ทำเลและการเดินทาง

Modiz Sukhumvit 50

สุขุมวิท 50 (สุขุมวิท-อ่อนนุช) เป็นทำเลที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งเรื่อง Lifestyle,การเดินทาง และที่พักอาศัยแห่งใหม่ ที่ขยายความเจริญออกมาจากใจกลางเมืองอย่าง อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ สำหรับรถไฟฟ้าสำหรับสุขุมวิท 50 (สุขุมวิท-อ่อนนุช) ใกล้สุดจะเป็น BTS สถานีอ่อนนุช ความเจริญที่ขยับขยายออกมานั้น ทำให้บริเวณโซนนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ทำให้ที่พักอาศัยอย่างคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมาตลอด เลยทำให้ความต้องการของคนที่หาที่พักอาศัยสูงขึ้นตามความเจริญอย่างรวดเร็ว บนถนนสุขุมวิท 50 (สุขุมวิท-อ่อนนุช) เป็นทำเลที่ทุกคนมองหาที่พักอาศัย มีจำนวนคนมากมายที่เล็งเห็นว่าทำเลสุขุมวิท 50 (สุขุมวิท-อ่อนนุช) เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่ในเมืองแต่ราคาอาจจะไม่สูงเท่าพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เพียงขยับออกมาหน่อยแต่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เทียบเท่ากับคอนโดใจกลางเมืองอย่างอโศก พร้อมพงษ์ การเดินก็แสนจะสะดวกจาก BTS อ่อนนุชไปยังอโศก พร้อมพงษ์ เพียง 3 – 4 สถานีเพียงเท่านั้น

ถ้ามองถึงที่พักอาศัยอย่างคอนโดบนทำเล สุขุมวิท 50 (สุขุมวิท-อ่อนนุช) ล้วนแล้วเป็นคอนโดที่ออกแบบจัดเต็ม ตั้งแต่ส่วนกลาง ห้องพักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่แพ้คอนโดในโซนใจกลางเมืองเลย

คอนโด Modiz Sukhumvit50 ตั้งอยู่บนทำเลที่อยู่กึ่งกลางของความสะดวกสบายทั้งในเรื่องของ Lifestyle และการเดินทาง ถ้ามองในเรื่องการเดินทางถือว่าสะดวกเป็นอย่างมากเนื่องจากที่ตั้งของตัวโครงการจะตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วน, ถนนหลักๆอีก 3 สาย และใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช   ถ้ามองในเรื่องการเดินทางเริ่มตั้งแต่ตัวโครงการ Modiz Sukhumvit50 ถนนแรกก็คือถนนสุขุมวิท (เลขคู่,ขาเข้า) ที่สามารถเดินทางไปยัง ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ถึงอโศก จนไปถึง CBD ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในส่วนถนนสุขุมวิท (เลขคี่,ขาออก) ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนบางนาได้สะดวกและรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับสุขุมวิท50 จะเป็นถนนอ่อนนุชที่สามารถเชื่อมต่อไปยังจุดสำคัญๆของกรุงเทพได้อาทิเช่น ถนนศรีนครินทร์ยาวจนไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลยทีเดียว

การเดินทางจะเริ่มต้นตั้งแต่พร้อมพงษ์(ขาออก) ขับตรงตามทางผ่านทองหล่อ เอกมัย พระโขนง จนไปถึงอ่อนนุช กลับรถเพื่อจะเลี้ยวเข้าสุขุมวิท50

การเดินจะเริ่มต้นตั้งแต่บริเวณพร้อมพงษ์ (ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปยังอ่อนนุช โดยเพียงขับตรงตามทางไปเรื่อยๆ

ขับมานิดนึงก็จะพบ BTS สถานีทองหล่อ

ผ่านพระโขนง

ขับผ่านพระโขนงมานิดนึงจะพบกับทางขึ้นทางด่วนฉลองรัช (มุ่งหน้าไปรามอินทรา) เดินทางกันต่อโดยขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ

ลงจากสะพานจะพบกับ Tesco Lotus ขวามืออยู่ฝั่งตรงข้าม

ถัดมาจะเจอ BTS อ่อนนุช ให้ขับตรงตามทางเพื่อจะไปกลับด้านหน้า

กลับรถเพื่อข้ามไปยังถนนสุขุมวิท(เลขคู่ ฝั่งขาเข้า)

กลับมาแล้วจะพบ Tesco Lotus ทางซ้ายมือ ให้เราเตรียมชิดซ้ายเพื่อจะเข้าสุขุมวิท50 ซึ่งจะอยู่ถัดจาก Tesco Lotus พอดี

ผ่านหน้า Tesco Lotus ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท50

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ซอยสุขุมวิท50

เลี้ยวเข้ามาใน ซอยสุขุมวิท50 มาแล้วให้ขับตรงไปก่อน

จะผ่านสะพานข้ามเล็ก ๆ ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้า Sales Office จะอยู่ซ้ายข้างหน้า

เลี้ยวซ้ายเข้า Sales Office ครับ

ที่ตั้งของคอนโดโครงการ Modiz Sukhumvit50 จะเลยเข้าไปหน่อยนะครับ ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ เราไปชมห้องตัวอย่าง 4 ห้อง ใน Sales Office

Ground Floor Plan จะแบ่งเป็น 3 อาคาร โดยจะเริ่มตั้งแต่ A สูง 25 ชั้น, B สูง 25 ชั้น และ C สูง 33 ชั้น ถ้าดูจากภาพรวมแล้วทั้ง 3 อาคารจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งทางเข้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเช่นกัน โดยจะติดกับถนนสุขุมวิท 50 สำหรับด้านหน้าของอาคารนั้นจะมีพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ถึงกว่า 1 ไร่ โดยภายในพื้นที่สวนส่วนกลางนี้จะมี Repose Deck และ Natural Retreat จอดรถได้ประมาณ 51% (Auto Parking)

A Building ภายในอาคารจะมีพื้นที่ของ Lobby, Lobby Lounge, Laundry และ Smart Locker

B Building ภายในอาคารจะมีพื้นที่ของ Lobby Lounge B และ Smart Locker แต่สำหรับอาคาร B นี้จะแตกต่างกับอาคาร A ตรงที่อาคาร B จะมีพื้นที่ Meeting Room เพิ่มขึ้นมา

C Building ภายในของอาคาร C จะมีพื้นที่ส่วนกลาง Lobby Lounge C และ Smart Locker

2nd – 5th Floor Plan สำหรับชั้นนี้จะเป็นชั้นที่เริ่มต้นของห้องพักอาศัย โดยจะแบ่งออกเป็น 3 อาคาร

A Buliding โดยยูนิตที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้านหน้าของอาคารจะได้วิวสวนส่วนกลาง มีเพียง 9 ยูนิต/ชั้น ในส่วนแบบห้องพักอาศัยจะมี 1 Bedroom จำนวน 5 ยูนิต, 1 Bedroom Exclusive จำนวน 2 ยูนิต และ 1 Bedroom Plus จำนวน 2 ยูนิต

B Buliding สำหรับอาคารนี้จะมีแบบห้องแบบ 1 Bedroom ถึง 8 ยูนิต ด้วยกัน และห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive จำนวน 2 ยูนิต รวม 10 ยูนิต/ชั้น

C Building ยังคงเป็นพื้นที่ของ Auto Parking

6th – 7th Floor plan ในส่วนของอาคาร A และ B จะมี Floor plan เหมือนกับชั้นที่ 2 – 5 ที่ผ่านมา สำหรับอาคาร C ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 6 ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 6 ยูนิต ซึ่งจะแบ่งเป็น 1 Bedroom 3 ยูนิต และ 1 Bedroom Plus อีก 3 ยูนิต

8^th Floor plan สำหรับชั้นนี้อาคาร B จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ของ Co-Working Space, Co-Living Lounge, Co-dining Lounge & Sky Bar, Play Room, Theatre และ Kids Room และยังมีทางเชื่อมระหว่าง 3 อาคารเข้าด้วยกัน สำหรับส่วนกลางบนที่ 8 นี้ ทุกคนที่พักอาศัยสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางรวมกันทั้งหมดโครงการเลยนะครับ

สำหรับในส่วนอาคาร A บนชั้นที่ 8 นี้ จำนวนยูนิต/ชั้น ยังคงเป็น 9 ยูนิต แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นคือ Type Room และพื้นที่ใช้สอยในห้องพักเปลี่ยนไป เป็น 1 bedroom Exclusive 7 ยูนิต และ 1 Bedroom Plus จำนวน 2 ยูนิต

อาคาร C ชั้นที่ 8 จำนวนยูนิตจะน้อยลงเป็น 5 ยูนิต โดย Room Type จะเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 1 bedroom Exclusive จำนวน 3 ยูนิต และ ห้องแบบ 1 Bedroom Plus จำนวน   2 ยูนิต

9th – 14th Floor Plan

สำหรับอาคาร A  Floor Plan จะเหมือนกับชั้นที่ 8 จำนวน 9 ยูนิต/ชั้น และตำแหน่งของแบบห้องในแต่ละห้องจะเหมือนกับชั้นที่ 8

ในส่วนของอาคาร B ห้องพักมีจำนวนยูนิต 10 ยูนิต แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนชั้นที่ผ่านๆมา คือ Room type จากห้องแบบ 1 bedroom เปลี่ยนไปเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ทั้งชั้น

อาคาร C Floor plan และตำแหน่งของแบบห้องต่างๆ ก็จะเหมือนกับชั้นที่ 8

15th – 19th Floor Plan (A B) / 15^th – 21^st Floor Plan (C) 

อาคาร A  เอาจริงๆ แบบแปลนตั้งแต่ชั้นที่ 9 – 19 จะเป็นรูปแบบเดี่ยวกันทั้งหมด

ส่วนอาคาร B ก็เช่นกันที่มี Floor Plan ที่เหมือนกันตั้งแต่ชั้นที่ 9 – 19

สำหรับอาคาร C ตั้งแต่ชั้น 15 – 21 รูปแบบแปลนจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ 1 bedroom Exclusive Vertical Suite จำนวน 4 ยูนิต และ 1 Bedroom Plus Vertical Suite จำนวน 2 ยูนิต รวมทั้งหมดจะมี 6 ยูนิต/ชั้น

20th -24th Floor Plan (A,B) 22nd Floor Plan

อาคาร A แบบแปลนจะมีการเปลี่ยนทั้งหมด โดยจะเปลี่ยนจากห้องแบบ 1 Bedroom ไปเป็นแบบ 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite และแบบ 1 Bedroom Plus Vertical Suite ทั้งหมด

อาคาร B ก็จะเหมือนอาคาร A ที่เปลี่ยนแบบจาก 1 Bedroom ไปเป็น 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite และแบบ 1 Bedroom Plus Vertical Suite เช่นกัน

อาคาร C รูแบบแปลนจะเหมือนกับชั้นที่ 15-21 ครับ

M&E Floor Plan (Mechanical and electrical engineering) อาคาร A และB จะเป็นชั้นงานระบบต่างๆ

อาคาร C ชั้นที่ 23 แบบแปลนจะเหมือนชั้นที่ 22 ที่ผ่านมา

25th Facility Floor Plan 24^th Floor plan (อาคาร C)

อาคาร A และ B จะเป็นชั้นส่วนกลางที่ประกอบไปด้วย Kids Pool / Lap Pool / Yoga Area / Rooftop Blue Jacuzzi โดยชั้นนี้จะมีทางเชื่อมไปยังอาคาร C ที่เป็นชั้นส่วนกลางเช่นกันประกอบไปด้วย Private Onsen & Spa Room และ Panoramic Fitness

Roof Top อาคาร A&B 25th อาคาร C

สำหรับอาคาร A&B จะเป็นชั้นสูงสุดของอาคารซึ่งจะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง

อาคาร C จะเป็นชั้นของ Panoramic fitness ที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้นที่ 24

26th – 33rd Floor Plan เป็นพื้นที่ที่พักอาศัยของอาคาร C โดยจะมีห้องพักจำนวน 6 ยูนิต ซึ้งจะแบ่งออกเป็น 1 bedroom Plus Vertical Suite 3 ยูนิต และ 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite จำนวน 3 ยูนิต

โครงการ Modiz Sukhumvit 50 คอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น จำนวน 2 อาคาร A และ B และ อาคาร C สูง 33 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถอีก 1 อาคาร

อาคาร A ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 – 19 เป็นห้องแบบ 1 bedroom, 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Plus  และตั้งแต่ชั้น 20 – 24 เป็นห้องแบบ Vertical ในส่วนชั้นของพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บนชั้นที่ 25 และ Roof Top

อาคาร B ที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 2 เช่นกัน แต่จะแตกต่างกับอาคาร A ตรงที่อาคาร B ชั้นที่ 8 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ของ Co-Working Space, Co-Living Lounge, Co-dining Lounge & Sky Bar, Play Room, Theatre และ Kids Room และยังมีทางเชื่อมระหว่าง 3 อาคารเข้าด้วยกัน และตั้งแต่ชั้น 20 – 24 เป็นห้องแบบ Vertical ในส่วนชั้นของพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บนชั้นที่ 25 และ Roof Top

อาคาร C จะเป็นอาคารสูง 33 ชั้น โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 6 – 23 ซึ่งตั้งแต่ชั้นที่ 15 ขึ้นไปรูปแบบห้องพักอาศัยจะเปลี่ยนห้องแบบ Vertical สำหรับชั้นที่ 24 – 25 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Private Onsen & Spa Room และ Panoramic Fitness

สำหรับทางรถเข้าออกจะอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 50

สำหรับมุมนี้จะเป็นมุมที่สามารถเห็นด้านหน้าของโครงการชัดเจนทั้ง 3 อาคาร

นี่จะเป็นมุมด้านหลังของตัวโครงการสามารถรับวิวไปทางโซนบางนา และ CBD

ทางเชื่อมระหว่างอาคารทั้ง 3 อาคาร บนชั้นที่ 8

สำหรับชั้นพื้นที่ส่วนกลาง (Facility) ของอาคาร A และB จะอยู่บนชั้นที่ 25

ประกอบไปด้วย Kids Pool / Lap Pool / Panoramic Fitness / Yoga Area / Rooftop Blue Jacuzzi / Private Onsen & Spa Room

ซูมเข้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นที่ 25 และชั้น Roof Top

สำหรับภาพนี้จะสามารถเห็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางครบทั้ง 3 อาคาร A&B ชั้นที่ 25 และอาคาร C ชั้นที่ 24-25

มุม 3 ทิศอาคารC บนชั้นที่ 24 – 25

ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.80 ตร.ม.

สำหรับ Layout ในแบบนี้จะแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้อย่างลงตัว โดยเอาตำแหน่งของ Living Room ไว้ด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอนที่กั้นห้องด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน ส่วนครัว และห้องน้ำจะถูกจับไปไว้ด้านข้างของห้อง ทำให้ได้ครัวเป็นแบบครัวปิดที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ สำหรับห้องแบบนี้จะมีตั้งแต่ชั้น 8 – 19 โดย

อาคาร A จะมีอยู่ 7 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ชั้น 8 – 19

อาคาร B จะมีอยู่ 10 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ 9 -19

อาคาร C จะมีอยู่ 3 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ 8 – 14

สำหรับห้องพักอาศัยที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished โดยเปิดประตูเข้ามาภายในห้องพักจะพบกับตำแหน่งของ Living Area โดยทางโครงการจะมีชุดโซฟา พร้อมโต๊ะกลาง, Built in ชั้นตู้ เตียง ชุดครัว มาให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งภายในห้องนี้จะมีความสูง Floor to Ceiling 2.60 เมตร

มุมย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง สำหรับภาพนี้จะสามารถเห็นระยะการนั่งดูทีวี จะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกล จนเกินไป

ตำแหน่งของห้องน้ำ และห้องครัวจะแยกไปอยู่ด้านข้างของห้องพัก

ภายในพื้นที่ครัว และห้องน้ำ จะแยกส่วนจากที่พื้นที่พักอาศัย โดยทางโครงการ Built in ชุดครัวมาพร้อมกับ Hood Hob มาให้เรียบร้อย ในส่วนด้านในสุดที่เห็นนั้นจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ

มุมนี้จะอยู่ภายในพื้นที่ของห้องนอน มองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง การที่เลือกใช้ประตูกระจกแบบเลื่อนนั้นจะช่วยให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และดูกว้างกว่าปกติ เพราะเนื่องจากเป็นกระจกใสที่สูงจากพื้นถึงฝ้า ทำให้ไม่มีอะไรมาบังสายตาเวลาพักอาศัยอยู่

ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive vertical suite โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 39.85 ตร.ม.

ถ้าดูจาก Layout ที่ออกแบบมาจะเอาตำแหน่งครัวไว้ด้านหน้าสุด และกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ทำให้เป็นห้องครัวปิด ข้อดีคือไม่ให้กลิ่นเวลาทำอาหารเข้ามาภายในห้องพักอาศัย ถัดเข้าจะเป็นพื้นที่ Living Area ที่มีความสูง Floor to Ceiling ถึง 4.40 เมตร สำหรับบันไดทางขึ้นที่ยังห้องนอนจะอยู่ด้านข้างของตัวห้อง พื้นที่ด้านบนจะเป็นพื้นที่ของห้องห้องนอนเพียงอย่างเดียว

อาคาร A จะมีอยู่ 7 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ชั้น 20 – 24

อาคาร B จะมีอยู่ 10 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ 20 – 24

อาคาร C จะมีอยู่ 3 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ 15 – 33

เปิดเข้ามาจะเจอตำแหน่งของครัวเป็นอันดับแรก โดยพื้นที่ครัวตรงนี้จะถูก Built in ชุดครัวไว้ทั้ง 2 ข้าง ที่พร้อมติดตั้ง Hood Hob มาให้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับตำแหน่ครัวจะถูกกั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ตรงข้ามกับชุดครัวจะเป็นตำแหน่งที่วางตู้เย็น และ Built in ตู้บน และล่างมาให้ด้วย

เดินถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Living Area ที่มีความสูง Floor to Ceiling 4.40 เมตร

มองย้อนกลับไปทางเข้าห้องพักพัก จะเห็นตำแหน่งที่กั้นส่วนครัวด้วยประตูกระจกใส และเห็นตำแหน่งของห้องน้ำ

เข้ามาภายในห้องน้ำโดยทางโครงการจะเลือกอ่างล้างมือด้วย Cotto, ฝักบัว ก๊อกน้ำ ของ Englefield และสุขภัณฑ์ของ Kohler และติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย

ถัดเข้ามาบริเวณโถง Living area จะเห็นได้ว่าห้องดูโปร่ง โล่ง จากความสูงของห้องแบบนี้ โดยตำแหน่ง Built in ชั้น ตู้ กระจกหน้าต่างใสที่มีความสูงเป็นพิเศษ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

บันไดที่ขึ้นไปยังด้านบน มุมนี้จะเห็นตำแหน่งวางโต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ด้านล่าง

ขึ้นมาด้านบนจะเจอตำแหน่งที่วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างสบายๆ

ในส่วนของปลายเตียงจะเป็นตำแหน่งที่ Built in ตู้เสื้อผ้า

นี่คือวิวที่มองเห็นจากตำแหน่งเตียง

มุมจากด้านบนมองลงมาตรง Living Area

ห้องตัวอย่างที่ 3 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.19 ตร.ม.

Layout ของห้องแบบ 1 Bedroom นี้ จะเอาตำแหน่งครัวไว้ด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปจะพื้นที่ Living area และในส่วนของห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน การที่นำเอาประตูกระจกใสมากั้นส่วนนั้นจะทำให้ห้องดูโปร่งไม่มีอะไรมาบังสายตาในเวลาพักอาศัยอยู่ในห้อง  ซึ่งห้องแบบนี้จะมีอยู่ภายในอาคาร A, B และ C ตั้งแต่ชั้นที่ 2 – 7

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบตำแหน่งของครัวที่อยู่ขวามือ และห้องน้ำที่อยู่ซ้าย ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ Living area

ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึง Shower Box มาให้เรียบร้อย

ตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นตำแหน่งของที่ตั้งของชุดครัว และตำแหน่งในการวางตู้เย็น

เดินถัดเข้ามาจะเป็นตำแหน่งของ Living Area

บริเวณพื้นที่ Living Area จะสามารถวางชุดโซฟาขนาดที่นั่งได้ประมาณ 2 คน โดยตั้งหันหน้าไปยังชั้นวางทีวี

มุมนี้จะนั่งอยู่บนโซฟามองตรงไปยังตำแหน่งติดตั้งทีวี และชั้นวางของ

ในส่วนของห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

มุมย้อนกลับไปด้านหน้าทางเข้าห้อง

ห้องตัวอย่างสุดท้ายจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35.92 ตร.ม.

Layout ของห้องแบบนี้จะแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้อย่างลงตัว หรือเรียกว่าใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามาก ซึ่งห้องแบบนี้จะเป็นห้องที่หน้ากว้างขึ้นมาหน่อย แต่ไม่ลึกมาก โดยเอาตำแหน่ง Living Area มาไว้ทางเข้าด้านหน้าสุด ซึ่งจะติดกับห้องน้ำ และห้องครัว ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นตำแหน่งของห้องนอน แต่ความพิเศษของห้องแบบนี้คือสามารถกั้นพื้นที่เป็นห้องนอนได้ขึ้นมาอีกห้องโดยจะอยู่ติดกับห้องครัวและยังเป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอกอีกด้วย

อาคาร A จะมีอยู่ 2 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ชั้น 2 – 19

อาคาร C จะมีอยู่ 3 ยูนิต/ชั้น ตั้งแต่ 6-7  และ9 -14

เปิดประตูเข้าเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ Living area และถัดเข้าไปนั้นจะเป็นห้องนอน ในส่วนของพื้นนั้นจะปูด้วยกระเบี้ยงยาง

ในส่วนด้านหน้าของห้องที่อยู่ติดกับ Living Area จะเป็นห้องน้ำ และห้องครัว

ถ้ามองจากมุมนี้จะเห็นห้องน้ำติดกับห้องครัว (ครัวปิด)

ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆให้ครบเหมือนกับแบบห้องอื่นๆ

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของชุดโซฟา และชั้นวางทีวี ในส่วนนี้จะมีพื้นที่อยู่เยอะพอสมควร เลยทำให้ห้องดูกว้าง และใหญ่เป็นพิเศษ

ถ้าดูจากภาพนี้จะมีพื้นที่ว่างสำหรับวางโต๊ะเก้าอี้อีกนะครับ

ห้องนอนจะถูกกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนมาให้เรียบร้อย

มุมมองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง สามารถเห็นตำแหน่งติดตั้งทีวี

ตำแหน่งของครัวที่จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำ กับห้องนอนที่เพิ่มขึ้น

ห้องนอนที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ติดกับตำแหน่งครัว

สำหรับห้องที่เพิ่มขึ้นมานั้นสามารถเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆได้ อาทิเช่นห้องทำงาน

มุมย้อนจากห้องนอนกลับไปยังทางเข้าห้อง

“Project Concept

(ขอบคุณข้อมูลของทางโครงการ)

Live The Heightened Frontier

ก้าวสู่พรมแดนใหม่ของการใช้ชีวิต หนึ่งเดียวกับการเป็นเจ้าของเส้นขอบฟ้า พร้อมชีวิตในแบบที่คุณฝัน ทุกเช้าเมื่อลืมตาตื่นที่ Modiz Sukhumvit 50 เอื้อมมือแตะท้องฟ้าด้วยความสูง 33 ชั้น ให้คุณมองเห็นวิว 2 โค้งน้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา บนจุดที่ดีที่สุด สูดอากาศบริสุทธ์พร้อมชมวิวพื้นที่สีเขียวของบางกระเจ้าได้ทุกวันแบบไร้ตึกสูงบังสายตา ความสุขสุดเอกซ์คลูซีพ ไม่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นหรือตก

Modiz Sukhumvit 50

ไม่ใช่เพียงคอนโดมิเนียม แต่เรามองเห็นการใช้ชีวิตของคุณเสมอ ไม่ว่าวันนี้หรือในอนาคต เต็มที่ กับไลฟ์สไตล์ที่คุณชอบ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 5 ชั้น เดินเล่นได้ทุกวัน ในสวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ บนทำเลที่เหนือกว่า เชื่อต่อสู่ชีวิตเมืองอย่างรวดเร็ว สะดวกสบายในไม่กี่นาทีด้วยรถไฟฟ้า จุดขึ้นลงทางด่วน และถนนหลักอย่างสุขุมวิท และพระรามสี่

Facilities Savor in Abundance

ออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยแนวคิดเหนือเมฆ รองรับการใช้ชีวิตทุกด้านด้วยนวัตกรรมที่เกินคาด สร้างมาตรฐานใหม่ให้การอยู่อาศัย ดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางพิถีพิถันในทุกตารางเมตร เพื่อความสุขในทุกโมงยาม ไม่ว่าคุณจะสำรวจ เส้นขอบฟ้าเหนือโค้งน้ำบางกระเจ้ายามเช้า หรือวิ่งในฟิตเนสพร้อมดื่มด่ำกับวิวพาโนรามาสุกตระการตาในยามเย็น นี่แหละ การใช้ชีวิตในฝันแบบที่ทุกคนมองหา”

โครงการ โมดิซ สุขุมวิท 50 (Modiz Sukhumvit 50) ได้เข้ารับรางวัลสุดยอดแห่งภูมิภาค  “Best Affordable High Rise Development Southeast Asia 2020” บนเวที Dot Property Southeast Asia Awards 2020  ด้วยความโดดเด่นของโครงการทั้งทำเล การออกแบบสถาปัตยกรรม พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายสมบูรณ์แบบ ในระดับราคาที่เอื้อมถึงได้

(ขอบคุณข้อมูลของทางโครงการ)

พิกัดสำนักงานขาย https://goo.gl/maps/uMS1i1GTXLn

พิกัดที่ตั้งโครงการ https://goo.gl/maps/eJ5X67GBVu82

ตอนนี้ทาง Modiz Sukhumvit 50 มีโปรโมชั่นพิเศษ!!!!

💥 จอง 999 บาท
💥 ผ่อนดาวน์เพียง 1,900 บาท/เดือน
💥 ส่วนลดสูงสุด 380,000 บาท
มาพร้อมตกแต่ง Fully Furnish ครบ!

ราคาพิเศษ 2.39 ล้านบาท

ลงทะเบียนรับสิทธิก่อน! แล้วไปจองที่โครงการ : https://bit.ly/3pJUnHi