ทำเลและการเดินทาง

โครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษมบริเวณปากซอยเพชรเกษม 98 ส่วนด้านหลังโครงการจะติดกับคลองบางจาก ลักษณะตัวที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า สะดวกทุกการเดินทางด้วยทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับหลายเส้นทาง เริ่มต้นจากถนนสายหลักอย่างถนนเพชรเกษมสามารถไปอ้อมน้อย, นครปฐม หรือวิ่งไปวงเวียนใหญ่ก็สะดวก ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑล สาย 2 ถนนทวีวัฒนา ถนนเพชรเกษม 69 และถนนกาญจนาภิเษกที่สามารถทะลุไปยังถนนบรมราชชนนีหรือวิ่งไปทางถนนกัลปพฤกษ์ก็ได้เช่นกัน   ส่วนทางด่วนที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครถนนกาญจนาภิเษก   ในอนาคตด้านหน้าของโครงการจะติดกับ ทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ที่สถานีพุทธมณฑลสาย 2 ด้วย

รอบๆ โครงการนี้จะมีครบทุกความสะดวก ฝั่งตรงข้ามของโครงการจะเป็น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม ที่มีทั้ง Major Cineplex, Makro Food Service, Officemate และร้านอาหารชั้นนำมากมาย   ห่างไปไม่ไกลจะมีศูนย์การค้าวิคตอเรียการ์เด้นท์ หากเราสะดวกมุ่งหน้าไปทางบางแค   เราก็จะพบกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ บางแค

วันนี้เราเริ่มต้นเดินทางกันแถวถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางแคค่ะ

วิ่งเข้าซ้ายยึดตามป้าย ถนนเพชรเกษมไว้

เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าพระราม 2 , นครปฐม

แยกเพชรเกษม 88 ให้เราตรงไป

วิ่งตรงข้ามแยกเพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 2 ไปค่ะ

ให้เราเริ่มชิดขวาช่วงประมาณ ซอยเพชรเกษม 65 เพื่อเตรียมกลับรถ

โครงการจะอยู่ทางฝั่งขวา เรากลับรถกันเลยค่ะ

เมื่อเรากลับรถมาเราจะเจอกับป้าย โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า และปั๊มน้ำมันเอสโซ่ทางซ้าย ให้เราวิ่งตรงไปก่อน

เริ่มชิดซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าโครงการนะคะ ตรงนี้เราจะมองเห็นตัวโครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 แล้วค่ะ

ทางเข้าโครงการจะเป็นอาคารสีส้มเป็นจุดสังเกตสำคัญนะคะ เราเข้าไปดูภายในโครงการพร้อมๆ กันเลย

เมื่อเข้ามาถึงเราจะพบกับสำนักงานขายเป็นส่วนแรกค่ะ โดยอาคารสำนักงานขายจะอยู่ทางขวามือ   ซึ่งติดกันกับสำนักงานขายจะเป็น โรงแรมแซนต้า อินน์

เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้ว เราจะพบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครงการ พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความอุ่นใจให้ลูกบ้านมากยิ่งขึ้น

Shop หน้าโครงการตอนนี้เป็นร้าน Café Amazon

พื้นที่ติดกันกับตัวโครงการทางทิศตะวันตก คือ ซอยเพชรเกษม 98

หน้าโครงการมีสะพานลอยให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย

ถัดมาจะเป็นป้ายรถเมล์อำนวยความสะดวก แม้วันที่ไม่ได้ใช้รถ

ใกล้ๆ กับป้ายรถเมล์จะมีสถานศึกษาอยู่ด้วย คือเทคโนโลยีกรุงธน

ฝั่งตรงข้ามจะเป็น ศูนย์การค้าอย่าง บิ๊กซี ซุเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม, เมเจอร์ เพชรเกษม, แม็คโคร และร้านอาหารชั้นนำมากมาย

เราข้ามาดูภายในบริเวณของ บิ๊กซี เพชรเกษม กันบ้างค่ะ ศูนย์รวมหลากหลายความสะดวกที่ใกล้ที่สุดของโครงการ เพียงแค่ข้ามสะพานลอยมาเท่านั้น

มี KFC ขนาดใหญ่ให้บริการ

จะมาเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ Makro Food Service หรือ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็สะดวกมากๆ

พร้อมร้านอาหารชั้นนำให้เลือกอีกเพียบ หิวเมื่อไหร่ก็ข้ามฝั่งมาได้เลย

Ground Floor: โครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 มีลักษณะที่ดินลึกเข้าไปจากหน้าโครงการ   ทางทิศใต้ติดกับถนนเพชรเกษมยาวไปจนถึงทิศเหนือเป็นคลองบางจาก ส่วนทิศตะวันตกจะอยู่ติดกับซอยเพชรเกษม 98 ค่ะ มีเนื้อที่โครงการทั้งสิ้นประมาณ 17 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารชุดพักอาศัยสูง 20-21 ชั้น จำนวน 2 อาคาร 4 ทาวเวอร์ โดยแบ่งเป็น ชุดพักอาศัยเฟส 1 (ทาวเวอร์ A และทาวเวอร์  B) จำนวน 1,352 ยูนิต และ ชุดพักอาศัยเฟส 2 (ทาวเวอร์ C และทาวเวอร์  D) จำนวนห้องชุดพักอาศัยรวม 1,320 ยูนิต วันนี้เราจะมาซูมดูรายละเอียดของ ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 กันค่ะ

Ground Floor Plan อาคาร C: ตัวอาคาร C จะเป็นรูปทรงตัว L แบบคว่ำ โดยทางทิศตะวันตกของอาคารจะเป็นส่วนของ Facility ขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 10 x 25 เมตร สวนรวมใจ สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และห้องกิจกรรมชุมชน   ภายในตัวอาคารเป็นห้องนิติบุคคลฯ ห้องกิจกรรมเด็กเล็ก และห้องสมุดมีชีวิต ภายในชั้น 1 นี้ยังมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 11 ยูนิต ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.50 ตร.ม. และ ขนาด 34.00 ตร.ม. ส่วนพื้นที่รอบโครงการทางทิศตะวันออกจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ

Floor Plan อาคาร C ชั้น 2 – 7: แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 30 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. จำนวน 25 ห้อง ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออก, ทิศตะวันตก และมีบางส่วนอยู่ทางทิศใต้ด้วย  ส่วนห้องมุมจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.50 – 27.00 ตร.ม.  และห้อง 2 Bedrooms ขนาด 35.00 – 35.50 ตร.ม. ตัวอาคารจะมีลิฟท์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ 3 จุด

Floor Plan อาคาร C ชั้น 8 – 21: แตกต่างจากชั้น 2 – 7 ที่จำนวนห้องพักอาศัยที่เพิ่มขึ้นมาอีก 9 ยูนิต โดยจะอยู่ที่บริเวณทิศเหนือ   รวมทั้งชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ 39 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. จำนวน 31 ห้อง ส่วนห้องมุมจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.50 – 27.00 ตร.ม.  และห้อง 2 Bedrooms ขนาด 35.00 – 35.50 ตร.ม. อาคาร C นี้จะมีลิฟท์โดยสารให้ทั้งสิ้น 4 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ 3 จุด

Ground Floor Plan อาคาร D: ตัวอาคาร D จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกขนานกับตัวที่ดินของโครงการ บริเวณโดยรอบอาคารจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการทั้งหมด ซึ่งทางทิศตะวันออกเป็นทางวิ่งออกกำลังกาย ทิศใต้เป็นพื้นที่จอดรถ ส่วนทิศตะวันตกเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “สวนรวมใจ”   ภายในตัวอาคารเราจะพบกับห้องจดหมายเป็นห้องนิติบุคคลฯ และห้องพักอาศัยจำนวนทั้งสิ้น 18 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.50 – 34.50 ตร.ม.

Floor Plan อาคาร D ชั้น 2 – 7 : มาต่อที่ชั้น 2 – 7 ของอาคาร D แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ 27 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio ขนาด 22.50 ตร.ม. จำนวน 15 ยูนิต ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนห้องทางทิศตะวันออกจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต ที่อาคาร D จะมีลิฟท์โดยสารให้จำนวน 3 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ 3 จุดค่ะ

Floor Plan อาคาร D ชั้น 8 – 20 : จะมีความแตกต่างจาก ชั้นที่ 2 – 7 ตรงจำนวนของห้องพักที่มากกว่า  โดยแต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 31 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 22.50 – 23.50 ตร.ม. และห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.00 – 26.50 ตร.ม.  โดยห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้อง Studio ขนาดอยู่ที่ 22.50 ตร.ม. นะคะ อาคาร D จะมีลิฟท์โดยสารอยู่ทั้งหมด 3 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ 3 จุด

Room Layout ห้อง Studio ขนาด 22.50 ตร.ม. : แปลนของห้องนี้เราจะผ่านตากันมาบ้างแล้วนะคะ เพราะแปลนนี้เป็นแบบห้องที่ฮอตที่สุดของลุมพินี   ที่เน้นเรื่องความเป็นสัดส่วนและลงตัวกับทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน   โดยเมื่อเราเข้ามาภายในห้อง   เราจะพบกับพื้นที่โล่ง   ซึ่งเราสามารถจัดโซนเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้สบายๆ เข้าไปด้านในสุดของห้องจะพบกับตู้เสื้อผ้า Built-in พื้นที่ตรงนี้สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนได้ ซึ่งพื้นที่กว้างขนาดนี้เราสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบไม่อึดอัดเลยค่ะ   มาต่อที่บริเวณปีกขวาของห้อง เราจะพบกับพื้นที่ของห้องน้ำที่ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน   พื้นที่ติดกันนี้เป็นส่วนของพื้นที่ครัวที่ติดกับระเบียง เพื่อช่วยระบายกลิ่นขณะประกอบอาหารและช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

Room Layout ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.50 ตร.ม. ห้องนี้จะใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย โดย Layout ทุกอย่างจะวางเหมือนกันกับห้อง Studio ขนาด 22.50 ตร.ม. เลย   เพียงแต่เพิ่มประตูบานเลื่อนกั้นโซนห้องนอนกับห้องนั่งเล่นให้เป็นสัดส่วนและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

Room Layout ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 35.00 ตร.ม. : ห้องนี้ถือเป็นห้องแนะนำเลยค่ะว่าเหมาะกับครอบครัว 3 คนมากๆ ห้องนี้โดดเด่นเรื่องสัดส่วนที่แบ่งโซนอย่างอย่างชัดเจน โดยเข้ามาส่วนแรกเราจะพบกับพื้นที่ครัวที่อยู่ทางด้านซ้ายของตัวห้อง ขวามือจัดเป็นมุมรับประทานอาหาร ตรงกลางห้องตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกับส่วนของระเบียง ที่ช่วยในเรื่องของแสงสว่างและช่วยให้อากาศภายในห้องถ่ายเท   ห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางปีกซ้ายของห้อง ส่วนห้องนอนเล็กอยู่ปีกขวา โดยทั้ง 2 ห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in และหน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้ห้องรู้สึกโปร่งขึ้นด้วย ส่วนพื้นที่สุดท้ายคือส่วนของห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายสุดติดกับส่วนครัวค่ะ

มาเริ่มซูมดูโครงการ ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 แบบชัดทุกมุมกันเลยค่ะ เริ่มจากซ้ายมือสุดของภาพเราจะพบกับรถไฟฟ้าสถานีพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งเป็นโครงการในอนาคต จะอยู่ติดกับทางเข้า – ออกของโครงการเลยค่ะ สะดวกมากๆ

ส่วนตึกสีส้มหน้าสุดนี้ เป็นอาคารนันทนาการสูง 2 ชั้น ศูนย์รวมพื้นที่ส่วนกลางให้บริการลูกบ้าน ส่วนอาคารด้านหลังนั้นเป็นอาคาร C ด้านทิศตะวันตก

ภาพมุมสูงของอาคารนันทนาการจะเห็นส่วนของสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 10 x 25 เมตร และพื้นที่สีเขียวของสวนรวมใจขนาดใหญ่อยู่โดยรอบบริเวณชั้น 1

มุมภาพรวมสวยๆ ของอาคาร B และอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น

