ซัมเมอร์นี้อยู่บ้านหลบร้อน…หนีไวรัส

เปิดแอร์ทั้งวันก็ไม่กลัวค่าไฟพุ่ง

ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นช่วงที่เข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับบ้านเรา ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะร้อนเป็นปกติทุกวันก็เถอะ แต่อย่างที่เรารู้กันว่าช่วงเดือนมีนา/เมษานี้อากาศจะร้อนมากเป็นพิเศษ ร้อนถึงขนาดว่าไม่อยากจะอยู่บ้านกันเลยทีเดียว แต่ถึงอยากจะออกไปไหนก็ทำไม่ได้ เพราะในสถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญกับโรคระบาดแบบนี้ทำให้ออกไปไหนก็มีความเสี่ยงเนื่องจากต้องพบเจอกับผู้คนมากมาย บ้านจึงกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว

อีกทั้งช่วงนี้ หลายบริษัทก็มีมาตรการให้พนักงานเวิร์คฟอร์มโฮมหรือก็คือการให้พนักงานทำงานที่บ้าน ทำให้ต้องอยู่บ้านตลอดเวลาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวันในหน้าร้อน การเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกันเพื่อช่วยคลายความร้อนนี้ ส่งผลให้ในช่วงหน้าร้อนหลายบ้านต้องประสบกับปัญหาค่าไฟพุ่งอย่างรุนแรง ที่พอเห็นบิลค่าไฟแล้วถึงกับแข้งขาอ่อนกันเลยทีเดียว แต่ถึงรู้แบบนี้แล้วจะไม่ให้เปิดเครื่องปรับอากาศก็คงอยู่ไม่ได้เพราะพลังความร้อนนั้นช่างรุนแรงซะเหลือเกิน ถึงขนาดว่าอยากจะเปิดพัดลมเพื่อคลายความร้อน แต่ลมที่ออกมาจากพัดลมก็ดันกลายเป็นลมไอร้อนซะงั้น…

ต้องยอมรับเลยว่าปัญหาค่าไฟแพงนั้น เป็นปัญหาหลักเลยที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าจะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ  แต่หากเรารู้ทริคในการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟไปได้เยอะเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่รับรองการประหยัดไฟอย่างฉลากเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาวแล้ว วันนี้ Homezoomer ได้รวบรวมเทคนิคการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศอย่างประหยัดถึงแม้ว่าจะเปิดทั้งวันก็ตาม ค่าไฟก็ไม่พุ่ง หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ประสบกับปัญหานี้อยู่ ลองมาดูเคล็ดลับเหล่านี้พร้อม ๆ กันเลย…

เตรียมพร้อมต้อนรับซัมเมอร์ด้วยการล้างแอร์

เครื่องปรับอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา แต่อาจจะไม่ได้ใช้งานหนักเท่ากับช่วงหน้าร้อน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเครื่องปรับอากาศที่บ้าน อันดับแรกที่ต้องทำเลยนั่นก็คือการล้างทำความสะอาดนั่นเอง เนื่องจากเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกทั้งหลายเข้าไปอุดตัน ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศไม่ค่อยเย็น ทำงานหนักซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ กินไฟมากขึ้น และหากคอยล์เย็นอุดตันมากๆ ก็จะทำให้น้ำหยดได้  เพราะฉะนั้นจะให้ดี อย่างน้อย ๆ ให้ทำการถอดแผ่นกรองหยาบของเครื่องปรับอากาศออกมาล้าง ก็จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศกลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือหากไม่สะดวกทำเอง จะใช้บริการช่างล้างแอร์เพื่อล้างทำความสะอาดอย่างเต็มรูปแบบก็จะยิ่งช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

เพิ่มอุณหภูมิอีกนิด…ประหยัดไฟกว่า

หลายคนอาจเข้าใจมาตลอดว่า การเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิ 25 องศาจะช่วยประหยัดไฟที่สุด แต่จริง ๆ แล้ว อุณหภูมิ 25 องศานั้น เป็นระดับอุณหภูมิที่มีการวิจัยว่าเป็นระดับอุณหภูมิที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากลองเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่สูงขึ้นอีกนิด เช่น 26-27 องศา แล้วร่างกายยังรู้สึกสบายและรับได้อยู่ ไม่ได้รู้สึกร้อนอะไร ก็แนะนำให้ลองเพิ่มดูนะครับ วิธีนี้จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานเบาลง กินไฟน้อยลง ประหยัดพลังงานกว่า และช่วยเซฟค่าไฟขึ้นด้วย

เลี่ยงการเปิดแอร์ในพื้นที่เปิดโล่ง

การเปิดใช้เครื่องปรับอากาศในพื้นที่เปิดโล่ง เช่น พื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับโถงบันได/โถงทางเดิน หรือห้องที่ไม่มีประตู/กำแพงกั้น จะทำให้เครื่องปรับอากาศนั้นทำงานหนักเกินไปเนื่องจากพื้นที่ไม่สัมพันธ์กับขนาดของเครื่องปรับอากาศ และส่งผลให้กินไฟกว่าปกติ เพราะฉะนั้นหากจำเป็นจะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศจริง ๆ นอกจากจะต้องปิดประตูและหน้าต่างทุกบานที่มีอยู่ภายในห้องนั้นแล้ว ให้ทำการกั้นทางเชื่อมต่าง ๆ ด้วยฉากทึบหรือฉากที่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่สามารถผ่านได้มากั้นไว้ นอกจากนี้ตามบริเวณช่องแสงหรือหน้าต่างก็ให้ติดฟิล์มกัน UV และใช้ผ้าม่านช่วยในการบดบังไอแดดที่จะเข้ามาภายในห้อง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างปกติและประหยัดไฟกว่า

พัดลม & แอร์ ใช้คู่กันประหยัดกว่า

หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าการเปิดทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลม พร้อม ๆ กัน จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศเพียงอย่างเดียว แต่การใช้งานพร้อม ๆ กันในที่นี้ต้องทำให้ถูกต้องนะครับ ถึงจะช่วยประหยัดไฟได้ ก่อนอื่นเลยให้ทำการเปิดพัดลมเพื่อไล่ความร้อนออกจากห้องให้หมด จากนั้นก็เปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศไปด้วย พัดลมจะช่วยให้ความเย็นกระจายไปทั่วห้อง เพียงเท่านี้ก็ทำให้ถึงแม้จะเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณภูมิที่สูงกว่า 25 องศา ก็ไม่ทำให้รู้สึกร้อน แถมความเย็นยังกระจายทั่วทั้งห้อง สุดท้ายอย่าลืมปิดเครื่องปรับอากาศก่อนตื่นนอน 1 ชั่วโมงทุกครั้ง จะสามารถช่วยประหยัดไฟได้เยอะเลยทีเดียว

เลี่ยงการนำของร้อน/ชื้นเข้ามาขณะเปิดแอร์

การนำของร้อน อาทิ หม้อที่พึ่งยกออกจากเตา เข้ามาภายในห้องที่กำลังเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศอยู่ จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งก็จะทำให้กินไฟยิ่งขึ้นไปอีก และไม่ใช่เพียงของร้อนเท่านั้น ยังรวมไปถึงของชื้นอื่น ๆ ด้วย อาทิ ต้นไม้ ตู้ปลา หรือการเอาผ้าชื้น ๆ มาตากภายในห้องที่กำลังเปิดใช้เครื่องปรับอากาศอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเช่นเดียวกัน เพราะต้องใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อกำจัดความชื้นให้อากาศที่อยู่ในห้องนั้นแห้งนั่นเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด เป็นเพียงเทคนิคในทางปฏิบัติที่จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่องปรับอากาศเท่านั้น แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเรามีเครื่องปรับอากาศที่ดี ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ต้องเผชิญกับความร้อนในทุก ๆ วันบวกกับสถานการณ์ไม่สู้ดีจากโรคไวรัสที่ระบาดอยู่ทั่วโลก ทำให้ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าบ้านของเราเอง เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty จะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่บ้านให้เย็นสบายและประหยัดไฟกว่าที่เคยด้วยระบบ Inverter แท้ทั้งระบบ เพราะไม่มีที่ไหน เย็นใจเท่าบ้านเรา…

วันนี้ Homezoomer ขอนำเสนอเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพชั้นนำอย่าง Mitsubishi ถึง 3 รุ่นที่น่าสนใจด้วยกัน ได้แก่ รุ่น YVS (AKI Series), รุ่น YXS (YUKI Series) และรุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น ZSXS (FUYU Series) โดยทั้ง 3 รุ่นนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องของความเย็นไว ความทนทาน และที่สำคัญประหยัดไฟมาก ๆ เนื่องจากเป็นระบบ Inverter แท้ทั้งระบบ ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า (มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว) ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนที่สำคัญ 4 ชิ้นส่วนด้วยกันคือ แผงวงจรอัจฉริยะ PAMที่สามารถควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน, คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงานให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้อง ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น, วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV เป็นตัวควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็นเพื่อให้วงจรสารทำความเย็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด และสุดท้าย มอเตอร์กระแสตรง ทำให้มีความแม่นยำในการควบคุมความเร็วรอบและเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้ นอกจากจะเย็นเร็ว ทนทาน และประหยัดไฟสุด ๆ แล้ว ยังมีฟังก์ชันที่โดดเด่นน่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถยกระดับการใช้ชีวิตในบ้านได้เป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย…

(Mitsubishi Heavy Duty รุ่น YVS)

(Mitsubishi Heavy Duty รุ่น YXS)

