ทำเลและการเดินทาง

One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา) ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางลาดพร้าว ซึ่งเป็นโซนที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ส่งผลมาจากการพัฒนาทางด้านต่างๆ แบบครบครัน จึงทำให้ความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้มีการพัฒนาที่ดินให้เป็นที่พักอาศัยจนกลายเป็นแหล่งที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่สำคัญอีกโซนในกรุงเทพฯ การเดินทางก็แสนที่จะสะดวก จากที่ตั้งของโครงการสามารถเดินทางลัดทะลุไปยังถนนสำคัญต่างๆ ได้อย่างมากมาย อาทิเช่น ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ถนนลาดพร้าว โชคชัย4 ถนนเกษตรนวมินทร์ ถนนพหลโยธิน และทางด่วนพิเศษ ซึ่งทุกถนนที่กล่าวมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นถนนสายหลักในการเดินทางในกรุงเทพฯ ยิ่งสามารถการันตีได้เลยว่าตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก มากไปกว่านั้นยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ใช้งานได้แล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายเหลืองจะเสร็จในเร็วๆนี้ และสายสีน้ำตาลจะเป็นโครงการในอนาคต นอกจากนั้นบริเวณใกล้เคียงที่ตั้งโครงการยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้เคียงโครงการจะประกอบไปด้วย

แหล่งศูนย์การค้า

Central Eastville 3.7 กม.

The Crystal Park 4.7 กม.

Nawamin City 3.3 กม.

The Walk เกษตร-นวมินทร์ 4 กม.

Chic Repubilc 5.5 กม.

CDC 5.5 กม.

Tesco Lotus 3.7 กม.

Homepro 3.7 กม.

สถานศึกษา

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 9 กม.

Niva American International School 8 กม.

KIS International School 11 กม.

St.Stepen’s International School 9 กม.

Regent’s International School 10 กม.

Singapore International School 10 กม.

สถานพยาบาล

โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 3 กม.

โรงพยาบาลเปาโลเกษตร 5.2 กม.

โรงพยาบาลเปาโลพหลโยธิน 9.3 กม.

โรงพยาบาลวิภาวดี 7 กม.

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ 12.3 กม.

สำหรับการเดินทางจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเอกมัย-พระราม 9 มุ่งหน้าไปยังโครงการโดยใช้ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นหลัก พอเข้าสู่ถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ฝั่งขาออก) ให้ขับตรงตามทางไปเรื่อยๆ จนถึง Central Eastville แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 ซึ่งจะเชื่อมกับซอยนาคนิวาส 16 แล้วให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1 กม. จะไปเจอถนนนาคนิวาสให้เลี้ยวขวา หลังจากเข้าสู่ถนนนาคนิวาสแล้วให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1.5 กม. จะไปเจอแยกโรงไม้ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสตรีวิทยา 2  และขับตามทางประมาณ 650 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสตรีวิทยา 2 ซอย 21 หลังจากนั้นขับตามทางประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา)

มาชมการเดินทางจริงๆ กันเลยครับ เราจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเอกมัย เพื่อให้เห็นความสะดวกในการเดินทางไปยังโครงการว่ามันสะดวก และรวดเร็วขนาดไหนในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง โดยเราจะขับตรงข้ามแยกพระราม 9 ไปเพื่อจะเข้าสู่ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา กันนะครับ

หลังจากข้ามแยกมาแล้ว เราอยู่บนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ฝั่งขาออก)  ให้ขับตรงตามทางไปก่อนนะครับ

ขับตรงตามทางมาสักพักจะเจอสะพานข้ามบริเวณถนนลาดพร้าวให้ขับตรงไปก่อนนะครับ

พอลงสะพานมาแล้วอีกประมาณ 1.5 กม. จะถึง Central Eastville ทางซ้ายมือ ให้เตรียมตัวชิดซ้ายเพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15

พอเลย Central Eastville มาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 เลยนะครับ

พอเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 สำหรับซอยนี้จะเชื่อมกับซอยนาคนิวาส 16 ให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1 กม. จะไปเจอถนนนาคนิวาสให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาบริเวณแยกไฟแดงนาคนิวาส

ขับตรงตามทางมาเจอแยกถนนนาคนิวาสให้เลี้ยวขวานะครับ

เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนนาคนิวาสหลังจากนั้น ขับตามทางไปประมาณ 1.5 กม. จะไปเจอแยกโรงไม้

ขับมาเจอแยกไฟแดงบริเวณแยกโรงไม้ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสตรีวิทยา 2

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสตรีวิทยา 2

พอเข้าสู่ถนนสตรีวิทยา 2 ขับตามทางประมาณ 650 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสตรีวิทยา 2 ซอย 21

พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสตรีวิทยา 2 ซอย 21 ให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 300 เมตร

One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา) จะอยู่ทางซ้ายมือ

One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา) เป็นบ้านแฝดออกแบบมาในสไตล์ New Modern Luxury รูปทรงด้านนอกเน้นเป็นทรงเหลี่ยม และใช้สีขาวเป็นหลักทำให้รู้สึกถึงความเรียบหรู และสบาย ซึ่งเหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก มากไปกว่านั้น ทางโครงการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอยู่อาศัย จึงติดตั้งระบบ Smart Home ซึ่งจะเป็นระบบต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย ซึ่งจะติดกับตัวบ้านมาให้ทั้งหลัง จะประกอบไปด้วย

• Automatic Garage Door ระบบประตูบานเลื่อนอัตโนมัติบริเวณด้านหน้าที่จอดรถ
• Natural Ventilation ระบบไหลเวียนอากาศตามธรรมชาติภายในบ้าน
• Smart Lighting ระบบจัดการแสงภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟได้เยอะขึ้น
• Smoke Sensor ระบบตรวจจับควันไฟ ภายในบ้านเพื่อป้องกันอัคคีภัย โดยจะส่งสัญญาณเตือนผ่าน Mobile Application
• Wireless Magnetic Sensor ระบบแจ้งเตือนการงัดแงะประตู และหน้าต่าง โดยจะส่งสัญญาณเตือนผ่าน Mobile Application
• Motion Sensor Lighting ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ บริเวณบันไดทุกชั้น
• CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

• จุดเด่นสำคัญของบ้านที่นี่คือการออกแบบให้ภายในบ้านมีการถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น โดยใช้ Smart Air Ventilation ซึ่งจะเป็นระบบกรองอากาศให้บริสุทธิ์ จากลมธรรมชาติจากด้านนอกก่อนเข้ามาภายในบ้าน แล้วดันอากาศเดิมออกจากตัวบ้าน ทำให้ภายในบ้านเย็นสบาย รับอากาศบริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพ และยังประหยัดพลังงานมากขึ้น

มากไปกว่านั้นทางโครงการยังออกแบบ Façade มาเพื่อระบายความร้อน ติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกมาให้ทั่วบ้าน และยังติดตั้งหลังคาเป็นแบบระบายความร้อน เพื่อลดความร้อนจากด้านนอกบ้านเข้าสู่ภายในบ้านอีกด้วยครับ

สำหรับภาพนี้จะเห็นฟังก์ชันในภายในทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 1 ที่เป็นพื้นที่จอดจำนวน 3 คัน หน้ากว้างถึง 10 เมตร เข้ามาภายในบ้านจะเป็นในส่วนของ Living Area ที่มีความสูงถึง 6 เมตร เป็นแบบ Double Volume และ Dining Area ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะสามารถเชื่อมต่อกับสวนสีเขียวด้านนอกได้อย่างลงตัว จุดเด่นสำคัญของบ้านแบบนี้คือ จะมี Courtyard อยู่บริเวณตรงกลางบ้าน ความพิเศษคือจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อตั้งแต่ชั้นล่างจนไปถึงชั้นบนสุด ส่งผลให้พื้นที่ทุกส่วนในบ้านนี้เชื่อมต่อกันทั้งหมด พอขึ้นไปยังชั้นที่ 2 สำหรับชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้องอเนกประสงค์ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าของตัวบ้าน สำหรับห้องนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่เยอะพอสมควรเลย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ อย่างเช่นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องนั่งเล่น และอื่นๆ ตามความต้องการของผู้พักอาศัยเลยครับ  ชั้นเดียวกันบริเวณด้านหลังของตัวบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ 3 ซึ่งภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว ชั้นที่ 3 จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom ซึ่งห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะมี Walk in Closet และห้องน้ำในตัวทุกห้อง

สำหรับรูปนี้จะเป็น Floor Plan ตั้งแต่ชั้นที่ 1 – 3 ซึ่งจะบอกแต่ละจุดว่าเป็นตำแหน่งอะไรบ้าง

One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา) บ้านแฝด 3 ชั้น มีเพียง 2 หลังเท่านั้น สำหรับตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ New Modern Luxury รูปทรงเน้นเป็นทรงเหลี่ยมทันสมัย เล่นสีขาวเป็นหลัก ทำให้รู้สึงถึงความสบาย และอบอุ่น บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านออกแบบให้มีต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านได้อย่างลงตัว

ประตูด้านหน้าบ้านจะเป็นประตูอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย

เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่จอดรถจำนวน 3 คันอยู่ด้านหน้าสุด และบริเวณด้านข้างของตัวบ้านจะออกแบบให้พื้นที่เป็นรูปตัว L เริ่มตั้งแต่ด้านหน้ายาวจนไปสุดบริเวณหลังบ้าน ซึ่งจะเป็นพื้นที่ของ Water Feature, Washing Area, Patio และBalcony และบริเวณที่จอดรถจะมีห้องเก็บของ สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ประตูเข้าบ้านด้านหน้าสุดจะเป็นประตูไม้สักสูง 1.9 เมตร และให้เป็น Digital Door Lock

เข้ามาภายในบ้านจะเจอในส่วนของ Foyer ซึ่งบริเวณด้านข้างใต้บันได สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่เก็บของ เก็บรองเท้าได้อย่างลงตัวสวยงามมาก

เดินเข้ามาด้านใน แล้วมองย้อนกลับไปทางเข้าบ้าน

ถัดเข้ามาจะเป็น Powder Room ห้องน้ำชั้นล่าง

เข้ามาภายในห้องน้ำชั้นล่าง ทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของ Kohler ทั้งหมดเลยนะครับ

ถัดเข้ามาด้านใน จะเจอจุดเด่นของบ้านคือ Courtyard ความพิเศษคือทำให้พื้นที่ภายในบ้านตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบนสุด สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ซึ่งทางโครงการเลือกใช้เป็นกระจกใสช่วยให้บ้านจะดูกว้าง โปร่งเป็นพิเศษ

บริเวณ Courtyard ทางโครงการจะให้เป็นต้นเหลืองปรีดียาธร ซึ่งของจริงคือสวยมาก

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของ Living Area ที่มีความสูงถึง 6 เมตร เป็นแบบ Double Volume ส่วนบริเวณด้านข้างทางโครงการออกแบบให้เป็นประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ด้านนอกได้ เสมือนเป็นส่วนหนึ่งกับ Living Area ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่ง และกว้างเป็นพิเศษ

บริเวณ Living Area สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ประมาณ 5-6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้อย่างลงตัว

มุมนี้จะสามารถเห็น Courtyard ที่ติดตั้งเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูเย็นสบาย และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากขึ้น

มุมนี้จะเห็นตำแหน่ง Built in ชั้นวางทีวี และชั้นวางของต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่าระยะห่างของการนั่งดูทีวีกำลังพอดี ไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป

Living Area จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอก เสมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน

เมื่อเดินออกมาด้านนอกจะเป็นตำแหน่งของ Water Feature แล้วมองกลับไปภายในบ้าน จะเห็นถึงความโปร่งตั้งแต่ด้านนอกจนไปถึงบริเวณ Courtyard เลยครับ

อีกมุมมองที่มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าทางเข้าบ้าน สำหรับพื้นบริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้

มุมนี้มองไปยังด้านข้างของตัวบ้าน สำหรับบริเวณ Living Area ที่มีความสูงเป็น Double Volume สามารถที่จะมองขึ้นไปชั้นที่ 2 ได้ตามภาพนี้เลยครับ

ถัดเข้ามาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ Dining Area พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 ซม.

พื้นที่บริเวณ Dining Area สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ได้ถึง 6 ที่นั่ง หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ครับ

ติดกับ Dining Area จะเป็นพื้นที่ Open Kitchen ซึ่งทางโครงการจะ Built in ชุดครัวมาให้ตามนี้เลยครับ

ตำแหน่งของ Island จะตั้งอยู่ในบริเวณ Open Kitchen เช่นกัน สังเกตบริเวณ Courtyard ยืนอยู่ด้านในสุดของตัวบ้าน ยังสามารถมองทะลุไปยังด้านหน้าได้เลย โดยผ่าน Courtyard ที่เป็นกระจกใส ดูแล้วสวยสบายตามากๆ

นี่จะเป็นอีกจุดเด่นของบ้านนี้ บริเวณหลังบ้านจะเป็นส่วนของ Balcony และเป็นพื้นที่สวนสีเขียว ทำให้พื้นที่ด้านนอกกับด้านในบ้านเชื่อมต่อกันจนเป็นพื้นที่เดียวกันทันทีเมื่อเปิดประตูกระจกใส

ขึ้นไปชมบนชั้นที่ 2 กันต่อเลยครับ สำหรับบันไดที่นี่ออกแบบให้เป็นกระจกใส ทำให้ภายในบ้านดูกว้าง และโปร่งมากขึ้นเป็นพิเศษ

ข้อดีสำหรับบันไดที่ติดตั้งเป็นกระจกใส ทำให้สามารถมองไปยังตำแหน่งอื่นๆ ภายในบ้านได้อย่างชัดเจน

บริเวณชานพักบันได ทางโครงการออกแบบให้มีช่องแสงที่สามารถเข้ามาจากด้านนอกได้ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดูไม่ทึบอึดอัด

ขึ้นมาถึงชั้นที่ 2 บันไดที่นี่ออกแบบมาได้สวยจริงๆ

เดินเข้ามาด้านในจะเจอ Courtyard ที่เชื่อมต่อมาจากชั้นที่ 1

ถัดมาจะเป็นพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน

ห้องอเนกประสงค์นี้ สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่น ออกกำลังกาย ห้องทำงาน หรือจะทำเป็นห้องนอนก็ทำได้ ด้านในสุดจะเป็นระเบียง

ออกมาบริเวณด้านนอกระเบียง

ยืนอยู่บริเวณระเบียงมองย้อนกลับไปด้านในของห้องอเนกประสงค์

มุมนี้จะยืนมองจากชั้นที่ 2 ลงไปยังด้านล่าง โถงสูงถึง 6 เมตร

ห้องถัดมาจะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งจะอยู่บนชั้นที่ 2

เข้ามาภายในห้องนอนที่ 3 ส่วนแรกด้านหน้าสุดของห้องจะเป็น Walk in Closet และห้องน้ำในตัว

ทางโครงการจะออกแบบให้ทุกห้องนอนมี Walk in Closet มาให้เรียบร้อย โดยไม่ต้องมากั้นเองเลยครับ

ห้องน้ำในตัวจะอยู่บริเวณ Walk in Closet

เข้ามาภายในห้องน้ำ ทางโครงการจะกั้นส่วนเปียก และส่วนแห้งออกจากกันมาให้เรียบร้อย ซึ่งทางโครงการจะติดตั้ง Rain Shower มาให้ด้วยนะครับ

เข้ามาบริเวณห้องนอน ตำแหน่งของเตียง 5 ฟุตจะวางบริเวณตรงกลาง และด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะเป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้ห้องดูกว้าง และโปร่งเป็นพิเศษ

มุมนี้มองไปยังบริเวณสวนกลางบ้าน สวยงามมาก

มุมนี้มองจากห้องนอนที่ 3 บนชั้นที่ 2 สังเกตดีๆ นะครับ จากจุดนี้สามารถมองไปยัง Living Area ได้อย่างชัดเจน เสมือนพื้นที่ภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้หมด ถือว่าที่นี่ออกแบบมาได้ดีมากๆ

เราขึ้นไปชมบนชั้นที่ 3 กันต่อเลยครับ

ภาพนี้คือระหว่างเดินขึ้นไปชั้นที่ 3

ขึ้นมาถึงชั้นที่ 3 แล้วครับ

ห้องถัดมาจะเป็นห้องนอนที่ 2 ตำแหน่งของห้องจะอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน

เข้ามาภายในห้องนอนที่ 2 ส่วนแรกจะเจอ Walk in Closet ซึ่งทางโครงการกั้นพื้นที่มาให้เรียบร้อยเช่นกัน

พื้นที่ภายในห้องนอนที่ 2 สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และ Built in โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และอื่นๆ ได้

ห้องที่เห็นนั้นจะเป็นห้องน้ำภายในของห้องนอนที่ 2

ภายในห้องน้ำแยกส่วนการใช้งานได้อย่างชัดเจนเหมือนกับห้องอื่นๆ

อีกมุมภายในห้องน้ำห้องนอนที่ 2

ห้องถัดมาจะเป็น Master Bedroom ซึ่งจะอยู่ด้านหลังสุดของตัวบ้าน ระหว่างเดินทางด้านซ้ายจะเป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้พื้นที่บริเวณนี้โปร่ง และสามารถมองลงไปยังชั้นล่างได้อย่างชัดเจน

เข้ามาภายใน Master Bedroom ตำแหน่งตรงกลางห้องจะเป็นเตียง

ภายใน Master Bedroom ทางโครงการก็ออกแบบให้หน้าต่างเป็นกระจกใสถึง 2 ด้าน ทำให้ห้องดูกว้างใหญ่เป็นพิเศษ

มุมนี้ยืนอยู่ด้านในสุดของห้อง แล้วมองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง

บริเวณ Courtyard บนชั้นที่ 3 มองลงไปยังชั้นล่าง

จุดเด่นของ Master Bedroom คือจะได้ Walk in Closet ขนาดใหญ่

และภายในห้องน้ำจะให้อ่างอาบน้ำมาด้วย

ตำแหน่งของอ่างอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด

แยกสัดส่วนการใช้งานมาให้เรียบร้อย

บริเวณอ่างล้างหน้าจะเป็น HIS&HER พร้อมติดตั้งกระจกแบบเก๋ๆ มาให้ด้วยครับ

One Atelier Satriwitthaya (วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา) เป็นบ้านแฝด 3 ชั้น สไตล์ New Modern Luxury ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะมีเพียง 2 ยูนิต ความพิเศษของที่นี่จะออกแบบภายใต้แนวคิดที่ว่า “Living With Nature” ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่คุณต้องได้พักผ่อนอย่างสมดุลด้วย ดังนั้นทางโครงการจึงให้ความสำคัญในการออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างชีวิต และบ้าน โดยทุกฟังก์ชันจะเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ส่งผลให้การอยู่อาศัยในบ้านเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย พร้อมระบบ Smart Home ที่ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง โดยทุกๆระบบที่ได้มานั้น สามารถใช้งานได้จริง โดยฟังก์ชันของบ้าน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์  1 ห้องแม่บ้าน  3 ที่จอดรถ โดยมีพื้นที่ใช้สอย 395 ตร.ม. ถือว่ามีพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลยครับ

ความพิเศษของบ้านแบบนี้คือทางโครงการจะออกแบบให้ภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้ทุกส่วน โดยเน้นใช้เป็นกระจกใส และ Courtyard ที่อยู่บริเวณกลางบ้าน ทำให้ภายในบ้านกว้าง โปร่งเป็นพิเศษ แถมยังสามารถมองเห็นกันถึงแม้จะอยู่คนละชั้น นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการถ่ายเทของลมภายในบ้าน ด้วยการออกแบบ Natural Ventilation ระบบไหลเวียนอากาศตามธรรมชาติภายในบ้าน

ในส่วนของทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางลาดพร้าว ถือว่าเป็นทำเลสะดวกในการเดินทาง เพราะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักสำคัญมากมาย แถมยังใกล้กับทางด่วนพิเศษ และยังมีรถไฟฟ้าที่อยู่เคียงถึง 3 สาย ในส่วนของ Lifestyle การใช้ชีวิตในแต่ละวัน ก็ถือว่าอยู่ในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ยิ่งย้ำได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านสุดหรูในทำเลที่ใช่ และราคาจับต้องได้ ที่นี่เลยครับ วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา