ทำเลและการเดินทาง

โครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร นั้นจะตั้งอยู่ที่ปากซอยวิภาวดีรังสิต 3 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ติดถนนวิภาวดีรังสิต   ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อไปได้หลากหลายเส้นทาง ส่วนซอยวิภาวดีรังสิต 3 นั้นยังไปเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินได้ด้วย   จึงทำให้เราสามารถไปยังถนนสายใกล้เคียงได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว และถนนพระราม 6

ย่านนี้เป็นแหล่งอาคารสำนักงานชั้นนำหลายบริษัท เช่น  ปตท, การบินไทย,  SCB และอื่นๆ อีกมากมาย ทำเลนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาด อ.ต.ก., เจเจ มอลล์, ตลาดนัดจตุจักร, จตุจักร กรีน, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล พหลโยธิน, โรงพยาบาลพญาไท 2, โรงพยาบาลวิภาวดี

ส่วนทางด่วนที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดนั้นคือ ทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) ดอนเมือง – รังสิต และ ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านดินแดงค่ะ

วันนี้ Homezoomer จะเริ่มต้นการเดินทางบนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครมุ่งหน้าดินแดง 

ขับตามป้ายดินแดงไว้ค่ะ

เราจะใช้ทางออกที่ 1 เพื่อเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิตค่ะ

ขับตรงไปเรื่อยๆ เลยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดลไปก่อนค่ะ

เบี่ยงเข้าเลนซ้าย ตามป้าย สุทธิสาร ก.ล.ต.

วิ่งตรงไปก่อนค่ะ ใกล้จะถึงโครงการแล้ว

ตัวสำนักงานขายของโครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร นั้นจะอยู่ที่บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 3 โดยให้เราสังเกตจากปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งจะอยู่ก่อนถึง ซอยวิภาวดีรังสิต 3 เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ

เมื่อเราเลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้ว สำนักงานขายจะอยู่ทางขวามือค่ะ

จอดรถบริเวณนี้ได้เลยค่ะ แล้วเราเข้าไปเยี่ยมชมภายในสำนักงานขายพร้อมๆ กันค่ะ

Ground Floor Plan : โครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี – จตุจักร นั้นจะแบ่งแป็น อาคารชุดพักอาศัยสูง 21 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคารค่ะ

อาคารพักอาศัยนั้นจะอยู่ทางทิศตะวันตกของที่ดิน โดยที่บริเวณชั้น 1 นี้จะเป็นชั้นเริ่มต้นมีห้องพักอาศัยเลยค่ะ ซึ่งมีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งสิ้น 10 ยูนิต ได้วิวสวน ภายในอาคารประกอบด้วยโถงล็อบบี้, ห้องจดหมาย, ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว, ห้องนิติบุคคล   ส่วนพื้นที่รอบอาคารพักอาศัยนั้นทางโครงการจัดทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง อย่างเช่น ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม (Fit & Firm Area), Jogging Track, สนามสตรีทบาส (Street Basketball) และ Outdoor Co-Working Area

ส่วนพื้นที่อาคารจอดรถนั้นจะแยกเป็นอีก 1 อาคาร อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินโครงการ โดยจะเป็นอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น ที่บริเวณชั้น 1 จะประกอบด้วยพื้นที่จอดรถบางส่วน และ Shop อีก 4 Shop ค่ะ

Floor Plan ชั้น 2 – 3 : ที่อาคารพักอาศัยช่วงชั้น 2 และชั้น 3 นั้นจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดค่ะ ซึ่งประกอบด้วยห้องพัก 2 แบบ คือแบบ Studio ขนาด 24.00 – 24.50 ตร.ม. และแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.50 – 33.50 ตร.ม. โดยจะแบ่งเป็นห้องแบบ Studio จำนวน 21 ยูนิต ส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่หันไปทางทิศใต้ ส่วนห้อง 1 Bedroom จะมีทั้งสิ้น 22 ยูนิต โดยส่วนใหญจะเป็นห้องที่หันไปทางทิศเหนือค่ะ   โถงลิฟท์จะอยู่บริเวณกลางอาคาร พร้อมบันไดหนีไฟทั้งหมด 3 จุด