รุ่น YVS & YXS (AKI & YUKI Series) มีฟังก์ชันที่โดดเด่นเหมือนกัน ได้แก่ Jet flow คือการออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ท ทำให้ส่งลมเย็นได้ไกลสูงสุด 17 เมตร, Hi Power คือการใช้งานโหมดพลังสูง เร่งความเร็วให้ห้องเย็นตามที่กำหนดภายในเวลา 15 นาที, 3D Auto คือ ฟังก์ชันกระจายลมอัตโนมัติแนวตั้ง 6 รูปแบบ แนวนอน 8 รูปแบบ ส่งลมเย็นกระจายให้อุณหภูมิเย็นเท่ากันทั่วทั้งห้อง, 24 Hour ION ช่วยปล่อยไอออนลบ ให้อากาศสดชื่น บริสุทธิ์เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และ Self Clean ฟังก์ชันทำความสะอาดตัวเอง สามารถไล่ความชื้นในคอยล์เย็น ช่วยให้คอยล์เย็นแห้ง ช่วยยับยั้งกลิ่นอับและการเจริญเติบโตของเชื้อรา

(Mitsubishi Heavy Duty รุ่น ZSXS)

รุ่น ZSXS (FUYU Series) ก็มีฟังก์ชันที่โดดเด่นเช่นเดียวกับ รุ่น YVS & YXS ได้แก่ Jet flow ที่ออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ท ทำให้ส่งลมเย็นได้ไกลสูงสุด 11 เมตร, Hi Power การใช้งานโหมดพลังสูง เร่งความเร็วให้ห้องเย็นตามที่กำหนดภายในเวลา 15 นาที, 3D Auto ฟังก์ชันกระจายลมอัตโนมัติแนวตั้ง 6 รูปแบบ แนวนอน 8 รูปแบบ ส่งลมเย็นกระจายให้อุณหภูมิเย็นเท่ากันทั่วทั้งห้อง และระบบ Self Clean ที่ช่วยไล่ความชื้นในคอยล์เย็น ช่วยยับยั้งกลิ่นอับและการเจริญเติบโตของเชื้อรา เพิ่มเติมมีระบบ Allergen Operation ซึ่งเป็นระบบทำลายเชื้อโรคและต่อต้านสารก่อภูมิแพ้

นอกจากนั้นรุ่น ZSXS (FUYU SERIES) ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันประหยัดไฟที่โดดเด่นอีกด้วย ได้แก่ Motion Sensor, Auto Off และ ECO Operation ซึ่งเครื่องปรับอากาศจะจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง และคำนวณเพื่อปรับระดับอุณหภูมิ ความแรงของพัดลมและโหมดการทำงานโดยอัตโนมัติ หรือหากตรวจสอบไม่พบความเคลื่อนไหวในห้องภายใน 1 ชั่วโมง เครื่องจะเข้าสู่โหมด Stand by และจะกลับทำงานใหม่อีกครั้งเมื่อมีคนเดินกลับเข้ามาในห้อง และหากตรวจสอบไม่พบความเคลื่อนไหวภายใน 12 ชั่วโมงเป็นต้นไป เครื่องจะปิดการทำงานเองโดยอัตโนมัติโดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าระยะเวลาดังกล่าวได้อย่างอิสระ ซึ่งตัดปัญหาเรื่องการกินไฟไปได้เลย เพราะ ZSXS Fuyu Series เปิดทั้งวันก็กินไฟนิดเดียวววว

จากฟังก์ชันทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ทั้ง 3 รุ่นยังมาพร้อมกับ Nano Air filter ตัวช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรุ่น AKI และ YUKI Series นั้นจะมีแผ่นฟอกอากาศ Anti Allergen & Activated Carbon Filter ที่มีคุณสมบัติดักจับสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตราย ตลอดจนฝุ่นละอองในอากาศแถมมาด้วย แต่สำหรับรุ่น FUYU Series นั้นจะเป็นแผ่นกรอง Allergen Clear Filter ที่มีคุณสมบัติดักจับและทำลายสารก่อภูมิแพ้แทน ซึ่งในส่วนนี้ผู้ใช้งานสามารถซื้อแผ่นกรองชนิดอื่นๆ มาเปลี่ยนได้ที่ศูนย์บริการเช่นกันครับ

มาถึงตรงนี้แล้วต้องบอกเลยว่า เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ทั้ง 3 รุ่นนี้ เหมาะกับการใช้งานและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยที่ปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไหนจะความร้อน ฝุ่นควัน และไวรัสต่าง ๆ ซึ่ง Mitsubishi Heavy Duty ก็ได้คิดใส่ใจทุกรายละเอียดและให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้ใช้งานทุกคน ด้วยนวัตกรรมและฟังก์ชันที่ทันสมัย รวมไปถึงประหยัดไฟแบบสุด ๆ ทำให้ MitsubishiHeavy Duty ครองใจผู้ใช้งานมาอย่างยาวนาน

 

คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง Facebook : Mitsubishi Heavy Duty Thailand
Website : www.mitsuheavythai.com
เบอร์โทรศัพท์ : 02 378 9999
…

เรียบเรียงโดย Homezoomer

เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 :  Hubzoomer.com

ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer