ทำเลและการเดินทาง

โครงการเดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56 นั้น ตั้งอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 56 แขวงสายไหม ทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นสามารถเข้าเมืองได้อย่างสะดวกด้วยเส้นทางจากถนนพหลโยธินไปที่วงเวียนหลักสี่ หรือจะเลือกใช้เส้นทางจาก ถ.วิภาวดี – รังสิต ที่สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะก็สะดวกคล่องตัวค่ะ  พื้นที่ตรงนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอีกด้วย ซึ่งสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดนั้นคือสถานี กม. 25 (ระยะทางเพียง 800 เมตร) โดยอีกไม่นาน เส้นทางตรงนี้ก็จะเปิดให้บริการแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองเลยค่ะ

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการนั้นถือได้ว่าสมบูรณ์มากทีเดียว เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆ กับห้างสรรพสินค้าและตลาดหลายจุด เช่น  ตลาดยิ่งเจริญ, ไอที สแควร์, เซียร์ รังสิต, ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต และเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ , บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, เทสโก้ โลตัส ใกล้หลากหลายสถานพยาบาล อย่างเช่น โรงพยาบาล บี แคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชและโรงพยาบาล เซ็นทรัลเยนเนอรัล   ที่สำคัญนั้น ตัวโครงการยังใกล้กับสนามบินเดือนเมือง ซึ่งถือว่าเป็นอีก 1 แหล่งงานที่น่าสนใจเลือกซื้อคอนโดที่โครงการนี้ไว้ปล่อยเช่าเช่นกัน

เห็นมุมนี้หลายคนอาจจะคุ้นตากันดีนะคะ กับถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงด่านเก็บเงินดินแดง วันนี้ Homezoomer จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมโครงการ เดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56 กันค่ะ

เราจะใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข มุ่งหน้ารังสิตนะคะ

ให้เราวิ่งตามป้าย งามวงศ์วาน – ดอนเมืองไว้ก่อน 

ตรงมาเรื่อยๆ ตามป้าย รังสิต – บางปะอิน

จนมาถึงช่วง รังสิต – ลำลูกกา ให้เราวิ่งเลนซ้ายค่ะ

ตรงนี้จะมีเรียกเก็บค่าผ่านทางอีกครั้งนะคะ อัตราค่าผ่านทางรถ 4 ล้ออยู่ที่ 30 บาท

ให้เราชิดซ้ายเพื่อวิ่งเลนลำลูกกา

เบี่ยงซ้าย ลงทางด้วนที่ลำลูกกาเลยค่ะ

เมื่อวิ่งลงจากทางยกระดับมาแล้ว ให้เราเบี่ยงขวาเพื่อเข้าถนนเส้นหลัก

เข้าไปวิ่งถนนเส้นหลักกันค่ะ

ขับตรงไปเรื่อยๆ ก่อน

วิ่งชิดซ้ายตามป้าย สะพานใหม่ 

เมื่อเราเบี่ยงซ้าย เราจะพบกับสะพานยกระดับ ให้เราวิ่งตามป้ายสะพานใหม่

บนสะพานยกระดับนี้ ให้เราวิ่งชิดขวานะคะ

ลงจากทางยกระดับเพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน

ขับตรงไปตามป้ายสะพานใหม่ บางเขน  

ขึ้นสะพานข้ามแยกไปก่อนค่ะ 

จะเห็นได้ว่าแถวนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

ขับเลยซอยพหลโยธิน 58 ไปอีกประมาณ 450 เมตร

สำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงปั๊มน้ำมันเอสโซ่

เลี้ยวซ้ายเข้าไปด้านในกันเลย

ถึงแล้วค่ะ สำนักงานขาย โครงการ เดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56

Floor Plan ชั้น 1 : ตัวที่ดินเป็นทรงสี่เหลียมผืนผ้าสวยงาม ทางเข้า – ออกโครงการนั้นจะอยู่ทางทิศเหนือของที่ดิน พื้นที่ชั้น 1 นี้จะเป็นศูนย์รวมของ Facilities ของของโครงการ เพราะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดโดยสามารถจอดได้ 35 – 40% ของพื้นที่  พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5.5 x 17 เมตร แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พร้อมพื้นที่ Co-Working Space, ห้องออกกำลังกาย, ห้องซาวน์น่า แยกชาย-หญิง, Lobby, ห้องจดหมาย และโถงลิฟท์ ค่ะ นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น 1 นี้จะมีพื้นที่พักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Type B: 28.00 ตร.ม. จำนวน 4 ยูนิต โดยจะอยู่ทางทิศใต้ของอาคารค่ะ

Floor Plan ชั้น 2  – 6 : ตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นตัว U ล้อมรอบสระว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้ห้องทางด้านในทั้งหมดได้วิวสระ ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ของโครงการนั้นจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Type B ขนาด 28.00 ตร.ม. ที่จะหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทิศห้องที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบตื่นเช้าและใช้เวลาอยู่กับห้องเยอะ เพราะห้องทางทิศนี้ก็จะไม่โดนแดดบ่าย ช่วยให้เวลากลางคืนห้องไม่ร้อนมากด้วยค่ะ ส่วน Type ห้องแบบ 1 Bedroom Type C ขนาด 32.00 ตร.ม. และ 1 Bedroom Type D ขนาด 34.00 ตร.ม. นั้นจะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต โดยจะเป็นห้องที่หันหน้าไปทางทิศใต้ค่ะ ภายในอาคารจะมีลิฟท์โดยสารให้บริการ 2 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟอาคารละ 3 จุด

Floor Plan ชั้น 7 : Layout ของชั้นนี้จะคล้ายกันกับชั้น 3 – 6 เพียงแต่จำนวนยูนิตหายไป 1 ห้อง แล้วถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนสีเขียวแทน ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมารับลมชมวิวกันที่ชั้นบนสุดนี้ค่ะ   แล้วทำไมที่นี่ถึงมีเพียงแค่ 7 ชั้น ? นั่นเป็นเพราะความพิเศษของ Floor to Ceiling ที่สูงถึง 2.7 เมตร เพิ่มพื้นที่แนวสูงให้ลูกบ้าน ทำให้ที่นี่เป็นอาคารสูง 7 ชั้นนั่นเอง

Room Layout ห้อง Type A ขนาด 25.00 ตร.ม. : Layout แนวนี้ถือเป็น Layout ยอดฮิต ที่จัดแบบนี้แล้วทำให้ลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้ว โดยเมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก กั้นโซนด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนช่วยประหยัดพื้นที่และช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมครัวแยกส่วนติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้พื้นที่ครัวตรงนี้เป็นครัวที่สามารถใช้งานได้จริง และไม่มีกลิ่นอาหารเข้ามารบกวนค่ะ

Room Layout ห้อง Type B ขนาด 28.00 ตร.ม. : Layout ของห้อง Type นี้จะคล้ายๆ กันกับห้อง Type A เลยค่ะ   จุดแตกต่างจะอยู่ตรงที่พื้นที่ของห้องนี้จะเป็นห้องแนวยาวลึกเข้าไป แต่การจัดวางฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยนั้นยังเหมือนเดิม ห้องนี้จะมีพื้นที่นั่งเล่นที่มากขึ้นทำให้เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งมาไว้ภายในนี้ได้ด้วยค่ะ

Room Layout ห้อง Type C ขนาด 32.00 ตร.ม. : Layout ของห้อง Type C จะเหมือนกันกับ Type B เลย เพียงแต่ห้องนี้มีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้นมา เหมาะสำหรับลูกบ้านที่ชอบพื้นที่กว้างๆ หรือพักอาศัย 2 คนค่ะ

Room Layout ห้อง Type D ขนาด 34.00 ตร.ม. : Layout ของห้อง Type D นั้นจะ Mirror มาจาก Type C แต่ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่กว่า ทำให้พื้นที่นั่งเล่นนั้นสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้ด้วย หากใครที่เป็นครอบครัว 2- 3 คน เลือกซื้อเป็นห้อง Type D นี้ถือว่ากำลังพอดีเลยค่ะ