ส่วนที่อาคารจอดรถนั้นยังคงเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด 

Floor Plan ชั้น 4 : เมื่อขึ้นมาถึงบริเวณชั้น 4 แปลนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะจะมีจุดที่เป็น Pocket Garden เพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน จุดหนึ่งจะหันไปทางทิศเหนือ ส่วนอีกจุดหันไปทางทิศใต้ ซึ่งสวนจะอยู่ตรงข้ามกันพอดี โดย Pocket Garden นี้จะเข้ามาแทนตำแหน่งของห้อง Studio จำนวน 2 ยูนิต ทำให้ชั้นนี้เหลือห้อง Studio ทั้งสิ้น 19 ยูนิตค่ะ ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.50 – 33.50 ตร.ม. ยังคงมีจำนวน 22 ยูนิตเท่าเดิม   จากแปลนนี้จะเห็นได้ว่าห้องที่หันหน้ามาทางทิศใต้ทั้งหมดนั้นจะได้วิวสวนของโครงการค่ะ ส่วนที่อาคารจอดรถนั้นยังคงเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด

Floor Plan ชั้น 5 – 6 : ที่บริเวณชั้น 5 – 6 นี้จะมีแปลนห้องเหมือนกับชั้น 4 เลยค่ะ เพียงแต่จุดของ Pocket Garden นั้นจะสูงขึ้นมากินพื้นที่ถึง 3 ชั้น ซึ่งหากเดินผ่านที่จุด Pocket Garden นี้ลูกบ้านก็จะได้วิวต้นไม้สีเขียวด้วยค่ะ

Floor Plan ชั้น 7 : ชั้น 7 นี้จะเป็นชั้นที่รวมห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางไว้ในชั้นเดียวกัน   โดยจำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือเพียง 24 ยูนิตเท่านั้น ส่วนพื้นที่ห้องพักที่ลดลง ทางโครงการได้จัดเป็นส่วนของพื้นที่พักผ่อน, Fitness Zone และ Learning Zone   ที่ชั้นนี้จะเป็นชั้นเชื่อมต่อไปยังดาดฟ้าของอาคารจอดรถที่ทางโครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งจะประกอบด้วย Infinity Edge Pool และ Sky Lounge ค่ะ

Floor Plan ชั้น 8 : ที่ชั้น 8 นี้จะมีลักษณะและตำแหน่งของห้องเหมือนกันกับชั้น 7 เพราะความสูงของพื้นที่ส่วนกลางนั้นทางโครงการจัดทำเป็นแบบ Double volume กินพื้นที่มาถึงชั้น 8 พร้อมจัดพื้นที่ Co-Living Zone มาให้ลูกบ้านได้พักผ่อนเพิ่มอีก 1 จุดด้วย

Floor Plan ชั้น 9 : แปลน ชั้น 9 นั้นจะมีตำแหน่งห้องเหมือนกันกับชั้น 2 และ ชั้น 3 เลยค่ะ

Floor Plan ชั้น 10 : แปลนชั้น 10 นี้จะมีตำแหน่งห้องเหมือนกับชั้น 4

Floor Plan ชั้น 11 : ที่บริเวณชั้น 11 นี้แปลนห้องยังคงวางตำแหน่งเหมือนกับกับชั้น 10 เพียงแต่ลดจำนวนยูนิตของห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.50 ตร.ม. ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอาคารลงไป 4 ยูนิต แล้วทำเป็นส่วนของ Co-Living Area แทนค่ะ

Floor Plan ชั้น 12 : ที่ชั้น 12 นี้จะมีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 37 ยูนิต ตำแหน่งการวางห้องจะเหมือนกันกับชั้น 11 ทุกประการแต่ชั้นนี้จะไม่มีพื้นที่ Co-Living Area ค่ะ

