ทำเลและการเดินทาง

บ้านแบบ VIRAGE พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม ฟังก์ชันของบ้านจะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องอเนกประสงค์  2 Living area 1 ห้องแม่บ้าน 1 พื้นที่ชักล้าง ที่จอดรถ 2 คัน

ชั้นที่ 1 ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 2 คัน ถัดเข้าไปภายในบ้านจะเจอ Living Area เป็นอันดับแรก ซึ่งจุดเด่นจะเป็น Double Volume ที่มีความสูงถึง 6.35 เมตร พื้นที่ในส่วนนี้จะมีขนาดใหญ่สามารถวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ถัดเข้าไปด้านในสุดของตัวบ้านจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย สามารถปรับเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย ส่วนถัดมาจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารขนาดถึง 6 ที่นั่ง สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะติดกับบันไดขึ้นลง และส่วนสุดท้ายจะเป็นห้องครัว และห้องแม่บ้านที่จะอยู่ด้านในสุดติดกับหลังบ้านด้านนอก

ชั้นที่ 2 ฟังก์ชันของชั้นนี้จะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Living area สำหรับตำแหน่งของ Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน มีระเบียงส่วนตัว สามารถออกมาด้านนอกได้ และมี Walk in Closet ในส่วนของห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2 จะอยู่ด้านหลังของตัวบ้านทั้งคู่ ซึ่งทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด

บ้านแบบ VANTAGE พื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว  1 Dining area 2 Living area 1 ห้องแม่บ้าน 1 พื้นที่ชักล้าง ที่จอดรถ 3 คัน

ชั้นที่ 1 สำหรับบ้านแบบนี้จะมีพื้นที่จอดรถจอดได้ถึง 3 คัน มีทางเข้าออกบ้านอยู่ 2 จุด เข้าออกจากหน้าบ้าน และเข้าออกจากที่จอดรถ ถัดเข้าไปด้านในจะเจอ Dining Area ก่อนอันดับแรก ติดกันจะเป็น Living Area โถงสูงแบบ Double Volume 6.35 เมตร ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ที่มีห้องน้ำในตัว ตำแหน่งของบันไดจะอยู่ตรงกลางของตัวบ้านด้านในสุด สำหรับพื้นที่ส่วนครัวจะเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ซักล้าง และห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านนอก

ชั้นที่ 2 บนชั้นนี้จะประกอบไปด้วย Master Bedroom ขนาดใหญ่ ภายในห้องจะมีพื้นที่ Walk in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ สำหรับ Master Bedroom ภายในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยนะครับ ส่วนต่อไปจะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน และมีห้องน้ำในตัว สำหรับห้องนอนที่ 1 จะอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน และมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นแล้วยังมี Family Area พื้นที่ตรงนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ และเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอกได้อีกด้วยครับ

บ้านแบบ VIRAGE พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม ฟังก์ชันของบ้านจะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องอเนประสงค์  2 Living area 1 ห้องชักล้าง ที่จอดรถ 2 คัน

ชั้นที่ 1 ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 2 คัน เข้าไปภายในบ้านจะเจอ Living Area ที่เป็น Double Volume พื้นที่ในส่วนนี้จะมีขนาดใหญ่สามารถวางชุดโซฟาพร้อมตั้งกลาง และชั้นวางทีวี ติดกันจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารขนาดถึง 6 ที่นั่ง ถัดเข้าไปด้านในสุดของตัวบ้านจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย ขนาดพื้นที่สามารถปรับเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องอื่นๆได้อีกหลากหลาย ถัดมาจะห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งจะติดกับบันไดขึ้นลง และส่วนสุดท้ายจะเป็นห้องครัว และห้องแม่บ้านที่จะอยู่ด้านในสุดติดกับหลังบ้านด้านนอก

ชั้นที่ 2 จะประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Living area สำหรับตำแหน่งของ Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน ส่วนห้องนอนที่ 1 และ 2 จะอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน ซึ่งทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด

VANTAGE พื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม  3 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว  1 Dining area 1 ห้องอเนประสงค์ 2 Living area 1 ห้องชักล้าง ที่จอดรถ 3 คัน

ชั้นที่ 1 พื้นที่จอดรถจะอเยู่ด้านหน้าสุดจอดได้ 3 คัน ถัดเข้าไปด้านใน Living Area แบบ Double Volume และ Dining Area จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน ในส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ที่มีห้องน้ำในตัว ตำแหน่งของบันไดจะอยู่ตรงกลางด้านในสุด ถัดไปจะเป็นในส่วนของพื้นที่ส่วนครัว ที่จะเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ซักล้าง และห้องแม่บ้าน

