“ณวรางค์” ชี้ทำเลทองย่านฝั่งธนฯ กระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่
“ณวรางค์” ชี้ทำเลทองย่านฝั่งธนฯ กระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่
หนุนทำเลเจริญนครบูม โอกาสซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุน
ณวรางค์ ชี้ทำเลถนนเจริญนคร ทำเลทองแห่งการอยู่อาศัยและซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุน จากปัจจัยหนุนสำคัญระบบรถไฟฟ้า และเตรียมเปิดใช้อาคารขนาดสูงของโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 6 อาคาร พื้นที่รวมกว่า 200,000 ตร.ม. สร้างโอกาสทำกำไรให้นักลงทุนอสังหาฯ ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า รับผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าปีละ 5%
นายอภิภู พรหมโยธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ออกแบบโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ฝั่งธนบุรีโดยเฉพาะย่านถนนเจริญนคร มีการเปิดใช้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายและโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง รวมถึงมีการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่เกิดขึ้น ส่งผลให้ย่านเจริญนครกลายเป็นทำเลทองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทั้งในด้านการอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดการพัฒนาโครงการสำคัญต่าง ๆ มากมาย
นอกจากโครงการที่เปิดให้บริการก่อนหน้านี้แล้ว ยังพบว่า ย่านเจริญนครยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ คาดว่าเฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2566-2567 อย่างโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนเนื้อที่ 19 ไร่ ซึ่งโครงการประกอบด้วยอาคารสำนักงาน 6 อาคาร รวมพื้นที่กว่า 220,000 ตร.ม. ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งงานสำคัญในย่านฝั่งธนบุรีด้วย เพราะจะมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่จาก 7 กรมของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาทำงานจำนวนมากกว่า 7,000 คน
“ในอนาคตทำเลย่านเจริญนคร ยังจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาอีกมากจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ ยิ่งจะช่วยผลักดันให้ทำเลนี้มีความน่าสนใจ และเป็นทำเลทองสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย เพื่อออกมารองรับความต้องการอยู่อาศัยในทำเลเจริญนคร แต่ปัจจุบันเหลือซัพพลายไม่มากแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหากโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยเสร็จสมบูรณ์ จะดึงดูดให้เกิดการพัฒนาโครงการคอนโดใหม่ ๆ เข้ามาอีกมาก แต่ราคาคงปรับเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบัน เพราะที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการหายาก และมีราคาสูงมากขึ้นด้วย” นายอภิภู กล่าวและว่า
จากการมองเห็นศักยภาพของทำเลถนนเจริญนคร บริษัทจึงเข้ามาพัฒนาโครงการ ณ รีวา เจริญนคร บนถนนเจริญนคร มูลค่ารวมประมาณ 1,300 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ (High Rise) สูง 29 ชั้น มีห้องพักอาศัยจำนวน 253 ยูนิต มีความโดดเด่นและเป็นส่วนตัว เพราะแต่ละชั้นมีจำนวน ยูนิตเพียง 13 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น
สำหรับโครงการ ณ รีวา เจริญนคร บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท พาราเม้าท์ คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของ ประเทศมาเลเซีย พัฒนาขึ้นมาด้วยความตั้งใจ และมองเห็นศักยภาพของทำเลถนนเจริญนครซึ่งเป็นทำเลไพร์มโลเคชั่น ที่ตั้งโครงการสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงโค้งที่กว้างที่สุด โครงการมีห้องชุดให้เลือกถึง 5 แบบ ได้แก่ แบบ 1-Bedroom, 1-Bedroom Loft, 1-Bedroom Executive, 1-Bedroom Plus และแบบ 2-Bedroom
โดยโครงการยังมีห้องชุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญ คือ ห้องแบบสองชั้นหรือลอฟท์ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ลงตัวกับการอยู่อาศัยและเอกเซกคิวทีฟฟลอร์ที่มอบบริการระดับโรงแรมด้วย จึงเหมาะสำหรับการพักอาศัย หรือการซื้อไว้เพื่อการลงทุนด้วยการปล่อยเช่า เพื่อรองรับกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ที่จะย้ายเข้ามาทำงานในย่านเจริญนคร หรือแม้แต่ผู้ที่ทำงานในย่าน CBD อย่างสาทรหรือสีลม เพราะทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย ๆ และยังอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ รวมถึงห้างสรรพสินค้าไอคอน สยามอีกด้วย
“ปัจจุบันโครงการ ณ รีวา เจริญนคร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วงต้นปี 2567 เป็นช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกับโครงการศูนย์ราชการกระทรวงแห่งใหม่จะแล้วเสร็จ จึงถือว่าเป็นโครงการที่พร้อมอยู่ สำหรับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย หากจะย้ายมาทำงานที่ศูนย์ราชการแห่งใหม่ เพราะสามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวกสบาย หรือหากนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สนใจจะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าก็ถือเป็นโอกาสดี เพราะในทำเลดังกล่าวสามารถปล่อยเช่าได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท สำหรับห้องขนาดเล็กเพียง 25 ตร.ม. หรือคิดเป็นผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5% จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดี สำหรับผู้สนใจลงทุนในธุรกิจคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า” นายอภิภู กล่าวในตอนท้าย
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer