ที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์อันขาดไม่ได้ คำว่าบ้าน ถือว่าเป็นสถานที่ศูนย์รวมของสมาชิกภายในครอบครัว ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความรัก สำหรับที่อยู่อาศัยนั้น จะมีอยู่หลายแบบเช่น บ้านเดี่ยว บานแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโด แต่ในอนาคตเมื่อผู้ที่ต้องการจะเริ่มชีวิตหรือแยกครอบครัวเป็นของตัวเอง เพื่อสร้างครอบครัวใหม่ วันนี้เรามีแนวการเตรียมตัวง่ายๆ ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโดมาฝากกันครับ

1.การเลือกประเภทที่อยู่อาศัย

เมื่อผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใหม่ เราตั้งมั่นใจว่าต้องการซื้อที่พักอาศัยประเภทไหน เช่น บ้านหรือคอนโด เพื่อให้เหมาะสมกับตนเองและสมาชิกในครอบครัว เดินทางง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  มีความปลอดภัยต่อทรัพย์สินและครอบครัว

2.ประเมินรายได้ของตนเอง

เมื่อเลือกประเภทที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเองและรายได้แล้ว เพื่อสอดคล้องในการทำเรื่องกู้ ไม่ว่าเราจะกู้คนเดียวหรือกู้ร่วม เราต้องคำนึงถึงรายได้ทั้งหมด ว่าใน 1 เดือน เรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ถ้ากู้ไปแล้ว เรามีความสามารถในการผ่อนชำระได้เท่าไร ไม่แนะนำให้กู้เกินตัว เพราะอาจจะผ่อนไม่ไหวในระยะยาว เนื่องจากการเร่งยอดสินเชื่อของธนาคารภายในอนาคต สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านและคอนโดควรมีเงินเก็บสำรอง 5-10 % ของราคาบ้านที่อยู่อาศัย เผื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น การค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือค่ายใช้จ่ายอื่นๆที่ตามมา

3.สร้างประวัติการเงินให้ดูดี

การสร้างประวัติทางการเงินให้ดูดีก็มีส่วนให้กู้ผ่านง่ายเช่นกัน สำหรับผู่ที่ทำงานประจำจะมีโอกาสที่กู้ผ่านง่านกว่าผู้ที่ทำงานอาชีพอิสระ โดยธนาคารจะเรียกดูสมุดบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน เราควรมียอดรายรับ-รายจ่ายให้คงที และมีเงินเหลือติดบัญชีบ้าง สมุดบัญชีธราคารเราเลขจะได้ออกมาสวยๆ  หากมีหนี้สินค้างอยู่เราควรเคลียร์ให้หมด หากเรามีประวัติเครติดดี จะทำให้ยื่นกู้ธนาคารได้ง่ายขึ้น

4.ดำเนินเรื่องเอกสารเรียบร้อย

ถ้าผู้กู้มีความพร้อมเรื่องเงินค่าใช้จ่ายครบหมดแล้ว ให้เราจัดเตรียมเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการยื่นกู้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารสมุดบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เอกสารการสมรส หรือการเปลี่ยนชื่อ ถ้าเราเตรียมเอกสารไปครบ จะทำให้ยื่นกู้ได้ไวยิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้หากผู้ที่ยื่นกู้ไม่ผ่าน ให้ผู้กู้ไปย้อนดูเรื่องประวัติการใช้จ่ายของตัวเองเป็นหลัก ว่าคงค้างอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีให้รีบเคลียร์ให้หมด หากยื่นกู้แล้วยังไม่ผ่านจริงๆ เงินจอง เงินทำสัญญาที่เราทำเรื่องไปแล้ว จะได้คืนมาแน่นอนครับ แต่จะขึ้นอยู่เงื่อนไขของแต่ละโครงการ ซึ่งบางที่จะคืนให้เต็มจำนวนหรือจะอาจคืนให้เพียง 80% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขนั้นๆ ทั้งนี้เราควรตัดสินใจให้รอบคอบ ก่อนที่จะวางเงินจองหรือเงินทำสัญญา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ตามมาในภายหลัง

ข้อมูลอ้างอิงจาก : www.ddproperty.com