เรามาเริ่มดูแบบตกแต่งห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ ห้องที่ทางโครงการให้จะเป็นแบบ No Furnished นะคะ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 35.00 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้ามาทางขวาสุดเราจะพบพื้นที่รับประทานอาหาร ถัดไปเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก พื้นที่ทางซ้ายมือที่เห็นในภาพจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นที่ให้ความรู้สึกโปร่งเพราะติดกับบริเวณระเบียง

แบบของห้องนี้เป็นแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ หากใครต้องการหาที่อยู่อาศัยขนาดสำหรับสมาชิกครอบครัว 3 คน ห้องนี้ถือว่าน่าสนใจมากเลยค่ะ เพราะมีถึง 2 ห้องนอน ส่วนของพื้นที่นั่งเล่นก็อยู่ตรงกลางพอดี ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกันตรงบริเวณนี้ได้สะดวก  มองตรงไปในภาพเราจะเห็นมุมรับประทานอาหาร ที่โครงการตกแต่งเป็นโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง ส่วนประตูทางซ้ายมือที่เห็นนั่นเป็นทางเข้าของห้องนอนเล็ก

นี่คือภายในของห้องนอนเล็กค่ะ หน้าต่างของห้องจริงที่ได้จะไม่ใช่กระจกบานใหญ่ทั้งบานแบบนี้นะคะ แต่โครงการจะติดตั้งเป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อนให้ค่ะ  ในห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า 1 ใบได้สบายๆ

เมื่อเราเดินตรงเข้ามาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่นเราจะพบกับส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือ ประตูทางซ้ายจะเป็นประตูห้องน้ำและถัดไปเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ค่ะ และขวามือสุดในภาพจะเป็นจุดวางโทรทัศน์

ทางโครงการติดตั้งชุดสุขภัณฑ์คุณภาพจาก American Standard พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ที่วางสบู่ และโถสุขภัณฑ์ ส่วนอ่างล้างหน้าจาก Charmer

พื้นในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนพื้นที่อื่นๆ ในห้องจะปูพื้นด้วยลามิเนตค่ะ

และมาที่จุดสุดท้ายของห้องแล้วค่ะ นี่เป็นห้องนอนใหญ่ที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ทั้งนี้ทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่มาให้พร้อมกับห้องเลยค่ะ  ห้องนอนนี้ก็จะติดกับหน้าต่างบานเลื่อนเหมือนกันค่ะ (ห้องที่ทางโครงการให้จะไม่ใช่หน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่บานเดียวแบบในรูปนะคะ )

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้จะมีลักษณะแบบนี้เลยนะคะ สูงจนถึงเพดานเลย ส่วนไฟในห้องจะเป็นแบบดาวน์ไลท์

มาดูห้องอีกแบบกันบ้างค่ะ ห้องนี้เป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยกำลังพอดี

เข้ามาภายในห้องเราจะพบกับพื้นที่นั่งเล่นที่มีระยะวางโทรทัศน์และจุดวางโซฟาที่ห่างกันพอสมควร ไม่ทำร้ายสายตาแน่นอน

นอกจากจะวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งได้แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะเล็กๆ สำหรับจัดเป็นมุมอ่านหนังสือด้วยค่ะ

พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ค่อนข้างมาก ทำให้เรารู้สึกถึงความโปร่ง ทางซ้ายมือที่เราเห็นจะเป็นประตูบานเลื่อนสำหรับกั้นโซนห้องนอน ส่วนทางเดินตรงไปจะพบกับพื้นที่ครัว

ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ ช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ได้ดี อีกทั้งยังโปร่งช่วยในเรื่องของแสงจากหน้าต่างห้องนอนให้สว่างมาถึงห้องนั่งเล่นด้วย ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าตอนกลางวัน

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันบ้างค่ะ ภายในตกแต่งด้วยเตียงนอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in (ตู้เสื้อผ้านี้ทางโครงการ Built-in ให้เลยนะคะ)

มองจากห้องนอนออกไปด้านนอกบ้างค่ะ เราจะเห็นว่าตัวตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in ให้นั้นมีดีไซน์และฟังก์ชั่นที่สวยทั้งภายในและภายนอกเลย น่าใช้งานมากๆ

