ทำเลและการเดินทาง

ถนนวิทยุถนนที่อยู่บนจุดศูนย์กลางของ CBD สำคัญของกรุงเทพ เป็นทำเลที่มีศักยภาพ และราคาที่ดินสูงอันดับต้นๆของประเทศ โดยถนนวิทยุนั้นจะอยู่ระหว่างถนนอย่างถนนเพชรบุรี, พระราม1, และพระราม4 ซึ่งจะเดินทางเข้าออกได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ถนนวิทยุจะแตกต่างจากถนนอื่นๆ ตรงที่เป็นถนนที่มีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากตลอดแนวถนนนั้นจะมีต้นไม้อยู่ตรงเกาะกลางทั้ง 2 ฝั่งถนน ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของถนนเส้นนี้ นอกเหนือจากนั้นถนนวิทยุยังเป็นถนนที่รวมสถานทูตประเทศสำคัญๆอยู่หลายประเทศอาทิเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอื่นๆอีกมากมาย ถนนวิทยุนั้นหลายล้อมไปด้วยความหรูหราที่ได้มาจาก Office Building ที่เรียงรายอยู่แนวถนนหลายอาคาร, ศูนย์กลางค้าระดับ Luxury และโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาว ทำให้บริเวณนี้เป็นทำเลที่ที่มีที่พักอาศัยระดับ Luxury – Super Luxury

ก่อนอื่นมาชม Master Plan ของโครงการกันก่อน Life One Wireless เป็นคอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิต 1,344 ยูนิต ขนาดที่ดิน  4 – 2 – 47.1 ไร่ หน้าโครงการที่หันไปทางถนนวิทยุจะเป็นฝั่งทิศตะวันตก ด้านทิศเหนือจะหันไปทางถนนเพชรบุรี ส่วนตะวันออกจะเป็นฝั่งสุขุมวิท และทิศใต้มองไปทางถนนวิทยุ พระราม 4 ซึ่งทุกทิศวิวจะสวยกันคนละแบบ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ใจกลางเมืองทำให้วิวของโครงการนี้จะสามารถรับได้ทุกด้านในแบบ City View สำหรับโครงการนี้เริ่มทางเข้า ออก จะออกแบบมาให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวสุดๆ เนื่องจากทางเข้านั้นจะถูกวนไปเข้าด้านข้าง (ดูจากแปลน) ซึ่งการออกแบบมีที่มาจากคำว่า Hideaway “เมื่อนำ Oasis มาผสมผสานกับ Modernity จะได้ความรู้สึกว่า Hide Away จากท่ามกลางความวุ่นวายของใจกลางเมือง แต่พักอยู่ภายในโครงการจะอยู่กับธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกสงบ และผ่อนคลายเป็นส่วนตัวจากการทำงานอย่างแท้จริง”

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่สร้างประสบการณ์ของที่พักอาศัยกับแฟล็กชิพลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง LIFE ONE WIRELESS คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เพียงหนึ่งเดียวบน ‘ถนนวิทยุ’

ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบ “Live a Splendid Life” เพื่อให้มี Lifestyle ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง เน้นสถาปัตยกรรมอาคารแบบไทยประยุกต์ มาพร้อมกับการออกแบบภูมิสถาปัตย์พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ ที่โอบล้อมโครงการไว้ ทั้งต้นไม้ใหญ่หลากหลาย

สวนสวยกว่า 1 ไร่ ของ ‘One Wireless Botany’

ทาง Homezoomer จะพาไปเดินชมภายในโครงการโดยจะพาไปชมห้องตัวอย่างใหม่ถึง 2 ห้อง โดยมีห้องแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. และห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.

นี่จะเป็นหน้าตาของอาคารที่มองขึ้นในแนวสูงนะครับ

เข้ามาภายในโครงการจุดแรกที่จะพามาคือจุด Drop Off ที่ออกแบบมาได้หรูหราเวลาเดินทางเข้ามาเป็นอย่างมาก

บริเวญด้านหน้าถัดจากจุด Drop Off จะเป็น Semi Outdoor Lobby ส่วนกลางที่มีที่นั่งสำหรับพักผ่อนอยู่ จะเห็นได้ว่าจะออกแบบมาตามสไตล์สถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ได้สวยและลงตัว

ถัดเข้ามาด้านในของอาคาร จะเป็นส่วนของ Lobby ที่ออกแบบตกแต่งพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ อย่าง  Co- Working Space

ตำแหน่งของ Mail Box ก็จะอยู่ด้านใน Lobby จำนวน 2 จุด

Lift Hall ก็เช่นกันจะมีอยู่ 2 จุด โถงลิฟท์ทางเหนือมีลิฟท์ 3 ตัว และทางใต้มี 4 ตัว

ห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม.

