ทำความรู้จักย่าน บางหว้า ผ่านการเดินทางตามเส้นรถไฟฟ้า l ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์
ทำความรู้จักย่าน บางหว้า ผ่านการเดินทางตามเส้นรถไฟฟ้า
ทำความรู้จักย่านบางหว้า ผ่านการเดินทางตามเส้นรถไฟฟ้า ทำเลต้องมนต์เสน่ห์คลุกเคล้ากลิ่นอายของชุมชนแบบดั้งเดิม ผสมผสานความทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตในยุคที่ทุกคนต่างเร่งรีบและแข่งขัน ให้สมดุลกว่าเดิมในย่าน “บางหว้า”เรามาลองทำความรู้จักย่านนี้กันให้มากขึ้นกันดีกว่ากับ “ทำความรู้จักย่านบางหว้า ผ่านการเดินทางตามเส้นรถไฟฟ้า”
“บางหว้า” เป็นอีกหนึ่งทำเลในย่านฝั่งธนบุรี ที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านบางหว้าเพราะมีทำเลอยู่ในระแวกของรถไฟฟ้าจุด interchange ระหว่างสายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน “สถานีบางหว้า”นั่นเอง แต่เดิมแล้วย่านบางหว้าไม่ค่อยมีความโดดเด่นอะไรเมื่อเทียบกับย่านอื่นๆ ในฝั่งธนฯ มีลักษณะเป็นชุมชนขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่อยู่อาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่ได้ย้ายถิ่นฐานมากจากย่านตลาดพลูและวงเวียนใหญ่ ต่อมาได้มีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้มีการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ส่งผลให้ทำเลย่านบางหว้าถูกจับตามองจากเหล่าดีเวลลอปเปอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์ และมีโครงการที่อยู่อาศัยค่อยๆ เกิดขึ้นตามแนวเส้นรถไฟฟ้า
ต้องบอกเลยว่าย่านบางหว้านี้เป็นย่านที่มีการคมนาคมอย่างครบครันเลยทีเดียว แม้ในอดีตที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าถึง แต่ก็ยังมีทั้งการคมนาคมทางน้ำและทางบกรองรับการเดินทางของคนในย่านนี้ ต่อมาในปัจจุบันได้มีการพัฒนาขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ส่งผลให้มีการสัญจรที่สะดวกขึ้นกว่าเดิม และต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันรถไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถรองรับการเดินทางไปไหนมาไหนของเราได้สะดวกและคล่องตัวกว่าการขับรถส่วนตัว เพราะช่วยเลี่ยงรถติดได้และพาไปยังที่หมายได้ไวกว่า โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสีลม)
ทำไมบางหว้าถึงเป็นย่านที่น่าอยู่อาศัย?
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ในย่านนี้จะมีลักษณะเป็นชุมชนเป็นคนพื้นที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว จะทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ความแออัดใจกลางเมือง
แต่ยังคงเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งย่านบางหว้าก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นทำเลที่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางหว้า มากกว่านั้นยังเป็นจุด interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย และสายน้ำเงินที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานมานี้
1.สถานีสยาม เปลี่ยนคันเพื่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน 2.สถานีศาลาแดง Interchange MRT สถานีสีลม 3.สถานีช่องนนทรี Interchange BRT สถานีสาทร 4.สถานีสะพานตากสิน Interchange ไปยังท่าเรือสาทร 5.สถานีตลาดพลู Interchange BRT สถานีราชพฤก 6.สถานีบางหว้า Interchange ไปยังท่าเรือบางหว้า
รถไฟฟ้าสายสีเขียว(สีลม) สถานีบางหว้าถือเป็นสถานีเริ่มต้นของรถไฟฟ้าสายสีเขียว(สีลม) ซึ่งจากบางหว้า สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองย่าน CBD อย่างสาทรและสีลมได้อย่างรวดเร็วด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สีลม) นี้ โดยไม่ต้อง Interchange ไม่ต้องอ้อม และสำหรับคนที่ต้องการไปยังโซนสุขุมวิท-บางนา ก็สามารถไป Interchange ที่สถานีสยามได้เช่นกัน นอกจากนี้ในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียว(สีลม) ยังสามารถ Interchange กับรถไฟฟ้าฟ้าสายสีทอง ที่ตรงไปยังแลนด์มาร์คของย่านธนบุรีอย่าง ICONSIAM ได้อีกด้วย