มาต่อกันที่พื้นที่ส่วนครัวค่ะ ทางโครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานให้ด้วยนะคะ ผิว Top ครัวเป็นลามิเนต ทางขวามือเป็นระเบียง ส่วนประตูทางซ้ายจะเป็นประตูของห้องน้ำ

พื้นที่ตรงระเบียงนี้จะติดกับส่วนของครัวช่วยในเรื่องการระบายกลิ่นขณะทำอาหารได้ดี

พื้นของห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก พร้อมชุดสุขภัณฑ์จาก American Standard และอ่างล้างหน้าจาก Charmer

มาที่ห้องแบบสุดท้ายกันค่ะ ห้องนี้เป็นห้องแบบ Studio ขนาด 22.50 ตร.ม. แม้จะมีขนาดเล็กแต่ฟังก์ชั่นภายในห้องครบจบในห้องเดียวเลยค่ะ เข้ามาถึงพื้นที่ส่วนแรกที่เราพบจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ถัดไปเป็นโซนของห้องนอน

ตรงบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้ ทางโครงการตกแต่งด้วยโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 1 ชุด นอกจากนั้นยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะอเนกประสงค์ตัวเล็กๆ ได้อีกด้วย พร้อมกั้นโซนของพื้นที่ส่วนนี้ด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ภายในห้องนอนตกแต่งด้วยเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ (ทางโครงการจะติดตั้งหน้าต่างลักษณะนี้มาให้เลย บานใหญ่มาก) ห้องก็จะได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ ช่วยให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า และช่วยให้ความรู้สึกโล่งกับผู้พักอาศัยด้วย ดวงไฟที่ทางโครงการให้จะเป็นแบบดาวน์ไลท์ค่ะ

เรายังอยู่ในส่วนของห้องนอนนะคะ มองจากหัวเตียงมา เราจะพบกับตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้ ส่วนพื้นที่ที่เหลือเราก็สามารถตกแต่งเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดีค่ะ

มาดูที่ส่วนครัวกันบ้างค่ะ ทางขวามือในภาพจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวแบบที่โครงการให้เลย มีอ่างล้างจานและชั้นวางของด้านบนติดตั้งมาให้ ผิวของ Top ครัวเป็นลามิเนต  ส่วนทางซ้ายมือโครงการตกแต่งด้วยโต๊ะรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้จะติดกับระเบียงซักล้างช่วยในเรื่องของการระบายกลิ่นอาหารได้เป็นอย่างดี และเนื้อที่ตรงระเบียงก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้พอดีเลยค่ะ

ต่อกันที่ผิว Top ครัวลามิเนตและอ่างล้างจานค่ะ ขนาดของอ่างล้างจานไม่เล็กจนเกินไป เหมาะมากสำหรับผู้ที่มาอยู่อาศัยคนเดียว

มาที่พื้นที่ส่วนสุดท้ายของห้องกันบ้างค่ะ นั่นก็คือห้องน้ำนั่นเอง ทางโครงการให้อ่างล้างหน้าจาก Charmer ฝักบัวจาก American Standard พร้อมที่วางสบู่

โถสุขภัณฑ์คุณภาพจาก American Standard พื้นของห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซมิกโทนสีนี้ค่ะ

และนี่เป็นรายละเอียดของแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์ Built-in ของแบบห้องต่างๆ ที่ทางโครงการมีไว้ให้เลือกตกแต่งนะคะ

รูปแบบและสเปคของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็จะเหมือนกันกับภานในห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งไว้เลย

หากเราซื้อห้องเปล่าแล้วก็ไม่ต้องออกไปวัดขนาดพื้นที่เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้เหนื่อยแล้วล่ะค่ะ เพียงเลือกซื้อชุดตกแต่งพร้อมอยู่ ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้สบายๆ เลย ไม่ต้องแต่งเพิ่มแล้ว

โครงการ Lumpini Park Phetkasem 98 Phase 2 (ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2) ตัวที่ดินมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า   ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษมบริเวณปากซอยเพชรเกษม 98 ด้านหลังของโครงการติดกับคลองบางจาก   การคมนาคมสะดวกเพราะทำเลนี้สามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง เริ่มต้นจากถนนเพชรเกษมสามารถวิ่งไปยังโซนอ้อมน้อย – นครปฐม หรือไปทางโซนวงเวียนใหญ่ก็สะดวก   ทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑล สาย 2 ถนนทวีวัฒนา ถนนเพชรเกษม 69 และถนนกาญจนาภิเษกที่สามารถทะลุไปยังถนนบรมราชชนนีหรือวิ่งไปทางถนนกัลปพฤกษ์ก็ได้เช่นกัน      หากคุณเป็นคนที่ทำงานในเมืองก็ไม่มีปัญหา เพราะสามารถขับรถขึ้นทางด่วนก็สามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้ทันที   โดยทางด่วนที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครถนนกาญจนาภิเษก   หรือเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวก   ซึ่งสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดตอนนี้คือสถานีบางหว้า ห่างจากโครงการประมาณ 8 กม. และในอนาคตยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ที่สถานีพุทธมณฑลสาย 2   โดยทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่ติดกับทางเข้า-ออกโครงการเลยด้วย   ด้านหน้าโครงการสามารถเลือกเดินทางโดยรถเมล์สาธารณะ หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็ง่ายมากๆ เลยค่ะ   สิ่งแวดล้อมรอบโครงการครบครันทุกงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล   ใกล้กับโครงการจะมีสถานศึกษาอย่างเทคโนโลยีกรุงธนและโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า   ฝั่งตรงข้ามโครงการเราจะพบกับร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือจะเลือกช้อปสินค้าและบริการในบิ๊กซี          ซุเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม ที่มีบริการทั้งโรงหนัง Major Cineplex, Makro Food Service, Officemate และร้านอาหารชั้นนำมากมาย   ห่างไปไม่ไกลก็ยังมีศูนย์การค้าวิคตอเรียการ์เด้นท์อีกด้วย   หรือถ้าเรามุ่งหน้าไปทางบางแคก็จะพบกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ บางแค

ตัวโครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 17 ไร่ มีจำนวนห้องชุดพักอาศัยรวม 2,672 ยูนิต แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 20 – 21 ชั้นจำนวน 2 อาคาร 4 ทาวเวอร์ แบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟส 1 ประกอบด้วยทาวเวอร์ A และทาวเวอร์ B ส่วนเฟส 2 ประกอบด้วยทาวเวอร์ C และทาวเวอร์ D   พื้นที่จอดรถสามารถจอดที่เฟส 1 ได้ประมาณ 390 คัน ส่วนเฟส 2 จอดได้ประมาณ 440 คัน หรือคิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน) Type ห้องมีทั้งหมด 3 แบบ คือ ห้อง Studio ขนาด 22.50 ตร.ม., ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.50 ตร.ม. และห้อง 2 Bedrooms ขนาด 35.00 ตร.ม.   โดยห้องที่ทางโครงการให้นั้นจะเป็นห้องเปล่า(No Furnished)   ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งตู้เสื้อผ้า Built-in, เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน, ชุดสุขภัณฑ์ของ American Stand และอ่างล้างหน้าจาก Charmer ให้   หรือเลือกซื้อห้องแบบเฟอร์นิเจอร์แต่งครบจากหลากหลายแพ็คเก็จเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการมีบริการให้ลูกค้าเลือกซื้อพร้อมห้อง,  Floor to Ceiling ของห้องอยู่ที่ 2.4 เมตร   ในเรื่องของ Facilities นั้น  ทางโครงการจะให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวของสวนรวมใจเป็นหลัก ช่วยให้ความรู้สึกร่มรื่นทั้งโครงการ   นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องจดหมาย, ห้องสมุด, สนามเด็กเล่น, ห้องเด็กเล็ก, ลานออกกำลังกายกลางแจ้ง, สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. โครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 นี้คาดว่าจะสร้างเสร็จปลายปี 2560 นี้แล้ว   หากคุณกำลังมองหาคอนโดในย่านนี้หรือใกล้เคียง สามารถเข้าชมโครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 ได้แล้ววันนี้ในราคาเริ่มต้นเพียง 899,000 บาท* เท่านั้น   ต้องรีบกันหน่อยแล้วแหละ