รีวิว คอนโด Le Baroque Bangna-Suvarnabhumi (เลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ)


Le Baroque Bangna Suvarnabhumi

ประเภทที่อยู่ :
คอนโดมิเนียม
สถานที่ตั้ง :
ถนนบางนา-ตราด กม.15 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ลักษณะอาคาร :
คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น
จำนวนยูนิต :
อาคารละ 76 ยูนิต
ขนาดที่ดิน :
ประมาณ 2-2-41.1 ไร่
รูปแบบที่พักอาศัย :
1 Bedroom ขนาด 28 – 35 ตร.ม.

1 Bedroom Corner 40 – 53 ตร.ม.
จำนวนที่จอดรถ :
คิดเป็น 40% (รวมซ้อนคัน)
เฟอร์นิเจอร์ :
Fully Furnished
พื้นที่ :
28 - 53 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น :
2,490,000 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย / ตร.ม. :
85,000-87,000 บาท / ตร.ม.
สร้างเสร็จประมาณ :
คาดว่าแล้วเสร็จ ปลายปี 2562
สิ่งอำนวยความสะดวก :
Lobby , Clubhouse,สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส,สนามเด็กเล่น, สวนส่วนกลาง,สระจากุชชี่,ระบบคีย์การ์ด,รักษาความปลอดภัย 24ชม., CCTV
เจ้าของโครงการ :
บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จํากัด
โทร :
082 – 992-2246 , 094-692-2246

เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ



พิกัดที่ตั้งโครงการ

Zone :
อุดมสุข ลาซาน แบริ่ง เทพารักษ์ สำโรง ปากน้ำ สมุทรปราการ บางปู
จุดขึ้นลงทางด่วน :
ทางพิเศษ บูรพาวิถี , มอเตอร์เวย์ ชลบุรี-พัทยา
สถานที่ใกล้เคียง :
BTS สายสีเขียวเข้ม สถานีบางโฉลง, Tesco Lotus ,ตลาดบางโฉลง, Mega Bangna, IKEA, Central Bangna, Central Ville,ไบเทค บางนา,Big C บางนา, ตลาดนัดรถไฟ, ซีคอนสแควร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัย ABAC,รร. The American School of Bangkok, ม.หัวเฉียวฯ, รพ.เซ็นทรัลปาร์ค, สนามบินสุวรรณภูมิ

ทำเลและการเดินทาง

Le Baroque Bangna Suvarnabhumi

โครงการ Le Baroque Bangna-Suvarnabhumi (เลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ) ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.15 การเดินทางจะใช้ถนนเส้นบางนา-ตราดเป็นหลัก เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทสามารถมุ่งหน้าเข้าสู่โซนในเมืองกรุงเทพฯ ชั้นในและยังเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์ เข้าสู่พระราม 9 ส่วนถนนกิ่งแก้วที่ตัดกับถนนบางนา-ตราดก็สามารถเดินทางเข้าสู่โซนลาดกระบัง และสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย

ทางด่วนพิเศษที่อยู่ใกล้กับโครงการ คือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (บางนา-ท่าเรือ) สามารถใช้เดินทางเข้าเมือง โดยจะเข้าจุดตัดทางพิเศษฉลองรัชที่ทางแยกต่างระดับสุขุมวิท ก็สามารถเดินทางต่อไปบนเส้นทางรามอินทราได้ ส่วนการเดินทางไปกรุงเทพฯรอบนอก ใช้ทางพิเศษกาญจนาภิเษกด้านใต้ จะเชื่อมต่อเข้าพระราม 2 หรือตรงไปยังฝั่งธนบุรี เข้าจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี หรือถ้าต้องการเดินการเดินทางไปนอกเมืองสามารถใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีเดินทางไปยังชลบุรีได้โดยตรง

โครงการ เลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ อยู่บนถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาเข้า สามารถใช้จุดกลับรถที่อยู่ใกล้โครงการเพื่อ เดินทางออกไปภาคตะวันออกอย่าง ชลบุรี จันทบุรี ระยอง หรือจะเลือกใช้ถนนมอเตอร์เวย์ หรือทางด่วนบูรพาวิถีก็สะดวก

ในอนาคตการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โครงการเลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ จะอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (เส้น สุขุมวิท) มีแผนการก่อสร้างเส้นทางส่วนต่อขยาย อย่างรถไฟฟ้าไลต์เรล (Light Rail) สายบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีบางโฉลง สภาพแวดล้อมรอบ ๆ โครงการเป็นแหล่งชุมชนที่พักอาศัย กระจายตัวอยู่รอบ ๆ และนอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับสนามกอล์ฟอีกหลายแห่ง เช่น เมืองแก้ว กอล์ฟ คลับ, ซัมมิท วินมิลล์ กอล์ฟ แอนด์ เรสซิเดนท์, ธนาซิตี้ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ และสนามกอล์ฟเลควูด คันทรี่ คลับ แหล่งอำนวยความสะดวกอย่างร้านค้า ร้านอาหาร อาหารสดที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ตลาดบางโฉลง ห้างสรรพสินค้าหลัก ๆ เช่น Tesco Lotus, Home Pro, Market vile, Macro, IKEA , MEGA บางนา และยังใกล้กับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีโครงการมิกซ์ยูส อย่างศูนย์การค้า “เซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village –Bangkok Outlet Experience)” บนพื้นที่ที่กว่า 100 ไร่ โดย

จะประกอบไปด้วย โครงการศูนย์การเอาต์เลตระดับลักชัวรี่ สินค้าแบรนด์เนมส่วนลด 30-75 % สินค้าแบรนด์ไทย ร้านอาหารชื่อดัง และโรงแรมทีพักจำนวนกว่า 200 ยูนิต

สถานศึกษาใกล้เคียง เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว ,  มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) , American School of Bangkok ส่วนแหล่งงานอยู่ในโซนนิคมอุตสหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น นิคมมลาดกระบัง ,นิคมบางปู , นิคมบางพลี เป็นต้น

Zoom โชว์รูม

Le Baroque Bangna - Suvarnabhumi

พามาชมโครงการคอนโดมิเนียมในสไตล์รีสอร์ต ที่มีการออกแบบผสมผสานให้เข้ากับศิลปะคลาสสิคแบบบารอคกันค่ะ นั่นคือ โครงการ Le Baroque Bangna – Suvarnabhumi (เลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ)  คอนโดมิเนียม Low Rise ความสูง 7 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณปลายปี  2562 นี้ ในปัจจุบันส่วนที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีพื้นที่ส่วนกลาง และอาคารบางส่วน เปิดพร้อมให้ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการได้แล้วนะคะ

โดยเราจะเริ่มชมจากทางเข้า-ออก โครงการกันก่อน โดยทางเข้า-ออกนี้จะเป็นทางสำหรับรถยนต์ให้เข้าไปจอดรถในโครงการ จะมีจุดรักษาความปลอดภัย ที่บริเวณตรงกลางช่วยอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยของโครงการ

นอกจากจุดรักษาความปลอดภัยที่ใช้สำหรับเข้าออกแล้ว บริเวณด้านหน้ายังมีประตูสำหรับเข้า ออก โครงการอีกจุด ซึ่งทางเข้านี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางตามภายในภาพนี้เลย

อาคาร Clubhouse 3 ชั้น ที่บริเวณชั้นบนสุดจะเป็นพื้นที่ Outdoor สำหรับจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้ หรือจัดกรรมอื่น ๆ ปัจจุบันพื้นที่ชั้นล่างของ Club House นี้จะใช้เป็น Sales Gallery เพื่อต้อนรับผู้ที่สนใจชมโครงการ ในอนาคตพื้นที่ของ Sales Gallery จะเปลี่ยนเป็นอาคาร Clubhouse ของโครงการ

 

ที่บริเวณชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนส ติดตั้งกระจกใสรอบทิศทางให้ได้ชมวิว และรับบรรยากาศธรรมชาติได้เต็มที่

หลังจากที่ผ่านประตูเข้ามาภายในโครงการแล้ว สัมผัสแรกที่ได้คือ โครงการนี้มีบรรยากาศเป็นแบบรีสอร์ต บริเวณตรงกลางของโครงการ ที่มีอาคารที่พักอาศัยรายล้อมจะเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำที่มีความยาวถึง 70 เมตร ยาวเชื่อมต่อไปจนเกือบสุดด้านหลังของโครงการ และยังมีทางเดินไปยังอาคารต่าง ๆ ตลอดทางเดินล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว

บริเวณด้านบนของอาคาร Clubhouse  ออกแบบให้เป็นสถาปัตกรรมคล้ายโดมเพื่อให้เข้ากับ Concept  ภายในโครงการที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซาย ที่ดูคลาสสิค เน้นบรรยากาศ ให้เหมาะแก่การพักผ่อนการใช้โครงสร้างแบบเส้นโค้ง ลักษณะเรียบง่าย มั่นคงในแบบศิลปะบารอค

ที่บริเวณด้านหน้าอาคาร Club House ตกแต่งพื้นที่เป็นสวนส่วนกลางเพื่อไว้นั่งพักผ่อน โดยมีลานน้ำพุช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย

สระว่ายน้ำภายในโครงการจะเป็นระบบเกลือ แบบ Outdoor ให้อารมณ์โปร่งโล่ง สบายตา

จุดเด่นอีกจุด คือ ทางโครงการจะจัดโซนนั่งพักผ่อน Sun bed ไว้กลางสระว่ายน้ำรับบรรยากาศแบบธรรมชาติได้เต็มที่ คล้ายกับการนั่งพักผ่อนในรีสอร์ต

ที่บริเวณริมสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่อาบน้ำกลางแจ้งไว้ให้ด้วย

ห้องพักที่บริเวณชั้น 1 จะมีพื้นที่ระเบียงสำหรับออกมารับวิวสระว่ายน้ำด้านนอก เพื่อใกล้ชิดความเป็นธรรมชาติมากที่สุด

รูปทรงของสระว่ายน้ำจะออกแบบเป็นเส้นโค้งสวยงาม ซึ่งแสดงถึงความเคลื่อนไหว ที่นำความเป็นศิลปะแบบบารอคมาใช้

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 70 เมตร ถือเป็นจุดเด่นของโครงการด้วยรูปทรงของสระที่มีมิติเป็นเส้นสาย กลมกลืนกับธรรมชาติ

ความยาวของสระว่ายน้ำเชื่อมต่อไปจนถึงโซนอ่างจากุชชี่ด้านหลัง

โดมที่เห็นนี้จะเป็นพื้นที่ของอ่างจากุชชี่ออกแบบมาให้เข้ากับโดม ด้านหน้าโครงการ ในสไตล์ในสไตล์บารอค คลาสสิคแบบยุโรป

อ่างจากุชชี่ออกแบบมาในสไตล์คลาสสิคบารอค มีความหรูหราในแบบยุโรป รูปทรงของเสาที่มีความโค้งมน เรียบง่ายดูมั่นคง เข้ากับบรรยากาศของโครงการเป็นอย่างมาก

หลังจากชมบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางกันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะมาดูในส่วนของการออกแบบผนังลวดลายตัวอาคารกันต่อค่ะ

ภายในโครงการจะเป็นอาคารแบบ Low rise ที่มีความสูง 7 ชั้น มี เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ และสวนสีเขียว จะแบ่งอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง

อาคารภายด้านนอกจะมีลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะคลาสสิคยุโรปแบบบารอคที่มักจะเลือกใช้เส้นโค้ง การสร้างรูปทรงมีมิติ มีความปราณีตที่จะเน้นให้เห็นถึงลวดลายที่มีความประดิษฐ์ ซับซ้อน ความรู้สึกอ่อนไหว กลมกลืนกับธรรมชาติ

นอกจากลวดลายที่สวยงามในรูปแบบศิลปะคลาสสิคแล้ว วัสดุก่อสร้างของอาคารมีระบบก่อสร้างที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของสี่พระยา กรุ๊ป ด้วยนวัตกรรม Siphya Precast Internal Wall Panel  ที่มีความแข็งแรง เก็บเสียง และทนไฟได้นานประมาณ  4 ชม.อีกด้วย

ระหว่างทางเดินมีความร่มรื่นจากต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ

ต่อไปเราจะมาชมในส่วนของห้อง ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นอาคารแรกของโครงการ ปัจจุบัน ห้องพักอาศัยในบางส่วนก็มีผู้จับจองเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้วค่ะ

เมื่อเข้ามาในอาคาร จะเป็น Lobby รับรองแขก และมี Mail box ที่ด้านหน้าก่อนจะเข้าไปในส่วนของห้องพักอาศัย เพื่อความปลอดภัยจะใช้เป็นระบบคียการ์ดค่ะ

เข้ามาในส่วนห้องพักอาศัยกันแล้วนะคะ ภายในอาคาร ทางเดินระหว่างห้องตัวอย่างที่เราจะพามาชมจะมีทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน จะเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom corner ห้องหัวมุมขนาดใหญ่ ระหว่างทางเดินจะติดตั้งราวจับเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สุงอายุ และผู้พิการ

เริ่มกันที่ห้องตัวอย่างแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีขนาดพื้นที่ 34.15 ตร.ม. ห้องที่นี่จะได้รับมอบมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished โดยมี (เตียง 5 ฟุต,ชั้นวางทีวี, Built-in ตู้เสื้อผ้า, โซฟา,แอร์,โต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่ง) ความสูง Floor to ceiling จะอยู่ที่ 2.65 เมตร

ภายในห้องจะแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ พื้นที่ Living area , ห้องนอน และพื้นที่ครัวปิด

พื้นที่ Living area เชื่อมต่อกับห้องนอน โดยจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเต็มพื้นที่ ทำให้ห้องดูโปร่ง และกว้าง สามารถมองเห็นพื้นที่ระเบียง และวิวพื้นที่ส่วนกลางด้านนอก

การตกแต่งบนผนังห้องให้ดูมีอะไรเพิ่มขึ้น โดยสามารถติดตั้งกระจกรูปทรงสวยงาม มีขนาดกำลังพอเหมาะ ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

ประตูกระจกบานเลื่อนจะกั้นส่วนระหว่างพื้นที่ Living area และห้องนอน โดยสามารถเปิดเข้า-ออกได้จากบริเวณตรงกลาง

จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าบริเวณ Living Area ด้านข้างของโซฟา สามารถจัดวางโต๊ะวางของขนาดเล็กได้

ประตูบานเลื่อนกระจกใส ทำให้ห้องนอนได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ

เข้ามาชมภายในห้องนอนกันต่อค่ะ มีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี ซึ่งโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้า ติดตั้งรางผ้าม่านไว้เรียบร้อย

มองย้อนกลับไปที่ทางหัวเตียง พื้นที่ข้างหัวเตียงจะมีพื้นที่สำหรับจัดวางตู้ขนาดเล็ก หรือโต๊ะขนาดเล็กได้พอดีกับเตียงขนาด 5 ฟุต

ทางโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีมาให้พอดีกับพื้นที่ สามารถติดตั้งทีวีแบบติดผนังได้ ส่วนพื้นที่ครัว และห้องน้ำจะกั้นด้วยฉากกั้นแบบบานเลื่อนแยกพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนดีค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้ง และส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำไว้เรียบร้อย ฝักบัวมีให้เลือกใช้ทั้ง 2 แบบ เป็น Rain shower และ Hand shower พร้อมติดตั้งชั้นวางของสำหรับวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ภายในห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

ออกมาด้านนอกห้องน้ำ จะเป็นพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงยาวด้านนอก

ภายในพื้นที่ครัว สามารถจัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ และยังเหลือระยะใช้งานที่พอดี

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้มากับห้อง จะติดตั้งเตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน ,ซิงค์ล้างจาน และชั้นวางของด้านบนไว้ให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่ระเบียงตกแต่งด้วยลวดลายเหมือนที่ตัวอาคารค่ะ

ขนาดใหญ่ ห้องมุมแบบ 1 Bedroom Corner ขนาดพื้นที่ 50.31 ตร.ม. ได้รับมอบพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished โดยมี (เตียง 6 ฟุต,ชั้นวางทีวี, Built-in ตู้เสื้อผ้า, โซฟา,แอร์,ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง) ความสูง Floor to ceiling 2.65 เมตร ความพิเศษของห้องหัวมุมจะมีพื้นที่ระเบียงแยกส่วนกันถึง 3 จุด ที่พื้นที่ Living area , ห้องนอน และพื้นที่ครัว ซึ่งจะแตกต่างจากห้อง 1 Bedroom จะเป็นพื้นที่ระเบียงยาวจากห้องนอนเชื่อมไปถึงพื้นที่ครัวค่ะ

ประตูห้องที่ได้จะเป็น Digital door lock

บริเวณด้านหน้าห้อง เป็นพื้นที่ Dining area สำหรับวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2-4 ที่นั่ง โครงการได้มอบชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งให้ตามภาพเลยนะคะ

ถัดเข้ามาจาก Dining area ก็จะเป็นพื้นที่ Living area ทางโครงการได้มอบชุดโซฟาขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ตามภาพนี้ค่ะ

พื้นที่ใช้งานส่วน Dining area และ พื้นที่ Living area จะเชื่อมต่อกัน มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้าง

Living area ตกแต่งด้วยการติดตั้งกระจก ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

ตำแหน่งของ พื้นที่ Living area เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก สามารถเดินออกไปรับวิวของพื้นที่ส่วนกลาง อย่างสระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวได้ ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในบรรยากาศรีสอร์ต

มาดูกันที่พื้นที่ครัวแยกส่วนใช้งานเป็นสัดส่วน ติดตั้งประตูแบบบานเลื่อนกระจกไว้ป้องกันกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ

เข้ามาภายในห้องครัวจะเชื่อมกับพื้นที่ระเบียง สามารถเปิดประตูบานเลือนเพื่อระบายอากาศ และกลิ่นอาหารต่าง ๆ ภายในพื้นที่ครัวได้ โดยทางโครงการได้เตรียม Built-in เคาน์เตอร์ครัว ติดตั้ง เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจานพร้อมใช้งาน

พื้นที่ด้านล่างมีไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้พอดี

ภายนอกพื้นที่ระเบียงใช้การตกแต่งลวดลายศิลปะแบบบาร็อคเหมือนกับอาคารภายนอก

กลับมาดูในส่วนของห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงเช่นกัน ทางโครงการได้เตรียม Built-in ฐานเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ซึ่งเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์นี้จะได้เฉพาะห้องตำแหน่งหัวมุม

นอกจากนั้นยังมี ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอย่างชั้นวางของที่บริเวณด้านข้างด้วย

ภายในห้องนอนมีห้องน้ำใช้ภายในตัว ก็จะมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น

ห้องน้ำติดตั้งฉากอาบน้ำ ภายในพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวไว้ทั้ง 2 แบบ เป็น Rain shower และ Hand shower

สรุป by Homezoomer

โครงการ Le Baroque Bangna-Suvarnabhumi (เลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ) โครงการคอนโดมิเนียม Low rise ความสูง 7 ชั้น แต่ละอาคารมียูนิตเพียง 76 ยูนิตเท่านั้น การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะคลาสสิคในยุคบารอค สถาปัตยกรรมที่มีการใช้เส้นโค้ง และเส้นคด แสดงความเคลื่อนไหว ผ่านตัวอาคารที่ผนังใช้โทนสีครีมเข้มสลับอ่อน ลวดลายสวยงาม มีความหรูหรา ซับซ้อนกลมกลืนไปกับธรรมชาติ และยังมีคุณสมบัติพิเศษช่วยป้องกันเสียงรบกวนต่าง ๆ และทนความร้อนได้ยาวนานมากถึง 4 ชั่วโมง ด้วยนวัตกรรมการก่อสร้างแบบ Siphya Precast Internall wall Panel การวางคอนเซปต์ในสไตล์ ‘รีสอร์ต’ โดยการนำอาคารจัดเรียงแบ่งออกเป็นสองแถว ให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางไว้อย่างสระว่ายน้ำที่มีความยาว 70 เมตร และสวนสาธารณะที่มีความยาวตามพื้นที่โครงการตั้งแต่ด้านหน้าโครงการไปจนถึงด้านหลังสุดของโครงการ สร้างบรรยากาศเหมือนคุณได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ต ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวสบายตา สระว่ายน้ำสีฟ้าสบายใจ นอกจากนั้นยังมีอาคาร Clubhouse 3 ชั้นที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  ไว้ให้ใช้บริการอีกด้วย รูปแบบห้องมี 2 แบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Corner ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 25-53 ตร.ม. ภายในห้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักๆ ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดแบบ Fully Furnished ตอบโจทย์การใช้งานโดยไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อเอง ในเรื่องของทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนบางนา-ตราด เข้าออกเมืองสะดวกเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง เดินทางเข้าโซนกรุงเทพฯชั้นในสามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท และยังเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์เข้าสู่ พระราม 9 ได้ง่าย หรือจะเดินทางไปโซนลาดกระบัง สนามบินสุวรรณภูมิได้เพียงไม่กี่นาที การเดินทางออกนอกเมืองไปยังโซนจังหวัดภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี จันทบุรี ระยอง เลือกใช้ถนนมอเตอร์เวย์ หากต้องการประหยัดเวลาก็สามารถเลือกใช้ทางด่วนพิเศษอย่าง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษกาญจนภิเษก และทางด่วนบูรพาวิถีได้ โครงการเลอ บารอค บางนา-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีบรรยากาศเงียบสงบ สำหรับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนในสไตล์รีสอร์ต เป็นโครงการที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่ทำงานอยู่ในโซนบางนา ใกล้สนามบิน หรือแหล่งนิคมอุตสาหกรมขนาดใหญ่ต่าง ๆ และนักศึกษามหาวิทยาลัยรอบ ๆ

 


Tag