันรอยได้อย่างดี
Smart Home ของที่นี่จะเป็น Nature Pad สำหรับควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้านมีฟังก์ชันหลากหลาย และสามารถ Intercom ไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านนอกได้ด้วย มากไปกว่านั้นทางโครงการยังติดตั้ง CCTV ในบ้าน 1 ตัว นอกบ้านอีก 4 ตัว ยังไม่หมดครับ ทางโครงการยังติดตั้ง ระบบ Active Airflow เป็นตัวช่วยสำหรับดูดอากาศ กับตัวปล่อยอากาศบริสุทธิ แถมยังสามารถฆ่าเชื้อโรค และป้องกัน PM 2.5 ได้อีกด้วย
พอเดินเข้าภายในบ้านจะพบกับ Living Area ที่โปร่ง โล่ง กว้าง แบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Double Volume ความสูงในส่วนนี้ Floor to Ceiling จะสูงถึง 5.9 เมตร ถือว่าสูงมากๆครับ พื้นที่ตรงกลางที่เห็นจะเป็นตำแหน่งการวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ขนาดโซฟาสามารถนั่งได้ถึง 4-5 คน
นี่จะเป็นมุม 4 มุมบริเวณ Living Area แต่ละด้านก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป มุมนึงได้ความธรรมชาติที่จะเชื่อมต่อกับสวนด้านนอก บางมุมก็ได้ความหรูอลังการเพราะเห็นทั้ง Living Area ส่วนครัว และห้องอเนกประสงศ์ที่อยู่บนชั้น M ภาพรวมบริเวณ Living Area คือสวยมากครับ
มุมนี้จะมองมาจากส่วนครัวกลับไปทาง Living Area
ซ้ายมือจะเป็นในส่วนของ Pantry ที่เชื่อมกับโต๊ะรับประทานอาหาร
สำหรับตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนเป็นรูปตัว L มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดเด่นสำคัญ เพราะพื้นที่ด้านในจะเชื่อมกับพื้นที่ด้านนอกที่เป็นสวน ทำให้สวนด้านนอกกลายเป็นส่วนหนึ่งกับ Living Area ไปทันที ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่สำหรับบ้านตัวอย่างนี้ ทางโครงการจะแต่งบริเวณสวนด้านนอกเป็นพื้นที่นั่งเล่นให้ดูเป็นตัวอย่าง เผื่อใครสนใจสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ต่างๆได้นะครับ
Pantry ที่ทางโครงการตกแต่งให้เห็นถึงความลงตัวในการใช้งานได้จริงๆ ถัดเข้าด้านในบ้านที่ได้รับจะเป็นพื้นที่สวนนะครับ แต่บ้านตัวอย่างได้ต่อเติมให้กลายเป็นห้องครัวเพิ่มขึ้นมาให้เห็นเป็นไอเดียเผื่อใครสนใจครับ
และนี่ก็คือพื้นที่ครัวที่ทางโครงการต่อเติมให้ดูตัวอย่าง ถือว่าสวยและมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นมาเยอะพอสมควร
ถัดเข้ามาด้านในมุมขวาจะเป็นพื้นที่ครัว
สำหรับพื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านนอก
ตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดกับบันไดขึ้นลง สำหรับห้องน้ำชั้นนี้จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะครับ
ขึ้นไปชมบนชั้น M (ชั้นลอย) กันต่อครับ สำหรับบริเวณบันได ทางโครงการจะติดตั้งโมชั่นเซ็นเซอร์ที่อยู่ตามบันได ทำให้มีแสงสว่างเวลาเดินผ่าน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานเป็นอย่างดี
เดินขึ้นมาบริเวณชานพักชั้น M จะเป็นโถงสูงถึง 11 เมตร และติดตั้งด้วยกระจกใสสามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มๆ ส่งผลให้บริเวณบันไดจะสว่างเป็นพิเศษ ส่วนด้านนอกจะเป็น Pocket Garden อีกจุดของบ้าน
ตอนนี้ยืนอยู่บริเวณชานพักชั้น M มองขึ้นไปยังห้องอเนกประสงค์ มุมนี้ให้ความรู้สึกโล่ง และกว้างมากครับ สำหรับพื้นของบันได และชานพักจะปูด้วย SPC
ขึ้นมาชั้น M มองลงไปยัง Living Area ชั้นที่ 1 สังเกตบริเวณโถงด้านข้าง ทางโครงการติดตั้งกระจกใสบานใหญ่ ทำให้พื้นที่ Living Area ดูโปร่ง โล่งมากขึ้น ส่งผลให้เวลายืนอยู่บนชั้น M จะได้ความโปร่งโล่งเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
ห้องอเนกประสงค์บนชั้น M บ้านตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องทำงาน แต่พื้นที่ของห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆได้อีกมากมายนะครับ ขึ้นอยู่กับ Lifestyle ของแต่ละคนเลยครับ อาทิเช่น ห้องเก็บของ ห้องโชว์สินค้า ห้องเก็บของสะสม กระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า และอื่นๆ
ฟังก์ชันของบ้านที่เชื่อมต่อกันด้วยความสูงถึง 5.9 เมตร
ขึ้นไปชมบนชั้นที่ 2 กันต่อครับ
มุมนี้จะยืนอยู่ชานพักมองขึ้นไปยังชั้นที่ 2
ขึ้นมาชั้นที่ 2 แล้วครับ สำหรับความสูงของชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 Floor to Ceiling จะอยู่ที่ 2.6 เมตร เราเข้าไปชม Master Bedroom กันต่อ
บนชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งหมด เข้ามาภายในห้องตำแหน่งของเตียงจะอยู่ทางขวามือ ซึ่งตำแหน่งของเตียงจะขนานกับระเบียงด้านนอก ทำให้บริเวณเตียงจะสามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่ สำหรับ Master Bedroom จะมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้บริเวณปลายเตียงสามารถเอาชุดโซฟามาตั้ง ทำให้มีพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มขึ้นมา ถือว่าใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
ยืนอยู่บริเวณหัวเตียงมองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง จะเห็นได้ว่าพื้นที่ภายในห้องนี้ใหญ่มาก ขนาดลงเฟอร์นิเจอร์ครบหมดแล้ว ยังเหลือพื้นที่เยอะเลยครับ
ตำแหน่งในการกั้นส่วนของชั้นวางทีวี หลังจากกั้นส่วนแล้วจะได้พื้นที่เป็น Walk in Closet ไปทันที
บริเวณ Walk in Closet สามารถ Built in ตู้เสื้อเป็นรูปตัว L จะทำให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น
เข้ามาภายในห้องน้ำของ Master Bedroom สำหรับห้องนี้จะพิเศษตรงที่มีอ่างอาบน้ำ และติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย ในส่วนของสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ จะเลือกใช้เป็นของ Kohler ทั้งหมดนะครับ
สังเกตบริเวณอ่างอาบน้ำจะมีหน้าต่าง เป็นช่องแสงเข้ามาจากด้านนอก ในส่วนของพื้นที่ และผนัง จะเป็นกระเบื้องสวยงาม
พิเศษอีกอย่างของห้องน้ำ Master Bedroom จะได้อ่างล้างหน้าเป็น His and Her และกระจกบานใหญ่ที่มาพร้อมกับชั้นเก็บของ
ขึ้นมาถึงชั้นที่ 3 จะเป็นชั้นสูงสุดนะครับ บนชั้นนี้จะมีห้องนอน 2 ห้อง คือห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 เราไปชมห้องนอนที่ 2 กันก่อนครับ
ยืนอยู่หน้าห้องนอนที่ 2
เข้าภายในห้องนอนที่ 2 สำหรับห้องนี้สามารถกั้นส่วนระหว่างพื้นที่ของเตียง กับตู้เสื้อผ้า ให้กลาย Walk in Closet ตามบ้านตัวอย่างนี้นะครับ
ตำแหน่งของเตียงจะวางตามภาพนี้เลยนะครับ ด้านในสุดจะเป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอก ส่วนบริเวณปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งที่กั้นส่วน สามารถทำเป็นชั้นวางทีวีได้ด้วยนะครับ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดี ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามากๆ
มุมต่างๆภายในห้องนอนที่ 2
Walk in Closet ที่เกิดจากการกั้นส่วน สวยมากเลยครับ ด้านข้างจะเป็นตำแหน่ง Built in ตู้เสื้อเป็นแนวยาว และสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า
ภายในห้องน้ำของห้องนอนที่ 2 ทางโครงการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆมาให้ตามภาพนี้เลยครับ
ห้องนอนที่ 3 สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กสุด พอเดินเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำเป็นอย่างแรก
เข้ามาภายในห้องน้ำอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ เป็นของ Kohler ทั้งหมดเช่นกัน
สำหรับห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตได้อย่างลงตัว เหมาะกับเป็นห้องเด็กน้อย
มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของ
สรุป by Homezoomer