เรามาชมด้านในสำนักงานขายของโครงการ THE CUBE PLUS Phahonyothin 56 กัน ด้านในก็จะมีพนักงานคอยต้อนรับเราอยู่ค่ะ

มาชมโมเดลจำลองโครงการกันค่ะ ด้านนี้เป็นด้านหน้าโครงการ รวมถึงเป็นทางเข้า – ออกของโครงการด้วย โดยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือค่ะ  ส่วนทิศอื่นๆ ของอาคารนั้นจะรายล้อมไปด้วยบ้านพักอาศัยสูง 2 – 3 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ห้องพักชั้นสูงๆ ได้วิวเมืองและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ

อาคารมีลักษณะเป็นทรงตัว U โอบล้อมสระว่ายน้ำไว้ โดยพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ล๊อบบี้ พร้อม Wi-Fi Internet (อินเตอร์เน็ตไร้สาย), Co-Working Space, ห้องออกกำลังกาย และห้องซาวน์น่า แยกชาย-หญิง

มองมุมสูงวิวสระว่ายน้ำขนาด 5.5 x 17 เมตร ระบบน้ำเกลือ แยกเป็นสระเด็ก สระผู้ใหญ่ พร้อมจากุชชี่ และพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนรอบสระว่ายน้ำ

ด้านบนชั้น 7 นั้นจะมีพื้นที่ส่วนกลาง เป็นสวนสีเขียวขนาด 25 ตร.ม. ให้ลูกบ้านขึ้นมาเดินเล่นรับลมบนนี้ได้ค่ะ

เรามาเริ่มต้นดูห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ชมกัน เริ่มด้วยห้องขนาด 25.00 ตร.ม.

ประตูห้องนั้นจะเป็นแบบ Digital Door Lock จาก Samsung พร้อมลูกบิดประตูแบบก้านโยก

ประตูไม้ HDF 

อย่างแรกเลยคือต้องบอกถึงจุดเด่นของโครงการนี้ก่อนเลย นั่นก็คือ Floor to Ceiling นั้นมีความสูงถึง 2.7 เมตร และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้โครงการนี้มีเพียง 7 ชั้น   เมื่อเข้ามาชมภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนแรก

พื้นของส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นนั้นจะปูด้วยสมาร์ทไวนิล   พื้นที่นั่งเล่นนั้นสามารถวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ  พร้อมโต๊ะกลางดีไซน์พิเศษที่สามารถเปิดขึ้นเพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้ด้วย

ห้องที่ทางโครงการให้นั้นจะเป็นห้องแบบ Fully Furnished ที่ Built- in เฟอร์นิเจอร์จากโมเดิร์นฟอร์ม มาให้ทุกชิ้นโครงการจะ Built- in ชั้นวางทีวีมาให้แบบนี้เลยค่ะ โดยจะเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์สีไม้โทนสว่าง

เพิ่มความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนที่ช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

เมื่อเข้ามาในส่วนของห้องนอนนั้นเราจะสัมผัสได้ถึงความโปร่ง เพราะประตูบานเลื่อน 3 ตอน และหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่พร้อมบานกระทุ้งอีก 2 บานช่วยให้อากาศภายในห้องถ่ายเท   หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวนั้นแนะนำให้ติดม่านเพิ่มค่ะ เพื่อบังสายตาหากมีแขกมาเยือนที่ห้อง

ดีไซน์เตียงที่ทางโคตรงการให้มานั้นก็เก๋ไม่เบา มีพื้นที่เก็บของใต้เตียงมาให้ด้วย

ด้านข้างเตียงนั้นจะมีโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ มาให้ด้วยค่ะ

ด้านปลายเตียงนั้น โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมใช้งานเลยค่ะ

ถัดมานั้นจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว, ห้องน้ำ และพื้นที่ระเบียง

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้มา จะมีทั้งเคาน์เตอร์ล่างและชั้นลอย พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

ชุดครัวพร้อมซิงค์สแตนเลส 1 หลุม จาก Modernform (ไม่รวม Hob & Hood) ส่วนผิวของ Top ครัวนั้นเป็นลามิเนต 

จะเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่าเป็นครัวแยกส่วนก็ได้นะคะ เพราะแยกออกมาจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน แถมยังติดกับพื้นที่ระเบียง ช่วยระบายกลิ่นขณะประกอบอาหาร พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.

ด้านนอกระเบียงนั้นเป็นราวระเบียงกระจกนิรภัย พร้อมโครงเหล็กทาสีกันสนิม ทาทับด้วยสีน้ำมัน พร้อมปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม.

มาถึงพื้นที่ส่วนสุดท้ายของห้องกันแล้วค่ะ ก็คือส่วนของห้องน้ำนั่นเอง ทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งห้อง ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 ซม.

กั้นพื้นที่ส่วนปียกและส่วนแห้งด้วยธรณีเล็กๆ

ฝักบัวแบบ Hand Shower และผนังเจาะช่องไว้สำหรับวางเครื่องใช้ในห้องน้ำค่ะ

มาต่อกันที่ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ห้องนี้มีขนาดอยู่ที่ 28.00 ตร.ม. ความสูงของห้องยังคงอยู่ที่ 2.7 เมตร ไฟภายในห้องเป็นแบบ LED ทั้งห้อง พร้อมพื้นห้องแบบสมาร์ทไวนิล

เมื่อเข้ามาเราจะพบกับโซนพื้นที่นั่งเล่น ที่แต่งผนังลายอิฐและเฟอร์นิเจอร์สีไม้และสีดำให้ Mood & Tone ออกมาเป็น Loft นิดๆ 

ด้านข้างของโซฟานั้นทางโครงการนำโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งมาจัดมุมไว้ตรงนี้ค่ะ

ระยะจากโซฟามองไปยังจุดวางทีวี ไม่ใกล้จนเกินไป ช่วยถนอมสายตา ทางโครงการจะ Built – in ชั้นวางทีวีแบบนี้มาให้ด้วยเลยนะคะ ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์จาก Modernform ทั้งหมด

พื้นที่นั่งเล่นนั้นจะเชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่ห้องนอน และส่วนของพื้นที่ครัว

เข้ามาชมภายในห้องนอนกันก่อนค่ะ นอกจากห้องที่สูงโปร่งแล้ว หน้าต่างขนาดใหญ่ยังช่วยรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ช่วยให้ห้องไม่อับ พร้อมเตียงนอนที่มากับดีไซน์ออกมาให้คุ้มค่าทุกพื้นที่ใช้สอยด้วยชั้นเก็บของใต้เตียง

หน้าต่างนั้นเป็น อลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงหน้า 6 มม. พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้ จะเป็นสีไม้และสีเทา

พร้อมดีไซน์พิเศษด้านข้าง ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นกว่าเดิม

ปลายเตียงนั้นจะ Built เป็นโต๊ะเครื่องแป้งมาให้

ต่อมาเป็นพื้นที่ส่วนครัวกันบ้าง

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการติดตั้งมาให้นั้นจะมาพร้อมกับอ่างล้างจาน 1 หลุม (ไม่รวม Hob) พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

เคาน์เตอร์ครัวด้านบนที่โครงการติดตั้งมาให้ก็จะมาพร้อมกับพื้นที่เก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ แต่ไม่รวม Hood นะคะ ซึ่งเราสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ หากลูกบ้านชอบทำอาหารรับประทานเอง

ถัดจากเคาน์เตอร์ครัวไปแล้ว ยังสามารถวางตู้เย็นได้พอดีเลยค่ะ เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกตารางนิ้ว

พื้นที่ครัวจะเชื่อมกับส่วนของระเบียงพอดี ดันนั้นพื้นที่ตรงนี้ก็จะมีทางผ่านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

พื้นที่ระเบียงด้านนอกนั้นมีการเดินระบบน้ำและไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย พร้อมราวระเบียง

ที่เป็นกระจกนิรภัย ช่วยให้รู้สึกโปร่งมากกว่าระเบียงแบบทึบ

และพื้นที่ส่วนสุดท้ายของห้องนะคะ ตัวห้องน้ำก็จะวาง Layout คล้ายๆ กันกับห้องขนาด 25.00 ตร.ม. แต่ที่พิเศษก็คือ ความสูงภายในห้องน้ำยังคงสูงถึง 2.7 เมตร เท่ากับพื้นที่ด้านนอกห้องเลยค่ะ

ชุดโถสุขภัณฑ์จาก American Standard

ฝักบัวในห้องน้ำแบบ Hand Shower จาก American Standard พร้อมช่องวางเครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องอาบน้ำ

พื้นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 ซม. พร้อมธรณีเล็กๆ ไว้แยกส่วนเปียกและแห้ง หากลูกบ้านกังวลเรื่องน้ำจากฝักบัวจะกระเด็นมาขณะอาบน้ำ ก็สามารถ ติดผ้าม่านในห้องน้ำช่วยได้ค่ะ

THE CUBE PLUS Phahonyothin 56 (เดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56)   โครงการคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้นรวมทั้งหมด 141 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-0-90 ไร่ ที่ ซอยพหลโยธิน 56 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ บนทำเลที่ถือได้ว่าสะดวกสบายที่สุดในเรื่องการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือการเดินทางสาธรณะด้วยรถไฟฟ้า โดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดนั้นคือรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วยต่อขยายสถานี กม. 25 (อนาคต) ซึ่งห่างจากตัวโครงการเพียง 800 เมตรเท่านั้น

ถ้าพูดถึงความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้นี่บอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะใกล้แหล่งกินแหล่งช้อปมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาดยิ่งเจริญ, ไอที สแควร์, เซียร์ รังสิต, ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต และเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ , บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, เทสโก้ โลตัส, ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะและอิมแพ็ค เมืองทองธานี   พร้อมสถานพยาบาลใกล้เคียงอย่างโรงพยาบาล บี แคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชและโรงพยาบาล เซ็นทรัลเยนเนอรัล  ที่สำคัญยังใกล้กับ สนามบินเดือนเมือง ที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งงานและศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ

โครงการเดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56 โดดเด่นที่ความสูง Floor to Ceiling ของห้องที่สูงถึง 2.7 เมตร ทำให้อาคารนี้มีเพียง 7 ชั้นเท่านั้น   โดยแบ่งห้องออกเป็น 4 Type คือ 1 Bedroom Type A ขนาด 25.00 ตร.ม., 1 Bedroom Type B ขนาด 28.00 ตร.ม., 1 Bedroom Type C ขนาด 32.00 ตร.ม. และ 1 Bedroom Type D: 34.00 ตร.ม.   ตัวห้องนั้นสามารถ Combine ได้ แต่ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า พร้อมวางมัดจำ 40,000 บาท และจะมีการปรับราคาต่อชั้นจะอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท ค่ะ

ห้องที่ทางโครงการให้นั้นจะเป็นแบบ Fully Furnished ที่ประกอบไปด้วย ชั้นวางทีวี, โซฟา, โต๊ะกลาง, เตียงนอนไม่รวมฟูก, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งและเคาน์เตอร์ครัวพร้อมชั้นลอย   ด้านวัสดุและอุปกรณ์ภายในห้องนั้น ทางโครงการจะติดตั้งไฟ LED ทั้งห้อง ปูพื้นส่วนห้องนอนและห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยสมาร์ทไวนิล ส่วนที่พื้นของห้องน้ำนั้นจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิก พร้อมชุดสุขภัณฑ์จาก American standard

ด้าน Facility ส่วนใหญ่นั้น จะอยู่ที่ชั้น 1 โดยจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5.5 x 17 เมตร พร้อมแยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่, Co-Working Space, ห้องออกกำลังกาย, ห้องซาวน์น่า แยกชาย-หญิง ค่ะ   ส่วนพื้นที่บริเวณชั้น 7 นั้นจะมีสวนส่วนกลางขนาด 25 ตร.ม. ให้ลูกบ้านได้ขึ้นไปชมวิวด้านบนสุดของอาคารด้วย  โดยลิฟท์โดยสารของอาคารนั้นจะเป็นแบบล็อคชั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ตัว ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินทางขึ้นมาที่ชั้น 7 ได้เพื่อใช้บริการสวนบนชั้น 7 ได้ค่ะ