Floor Plan ชั้น 13 – 14 : แปลนของชั้น 13 – 14 นี้มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 39 ยูนิต โดยจะเพิ่มห้องแบบ Studio ขนาด 28.50 ตร.ม. ขึ้นมา 2 ยูนิต แทนตำแหน่งของ Pocket Garden ค่ะ

Floor Plan ชั้น 15 : เมื่อเราอยู่ชั้นที่สูงขึ้นแบบของอาคารก็จะเริ่มลดหลั่นลงเรื่อยๆ ตามแบบแปลนของอาคารภายนอก ซึ่งถือว่าเป็นการลงความแออัดของยูนิต ทำให้ชั้นที่สูงนั้นมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยที่ชั้น 15 นี้ จะลดห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.50 – 34.00 ตร.ม. ห้องมุมทางทิศใต้ของอาคารลงไปอีก 4 ยูนิต แล้วเพิ่มเป็นพื้นที่ Co-Living Area เข้ามาแทนที่ เพื่อกระจายพื้นที่ส่วนกลาง ให้ลูกบ้านทุกๆ ชั้นสามารถเลือกใช้บริการได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

Floor Plan ชั้น 16 : ที่บริเวณชั้น 16 นี้จะเป็นชั้นที่มี Pocket Garden ทำให้ห้องพักอาศัยของชั้นนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 33 ยูนิต และความพิเศษของชั้นนี้ก็อยู่ที่ห้องมุมทางทิศใต้ทั้ง 2 ยูนิต ถูกจัดเป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53.00 ตร.ม. ค่ะ

Floor Plan ชั้น 17 -18 : ตำแหน่งห้องต่างๆ ของชั้น 17 -18 นั้นจะเหมือนกันกับชั้น 16 และมีส่วนของ Pocket Garden ที่มีความสูงถึง 3 ชั้นสูงขึ้นมาถึงชั้น 17 และ 18 ด้วย

Floor Plan ชั้น 19 : บริเวณชั้น 19 นี้ ที่ตำแหน่งของห้อง 2 Bedrooms เดิมนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลงเป็น Co-Living Area แทน ทำให้ชั้นนี้มีห้องแบบ Studio ขนาด 24.00 – 24.50 ตร.ม. จำนวน 19 ยูนิต และห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.50 – 29.00 ตร.ม. มีจำนวน 14 ยูนิต

Floor Plan ชั้น 20-21  : ชั้น 20 – 21 นั้น ตำแหน่งห้องและจำนวนยูนิตจะเหมือนกับชั้น 19 เลย เพียงแต่ไม่มีส่วนของ Co-Living Area ค่ะ

Room Layout ห้อง Studio ขนาด 24.00 ตร.ม.: ห้อง Type นี้จะเป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดของโครงการ โดยเข้ามาภายในห้อง  ทางซ้ายมือเราจะพบกับ Pantry ครัว  ฝั่งตรงข้ามคือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น เชื่อมต่อไปถึงพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกับระเบียง เดินเข้าไปที่โซนทางซ้ายมือของห้อง เราจะพบกับห้องน้ำที่มีฉากกั้นแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง  พื้นที่ห้องส่วนนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และติดกันจะเป็นส่วนของเตียงนอน

Room Layout ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. Corner :  แบบห้องนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี – จตุจักร เลยก็ว่าได้   และยังถือเป็นแบบห้องแบบใหม่ล่าสุดจาก LPN ที่จับทุกยูนิตให้กลายมาเป็นห้องมุมได้อย่างน่าสนใจ โดยความพิเศษของห้อง Type นี้ ก็คือกระจกเข้ามุมบริเวณห้องนอน ที่ทำให้ลูกบ้านได้รับวิวถึง 2 ทิศทาง เสมือนได้อยู่ห้องมุม โดยตำแหน่งของห้อง Type นี้   ทางโครงการสามารถจัดวางไว้ในโซนกลางของอาคารแต่แบบของห้องนั้นก็ยังคงเสมือนเป็นห้องมุมอยู่ดี

โดยเมื่อเราเข้าไปในห้องเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ครัว ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและระเบียง ห้องนอนกั้นเป็นห้องส่วนตัวมิดชิด โดยมีการเพิ่มหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเพื่อเชื่อมต่อห้องนั่งเล่นและห้องนอนไว้ด้วยกัน ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ภายในตัวห้องนอนค่ะ

Room Layout ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม.:  Type ของห้องนี้จะเหมือนกันกับห้องที่แล้วนะคะ แต่แตกต่างกันที่ไม่มีพื้นที่กระจกเข้ามุม และเป็นการวาง Layout แบบ Mirror กันเท่านั้น

Room Layout ห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.50 ตร.ม.:  ห้อง Type นี้ จะมีกระจกเข้ามุมถึง 2 จุด ลดหลั่นกันเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นในงานดีไซน์ใหม่จาก LPN โดยจะแบ่งแยกโซนแต่ละส่วนไว่อย่างชัดเจน เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับส่วนของ Pantry ทางซ้ายมือ และส่วนของพื้นที่ Living ทางขวามือ ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของห้องนอน พร้อมระเบียงและห้องน้ำในตัวค่ะ

Room Layout ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 53.00 ตร.ม.:  ห้องนี้จะเป็น Type ห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ โดยจะเป็นห้องมุมที่หันหน้าไปทางทิศใต้ อยู่ที่บริเวณชั้น 16 -18 ชั้นละ 2 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 6 ยูนิต

เมื่อเราเดินเข้าไปภายในห้องเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ครัว ถัดไปเป็นส่วนของห้องน้ำที่เป็นแบบ Double Access เข้าได้จากพื้นที่ส่วนครัวและภายในห้องนอนที่ 2 ทำให้ห้องนอนที่ 2 เสมือนมีห้องน้ำให้ภายในตัว กลางห้องจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นที่มีพื้นที่มาก รวมทั้งมีระเบียงที่มีหน้ากว้างเป็นพิเศษให้ด้วย ด้านซ้ายมือสุดของห้องนั้นจะเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom ที่มาพร้อมห้องน้ำภายในตัวพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งให้ด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในสำนักงานขายเราก็จะพบกับโมเดลจำลองแบบของโครงการ “Lumpini Mixx วิภาวดี-จตุจักร” ทั้งหมด ซึ่งด้านหน้านี้จะเป็น Tower A ที่จะเป็นส่วนของพื้นที่ให้เช่าทำเป็นสำนักงานทั้งอาคาร

Tower A จะติดกับถนนวิภาวดีรังสิตเลย พร้อมทำทางเข้าออกใหม่ สู่ถนนเส้นหลักโดยตรง ช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้น

ถัดไปจาก Tower A นั้นจะเป็นส่วนของ Tower B คั่นกลางด้วย ซ.วิภาวดีรังสิต 5 แยก 1

Tower B นั้นจะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถ และพื้นที่ให้เช่าทำเป็นสำนักงาน

ถัดมาจะเป็นส่วนของอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น ที่มีบางส่วนเชื่อมต่อกับอาคารลุมพินี พาร์ค วิภาวดี – จตุจักร

ด้านบนสุดของอาคารจอดรถนั้นจะเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ให้ลูกบ้านได้มาใช้บริการกัน โดยจะแบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมสวนสีเขียวขนาดใหญ่ เชื่อมต่อเข้าสู่ชั้น 7 ของอาคารพักอาศัย

ภายในอาคารพักอาศัยที่บริเวณชั้น 7 นั้นจะเป็นส่วนของ ห้องอเนกประสงค์ และห้องฟิตเนสค่ะ

หน้าตาของอาคารชุดนั้นจะเป็นแบบนี้เลยค่ะ หันหน้าเข้าสู่ซอยวิภาวดีรังสิต 3

ที่บริเวณชั้น 11, 15 และ 19 จะจัดเป็น Infinity Garden ไว้ให้   นอกจากนี้ทางโครงการยังมีพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านด้วยการสร้าง Pocket Garden สูงถึง 3 ชั้น ไว้ที่ชั้น 4, 10 และ 16 ให้ด้วยค่ะ

พื้นที่บริเวณชั้น 1 นั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางอีก โดยเป็นพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ พร้อม Jogging Track สนามบาส และลานออกกำลังกายกลางแจ้ง ส่วนภายในอาคารนั้นเราจะพบกับส่วนของ Lobby 

ภายในสำนักงานขายมีมุมโซฟาให้เลือกพักผ่อนหลากหลายแบบ

นี่คือประตูห้องที่โครงการจะมอบให้นะคะ เป็นลูกบิดแบบก้านโยก

มาเริ่มดูห้องตัวอย่างห้องแรกกันเลยค่ะ ห้องนี้มีขนาดอยู่ที่ 24.00 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Studio

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่ครัวก่อนเป็นอย่างแรก

โดย Pantry ครัวนั้นจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้นั้นจะมีลักษณะแบบนี้เลยนะคะ คือมาพร้อมอ่างล่างจาน 1 หลุม และชั้นลอยด้านบนสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัว

อ่างล้างจานขนาดกำลังพอดี พร้อมผิว Top ครัวแบบลามิเนต 

ชั้นลอย มีช่องสำหรับใส่ของ 2 ช่อง ทั้งยังมีช่องว่างสำหรับวางไมโครเวฟให้ด้วย

ฝั่งขวามือนั้นจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของชั้นวางทีวี

มุมนี้ทางโครงการจัดวางตัวตู้เย็นขนาด 6 คิว พร้อม Built – in ตู้ชั้นลอยลายไม้ไว้ด้านบนตู้เย็น เพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

มุมพื้นที่นั่งเล่นนั้นจะอยู่ติดกับประตูบานเลื่อน 2 ตอนที่ออกไปสู่พื้นที่ระเบียงด้านนอก

พื้นที่ระเบียงด้านนอกนั้นปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 30 ซม. พร้อมระเบียงราวเหล็กแบบโป่รง

พื้นห้องปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตสีสวย ฝั่งตรงข้ามกับชั้นวางทีวีนั้นจะเป็นส่วนของโซฟานั่งเล่น ถัดเข้าไปเป็นส่วนของห้องนอน

ภายในส่วนของห้องนอนนั้นสามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมกระจกใสบานใหญ่และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ช่วยให้ห้องโปร่งและช่วยให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าถึง

ด้านข้างเตียงนั้นทางโครงการ Built- in ตู้เสื้อผ้า ที่มีความสูงถึงฝ้าเพดานมาให้ด้วย

และพื้นที่ส่วนสุดท้ายนั้นจะเป็นส่วนของห้องน้ำค่ะ

พื้นภายในห้องนอนนั้นจะปูพื้นด้วยลามิเนต ส่วนภายในห้องน้ำจะปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.

เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำ เราจะพบกับอ่างล้างหน้าแบบแขวนลอยพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ 1 บาน

อ่างล้างหน้าที่ทางโครงการเลือกใช้เป็นของ CHARMER หัวก๊อกจาก American Standard

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard

พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ช่วยแบ่งโซนเปียกและโซนแห้ง ด้านบนฝ้าติดตั้งเครื่องระบายอากาศจากพานาโซนิค หรือเทียบเท่ามาให้ด้วย

และฝักบัวแบบ Hand Shower จาก American Standard ค่ะ

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม.