โครงการ ARKIN VIBHAVADI (อาคิน วิภาวดี) เป็นบ้านแฝด และทาวน์โฮม 3 ชั้น ครึ่ง พื้นที่ใช้สอยอยู่ประมาณ 270 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ จำนวนยูนิตมีทั้งสิ้น 32 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการบ้านที่ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง สำหรับคอนเซปต์ดีไซน์ของที่นี่คือ Simple but not simple โดยจุดเด่นของที่นี่จะออกแบบโครงการภายใต้ 3 อย่างคือ Innovation (นวัตกรรม) Environment (สภาพแวดล้อม) และ Co-Living (สังคม) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้จะนำมาใช้ในการออกแบบในแต่ส่วนภายในโครงการอย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นโครงการที่พัฒนาที่ดินให้เป็นโครงการพักอาศัยที่อยู่ในสังคมที่ดี อยู่แล้วมีความสุขทั้งการพักอาศัย การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ Lifestyle ให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ในส่วนตัวบ้านจะออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นเน้นเป็นสีขาว รูปทรงเหลี่ยมแบบมีมิติ ทำให้หน้าตาภายนอกสวยแปลกตาไม่เหมือนใคร ภายในบ้านก็ออกแบบมาได้อย่างลงตัว แยกสัดส่วนการใช้อย่างชัดเจน จุดเด่นจะเป็นโถง Living Area ชั้นที่ 1 มีความสูงเป็นแบบ Double Volume สูงถึง 5.9 เมตร ทำให้พื้นที่ Living Area ที่อยู่ชั้นที่ 1 เชื่อมต่อกับชั้น M (ชั้นลอย) ที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ลงตัว จุดเด่นอีกจุดจะเป็นประตูกระจกใสเป็นรูป L ซึ่งส่วนนี้จะทำให้ Living Area เชื่อมกับสวนด้านนอกเสมือนเป็นพื้นที่เดียวกันไปทันที สำหรับห้องนอนจะมีจำนวนทั้งสิ้น 3 ห้อง แบ่งเป็น Master Bedroom อยู่บนชั้น 2 ทั้งชั้น ห้องนอนที่ 2 และ ห้องนอนที่ 3 จะอยู่บนชั้นที่ 3 จุดเด่นอีกจุดคือทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัว ในส่วนของวัสดุที่ทางโครงการเลือกมาใช้ถือว่าเป็นวัสดุอย่างดี ทุกอย่างแข็งแรงและได้มาตรฐานทั้งหมด ส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนกลาง ที่นี่จะมี Clubhouse 2 ชั้น ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องประชุม และสวนสีเขียวแบบ Vertical ครับ
ในส่วนของทำเลถือว่าตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพครบครัน ทั้งการเดินทางที่ติดถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต และทางด่วนพิเศษดอนเมืองโทลล์เวย์ ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ สะดวก และรวดเร็ว ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงโครงการจะมีอยู่ครบครันทั้ง ศูนย์การค้า โรงเรียน มหาลัย โรงพยาบาล หรือจะเป็นอาคารสำนักงาน ก็ใกล้กับโครงการทั้งหมด ทำให้การใช้ชีวิตในทุกๆวันถือว่าสมบูรณ์แบบ ภาพรวมของโครงการถือว่าดีเลยนะครับ ถือว่าเป็นโครงการบ้านที่มีทุกอย่างครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 10.90 ล้านบาท ใครกำลังมองหาบ้านหลังใหม่ในโซนดอนเมือง-วิภาวดีรังสิต โครงการนี้เลยครับ
Tag
เนื้อหาที่น่าสนใจ
คอนโดมิเนียม
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า Airport Link
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT
- คอนโดอารียา (AREEYA PROPERTY)
- คอนโด ลุมพินี LPN
- คอนโดคิวเฮ้าส์ Q.HOUSE
- คอนโดเจ้าพระยามหานคร CMC
- คอนโดอนันดา (ANANDA)
- คอนโดเอพี (AP)
- คอนโดนารายณ์ NARAI PROPERTY
- คอนโดพฤกษา PRUKSA
- คอนโดลลิล LALIN PROPERTY
- คอนโดศุภาลัย SUPALAI
- คอนโดเมเจอร์ MAJOR DEVELOPMENT
- คอนโดเสนา SENA
- คอนโดเอสซี แอสเสท SC ASSET
- คอนโดแกรนด์ ยู GRAND U
- คอนโดปริญสิริ PRINSIRI
- คอนโดแลนด์แอนด์เฮ้าส์ LAND&HOUSES
- คอนโดแสนสิริ SANSIRI
- คอนโดโนเบิล NOBLE DEVELOPMENT
- คอนโดไรมอน แลนด์ RAIMON LAND
คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า
-
คอนโด ใกล้ BTS อโศก
-
คอนโด ใกล้ BTS ทองหล่อ
-
คอนโด ใกล้ BTS เอกมัย
-
คอนโด ใกล้ BTS พระโขนง
-
คอนโด ใกล้ BTS อ่อนนุช
-
คอนโด ใกล้ BTS อุดมสุข
-
คอนโด ใกล้ BTS บางนา
-
คอนโด ใกล้ BTS พญาไท
-
คอนโด ใกล้ BTS อารีย์
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานควาย
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานตากสิน
-
คอนโด ใกล้ BTS กรุงธนบุรี
-
คอนโด ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่
-
คอนโด ใกล้ BTS บางหว้า
Contact Us
ติดต่อโฆษณาได้ที่
โทร. 02–663–8697
หรือ 092–369–3622
Line : Homezoomer
Facebook : Homezoomer
E-mail : contact@homezoomer.com