เดินทางเข้าสู่ CBD สาทรโดยข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนสาทร และสีลม โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ถนนสาทรเหนือ จะอยู่ทางฝั่งขาเข้า แขวงสีลม ซึ่งเป็นเขตบางรัก ส่วนถนนสาทรใต้ จะอยู่ทางฝั่งขาออก แขวงยานนาวา และแขวงทุ่งมหาเมฆ เป็นเขตสาทร โดยตลอดทั้งสองฝั่งของถนน เต็มไปด้วย Office Building ชื่อดัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เช่น อาคารสาธรซิตี้ ทาวเวอร์, อาคารสาธรธานี, เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร, อาคารสาทรสแควร์, สาทรทาวเวอร์, อาคาร Chartered Square และสิ่งอำนวยความสะดวกชื่อดังมากมาย เช่น โรงแรม SO Sofitel, โรงแรม W, โรงแรม Eastin Grand Sathorn , โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์, โรงพยาบาล บีเอ็นเอช, โรงพยาบาลบางรัก, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์สีลม เป็นต้น โดยมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สีลม) จะมี 2 สถานี ที่ตัดผ่านบนถนนสาทร ได้แก่ สถานีสุรศักดิ์ กับสถานีสะพานตากสิน อีกทั้งยังสามารถ ขึ้นทางพิเศษศรีรัชไปบางนา-ดาวคะนอง จากถนนสาทรใต้ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์ จะเชื่อมกับทาง พิเศษเฉลิมมหานครได้เช่นกัน
ถนนสีลมช่วงต้นซึ่งใกล้กับแยกศาลาแดง เต็มไปด้วยความคึกคักทั้ง 2 ข้างทาง มีบรรดาพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในอาคาร จะใกล้อาทิเช่น
อาคารสีลม คอมเพล็กซ์, C.P. Tower, อาคารอาคเนย์, United Tower, อาคารบุญมิตร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, อาคารธนิยะ พลาซ่า, อาคารสีลม คอมเพล็กซ์, โรงแรมดุสิตธานี ทั้งสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงตลาดละลายทรัพย์ ที่มีทั้งสินค้า และของกินแบบ Street Food ให้เลือกมากมาย เมื่อถึงช่วงเวลากลางคืน บรรยากาศโดยรอบจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่บรรดานักย่ำราตรีโดยเฉพาะชาวต่างชาติ จะได้เดินเที่ยวตามตลาดกลางคืน และสถานบันเทิงภายในซอยธนิยะ ซอยพัฒพงษ์ (สีลมซอย 4) กันอย่างคึกคัก
ลองมาดูรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มเติมกันบ้าง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงท่าพระ-หลักสอง ถือเป็นช่วงของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เปลี่ยนการสัญจรจากฝั่งพระนครเชื่อมมายังฝั่งธนฯ โดยมีทั้งหมด 7 สถานี และเป็นรถไฟฟ้าโครงสร้างแบบยกระดับทั้งหมดตั้งแต่สถานีท่าพระ ไปจนถึงสถานีหลักสอง สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เข้าใจกลางเมืองหรือออกนอกเมือง แต่สุดท้ายแล้วรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะวนเป็นวงกลม สำหรับใครที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองแนะนำให้ใช้เส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือใช้สีน้ำเงินไปทางหัวลำโพง เพราะตัดตรงลอดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปกรุงเทพฯตอนเหนือ ก็สามารถไป Interchange ที่สถานีเตาปูนเพื่อเปลี่ยนสายไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วง(ฝั่งนนทบุรี)
และนอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าย่านบางหว้ามีการคมนาคมที่หลากหลายเดินทางได้สะดวก ซึ่งรวมไปถึงทางรถด้วย…
ย่านบางหว้า เป็นจุดตัดระหว่างถนนถนนเพชรเกษมและถนนราชพฤกษ์ ซึ่งก็เป็นถนนสายหลักในการใช้เดินทางโดยรถ ซึ่งช่วยให้เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบาย หากใช้เส้นทางบนถนนเพชรเกษมไปทางทิศตะวันตกก็จะสามารถเดินทางไปยัง บางแค-พุทธมณฑลได้ หรือหากใช้เส้นทางบนถนนเพชรเกษมไปทางตะวันออกเพื่อเชื่อมไปยังวงเวียนใหญ่ได้สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังใช้เส้นทางบนถนนราชพฤกษ์ไปทางเหนือก็สามารถเดินทางไปยังปิ่นเกล้าได้ง่าย เพราะเส้นทางนี้ตัดกับถนนบรมราชชนนี หรือเดินทางไปในฝั่งทิศใต้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะสามารถเชื่อมไปยังย่าน CBD อย่างสีลม-สาทร ได้ทันที
นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องยอมรับว่ามีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนเราในยุคนี้เลย นั่นก็คือสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะถึงจะไม่ได้อยู่ย่าน CBD อย่างใจกลางเมือง แต่ต้องบอกเลยว่าย่านบางหว้ามีสถานที่อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า หรือโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ ถือเป็น hub ของฝั่งธนฯ แห่งใหม่ที่ครบครันไม่แพ้ย่านใจกลางเมืองเลยล่ะ
- โรงพยาบาลพญาไท 3 เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ที่ใกล้ที่สุดในย่านบางหว้า มีบริการการรักษา และพยาบาลอย่างครบวงจร
- มหาวิทยาลัยสยาม เป็นมหาลัยเอกชนขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในย่านบางหว้าตั้งอยู่ที่ถนนเพชร เกษม ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางหว้าเพียง 500 เมตร
- ซีคอนบางแค” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในเขตภาษีเจริญยเลยก็ว่าได้ เป็น แหล่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งเที่ยว กิน ช็อป หรือ ดูหนังฟังเพลง ครบครันมากๆ
- “เทสโก้โลตัสบางแค” แหล่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ทั้งอุปโภคและบริโภคที่ได้มาตรฐาน พ่อบ้าน แม่บ้านทั้งหลายสามารถจับจ่ายใช้สอยซื้อของเข้าบ้านได้ที่นี่
- เดอะมอลล์บางแค ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับชาวบางแคมานาน และได้มีการพัฒนา ปรับปรุงให้ทันยุคทันสมัย มีกิจกรรมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือช็อปปิ้ง ถือได้ว่าครบครันเลยทีเดียว
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็สามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ด้วยรถไฟฟ้า ถึงไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายเลยทีเดียว …
เนื่องจากบางหว้าเป็นทำเลที่มีการคมนาคมที่แสนจะสะดวกสบายประกอบกับมีแหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้ย่านบางหว้ากลายเป็นทำเลที่น่าอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก และหนึ่งในหลายๆ ดีเวลลอปเปอร์ด้านอสังหาฯ ซึ่งก็คือ ศุภาลัย ที่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลนี้ ได้ดำเนินการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดคอนโดมิเนียม “ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์” ที่เดินทางเพียง 450 เมตรก็ถึง รถไฟฟ้าสถานีบางหว้าและ 10 นาทีถึงย่าน CBD อย่างสาทร นอกจากนี้ตัวโครงการยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันครบครัน อาทิห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ท่าพระ , ซีคอนบางแค และเดอะมอลล์บางแค แหล่ง Shopping ตลาดพลู , ตลาดบางแค , ตลาดฟู้ด วิลล่า และ The Circle ราชพฤกษ์
สถาบันการศึกษา รร.สตรีวัดอัปสรสวรรค์ , รร.ศึกษานารี ,อัสสัมชัญม.ราชภัฏธนบุรี และม.ราชภัฏบ้านสมเด็จฯ
โรงพยาบาล รพ.พญาไท 3 , รพ.บางไผ่ , รพ.บางขุนเทียน 1, และ รพ.ศิริราช
(ข้อมูลเบื้องต้นจากทางโครงการ)
คอนโดใหม่ Supalai Loft Sathorn – Ratchaphruek (ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร – ราชพฤกษ์) คอนโดสูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 565 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ บนเนื้อที่ประมาณ 3–1-75 ไร่
ชั้น 1-5 พื้นที่จอดรถ
ชั้น 1/6/33 Facilities
ชั้น 6-33 ส่วนพักอาศัย
จอดรถ 51%
รูปแบบที่พักอาศัย 1 Bedroom 29.0-35.0 ตร.ม.