เมื่อเข้ามาในห้องนั้นเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ครัว ถัดเข้าไปเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น

ด้านซ้ายมือนั้นทางโครงการตกแต่งด้วยตู้เย็นขนาด 6 คิว

ส่วนด้านซ้ายมือเราจะเห็นเคาน์เตอร์ครัวและประตูทางเข้าของห้องนอน

เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้นั้นจะเป็นแบบนี้เลยค่ะ คือมีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้าง 1 หลุม พร้อมชั้นลอยด้านบน

ผิว Top ครัวนั้นเป็นลามิเนต พร้อมปูผนังเป็นกระเบื้องที่ด้านหลังมาให้ด้วย ช่วยให้เราดูแลรักษาและทำความสะอาดคราบสกปรกคราบมันง่ายขึ้นมาก

อ่างล้างจาน 1 หลุมจาก CAMAR  – Tec

ถัดจากจุดวางตู้เย็นมานั้น ทางโครงการจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานเล็กๆ

เชื่อมต่อด้วยพื้นที่นั่งเล่น เป็น Built – in ชั้นวางทีวี

ตรงข้ามกันนั้นจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน และพื้นที่ Living

ระยะจากโซฟา ถึงจุดวางทีวีนั้น ถือว่าอยู่ในระยะกำลังดี ไม่ใกล้หรือไกลจนเกินไป

ทางโครงการตกแต่งด้วยโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง ผนังด้านหลังโซฟานั้นจะเป็นหน้าต่าง 2 บาน เพื่อเชื่อมมุมมองของห้องนอนกับพื้นที่ Living ไว้ด้วยกัน

ด้านนอกระเบียงเป็นพื้นที่ซักล้าง ทั้งยังสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย

พื้นภายในห้องเป็นลามิเนต ส่วนพื้นระเบียงด้านนอกปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันบ้างค่ะ สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้นั้นคือความโปร่งโล่งของห้อง ทางโครงการตกแต่งด้วยเตียงขนาด 5 ฟุต

ความพิเศษของห้อง Type นี้อยู่ที่หน้าต่างบานกระจกแบบเข้ามุม ยกระดับมุมมองของวิวด้านนอกไปอีกขั้น

มองย้อนจากหน้าต่างเข้ามาภายในห้องนั้นจะพบกับส่วนของตู้เสื้อผ้าที่หน้าบานสูงถึงฝ้าเพดาน และห้องน้ำภายในตัว

Lay Out ของห้องน้ำนี้จะแตกต่างจากห้องแรกนะคะ โดยทางโครงการจะวางโถสุขภัณฑ์คู่กับอ่างล้างหน้า พร้อมกระจกเงา 1 บาน

อ่างล้างหน้าดีไซน์เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น จาก CHARMER

โถสุขภัณฑ์คุณภาพจาก American Standard

ฉากกันอาบน้ำแบบ 3 ตอน ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก

พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และที่วางสบู่

มาถึงห้องตัวอย่าง Type สุดท้ายแล้วค่ะ ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.50 ตร.ม. ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็น Type ห้องมุม ซึ่งทั้งโครงการจะมีห้องแบบนี้อยู่ทั้งหมด 44 ยูนิตค่ะ

เข้ามาดูภายในห้องกันค่ะ ด้านซ้ายมือนั้นจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวของห้อง Type นี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องก่อนๆ นะคะ 

มุมครัวจะจัดเป็นโซนได้เข้ามุมพอดี

ฝั่งซ้ายมือนั้นจะเป็นส่วนของพื้นที่ Living ที่เป็นผนังกระจกแบบเข้ามุม

ทางโครงการตกแต่งพื้นที่ Living ด้วย Sofa bed ขนาด 3 ที่นั่ง

ทางด้านขวามือเราจะเห็นความพิเศษของห้องที่เป็นผนังกระจกเข้ามุมชัดเจน เป็นอีกดีไซน์หนึ่งที่แปลกใหม่สำหรับโครงการนี้ค่ะ

ส่วนประตูที่เห็นทางด้านซ้ายมือนั้นเป็นทางเข้าไปสู่พื้นที่ห้องนอน  

เมื่อเข้ามาภายในห้องนอน เราก็พบกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต

พร้อมผนังกระจกเข้ามุมที่บริเวณหัวเตียง พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