ฟังก์ชั่นของห้องแบบ Studio ตำแหน่งการใช้งานในแต่ละส่วนจัดได้ลงตัวใช้งานได้จริง โดยเอาชุดครัว และห้องน้ำมาไว้ด้านหน้าสุดของตัวห้อง ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟาที่วางขนานไปกับผนังแล้วเชื่อมต่อไปยังเตียง ทำให้ตัวห้องเหลือพื้นที่ตรงกลางทำให้ห้องดูกว้าง โปล่ง และไม่อึดอัด ในส่วนของตู้เสื้อผ้าจะอยู่ตรงข้ามหรือปลายเตียง ถัดเข้าไปในสุดจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะทำงาน

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัวที่อยู่ด้านหน้าสุด มองเข้าไปด้านในจะเป็นบริเวณพักผ่อน ห้องที่ได้จะได้เป็นห้องเปล่าผนังฉาบเรียบทาสีขาว โดยจะติดตั้งชุดครัวที่มาพร้อมกับ Hood Hob มาให้เพียงอย่างเดียว Floor to Ceiling ความสูงภายในห้องสูง 2.6 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนต

ชุดครัวที่ได้จะได้เป็นชุดที่มาทั้งตู้บน และล่าง โดยจะเว้นช่องสำหรับ Microwave และเครื่องซักผ้ามาให้ตามนี้เลย ถัดจากชุดครัวก็จะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า

ส่วนถัดมาจะเป็นห้องน้ำที่จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวห้องเช่นกัน

ภายในห้องน้ำจะแบ่งสัดส่วนการใช้งาน และฉากกั้นมาให้เรียบร้อย

ตำแหน่งที่ถัดจากห้องน้ำเข้าไปจะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟา

ชุดโซฟาที่สามารถนั่งได้สำหรับ 2 คน โดยตำแหน่งเตียงนอนจะเชื่อมต่อมาจากชุดโซฟานะครับ

ตำแหน่งของเตียงนอน จะเหลือพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกบริเวณปลายเตียงอยู่พอสมควร

ในส่วนด้านในสุดจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะทำงานที่สามารถ Built in เป็นแนวยาวขนานไปกับหน้าต่างกระจกได้

มุมนี้จะเป็นมุมที่มองย้อนกลับไปยังทางด้านหน้าของห้อง จะเห็นตำแหน่งต่างๆได้อย่างชัดเจน

ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.

สำหรับฟังก์ชั่นของแบบนี้จะแบ่งพื้นที่ใช้งาน กับพักผ่อนออกจากกันโดยจะเอาตำแหน่งของห้องน้ำกับครัวเชื่อมกันโดยจะเอาไว้ด้านข้างของตัวห้อง ในส่วนพื้นที่พักผ่อนนั้นจะไว้อีกข้างของห้องโดยพื้นที่ Living area กับห้องนอนจะเชื่อมต่อกันตั้งแต่ด้านหน้าสุดของห้องยาวลึกไปยังด้านในสุด จุดเด่นของห้องแบบนี้คือจะมีพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาทำเป็น Walk in Closet ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาอย่างลงตัว

เข้ามาภายในห้องจะเจอ Living Area เป็นอย่างแรก มองเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องนอนที่กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า สำหรับด้านซ้ายนั้นจะเป็นตำแหน่งห้องน้ำ และครัวที่หลบเข้าไปด้านข้าง เดี๋ยวเข้าไปชมกันครับ

ชั้นวางทีวีจะอยู่ตรงข้ามกับชุดโซฟาซึ่งจะอยู่ด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปจะเป็นตำแหน่งของครัว