1 Bedroom PLUS 44.5 ตร.ม.
2 Bedrooms 52.0-65.0 ตร.ม.
PRESIDENTIAL (33) 100.5-103.5 ตร.ม.
ลิฟท์ ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์Service 1 ตัว/ อาคาร (ลิฟท์ล็อกชั้น)
(ข้อมูลเบื้องต้นจากทางโครงการ)
สำหรับส่วนกลาง
ชั้น 1
- Lobby
- Community Area (เป็นลักษณะแบบห้องประชุม เชื่อมโยงกับLobby)
- Lift Lobby / mail box
- Smart Locker
- Water Feature (พื้นที่ต้อนรับด้านหน้า บริเวณ Drop off)
- Pocket Courtyard
- Playspace / Park Living / Green walk way
- Delivery Drop Off (จุดพักรับ-ส่งบริการ Delivery แยกเป็นสัดส่วนจากโซนพักอาศัย)
ชั้น 6
- สระว่ายน้ำ Infinity Edge 2 ด้าน (สระน้ำระบบเกลือ)
- สระผู้ใหญ่
- สระเด็ก
- Jacuzzi
- Fitness
- Sauna
- Game Room
- Greenery / Natural Green
ชั้น 33
- Roof Garden
- Relaxing Area
- Relaxing Terrace
- Sky Lounge
- Panoramic Corner
ความสะดวกครบครันและความปลอดภัย
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- ระบบกล้อง CCTV
- ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
- Smart Locker
สำหรับแนวคิดในการออกแบบวางผัง จะให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน โดยออกแบบวางผังให้ลดความร้อนจากแสงแดดยามบ่าย ในส่วนห้องพักอาศัย จะออกแบบให้อาคารเป็นรูปตัว L ทำให้อาคารเป็นตัวบังสงแดดให้กันเอง โดยทางโครงการเลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง และวัสดุต่างๆที่ทำให้ลดความร้อนจากด้านนอก
สำหรับการออกแบบอาคารเป็นรูปตัว L ที่โอบล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว ซึ่งทางโครงการ เส้นสาย ลวดลายนั้น เน้นเส้นตั้งแสดงถึงความมั่นคง..สร้างมิติ และลดความหนักของแมสอาคาร และมีเส้นไฟประดับตัวอาคาร เพื่อสร้างความโดดเด่นและสว่างไสว ให้แก่พื้นที่ ในส่วนการออกแบบงาน Landscape การนำเอาความทันสมัยของรูปทรงเลขาคณิตมาผสมผสานกับความดิบของวัสดุ ธรรมชาติ เน้นพื้นที่กว้างขวาง โดยมีการจัดวางพื้นที่แบบอิสระ ทำให้ดูโปร่ง โล่ง ตามสไตล์ของลอฟท์
การเลือกใช้วัสดุ เน้นความดิบและเท่ห์ คือ จะโชว์ผิววัสดุเดิมไม่ทำสีตกแต่ง เช่น เหล็ก ปูนเปลือย ไม้ หิน และมีการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว โทนสี สีเข็ม เทา ดำ น้ำตาล
การออกแบบ ฟังก์ชั่น ทั้งส่วนกลางและภายในห้องพักอาศัย พร้อมรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal
(ข้อมูลเบื้องต้นจากทางโครงการ)
ส่วนกลาง
- Touchless : Face Scan และประตูอัตโนมัติ
- Delivery Drop Off (จุดพักรับ-ส่งบริการ Delivery แยกเป็นสัดส่วนจากโซนพักอาศัย)
- สวนส่วนกลาง แบบแยกส่วน เพื่อลดความแออัดและเพิ่มความเป็นส่วนตัว
- วางผังอาคารเน้นการถ่ายเทอากาศจากธรรมชาติ
- ที่จอดรถประมาณ 51% (ของจำนวนยูนิต)เ
- ข้าอาคารได้หลากหลายจุด เพื่อลดความแออัด
- “Pocket Courtyard” ตรงกลางอาคาร เพื่อให้เกิดการไหลเวียนอากาศที่ดี ช่วยให้อุณภูมิภายในของอาคารต่ำลง
ห้องพักอาศัย
- ห้องกว้าง เพดานสูง 7 เมตร
- จำนวนยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว
- “Favorite Corner” ห้องอเนกประสงค์ รองรับ Work From Home
- รองรับระบบ Fiber Optic
- หน้าต่างกรอบบาน UPVC ช่วยลดเสียงและลดความร้อนจากภายนอก
- ประตู หน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสง และระบายอากาศได้ดี
- ห้องมีการแบ่งสัดส่วน เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน
สำหรับที่ Sales Gallery จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 2 ห้อง โดยจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus
ห้องตัวอย่างที่ 1 จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม. สำหรับ Layout ห้องแบบนี้จะเป็นแบบใหม่ โดยเอา Living Area มาอยู่ด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปบริเวณกลางห้องจะเป็นพื้นที่ของครัว และด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอ Living Area ที่อยู่ด้านหน้าสุด
สำหรับตำแหน่งของพื้นที่ครัว และห้องน้ำ จะถูกวางแล้วตำแหน่งกลางห้อง บริเวณห้องครัวสามารถกั้นประตูเพื่อแยกครัวเป็นสัดส่วนได้
ในส่วนของห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อนที่สูงจากพื้นที่ถึงฝ้า (Full Height)
มุมนี้จะยืนอยู่ภายในห้องนอนมองออกไปทางเข้าห้อง
ตำแหน่งของเตียง กั้นส่วนด้วยประตูกระจก ทำให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัด
จุดเด่นอีกจุดคงจะเป็นห้องอเนกประสงค์ (Favorite corner) ที่สามารถตกแต่งได้ตาม Lifestyle ของแต่ละคน
ห้องน้ำจะอยู่บริเวณกลางห้องติดกับตำแหน่งของพื้นที่ครัว
ภายในห้องน้ำ จะมาพร้อมกับ เครื่องทำน้ำอุ่น และ Rain Shower โทนดำ
สำหรับภาพนี้จะเห็นภาพรวมของห้องแบบนี้
สำหรับห้องนี้จะเอาพื้นที่ครัวมาไว้ด้านหน้าสุดของห้อง
สำหรับภาพนี้จะยืนอยู่ภายในสุดมองออกมาไปที่ทางเข้า
ถัดจาก Living Area ด้านในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นมา (1 bedroom Plus) สามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอื่นๆได้เพิ่ม
ในส่วนของห้องนอนจะถูกแยกส่วนจาก Living Area
เข้ามาภายในห้องนอนจะเห็นตำแหน่งการวางเตียงที่วางขนานไปกับหน้าต่างกระจกใส สามารถรับลม และแสงจากด้านนอก
มุมนี้จะมองไปยังห้องน้ำ ซึ่งจะเป็นห้องน้ำในตัว เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ภายในห้องน้ำ
สำหรับผู้สนใจเชิญชมห้องตัวอย่าง พร้อมกำหนดเปิดตัว Pre-Sales อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11-12 กรกฏาคม 2563 ณ Sales Gallery โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์
ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลดได้ที่ https://www.supalai.com/reg/loft_sathornratchaphruk/
ราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลโทร. 1720 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.supalai.com
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer