รัชดา-ลาดพร้าว จากยุค 90 สู่ยุค 5.0

“รัชดา-ลาดพร้าว” แค่ได้ยินชื่อนี้ภาพก็ลอยขึ้นมาเลยใช่มั้ยครับ แต่ภาพที่ลอยขึ้นมาของแต่ละคนคงจะไม่เหมือนกันแน่นอน บางคนอาจจะเห็นเป็นภาพของศูนย์การค้าใหญ่ๆ บางคนอาจจะเห็นเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินที่วิ่งอยู่ หรือที่กำลังก่อสร้าง บางท่านอาจจะเห็นภาพอาคารสำนักงานสวยๆใหม่ๆ บางท่านอาจจะเห็นภาพรถบนท้องถนน และบางท่านอาจจะเห็นภาพที่อยู่อาศัยลอยขึ้นมา ซึ่งภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นล้วนแล้วเป็นภาพที่ทุกท่านเคยพบเจอมาด้วยตัวเองทั้งนั้น รัชดา-ลาดพร้าว ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่พักอาศัยสำคัญอีกจุดของกรุงเทพฯ และเป็น HUB ใหม่ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ มาทำความรู้จัก รัชดา-ลาดพร้าว ไปพร้อมๆ กันว่าทำไมจึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของคนยุคนี้

ชื่อ “ลาดพร้าว” ท่านทราบมั้ยว่า ในสมัยก่อนพื้นที่บริเวณลาดพร้าวเป็นพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวเป็นจำนวนมาก เลยอาจจะเป็นที่มาของชื่อลาดพร้าวก็เป็นได้ และก่อนที่จะมีห้าแยกลาดพร้าวที่เห็นกันในปัจจุบัน ในสมัยก่อนนั้นบริเวณตรงห้าแยกลาดพร้าวจะมีแค่ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปรังสิตเท่านั้น

ห้าแยกลาดพร้าว ที่เห็นกันในปัจจุบัน เกิดขึ้นหลังจากได้สร้าง และเปิดใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่มีจำนวน 4 ช่องจราจรแล้ว ซึ่งในเวลานั้นปากทางลาดพร้าวยังเป็นแยกเล็กๆ และยังเป็นถนนดิน หลังจากมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากอดีตจนมาถึงปัจจุบัน ห้าแยกลาดพร้าวได้กลายเป็นแยกที่สำคัญที่เชื่อมต่อการคมนาคมต่างๆ และเป็นจุดศูนย์กลางของสิ่งต่างๆมากมาย

“ลาดพร้าว” ได้กลายเป็นเขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร อยู่ทางกรุงเทพเหนือ นอกจากนั้นลาดพร้าวยังมีถนนที่ยาวเป็นเส้นตรง โดยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นจุดตัดของถนนวิภาวดีรังสิต กับถนนพหลโยธิน วิ่งไปทางตะวันออกของกรุงเทพ จนไปสุดที่บางกะปิ และถนนลาดพร้าวยังตัดกับถนนสำคัญอื่นๆ อาทิเช่น ถนนรัชดาภิเษกที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพฯอีกเส้น ทำให้คำว่า รัชดา-ลาดพร้าว ดูเป็นทำเลที่มีอะไรพิเศษคูณสองขึ้นมาทันที

ถนนรัชดา “เป็นถนนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาการจราจรของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อต้นปีพุทธศักราช 2514 ซึ่งในเวลานั้น นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้ากราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องพระราชพิธีรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองในวโรกาส ที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 25 ปี และได้รับกระแสพระราชดำริเรื่องการจราจรติดขัด เห็นสมควรจัดสร้างถนนเพิ่มขึ้น อาจเป็นถนนวงแหวนรอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จวางศิลาฤกษ์ถนนวงรอบนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2514 และได้พระราชทานนามว่า “ถนนรัชดาภิเษก” “

รัชดา หรือ รัชดาภิเษก THE NEW CBD RAMA9 ถือว่าเป็นทำเลที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ CBD to CBD รัชดาภิเษกมีบทบาทสำคัญกับกรุงเทพฯไม่น้อยกว่าทำเลอื่นๆ เนื่องจากตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ช่วงถนนวิภาวดียาวจนมาถึงแยกพระราม9 ตลอดแนวถนนทั้ง 2 ข้างทางล้วนแล้วแต่มี Office Building, โรงแรมระดับ 5 ดาว, ศูนย์การค้าขนาดใหญ่, สถานทูตประเทศต่างๆ, ร้านค้า และสถานที่สำคัญอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ทำเลบริเวณโซนรัชดากลายเป็นแหล่ง Lifestyle แห่งใหม่ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ทั้งในเวลาทำงาน หรือจะเป็นเวลาค่ำคืน

“ถนนรัชดาภิเษก” เป็นถนนเส้นสำคัญที่วิ่งเชื่อมต่อเป็นวงกลมรอบกรุงเทพฯ และมีจุดตัดกับถนนสำคัญๆมากมาย โดยถนนรัชดาภิเษก เริ่มตั้งแต่ แยกท่าพระ – สะพานกรุงเทพ – ถนนพระราม3 – ตัดกับถนนสุขุมวิท – ตัดกับถนนเพชรบุรี – ตัดกับถนนพระราม 9 – ตัดกับถนนลาดพร้าว – ตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต – ตัดกับถนนประชาชื่น – ตัดกับถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี – ข้ามสะพานพระราม 7 – ผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ – กลับมาบรรจบที่แยกท่าพระ

รัชดา – ลาดพร้าว เรามาทำความรู้จักกับชื่อนี้กันดีกว่า ว่าในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต รัชดา-ลาดพร้าว มีบทบาทสำคัญต่อกรุงเทพฯในทางไหน และอะไรที่จะมาผลักดันให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของที่พักอาศัยสำคัญของกรุงเทพฯ โดยหลักๆ คงจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณ รัชดา-ลาดพร้าว ที่มีการพัฒนาทางด้านต่างๆ เพื่อรองรับกับจำนวนผู้อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ 2 อย่างนี้ที่ รัชดา-ลาดพร้าว มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

จุดศูนย์กลาง Shopping + Lifestyle + Office Building | รัชดา – ลาดพร้าว
จุดศูนย์กลางของการเดินทาง

จุดศูนย์กลางของนัก Shopping + Lifestyle + Office Building | รัชดา – ลาดพร้าว

รัชดา –ลาดพร้าว คือแหล่ง Shopping สำคัญของกรุงเทพฯตอนเหนือ และเป็นที่รู้จักทั้งคนไทย และต่างชาติ จนทำให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของแหล่ง Lifestyle ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ซึ่งโซนรัชดา-ลาดพร้าว จะเป็นแหล่งของคนทุกวัยที่มี Lifestyle ชิวๆ ไม่เน้นของหรูหรา เน้นความเป็นสไตล์ของตัวเอง แต่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเช่นกัน ซึ่งบางอย่างไม่สามารถหาได้จากใจกลางเมือง ไปชมกันครับว่ามีอะไรบ้าง

ตลาดนัดสวนจตุจักร

ทุกท่านคงจะเคยได้ยินแต่คนพูดว่า “ตลาดนัดสวนจตุจักร” สมัยก่อนกรุงเทพฯจะมีตลาดนัดใหญ่ๆ ซึ่งจะอยู่ที่สนามหลวง แต่ในช่วง พ.ศ. 2521 ทางกรุงเทพฯได้รับมอบที่ดินย่านพหลโยธินที่อยู่ต่อจากสวนจตุจักรทางทิศใต้จากการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงพัฒนาที่ดินให้เป็นตลาดนัดแห่งใหม่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “ตลาดนัดย่านพหลโยธิน” และมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ตลาดนัดสวนจตุจักร” ใน พ.ศ. 2530

สวนจตุจักร มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เกือบ 200 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สวนจตุจักรจะเป็นทั้งสวนสาธรณะไว้สำหรับออกกำลังกาย พักผ่อนรับพลังจากธรรมชาติสีเขียว นอกจากเป็นสวนสีเขียวแล้ว ยังเป็นตลาดนัดแหล่ง Shopping ของคนไทย และชาวต่างชาติ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ ภายในตลาดนัดแบ่งออกเป็นประมาณ 27 โครงการ 8,000 กว่าร้านค้า โดยจัดระเบียบแยกประเภทสินค้าออกเป็นส่วนๆ เพื่อสะดวกกับการเดินซื้อของ

ตลาดนัดสวนจตุจักร เป็นแหล่งที่มีของขายเกือบทุกชนิด ทั้งของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า ต้นไม้ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก เป็นสถานที่ที่รวบรวมสินค้าที่เน้นความเป็นไทย สินค้าบางอย่างไม่มีขายที่ไหนนอกจากที่นี่ ส่วนใหญ่จะคึกคักในวันเสาร์ และอาทิตย์ เป็นนิยมกับคนไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

นอกจากของใช้ เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้แล้ว ตลาดนัดสวนจตุจักรยังขึ้นชื่อในเรื่องของกิน Street Food ที่มีขายตลอดแนวตลาดนัด มีให้เลือกชิมหลากหลาย ทั้งอาหารไทย ขนมไทย และบางอย่างก็หารับประทานได้ยาก ทำให้เป็นที่น่าตื่นเต้นกับผู้ที่มาเดินเล่นเป็นอย่างมาก

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ในปัจจุบันเป็นจุดศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของคนย่านลาดพร้าว ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับห้าแยกลาดพร้าว ที่เป็นจุดสำคัญของการเชื่อมต่อในทางด้านต่างๆ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เปิดให้บริการครั้งแรกใน พ.ศ.2526 เป็นสาขาที่ 4 ของทางเซ็นทรัล

ในเวลานั้นเซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นศูนย์กลางค้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทยมีทั้ง ศูนย์การค้า, คอมเพล็ค, โรงแรม และศูนย์ประชุมนานาชาติแห่งแรกในประเทศ จนมาถึงในปัจจุบัน ตลอด 36 ปี เซ็นทรัล ลาดพร้าว ก็ยังเป็นศูนย์กลาง Lifestyle ของคนกรุงเทพฯไม่เคยเปลี่ยน

UNION MALL เป็นศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้ามเซ็นทรัลพอดี ที่นี่เป็นแหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นตามเทรนด์ในราคาย่อมเยาว์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ภายในมีร้านค้ากว่า 1,000 ร้าน และร้านอาหารชื่อดังมากมาย สำหรับ UNION MALL อาจจะตอบโจทย์กับคนที่ชอบเปลี่ยนสไตล์ตามแฟชั่นตลอดเวลา

แดนเนรมิต

ที่นี่ไม่เล่าไม่ได้เลย เพราะเป็นสถานที่ที่สร้างให้บริเวณนี้มีความเจริญคึกคักเป็นอย่างมากในยุคสมัยก่อน แดนเนรมิต เป็นสวนสนุกกลางแจ้ง บนเนื้อที่ 33 ไร่ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2518 โดยมีปราสาทเทพนิยายที่เป็นสัญลักษณ์ตั้งอยู่ด้านหน้า ในเวลานั้นแดนเนรมิตมีเครื่องเล่นถึง 30 ชนิด ทุกเครื่องเล่นนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด สร้างความตื่นเต้นให้กับคนยุคนั้นเป็นอย่างมาก ที่ตั้งของแดนเนรมิตเยื้องกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ติดถนนพหลโยธิน จนกระทั้งปี 2543 แดนเนรมิตได้ปิดตัวลง เนื่องจากหมดสัญญาเช่า หลังจากนั้นเจ้าของกิจการก็ได้ย้ายไปเปิดสวนสนุกแห่งใหม่แต่ออกนอกเมืองไปหน่อยซึ่งก็คือ Dream World ในปัจจุบัน

สวนลุมไนท์บาซาร์ แค่ฟังชื่อก็คิดว่าต้องอยู่แถวสวนลุม แล้วเปิดในเวลากลางคืน

ก่อนที่สวนลุมไนท์บาซาร์จะย้ายมาตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว แต่ก่อนเคยอยู่ตรงบริเวณถนนวิทยุ-พระราม4 บนที่ดินประมาณ 120 ไร่ ในเวลานั้นถือว่าเป็นแหล่งรวมร้านค้ากว่า 3,000 ร้าน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่เปิดในเวลากลางคืน ต่อมาหลังจากหมดสัญญา สวนลุมไนท์บาซาร์ ได้ย้ายมาตั้งโดดเด่นอยู่ตรงหัวมุมของแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ตรงข้ามรถไฟฟ้าสถานีลาดพร้าว โดยสร้างเป็นอาคารสูงถึง 20 ชั้น ภายในมีทั้งโรงแรม และสามารถรองรับร้านค้าได้ถึงกว่า 3,000 ร้านค้า

รัชดา – ลาดพร้าว ในยุค 4.0

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก โดยเป็นศูนย์การค้าตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งแต่ละที่ก็สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองในแต่ละวันตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างดี ประกอบไปด้วย Central Plaza Rama9, Fortune Town, The Street Ratchada, Esplanade, Big C, HomePro และอื่นๆ

Office Building

ในส่วนของแหล่งงาน รัชดา – ลาดพร้าว ถือว่าอยู่ในจุดศูนย์กลางของ 2 CBD

1.CBD ช่วงรัชดา-วิภาวดี จะมีอาคารสำนักงานสำคัญๆ อย่าง SCB Park, Thai Airways, PTT, TMB, อาคารชินวัฒน3 และตึกช้าง

2.The NEW CBC Rama9 ช่วงรัชดา-พระราม9 เป็นจุดเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยมีการพัฒนาที่ดินเป็นอาคาร สำนักงานอย่างเช่น G Tower, AIA, SET และUNILIVER และศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Central Plaza Rama9 ตรง บริเวณแยกพระราม9

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้กล่าวมานั้น คือจุดเด่นของ “รัชดา-ลาดพร้าว” ที่อยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก สะดวกในการจับจ่ายซื้อของ ใกล้ CBD แหล่งเศรษฐกิจถึง 2 CBD และยังเชื่อมต่อไปยัง CBD อโศก-สุขุมวิท ได้อย่างง่ายดาย ทำให้คนที่พักอาศัยอยู่ รัชดา-ลาดพร้าว มีเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆได้มากเพิ่มขึ้น เพราะใช้เวลาในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยระบบการคมนาคมที่มีอยู่บริเวณรัชดา – ลาดพร้าว ที่มีครบวงจร ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว, รถไฟฟ้า หรือระบบขนส่งอื่นๆ

รัชดา-ลาดพร้าว เดินทางไปไหนก็สะดวก

ถนนวิภาวดี – รังสิต เป็นถนนที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพชั้นใน ซึ่งถนนวิภาวดี – รังสิต จะเป็นถนนเส้นยาว และตัดกับถนนเส้นสำคัญๆ อยู่หลายเส้น เพื่อใช้เป็นเส้นทางเข้า ออก เมือง เช่นแยกดินแดง, สุทธิสาร, ลาดพร้าว, พหลโยธิน, รัชวิภา, บางเขน, หลักสี่ และยาวจนไปถึงรังสิต หรือเรียกอีกอย่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ดินแดง – ดอนเมือง) อย่างที่เข้าใจกันว่า ถนนวิภาวดี – รังสิต เชื่อมต่อระหว่าง กรุงเทพชั้นใน กับถนนพหลโยธิน เพื่อมุ่งหน้าสู่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

สนามบินดอนเมือง ถนนวิภาวดียังที่เป็นที่ตั้ง และถนนเส้นหลักสำหรับเดินทางไปยังสนามบินดอนเมืองอีกด้วย

รัชดา-ลาดพร้าว x ทางด่วนพิเศษ เดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว โดยใกล้กับทางด่วนถึง 4 จุด ทางด่วนพิเศษศรีรัช, วงแหวนรอบนอก, ทางด่วนพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษดอนเมืองโทลเวย์ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในเวลาเร่งด่วน

ถนนพหลโยธิน เป็นถนนที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพอีกสาย โดยเริ่มจากใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าไปทางเหนือของกรุงเทพฯ โดยตัดกับถนนสำคัญ อย่าง ถนนวิภาวดี-รังสิต, รัชดาภิเษก, เกษตร-นวมินทร์ ยาวไปจนเชื่อมต่อไปถึงภาคเหนือของประเทศ

ถนนรัชดาภิเษก CBD to CBD เป็นถนนที่เชื่อมฝั่งกรุงธนบุรีและพระนครเข้าไว้ด้วยกัน โดยถนนรัชดาภิเษกเชื่อมต่อมาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ข้ามฝั่งด้วยสะพานพระราม7 มาผ่านถนนวงศ์สว่าง แล้วจึงเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ถนนรัชดาภิเษกจะเป็นถนนที่มีความยาว และตัดกับถนนเส้นสำคัญในกรุงเทพหลายเส้นเริ่มตั้งแต่ ถนนวิภาวดี – รังสิต, ลาดพร้าว, พระราม 9, เพชรบุรีตัดใหม่, อโศก, สุขุมวิท, พระราม 4, พระราม 3 และกรุงธนบุรี (ท่าพระ)

ไม่ต้องเสียเวลาติดแยกไฟแดง – อุโมงค์ข้ามแยกตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก

รัชดา-ลาดพร้าว เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า

สถานีกลางบางซื่อ หรือเรียกว่าศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย และเป็นว่าที่สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย สำหรับสถานีกลางบางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศโดยมีสายเหนือ, อีสาน, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก และยังออกแบบเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีน้ำเงิน) หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ นอกเหนือจากนั้นยังเตรียมการในอนาคตสำหรับรองรับรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย สถานีกลางบางซื่อ มีจำนวนทั้งหมด 24 ชานชาลา คาดว่าเมื่อสร้างเสร็จในปี 2563 จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย ซึ่งจะมาแทนสถานีกรุงเทพเดิม (หัวลำโพง)

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

เป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร รวม 23 สถานี

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง Interchange ทั้งหมด 4 จุด

สถานีรัชดา – ลาดพร้าว เชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT)

สถานีลำสาลี เชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี

สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และ รถไฟสายตะวันออก

สถานีสำโรง เชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

ในอนาคตคมีแผนที่จะพัฒนาก่อสร้างโครงการทางเชื่อมต่อระหว่าง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง จากสถานีรัชดา – ลาดพร้าว ไปยัง รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีรัชโยธิน ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางโดยไม่ต้องสลับสายรถไฟฟ้าหลายสายให้ยุ่งยาก

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน – รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (รถไฟฟ้า MRT) ได้เปิดให้บริการเดินรถต่อเนื่องทั้งระบบ แล้วในปัจจุบัน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทางรวม 47 กิโลเมตร และในปีนี้ 2562 โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย (สายสีน้ำเงิน) ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ(สายน้ำเงินฝั่งเหนือ) และหัวลำโพง-บางแค” ระยะทางรวม 27 กม.ทั้งหมด 21 สถานี

ในอนาคตหลังจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ และเปิดให้บริการ บริเวณ MRT สถานีลาดพร้าวจะเป็นจุด Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) โดย Interchange ที่ต้นสายจะเริ่มต้นตั้งแต่สถานีรัชดาลาดพร้าว

สถานี MRT ลาดพร้าว มีทางเข้าออกสถานีทั้งหมด 4 ทาง

ทางออก 1 สี่แยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว

ทางออก 2 ซอยลาดพร้าว 24

ทางออก 3 ซอยลาดพร้าว 17

ทางออก 4 อาคารจอดแล้วจร, ศาลแขวงพระนครเหนือ

ภายในสถานีลาดพร้าว บริเวณชั้นบนสุดของสถานี กลุ่มเดอะมอลล์ได้ดำเนินการเช่าพื้นที่ทั้งชั้นจาก บริษัท บางกอกเมโทรเน็ตเวิร์ค จำกัด เพื่อเปิดสาขาของกูร์เมต์ มาร์เก็ต ที่สถานีแห่งนี้ โดยเปิดในรูปแบบของซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลาง (2,000 ตารางเมตร) เน้นสินค้าบริโภคประเภท Grab and Go ร้านอาหารระดับห้าดาวที่รังสรรค์โดยเชฟฝีมือคุณภาพ และร้านอาหารประเภท Take Home เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 7.00 – 22.00 น. โดย Gourmet Market จะอยู่ที่ ทางออกที่ 4 ของสถานีลาดพร้าว ซึ่งเป็นทางออกที่เชื่อมต่อกับ อาคารจอดแล้วจร เป็นอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น มีความจุถึง 2,500 คัน

ภายใน Gourmet Market แห่งนี้ แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ด้วยกัน โซนแรกจะเป็นร้านอาหาร มีทั้งแบบสั่งแล้วนั่งทานได้เลย หรือแบบซื้อกลับบ้านก็ได้เช่นกัน อีกโซนนึงจะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีอาหารกล่องที่ซื้อแล้วมีบริการไมโครเวฟ อุ่นพร้อมทานได้เลย กับโซนสินค้า ข้าวของเครื่องใช้ ที่ขายคล้ายกับ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาอื่นๆ อย่างพารากอน หรือเทอร์มินอร์ 21 มีทั้งสินค้าของไทย และสินค้านำเข้าเพื่อรองรับชาวชาติที่อยู่ในย่านลาดพร้าวนี้

รถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นสุขุมวิท (ส่วนต่อขยาย) มาจาก BTS สถานีหมอชิต (ปัจจุบันเส้นหมอชิต – สำโรง) – สถานีคูคต (เส้นต่อขยาย) โดยมีความยาวประมาณ 19 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี เริ่มตั้งแต่ สถานีหมอชิต ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว – ถนนลำลูกกา คลองสอง (บริเวณสถานีคูคต)

รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ–รังสิต เป็นสายที่เชื่อมกรุงเทพฯชั้นในกับกรุงเทพเหนือ โดยมีระยะทางรวมกันทั้งหมด 26.3 กิโลเมตร ตัดผ่านด้วยกัน 10 สถานี คือ บางซื่อ, จตุจักร, วัดเสมียนนารี, บางเขน, ทุ่งสองห้อง, หลักสี่, การเคหะ, ดอนเมือง, หลักหก และ รังสิต หลังจากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงนี้จะช่วยลดความหนาแน่นของจำนวนรถยนต์ที่เข้าออกเมืองได้เป็นอย่างดี แ ละเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนที่เดินทางเข้าออกสนามบินดอนเมือง

สรุปได้ว่าทำเล รัชดา – ลาดพร้าว เป็นทำเลที่มีประวัติความเป็นมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ บริเวณโซนนี้มีการพัฒนาในทุกๆด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคม และสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด ถ้ามองจากภาพรวมทั้งหมด รัชดา – ลาดพร้าว เป็นทำเลที่อุดมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

– มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประมาณ 3-4 ที่ ทำให้สะดวกต่อการ Shopping

– อยู่ในจุดศูนย์กลางของ CBD รายล้อมไปด้วย Office Building มากมาย ซึ่งเหมาะกับคนวัยทำงานเป็นอย่างมาก

– ความสะดวกของการเดินทางด้วย รถยนต์ และรถไฟฟ้า

เดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเข้าถึงใจกลางเมืองด้วย ถนนรัชดาภิเษกเพียงไม่กี่แยกถึง อโศก-สุขุมวิท |ถนนลาดพร้าว เพียงขับตรงข้ามห้าแยกลาดพร้าว ถึงสวนจตุจักร อารีย์ หรือถนนวิภาวดี-รังสิต สามารถเข้าถึงใจกลางเมืองอย่างอนุเสาวรีชัยสมรภูมิได้อย่างสะดวกง่ายดาย

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า สามารถเลือกใช้รถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, น้ำเงิน และเขียว

ซึ่งความสะดวกทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อคุณได้มาสัมผัส และใช้ชีวิตประจำวันในโครงการ คอนโดใหม่ THE ORIGIN RATCHADA – LADPRAO และ THE ORIGIN LADPRAO 15 ซึ่งเป็นคอนโดใหม่สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตามที่กล่าวมาทั้งหมด ซึ่งจะเหมาะกับกลุ่มคนทุกวัยที่มี Lifestyle และมองเห็นศักยภาพในทำเลแห่งนี้ ว่าสามารถให้ประโยชน์อะไรกับพวกเค้าได้ และเติมเต็มสิ่งที่ขาดเพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขได้มากขึ้น

มาทำความรู้จัก กับ 2 โครงการจากแบรนด์น้องใหม่ The Origin ในทำเล รัชดา – ลาดพร้าว Interchange ที่อยู่อาศัยเหมาะกับคุณมากที่สุดในย่านนี้ จากที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

THE ORIGIN RATCHADA-LADPRAO (ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว)

ประเภทที่อยู่ : คอนโดมิเนียม

สถานที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว 23 จตุจักร กรุงเทพฯ

ลักษณะอาคาร : คอนโดมินียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 208 ยูนิต 1 Shop

ขนาดที่ดิน : 1-3-32 ไร่

จำนวนที่จอดรถ : 61 %

เฟอร์นิเจอร์ : Fully Fitted

1 Bedroom เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า

1Bedroom Smart Closet เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. และโต๊ะข้างเตียงพร้อม Wireless Charger, ตู้เสื้อผ้า Walk In Closet Set

1 Bedroom Plus เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า, Smart Mirror (ในห้องน้ำ)

2 Bedroom เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. ทั้งหมด 2 หลัง, ตู้เสื้อผ้า, Smart Mirror (ในห้องน้ำ)

ราคาเริ่มต้น : 2.29 ล้านบาท

แผนที่ตั้ง :https://goo.gl/maps/CGqf1TLT8Chd8B1s8

เจ้าของโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

(ภาพและรายละเอียดโครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางประการ)

ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว The Origin Ratchada-Ladprao ออกแบบด้วยรูปลักษณ์ของสถาปัตยกรรม แบบ Classic Heritage ใช้แนวคิด “ชานชาลารถไฟ” เป็นคอนเซปต์ ในการออกแบบดึงเอกลักษณ์ต่างออกมาใช้ในการออกแบบอาคาร เช่น Arch ทรงโค้งของหน้าต่างรถไฟ เฟรมของช่องแสงอาคาร และซุ้มโค้งตกแต่ง ใช้สัดส่วนของสถาปัตยกรรมคลาสิคมาใช้ในการเล่นจังหวะของช่องแสงและหน้าตาอาคาร วัสดุเลือกสีโทนน้ำตาลและขาวครีม ตัดกับ สีอลูมิเนียม Antique Copper เพิ่มเสน่ห์ และความหรูหราให้อาคารทั้งภายในและภายนอก ดึงอารมณ์ให้เหมือนกลับไปอยู่ในยุคคลาสิค ที่สถานีรถไฟเป็นเหมือนที่พบปะของกลุ่มคนที่หลากหลาย เป็นจุดเริ่มต้นทั้งการเดินทางและชีวิต “The Station Journey to A Better Life” ในทำเล Interchange รถไฟฟ้าสีเหลือง และสีน้ำเงิน

Main Entrance

Lobby Hall

Swimming Pool

Fitness

Lounge

Library Space

Rooftop Courtyard

6 จุดเด่นสำคัญ ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ ดิ ออริจิ้นรัชดา – ลาดพร้าว

1.ออกจากบ้านไปไหนก็ง่ายสุดๆ เชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเหลือง สถานีรัชดาเพียง 25 เมตร และสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว เพียง 450 เมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท

2. อยู่ที่บ้าน ใครๆก็อยากรู้สึก Private โครงการ Low Rise ที่ให้ความเป็นส่วนตัวเพียง 208 ยูนิต

3. อยากทำอะไรต้องได้ทำ อยากเล่นอะไรต้องได้เล่น พื้นที่ส่วนกลางที่รองรับทุกกิจกรรม ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมที่จอดทั้งหมด 61%

4. มุมมองการลงทุน ด้วยราคาของโครงการ Low Rise จะได้ต้นทุนที่ถูกกว่า เหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่า

5. สามารถสร้างผลตอบแทนอัตราค่าเช่า Rental Yield ในทำเลเดียวกันเฉลี่ย 400-450 บาทต่อ ตร.ม.

6. ทำเลโครงการอยู่ในพื้นที่ Prime Area ของกรุงเทพฯ ที่สร้าง Capital Gain 15% ต่อปี

THE ORIGIN LADPRAO 15 (ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15)

ประเภทที่อยู่ : คอนโดมิเนียม

สถานที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว15 จตุจักร กรุงเทพฯ

ลักษณะอาคาร : คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 163 ยนูิต

ขนาดที่ดิน : 1-1-6 ไร่

จำนวนที่จอดรถ : 40 %

เฟอร์นิเจอร์ : Fully Fitted

1 Bedroom เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า

1 Bedroom Smart Closet เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock , ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. และโต๊ะข้างเตียงพร้อม Wireless Charger, ตู้เสื้อผ้า Walk In Closet Set

1 Bedroom Plus เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า

, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า, Smart Mirror (ในห้องน้ำ)

2 Bedroom เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., เตียงขนาด 3 ft., ตู้เสื้อผ้า, Smart Mirror (ในห้องน้ำ)

ราคาเริ่มต้น : 1.79 ล้านบาท

แผนที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/q8Aph9AsgRGqf9gD7

เจ้าของโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

(ภาพและรายละเอียดโครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางประการ)

แผนที่ตั้งโครงการ ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 The Origin Ladprao 15

Lobby Double Volume Space เปิดมุมมองสู่สวนสีเขียวด้วยกระจกสูงเต็มตา

Rooftop Garden สวนชั้นดาดฟ้า 2 ระดับ พร้อมรับกิจกรรม Out Door Bar-B-Q Party

Fitness

Swimming Pool

และแน่นอนว่า โครงการ ดิ ออริจิ้นลาดพร้าว 15 ก็มี 6 จุดเด่นสำคัญ ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ เช่นกัน

1.จะไปไหนก็ง่ายไปหมด เดินทางสะดวกสบาย ตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว เพียง 600 เมตร

2.ใกล้แหล่งชอปแบบสุดๆ เพราะโครงการรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร อาทิ ยูเนี่ยน มอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว บิ๊กซีลาดพร้าว

3.ตอบรับไลฟ์สไตล์ยุค 4.0 ด้วย Home Automation, Smart Mirror และ Outdoor Charger

4.รับรองทุกกิจกรรมด้วยพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ และ Co-working Space 24 hr. พร้อม Office Supply

5.Hotel Service On demand บริการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็น งานแม่บ้าน งานซักรีด งานทำความสะอาดห้องน้ำสั่งการผ่าน Mobile Application “Origin Connect” ตอบความต้องการจัดการชีวิตให้สะดวกสบาย

6.ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท บนทำเล New Interchange ซื้ออยู่เองก็กำไร และเหมาะกับการปล่อยเช่าลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงในอนาคต ในราคาที่หาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

สุดท้ายนี้ ความว้าวที่จะเกิดขึ้นจาก 2 โครงการ ในย่านรัชดา – ลาดพร้าว ภายใต้แบรนด์ The Origin คือบริการสุดแสนวิเศษ ที่เกิดจากความเข้าใจ ในตัว GEN Z อย่างแท้จริง ที่ออริจิ้นต้องการตอบสนองให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยให้ชีวิตมนุษย์คอนโด ‘ง่ายขึ้น’

SERVICE EXCELLENCE บริการสุดว้าว ที่เกิดจาก “ความเข้าใจ”

-Hotel Service On demand บริการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นงานแม่บ้าน งานซักรีด งานทำความสะอาดห้องน้ำ ตอบโจทย์ความต้องการจัดการชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น

-Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application ตอบโจทย์ความ ’เข้าใจ’ ในการจัดสรรเวลาที่มีค่าของคุณ เพื่อให้คุณสามารถจัดสรรเวลาดีๆ ที่มีค่า ไปตามหา Passion ไปใช้ชีวิตในแบบของคุณ

-Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อม ช่างล้างแอร์ ช่างไฟ ตอบโจทย์ความเข้าใจในความต้องการให้คุณไม่ต้องมากังวลกับงานช่างที่ไม่ได้ถนัดอีกต่อไป

-Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่ม ผ่าน Machine ภายในโครงการ ให้ทุกมื้อที่คุณต้องการ สามารถสั่งผ่านปลายนิ้วได้ในพริบตา

Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application ลดเวลาความวุ่นวายที่ต้องเจอในทุกๆ เดือน