ทำเลและการเดินทาง

แผนที่โครงการ Life ๑ wireless จะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่วิทยุต้นๆถนนจากถนนเพชรบุรี อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าถนนวิทยุเป้นถนนที่อยู่ใจกลางเมือง และเป็นถนนที่มีที่ดินราคาสูงระดับต้นๆในกรุงเทพมหานคร ถนนวิทยุจะแตกต่างจากถนนอื่นๆตรงที่เป็นถนนที่มีความร่มรื่นเพราะตลอดแนวถนนจะมีต้นไม้อยู่ตรงกลาง ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของถนนเส้นนี้ นอกเหนือจากนั้นถนนวิทยุยังเป็นถนนที่รวมสถานทูตประเทศสำคัญๆอยู่หลายประเทศอาทิเช่นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ถนนเส้นนี้มีความเป็นถนนที่มีอะไรอะไรมากกว่าถนนเส้นอื่นๆ เช่นความปลอดภัย บวกกับความหรูหราที่ได้มาจาก Office Building ที่เรียงอยู่บนถนนหลายอาคาร แลโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาวที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ โดยทุกคนจะพูดถึงถนนเส้นนี้ว่าเป็นศูนย์กลางย่านธรุกิจ สถานที่รวบรวมสถานทูต และสถานกงสุล การเดินทางก็สะดวกสบาย จึงทำให้บริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยระดับ Luxury

ถนนวิทยุจะเป็นถนนที่อยู่ใจกลางเมืองอยู่ระหว่างถนนสำคัญอย่างเพชรบุรีตัดใหม่, พระราม 1 และพระราม 4 การเข้า ออก สามารถเข้า ออกได้หลายเส้นทางเริ่มจากถนนพระราม 4 จะสามารถเดินทางจากถนนราชดำริที่เชื่อมต่อมาจากสีลม – พระราม 4 ได้อีกเส้นทางนึงเนื่องจากระหว่างถนนราชดำริกับถนนวิทยุจะมีถนนที่เชื่อมต่อกันบริเวณตรงกลาง ดังนั้นนอกจากจะเข้าถนนวิทยุจากพระราม 4 โดยตรงยังสามารถเข้าจากถนนราชดำริได้อีกหนึ่งเส้นทางนะครับ เส้นทางอีกเส้นจะมาจากถนนสุขุมวิท อันนี้ง่ายมากถ้าใครมาจากถนนสุขุมวิทเพียงขับตรงตามทางมาเรื่อยๆจนมาถึงแนกเพลิตจิตก็สามารถเลี้ยวเข้าถนนวิทยุได้ทันที สำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยบริเวณนี้แล้วมาจากทางถนนสุขุมวิท ถนนวิทยุจะมี 2 ฝั่งถ้านับจากแยกเพลิตจิต ถ้าใครต้องการจะเลี้ยวไปทางพระราม 4 ให้วิ่งตามทางบนถนนสุขุมวิทไปตามปกติ แต่ถ้าใครต้องการไปทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ให้มาเลี้ยวขวาตรงแยกนานา เพื่อจะเปลี่ยนเลนมาวิ่งอีกฝั่งนึงเพื่อที่จะสามารถวิ่งเลี้ยวไปยังถนนเพชรบุรีได้ ด้านล่างจะมีภาพการเดินทางจริงให้ดูกันนะครับ เส้นสุดท้ายคือมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สำหรับเส้นทางนี้ไม่ว่าจะมาจากฝั่งขาเข้า หรือฝั่งขาออก แล้วต้องการจะวนมาเข้าถนนวิทยุจะต้องเลี้ยวเข้าชิดลมก่อน แล้วค่อยไปวนรถกลับมาเข้าพระราม 1 จึงมาเจอถนนวิทยุได้ ดังนั้นเส้นทางการเข้าออกของถนนวิทยุนี้จะสับสนนิดหน่อย แต่ระยะทางที่กล่าวมานั้นไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระยะทางสั้นๆ

สิ่งที่ใกล้เคียงบริเวณรอบๆ โครงการ Life One Wireless

ศูนย์การค้า /โรงแรม /โรงพยาบาลชั้นน าระดับHI-END -Central Embassy 450 M -Central Chidlom 800 M -Gaysorn Village 1.2 KM -Central World 1.3 KM -โรงแรม Park Hyatt 450 M -โรงพยาบาลบ ารงุราษฎร์ 1.2 KM -โรงเรียนมาแตร์เดอวีิทยาลยั 1.0 KM

การคมนาคมที่สมบูรณ์ที่สุด -สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต 600 M -จุดขึ้น-ลงทางด่วนเพชรบุร ี 250 M -จุดขึ้น-ลงทางด่วนสุขุมวทิ 800 M -ท่าเรือสะพานวิทยุ 0 M

Office Building -Park Venture 600เมตร -มหาทุน 750เมตร -All SeasonsPlace 1.0 กม -สินธร 1.4 กม

การเดินทางไปยังโครงการ Life One Wireless จะเริ่มต้นจากถนนสุขุมวิทบริเวรแยกอโศก มุ่งหน้าไปยังถนนวิทยุ ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ

พอข้ามแยกอโศกจะเจอสถานี BTS อโศก ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ สถานีอโศกจะเป็นสถานี Interchange ระหว่าง BTS กับ MRT ถ้าจากสถานีนี้ไปยังสถานีเพลินจิตจะเดินทางเพียงแค่ 2 สถานีเท่านั้น

จากสถานีอโศกพอขับมาถึงสถานีนานาให้ชิดขวาเพื่อจะเปลี่ยนเลนไปยังอีกฝั่ง (เบี่ยงขวา) ขับตามภาพนี้เลยนะครับ ถ้าไม่ตามนี้จะต้องไปวนรถถนนวิทยุด้านหน้า All season อีกรอบจะทำให้เสียเวลา

พอเบี่ยงขวามาแล้วให้ขับตรงตามทางจนมาเจอ สถานี BTS เพลินจิตให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุตรงแยกเพลินจิต

เลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุตรงเพลินจิต

พอเลี้ยวเข้ามาถนนวิทยุให้ขับชิดขวาเอาไว้นะครับ เพราะโครงการ Life one Wireless ที่ตั้งโครงการจะอยู่ด้านขวามือ สำหรับถนนวิทยุฝั่งนี้จะเป็นถนนวิ่งรถทางเดียวตั้งแต่แยกเพลินจิตจนไปถึงถนนเพชรบุรี

ขับมาจนจะถึงสะพานข้ามคลองให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าโครงการ

จุดสังเกตคือจะอยู่ตรงทางขึ้นสะพานพอดี และมีป้าย Family mark วางไว้อยู่

LIFE ONE WIRELESS

Life One Wireless เป็นคอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิต 1,344 ยูนิต ขนาดที่ดิน  4 – 2 – 47.1 ไร่ หน้าโครงการที่หันไปทางถนนวิทยุจะเป็นฝั่งทิศตะวันตก ด้านทิศเหนือจะหันไปทางถนนเพชรบุรี ส่วนตะวันออกจะเป็นฝั่งสุขุมวิท และทิศใต้มองไปทางถนนวิทยุ พระราม 4 ซึ่งทุกทิศวิวจะสวยกันคนละแบบ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ใจกลางเมืองทำให้วิวของโครงการนี้จะสามารถรับได้ทุกด้านในแบบ City Veiw สำหรับโครงการนี้เริ่มทางเข้า ออก จะออกแบบมาให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวสุดๆ เนื่องจากทางเข้านั้นจะถูกวนไปเข้าด้านข้าง (ดูจากแปลน) ซึ่งการออกแบบมีที่มาจากคำว่า Hideaway “เมื่อนำ Oasis มาผสมผสานกับ Modernity จะได้ความรู้สึกว่า Hide Away จากท่ามกลางความวุ่นวายของใจกลางมหานคร หรือชีวิตที่ก้าวล้ำ คนจึงโหยหาธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกสงบ และผ่อนคลายจากการทำงานอย่างแท้จริง”

ชั้น 1  โถงต้อนรับ พื้นที่สีเขียว One Wireless Botany พื้นที่ทำงานส่วนกลาง ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องสำนักงานนิติ ห้องสมุด ห้องจดหมาย ส่วน Service และที่จอดรถ ถึงชั้นที่ 9

ที่พักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 4

ชั้น 10 ชั้นที่พักอาศัย และสวนลอยฟ้า Cascade Garden ที่มีพท้นที่สเขียวที่เล่นสเตปเป็นขั้นบันได พื้นที่ทำบาร์บีคิว