ชั้นที่ 2 บนชั้นนี้จะประกอบไปด้วย Master Bedroom ขนาดใหญ่ ภายในห้องจะมีพื้นที่ Walk in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ สำหรับ Master Bedroom ภายในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยนะครับ ส่วนต่อไปจะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน และมีห้องน้ำในตัว สำหรับห้องนอนที่ 1 จะอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน แบะมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นแล้วยังมี Family Area พื้นที่ตรงนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ และเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอกได้อีกด้วยครับ

ส่วนแรกที่จะพาไปชมคือ Clubhouse สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่ง Clubhouse จะเชื่อมต่อกับสวนสีเขียว ทำให้บรรยากาศบริเวณ Clubhouse ร่มรื่นกว่าปกติ ภายใน Clubhouse จะประกอบไปด้วย Fitness, Prive Lounge, Swimming Pool และ ห้องนิติบุคคล

Clubhouse ออกแบบมาให้สไตล์ Modern Luxury ถ้าดูจากภาพนี้จะเห็น Prive Lounge ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้เป็นกระจกใสบานใหญ่สามารถรับวิวได้รอบด้านได้อย่างชัดเจน

ส่วนต่อมาจะเป็น Swimming Pool เป็นสระน้ำระบบเกลือ ขนาดสระผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 16×5 เมตร ลึกประมาณ 1.20 เมตร และสระเด็กขนาด 3.5 x 2 เมตร ลึก 0.70 เมตร สำหรับบริเวณสระว่ายน้ำรอบข้างทางโครงการจะปลูกต้นไม้ไว้ให้รอบด้าน ทำให้พื้นที่บริเวณสระน้ำได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Fitness Room ซึ่งภายในจะเตรียมเครื่องออกกำลัง และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ให้ครบ ทางโครงการเลือกใช้ Technogam นำเข้าจากประเทศอิตาลี เป็นแบรนด์ที่ โรงแรมระดับ 5-6 ดาวใช้กัน

ส่วนถัดมาจะเป็น Prive Lounge จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ทำงาน พื้นที่ภายในค่อนข้างใหญ่เลยครับ มีชุดโซฟาขนาดใหญ่นั่งเล่นรับวิวด้านนอกผ่านกระจกใสบานใหญ่ บรรยากาศสวยมากครับ

ภายในสวนสาธารณะจะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนนั่งเล่น โดยรอบข้างจะเป็นต้นไม้สีเขียวที่ให้ความร่มรื่น และเป็นส่วนตัวอย่างมาก สำหรับพื้นที่สีเขียวนี้จะเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ เวลานั่งอยู่ภายในสวนสามารถมองตรงไปทาง Clubhouse ได้อย่างชัดเจนสวยงามมากๆ

สำหรับโครงการ เดอะ เวเลอร์ รามอินทรา (The Valor Ramintra) จะมีบ้านให้เลือกอยู่ 2 แบบ โดยบ้านแบบแรกคือ VIRAGE บ้านหรู 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 62.40 – 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องอเนประสงค์ 2 Living area และที่จอดรถ 2 คัน

สำหรับบ้านที่นี่จะออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ให้ความหรูหราตั้งแต่ภายนอกจนเข้าไปด้านใน สำหรับด้านหน้าจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 2 คัน สามารถเข้าออกบ้าน 2 จุด บริเวณด้านหน้าบ้าน และที่จอดรถ

เข้ามาภายในจะเจอ Living Area เป็นอันดับแรก จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือบริเวณ Living Area ที่มีความสูงเป็น Double Volume สูงถึง 6.35 เมตร ทำให้ภายในบ้านโปร่ง โล่ง สบายตา ไม่อึดอัด และสามารถวางชุดโซฟา และโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆเลยครับ

นี่จะเป็นมุมหันออกไปยังหน้าบ้าน จะเห็นความอลังกาลของกระจกใสบานใหญ่ที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้า ทำให้บ้านดูโปร่ง และสามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่ มากไปกว่านั้นยังเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวบริเวณด้านนอก ทำให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติไปในตัวเลยครับ

ถัดเข้ามาด้านในสุดที่เชื่อมกับ Living Area จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้งานต่างๆ ได้ สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับทำงานให้ดูเป็นไอเดีย

พื้นที่อเนกประสงค์จะติดกับห้องน้ำชั้นล่าง

สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ในกรณีเปลี่ยนพื้นที่อเนกประสงค์เป็นห้องนอน จะทำให้สะดวกในการเข้าห้องน้ำ และเป็นส่วนตัว