นอกจากทางฝั่งขวามือนั้นจะเป็นผนังกระจกแล้ว ทางด้านซ้ายมือก็เป็นส่วนของพื้นที่ระเบียง

พื้นที่ทางฝั่งซ้ายมือนั้น ทางโครงการตกแต่งเป็นส่วนของโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า 

บริเวณระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่อง และยังเหลือพื้นที่ให้จัดสวนเล็กๆ น้อยๆ ตามที่ลูกบ้านชอบด้วยค่ะ

ตู้เสื้อผ้านั้นจะมีหน้าบานสูงถึงฝ้าเพดาน ตู้เป็นลายไม้สีอ่อน ช่วยให้ห้องสว่างและดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ ส่วนประตูที่เห็นทางซ้ายมือนั้นเป็นทางเข้าไปพื้นที่สุดท้ายของห้อง นั้นก็คือห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำจะมีพื้นที่เป็นแนวลึกเข้าไป

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard ส่วนอ่างล้างหน้านั้นจาก CHARMER

พร้อมติดกระจกเงาบานใหญ่ให้ 1 บาน

ผนังด้านหนึ่งเจาะช่องไว้ให้สำหรับวางของใช้ภายในห้องน้ำ

ฝักบัวแบบ Hand Shower จาก American Standard ที่สามารถปรับความสูงได้

โครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร

โครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร เป็นหนึ่งในโปรเจ็คลุมพินี มิกซ์ วิภาวดี-จตุจักร ที่รวบรวมทั้งอาคารสำนักงานให้เช่าอาคารพักอาศัยมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งโครงการลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักรนั้น ตั้งอยู่ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 3 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ด้วยทำเลนี้ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สะดวกสบายด้วยถนนวิภาวดีรังสิต ถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อไปได้หลากหลายเส้นทาง เช่น ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 6 รวมถึงภายในซอยวิภาวดีรังสิต 3 เองนั้นยังสามารถเชื่อมไปยังถนนพหลโยธินได้อีกด้วย ส่วนทางด่วนที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดคือ โทลล์เวย์ ดอนเมือง – รังสิต และ ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านดินแดง ส่วนด้านการเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้น ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสวนจตุจักร

ที่นี่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของการเดินทางแล้ว ย่านนี้ยังเป็นอีกหนึ่งแหล่งอาคารสำนักงานที่สำคัญ หลากหลายบริษัทชั้นนำก็อยู่ในย่านนี้ด้วย เช่น  ปตท, การบินไทย, SCB และอื่นๆ อีกมากมาย ใกล้สิ่งอำนวยสะดวกอย่าง ตลาด อ.ต.ก., เจเจ มอลล์, ตลาดนัดจตุจักร, จตุจักร กรีน, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล พหลโยธิน, โรงพยาบาลพญาไท 2 และโรงพยาบาลวิภาวดี

โครงการ ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 21 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งสิ้น 736 ยูนิต รูปแบบห้องพักแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ แบบ Studio ขนาด 24.00 ตร.ม., แบบ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. และแบบ2 Bedrooms ขนาด 53.00 ตร.ม. พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่สีเขียวที่กระจายอยู่เต็มพื้นที่ โดยส่วนกลางนั้นประกอบด้วย สระว่ายน้ำ (Infinity Edge Pool), ลานพักผ่อน (Co-Living Area), Infinity garden, Pocket Garden, ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม (Fit & Firm Area), Jogging Track, สนามสตรีทบาส (Street Basketball), ฟิตเนสโซน (Fitness Zone), ห้องอเนกประสงค์ (Co-Living Zone), สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด, ห้องจดหมาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.

โครงการนี้คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณต้นปี 2563 นี้แล้ว โดยราคาเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 105,000 บาท / ตร.ม. ถือว่าอยู่ในเรทราคาที่น่าสนใจมาก ใครที่มองหาห้องพักอาศัยย่านนี้อยู่ต้องไม่พลาดก่อนที่ราคาจะขยับขึ้นอีกนะคะ