บ้านมีกี่ประเภท? ต่างกันอย่างไรบ้าง?

บ้านเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่คลุกคลีอยู่ด้วยทุกวัน เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ วันนี้โฮมซูมเมอร์จึงอาสาพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับบ้านประเภทต่าง ๆ ให้มากขึ้น

ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและพาณิชยกรรมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550 ได้กำหนดบ้านพักอาศัยออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม นอกจากนี้ยังมี อาคารพาณิชย์ ซึ่งมีความคล้ายกับทาวน์โฮม แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ ซึ่งเราจะขอกล่าวถึงในตอนท้ายของบทความ

บ้านเดี่ยว (Single-Detached House)

บ้านเดี่ยวเป็นบ้านที่ไม่มีผนังส่วนใดติดกับบ้านหลังอื่นเลย มีพื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน โดยปกติมักจะล้อมรั้วรอบบ้าน บ้านเดี่ยวถูกกำหนดว่าต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป มีที่ดินกว้างหรือยาวไม่ต่ำกว่า 12 เมตร หรือถ้าที่ดินไม่มีด้านไหนถึง 12 เมตร ก็จะต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 60 ตารางวา บ้านแต่ละหลังจะเว้นที่ว่างรอบตัวบ้านอย่างน้อย 2 เมตร และต้องมีระยะห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร

บ้านเดี่ยวมีพื้นที่ใช้สอยหลากหลายและมีความเป็นส่วนตัวมาก เนื่องจากมีขนาดที่ดินใหญ่กว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายนอกและภายในตัวบ้านได้ตามต้องการ เช่น ปลูกต้นไม้ ทำสวนหย่อม สร้างบ่อเลี้ยงปลา ที่จอดรถ หรือสระว่ายน้ำ แต่พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าก็มาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ

บ้านแฝด (Semi-Detached House)

บ้านแฝดมีลักษณะคล้ายบ้านเดี่ยว เนื่องจากมีพื้นที่บริเวณรอบตัวบ้านเช่นเดียวกัน แต่ลักษณะเฉพาะของบ้านแฝด คือ จะมีผนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านติดกับบ้านอีกหนึ่งหลัง

ตัวบ้านต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาด 35 – 50 ตารางวา บ้านแฝดถูกกำหนดให้มีความกว้างที่ดินไม่ต่ำกว่า 16 เมตร โดยแบ่งข้างละ 8 เมตร ส่วนของบ้านที่ไม่ติดกับบ้านอีกหนึ่งหลังจะมีระยะห่างระหว่างตัวบ้านกับขอบที่ดิน ทั้งด้านหลังและด้านข้างไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และมีระยะห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร และบ้านทั้ง 2 หลังมีทางเข้าออกของแต่ละบ้านแยกจากกันเป็นสัดส่วน

ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาส่วนที่เชื่อมต่อบ้านทั้ง 2 หลังโดยใช้แนวคานชั้นใต้ดินด้วยกัน ส่วนโครงสร้างด้านบนนั้นไม่มีส่วนใดเชื่อมกัน ทำให้เมื่อมองจากภายนอกจะไม่เห็นว่าบ้านทั้ง 2 หลังเชื่อมต่อกันอยู่ ดังนั้นการเชื่อมต่อบ้านแฝดด้วยแนวคานชั้นใต้ดินจึงทำให้บ้านแฝดคล้ายกับบ้านเดี่ยวมากและให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว เพียงแต่มีที่ดินน้อยกว่าและราคาถูกกว่า

ทาวน์โฮม (Townhome)

ทาวน์โฮม มีชื่อทางกฎหมายคือ “บ้านแถว” ทาวน์โฮมเป็นคำที่ใช้เรียกสิ่งปลูกสร้างที่มีลักษณะการปลูกเป็นแนวยาว มีผนังติดกันกับบ้านอื่นทั้ง 2 ด้าน มักมีความสูง 2 – 4 ชั้น มีที่จอดรถและมีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัว โดยที่ดินจะต้องมีหน้ากว้างไม่ต่ำกว่า 4 เมตร และมีเนื้อที่อย่างน้อย 16 ตารางวา

สำหรับผู้อยู่อาศัยเป็นครอบครัวขยายซึ่งมีสมาชิกในครอบครัวหลายคน ทาวน์โฮมมีระดับราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ซึ่งหากเลือกคอนโดมิเนียมก็จะไม่ตอบโจทย์ด้านพื้นที่ และหากเลือกบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่กว้างเพียงพอตอบโจทย์การใช้งานก็จะพบกับราคาที่สูงเกินกว่าจะรับได้ ทาวน์โฮมจึงคุ้มค่ามากกว่า

อาคารพาณิชย์ (Shop House)

อาคารพาณิชย์ คืออาคารที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการพาณิชยกรรม หรือบริการธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตเทียบไม่เกิน 5 แรงม้า และนอกจากการใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้วก็ยังสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน อาคารพาณิชย์มีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายกับทาวน์โฮม คืออยู่ติดกันเป็นแถว แต่อาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่มักจะอยู่ติดถนนในทำเลดีที่สามารถทำการค้าได้ ตัวอาคารถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำการค้าและใช้เชิงพาณิชย์ ข้อกำหนดคือต้องมีหน้ากว้างไม่ต่ำกว่า 4 เมตร มีขนาดตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไปและต้องสร้างด้วยวัตถุทนไฟเท่านั้น ชั้นล่างต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 30 ตารางเมตร และตัวอาคารสร้างได้ยาวสุดไม่เกิน 24 เมตร (เกิน 16 เมตร ต้องมีช่องเปิดโล่ง 10% ของพื้นที่ชั้นล่าง)

คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่าที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ นั้นไม่ได้ต่างกันแค่เพียงรูปแบบบ้าน ความแตกต่างยังรวมไปถึงขนาดที่ดิน ขนาดพื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ ล้วนมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันไป หากจะซื้อต้องพิจารณาตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้อยู่อาศัย