ถัดมาจะเป็นพื้นที่ Dining Area ซึ่งสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารจำนวน 6 ที่นั่งได้อย่างลงตัว

ตำแหน่ง Built in ชุดครัวเป็นแนวยาว ซึ่งจะอยู่ติดกับโต๊ะรับประทานอาหาร

เข้าด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ของครัวไทย ซึ่งทางโครงการจะทำเคาน์เตอร์ปูนมาให้เลยครับ ถัดจากส่วนครัวไทยจะเป็นห้องแม่บ้าน

มุมนี้จะยืนอยู่บริเวณครัว แล้วมองไปยังด้านหน้าของบ้าน ดูจากภาพนี้สามารถเห็นถึงความโปร่งของบ้านได้อย่างชัดเจน

เราขึ้นไปชมชั้นที่ 2 กันต่อครับ

ขึ้นมาชั้นที่ 2 จะมีพื้นที่ว่าง สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงานได้เพิ่มอีกนะครับ จุดเด่นของส่วนนี้ คงจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อมาจากโถงด้านล่าง ทำให้พืนที่บริเวณนี้ดูไม่อึดอัด

มุมต่างๆ โดยยืนอยู่ชั้นที่ 2 แล้วมองลงไปยังชั้นที่ 1

เข้ามาชมห้องนอนที่ 1 กันก่อน พอเข้ามาภายในห้องซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ส่วนขวามือจะเป็นตำแหน่ง Built in ของโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับบ้านตัวอย่างทางโครงการจะเจาะทำเป็นกระจกใส เนื่องจากตำแหน่งตรงนี้จะเป็นตำแหน่งที่เชื่อมต่อมาจากโถงด้านล่าง การเจาะทำเป็นกระจกใสแบบนี้ จะทำให้ห้องดูมีอะไรที่พิเศษขึ้น และสวยงามมากๆ

ภายในห้องน้ำของห้องนอนที่ 1 ฟังก์ชันภายในห้องแยกส่วนการใช้งานได้อย่างชัดเจน แยกส่วนเปียก และส่วนแห้งออกจากกัน โดยกั้นเป็น Shower Box โครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ อ่างล้างหน้า Bathtub  ยี่ห้อ Loca นำเข้าจากสเปน

เข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของเตียง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างสบายๆเลยครับ

บริเวณปลายเตียงสามารถ Built in เป็นชั้นวางทีวี วางของก็ได้ครับ

ห้องนอนที่ 2 เข้ามาจะเจอห้องน้ำก่อนเลยครับ

ภายในห้องน้ำห้องนอนที่ 2 กั้นส่วนมาให้เรียบร้อยเช่นกันครับ

เข้ามาด้านใน ตำแหน่งของเตียงจะวางขนานไปกับหน้าต่าง ส่วนปลายเตียงสามารถ Built in ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานได้

มุมนี้มองไปยังทางเข้าห้อง จะเห็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

Master Bedroom จะเป็นห้องนอนที่ใหญ่ที่สุด อยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน เข้ามาจะเป็นตำแหน่งของเตียงอันดับแรก สำหรับห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัว สามารถออกไปรับลมชมวิวได้

มองไปยังทางเข้าห้องน้ำ Walk in Closet

บริเวณ Walk in closet สามารถ Built in เป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

บ้านตัวอย่างแบบ Vantage ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 85 – 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 282 ตร.ม 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 2 Living area 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน สำหรับบ้านแบบนี้จะมีเพียง 6 หลังเท่านั้น

ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 3 คัน ทางโครงการจะติดตั้ง EV Charger ที่ชารจ์ไฟสำหรับรถไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย และประตูเข้าออกจะเป็น Digital Door Lock ครับ สำหรับประตูทางเข้าออกที่เห็นจะเป็นไม้สักแท้ด้วยนะครับ

เข้ามาภายในบ้านจะเจอ Dining Area เป็นอันดับแรก สำหรับพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 – 10 ที่นั้งได้อย่างสบายๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือสำหรับเดินอีกเยอะพอสมควร

มุมนี้จะมองย้อนกลับไปทางเข้าออกที่อยู่ด้านหน้าสุด

นี่อีกมุมมองไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร

จุดเด่นของบ้านแบบนี้นอกจากจะหรูหราแล้ว ยังออกแบบให้โถงบริเวณ Living Area เป็น Double Volume สูงถึง 6.35 เมตร  ยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับบ้านอีก แถมยังเลือกที่จะติดตั้งกระจกใสบริเวณด้านหน้าเพื่อให้สามารถรับแสงจากด้านนอก และทำให้บ้านดูโปร่งสบายตาอย่างมาก

Living Area สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ประมาณ 7-8 ที่นั้งได้อย่างสบายเลยครับ พื้นที่บริเวณนี้มีพื้นที่เยอะเลยครับ หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์ครบ ก็ยังดูกว้างอยู่เลยครับ มุมนี้จะสามารถมองเห็นชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อจากชั้นที่ 1 ไปยังชั้นที่ 2

ถัดเข้าด้านในสุดติดกับ Living Area จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับพื้นที่ตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัยเลยครับ ซึ่งพื้นที่อเนกประสงค์นี้ จะมีห้องน้ำ ดังนั้นสามารถทำเป็นห้องนอนเพิ่มได้เลย แถมได้ห้องน้ำในตัวด้วยครับ

ห้องน้ำชั้นล่างจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ และกั้นส่วนด้วย Shower Box

มุมมองบริเวณ Living Area

ส่วนต่อไปจะพาไปชนส่วนครัว ซึ่งจะอยู่อีกด้านของตัวบ้าน โดยเค้าจะออกแบบให้พื้นที่พักผ่อน กับพื้นที่ใช้งานแยกออกจากกัน

ส่วนแรกจะเป็น Pantry สำหรับพื้นที่ตรงนี้สามารถ Built in ชุดครัว และ Island ได้ตามบ้านตัวอย่างเลยครับ ถือว่าตกแต่งได้สวยงาม และลงตัวสุดๆ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำอีกห้อง สำหรับห้องน้ำห้องนี้จะไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะครับ

สำหรับพื้นที่ของครัวไทยจะอยู่ด้านหลังสุด โดยทางเข้าออกจะอยู่ติดกับ Pantry เลยครับ

ส่วนของครัวไทย โครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์ปูนมาให้ตามภาพนี้เลยครับ

ส่วนถัดมาหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ซักล้าง และห้องแม่บ้าน

ภายในห้องแม่บ้านจะมีห้องน้ำในตัวนะครับ

ถึงเวลาขึ้นไปชมบนชั้นที่ 2 กันต่อครับ บริเวณโถงบันไดจะเป็น Double Volume ทำให้บริเวณโถงบันไดนี้มีความโปร่งเป็นอย่างมาก มีชานพักอยู่ 2 จุด

รีวิว บ้าน เดอะ เวเลอร์ รามอินทรา (The Valor Ramintra)

สำหรับพื้นที่บริเวณนี้สามารถวางชุดโซฟา โต๊ะกลาง และ โต๊ะวางทีวีได้อย่างพอดี แถมยังเชื่อมกับระเบียงด้านนอกอีกด้วยครับ

ห้องนอนที่ 1 ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี

ในส่วนของตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งจะ Built in ขนานไปกับเตียง  จุดเด่นของห้องนอนที่ 1 คือจะมีหน้าต่างที่เชื่อมกับโถง Living Area ด้านล่าง สามารถมองไปยังด้านล่างได้

ห้องน้ำภายในห้องนอนที่ 1 จะกั้นส่วนเปียก และส่วนแห้ง มาให้เรียบร้อย

ไปชมห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom กันต่อครับ

เข้ามาภายในห้องนอนที่ 2 ห้องนี้จะมีขนาดเล็กสุด แต่ยังสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างพอดี และมีช่องแสงสามารถรับแสงจากด้านนอกได้

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องน้ำของห้องนอนที่ 2 สำหรับห้องน้ำทางโครงการเลือกกระเบื้องสีอ่อน ทั้งพื้น และผนัง ทำให้ห้องดูสะอาด และกว้างเป็นพิเศษ

Master Bedroom สำหรับตำแหน่งของห้องนี้จะเริ่มตั้งแต่ด้านหน้าตัวบ้านลึกเข้าไปสุดด้านหลังของตัวบ้านเลย ทำให้ห้องนี้จะมีความลึกเป็นพิเศษ และมีระเบียงส่วนตัว สังเกตได้สำหรับโครงการนี้จะเน้นเลือกใช้กระจกใสที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ต่างๆ มีความกว้างเป็นพิเศษ

สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้อย่างพอดี ถัดเข้าไปจะเป็น Walk in Closet สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้า และชั้นเก็บของได้

Walk in Closet บริเวณทางเข้าไปยังห้องน้ำ

Walk in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ สำหรับมุมนี้จะเป็นมุมของโต๊ะเครื่องแป้ง

ความพิเศษของห้องน้ำภายใน Master Bedroom คือจะมีอ่างอาบน้ำ และกั้นส่วนเปียก และแห้งมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าจะได้เป็นแบบ HIS & HER พร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่ตามภาพนี้เลยครับ