มองย้อนกลับไปทางเข้าห้องจะระยะสายตาการนั่งดูทีวี

ติดกับชุดโซฟาจะมีพื้นที่ว่างสามารถวางโต๊ะทำงานได้นะครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของชุดครัว และโต๊ะรับประทานอาหาร

ชุดครัวทางโครงการจะ Built in เป็นรูป L ทั้งตู้บน และล่างเข้ามุมได้อย่างพอดีสวยงาม โดยจะเว้นพื้นที่สำหรับตู้เย็น Microwave และเครื่องซักผ้าไว้ให้นะครับ

ชุดครัวที่ได้ และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ

ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะอยู่ติดกับตำแหน่งครัวพอดี

ห้องน้ำที่ได้จะได้เป็นห้องน้ำแบบสำเร็จรูป ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรียบร้อย

ติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้ทุกห้อง

อุปกรณ์อื่นๆภายในห้องน้ำ

ในส่วนของห้องนอนนั้นจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเลยทีเดียว

การที่ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกข้อดีคือจะทำให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัดเลย และทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้น

ภายในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างสบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่อีกด้วย บริเวณปลายเตียงนั้นจะเป็นทางเข้าไปยังห้องที่เพิ่มเติมขึ้นมานะครับ

ห้องพื้นที่ว่างที่เพิ่มขึ้นมาจะกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนเช่นกัน

ภาพรวมภายในห้องนอน

ห้องพื้นที่ว่างที่เพิ่มขึ้นมาจะทำเป็นห้องแต่งตัว

มุมนี้จะยืนอยู่ด้านในสุดมองย้อนกลับไปทางด้านหน้า ข้อดีของประตูกระจกใสคือห้องดูกว้างใหญ่ไม่มีอะไรมาบนบังสายตาเลยครับ

สรุปแล้วโครงการ Life One Wireless ที่ตั้งอยู่บนทำเล “วิทยุ” เลขที่๑ ที่เรียกว่าอยู่ใจกลาง CBD ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จตั้งแต่เปิดขายมาจนมาถึงวันนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เป็นอาคารสูง 43 ชั้น บนที่ดินผืนที่เรียกว่าหาได้ยากแล้วในทุกวันนี้ ในส่วนของ Concept ได้ออกแบบมาให้เป็นรูปแบบไทยประยุกต์ร่วมสมัยโดยเอาความเขียวจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งสำคัญภายในโครงการโดยใช้พื้นที่กว่า 1 ไร่ บวกส่วนกลางที่จัดมาให้ตั้งแต่ชั้นที่ 1, 10, 42 และ 43 ยกสระว่ายน้ำ Dazzling Swimming Pool มาไว้ด้านบนสุด พร้อมกับรับวิวใจกลางเมืองกรุงเทพแบบ Panoramic เต็มๆ ในส่วนของห้องพักมีให้เลือกอยู่ 3 แบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ซึ่งแบบที่เป็นที่นิยมจะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 28 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งจะมีอยู่ทุกทิศของอาคาร โดยจะได้วิวต่างกันออกไปวิว วิทยุ, เพลินจิต, ชิดลม, ทางด่วน, สุขุมวิท และ เพชรบุรี ซึ่งห้องตัวอย่างทั้ง 2 แบบพร้อมเปิดให้ชมพร้อมกับวิวจริง แล้ววันนี้ที่โครงการ Life ๑ Wireless

ผู้ทีสนใจอยากชมห้องจริง วิวจริง สามารถเข้าไปชมได้ทุกวัน ที่โครงการ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.

Living Empowerment กับ คอนโดย่าน BTS เพลินจิต ราคาดีที่สุด

30-31 ม.ค.นี้ New Year Special ดีลที่ดีที่สุด ก่อนปิดตึก!
– ฟรี iphone 12*
– ฟรี ค่าใช้จ่ายวันโอน*
– ฟรี ดาวน์*
– ฟรี สัญญา*
ราคาที่ดีที่สุดบนทำเล เพลินจิต เริ่ม 5.59 ล้าน*

พิเศษ! เพียงลงทะเบียน และ Add Line รับส่วนลด Top up เพิ่มสูงสุด 100,000 บาท*

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและส่วนลดเพิ่ม คลิ๊ก!  >>>  https://bit.ly/2Mqj3Fu