14^th – 32^nd Floor Plan ตำแหน่งห้องจะถูกจัดวางโดยนำห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ตรงตำแหน่งมุม (สีน้ำตาล) ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม. (เทาเข้ม) จะถูกกระจายไปเกือบทุกด้าน และสุดท้าย Studio ขนาดที่เล็กสุดของโครงการนี้จะถูกวางอยู่ตำแหน่งด้านทิศตะวันออก และตะวันตก เฉลี่ยจำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ประมาณ 39 ยูนิต ลิฟท์โดยสารจะมีอยู่จำนวน 7 และ Service 1 โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง เพื่อความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัย

36^th Floor plan พอขึ้นมาชั้นที่สูงๆรูปแบบ Floor plan จะถูกลดจำนวนยูนิตลงด้วย Shape ของอาคาร

42^nd Floor Plan ชั้นนี้จะมี โถงต้อนรับ พื้นที่ทำงาน สวนลอยฟ้า High Garden Promenade จุดชมวิวเมือง The Vista Desk ห้องน้ำส่วนกลาง ห้อง Sauna ห้องเครื่องปั้มสระว่ายน้ำ ห้องให้เช่าบริการสำหรับเก็บของอีกด้วย

43^rd Floor plan ชั้นสูงสุดของอาคารจะเป็นส่วนกลางที่มี ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ Dazzling Pool และสวนพักผ่อน

แบบที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเป็น Layout ที่ออกแบบมาแล้วมีเสียงตอบรับที่ดีมากด้วยฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาได้หลงตัวแบบสุดๆ โดยใช้พื้นที่เพียง 35 ตร.ม. แต่เวลาอยู่จริงจะรู้สึกว่าขนาดนั้นมากกว่าที่จะเป็น เพราะด้วยการวางฟังก์ชั่นต่างๆได้ถูกตำแหน่ง การหันของห้องต่างๆ และการวางเฟอร์นิเจอร์ทำให้ห้องที่ออกมาได้ใช้พื้นที่ทุกตร.ม.ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนหน้าสุดจะเป็น Living Area ห้องน้ำ และครัวถ้าดูจาก plan เค้าจะแบ่งครึ่งของห้อง โดยแยกที่พักอาศัย กับพื้นที่พักอาศัยออกจากกัน แล้วแต่ละส่วนก็จัดวางเข้าในแต่ละมุม ทำให้ห้องที่ออกมาเป็นอย่างที่เห็น

ที่ดินตรงนี้แต่ก่อนจะมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่หลายต้น ทางโครงการจึงนำใบโพธิ์มาเป็น แนวคิดการออกแบบงานต่างๆเป็น Inspiration ของใบโพธิ์ออกมาเป็น Concept ของโครงการ Life One Wireless

เข้ามาภายใน Sale Gallery กันแล้ว เดี๋ยวไปเดินชมห้องตัวอย่างจำนวน 2 ห้องกัน

ห้องตัวอย่างแรกเป็นแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะมีจำนวนรองมาจากห้องแบบ 1 ห้องนอน ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished เข้าไปชมภายในห้องกันเลยครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวอยู่ขวามือ และห้องน้ำอยู่ซ้ายมือ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อน layout ของห้องนี้เค้าจะเอาห้องน้ำมาไว้ด้านหน้าสุดของตัวห้อง และส่วนครัวก็เช่นกัน ดังนั้นห้องแบบนี้สามารถเอาประตูบานเลื่อนมากั้นส่วนทำให้เป็นสัดส่วนแบบ 1 ห้องนอนได้ แค่จะไม่มีพื้นที่ Living Area แค่นั้นเอง

ชุดครัวที่ได้จะเป็นลักษณะแบบนี้โดยมีอ่างล้างจาน และเตาที่วางไว้คนละด้านเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน

ได้ทั้งตู้บน และตู้ล่าง มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Microwave

มาดูภายในห้องน้ำกันบ้างครับ

ภายในห้องน้ำตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงกลางระหว่างอ่างล้างหน้า และShower Box

ทรงของอ่างล้างหน้าจะเป็นทรงเหลี่ยมตามในภาพนี้

โถสุขภัณฑ์

และพื้นที่ส่วนเปียก Shower Box

ส่วนห้องนอน

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่พักอาศัยคือตำแหน่งของเตียง

มองไปด้านในสุดจะเป็นหน้าต่างที่สามารถวางโซฟาเข้ามุมได้บริเวณนั้น

มองย้อนกลับไปยังทางเข้า จะเห็นตู้เสื้อผ้าจะถูก Built in ต่อมาจากตำแหน่งของชุดครัว เพื่อประหยัดพื้นที่ตำแหน่งนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว

พื้นปูด้วยไม้ลามิเนต ด้านนอกระเบียงเป็นกระเบื้องแบบกันลื่น

มองย้อนกลับไปตรงบริเวณเตียง

ภายนอกระเบียง

ปลายเตียงด้านผนัวงจะเป็นชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้า

มุมนี้จะเห็นพื้นที่เหลือระหว่างเตียงกับโซฟาที่วางติดหน้าต่าง

มุมนี้ย้อยกลับไปทางเข้า

ห้องตัวอย่างต่อมาจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่มี Layout ที่สวย และลงตัวสุดๆ

ภาพแรกพอเดินเข้ามาภายในห้องคือเห็นเกือบทุกส่วนของห้อง Living area ที่อยู่หน้าสุด และด้านในที่มีประตูประตูกระจกกั้นส่วนระหว่างห้องนอน กับห้องนั่งเล่น แต่ห้องแบบนี้ยังมีอะไรมากกว่าที่เห็นตอนแรก เดี๋ยวเดินเข้าไปชมกันทีละส่วน 

ส่วนที่ว่าก้คือส่วนครัว และห้องน้ำ ที่ถูกนำมาวางไว้ด้านข้างของตัวห้อง ถ้าได้ดู Unit Plan ของแบบนี้ เค้าจะแบ่งส่วนพื้นที่ใช้งาน กับที่พักอาศัยอย่างละครึ่ง ซึ่งแต่ละครึ่งก็มาจัดเป็นพื้นที่ต่างๆได้อย่างลงตัวบนพื้นที่ 35 ตร.ม. ซึ่งใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าจริงๆครับ มุมนี้จะยืนอยู่ตรงโซฟามองไปยังส่วนครัว และทางเข้าไปห้องน้ำ

พื้นที่วางชุดโซฟา และโต๊ะ

ส่วนครัวในห้องแบบนี้จะไม่ใช่ครัวธรรมดาทั่วไป ครัวที่เห็นจะเป็นครัวที่มีเคาร์เตอร์สำหรับนั่งรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อมาจากชุดครัวด้านใน

มุมนี้จะนั่งอยู่บนชุดเคาร์เตอร์มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

มุมนี้จะสามารถเห็นส่วนครัวได้อย่างชัดเจน ครัวจะเป็นเป็นรูปตัว L ที่วางเข้ามุม และมีหน้าต่างกระจกที่สามารถระบาย และรับแสงที่ออกมาจากห้องถัดไปได้

มุมนี้จะมองไปทางเข้าห้องนอน ประตูที่กั้นส่วนห้องนอนจะมีความสูงจากพื้นที่ฝ้าเลยนะครับ

เข้ามาดูในส่วนห้องน้ำกันต่อ อุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำนี้จะเหมือนกับห้องที่แล้ว เพียงแต่ขนาดจะใหญ่กว่าเพียงเท่านั้น

อ่าง และโถสุขภัณฑ์

รูปทรงอ่างล้างหน้าเหมือนกับห้องที่แล้วเลย

ส่วนถัดมาจะเป็นห้องนอน ประตูกระจกแบบบานเลื่อนนำมากั้นส่วนห้องนอนไว้ เดินเข้าไปชมด้านในกัน

ภายในห้องนอนก็แบ่งเป็น 2 ส่วนอีกเช่นกัน โดยห้องตัวอย่างนี้จะตกแต่งเป็นห้องนอน และห้องแต่งตัวอย่างที่จะได้ชมกันต่อไป

ตำแหน่งของการวางเตียง

ระยะจากประตูกั้นห้องถึงเตียงจะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีก

มุมย้อนจากห้องนอนออกไปยังด้านนอก Living Area เดี๋ยวจะเดินเข้าไปชมส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวกัน

ภายในห้องแต่งตัวสามารถ Built – in โต๊ะเครื่องแป้งเป็นแนวยาวเข้ามุมได้อย่างสบายๆ

ห้องนี้จะเป็นห้องที่เชื่อมต่อไปยังระเบียง

ระเบียงของห้องนี้จะต้องเข้า ออกโดยผ่านห้องแต่งตัว