ทำเลและการเดินทาง

โครงการ KnightsBridge PRIME Onnut ตั้งอยู่ในถนนอ่อนนุชช่วงต้น(ซอยสุขุมวิท 77) ใกล้กับถนนสุขุมวิท เป็นหนึ่งในทำเลฮอตของกรุงเทพฯ ที่มีผู้พักอาศัยอยู่มากมายตลอดระยะทาง 12 กิโลเมตรของถนน จนเชื่อมต่อกับถนนลาดกระบัง ทำให้ Developer หลายเจ้าต่างจับจองพื้นที่แถบนี้สร้างคอนโดมิเนียมไปจนถึงบ้านเดี่ยว เพื่อรองรับความต้องการอยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี

พื้นที่ของโครงการมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าโครงการที่ติดกับถนนฝั่งขาเข้าจะเป็นทิศเหนือ อยู่ห่างจากบิ๊กซี     อ่อนนุชเพียงอาคารพาณิชย์ 5 คูหากั้น

อ่อนนุชถือเป็นสุขุมวิทช่วงกลางที่มีความสำคัญ ด้วยศักยภาพของทำเลที่ใกล้กับใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ-เอกมัย ในเวลาไม่เกิน 6 นาที และยังสามารถเดินทางออกนอกเมืองอย่างไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จุดขึ้น-ลง ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดมีอยู่ 2 จุด คือ ซอยสุขุมวิท 50 ด้านข้างโลตัส อ่อนนุช และอีกจุดสามารถขึ้นทางด่วนได้โดยขับรถผ่าน HABITO ฝั่งตรงข้ามโครงการ KnightsBridge PRIME Onnut ทะลุออกทางด้านหลังก็จะสามารถกลับรถ แล้วขึ้นทางด่วนได้เช่นกัน หรือจะเลือกการเดินทางเป็นรถไฟฟ้าก็สามารถเดินจากโครงการได้ประมาณ 500 เมตร อีกทั้งในอนาคตก็กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มีสถานีอยู่บริเวณสี่แยกศรีนุช (สี่แยกที่ตัดกันระหว่างถนนอ่อนนุช กับถนน      ศรีนครินทร์) ซึ่งหากเปิดให้ใช้บริการเมื่อไรก็จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร

ย่านนี้ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นคนไทยเอง หรือชาวต่างชาติ เพราะใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต โลตัส บิ๊กซี ไปจนถึง Street Food ก็มีให้เลือกซื้อ เลือชิมกันอยู่ตลอดทั้งวัน ฝั่งตรงข้ามโครงการก็มี HABITO เป็น Community Mall ที่สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่วัยทำงานได้ดี หากอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศแถวอ่อนนุชไปเดินห้างสรรพสินค้าไม่ว่าจะในเมืองอย่างเอกมัย-สยามก็เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้า หรือจะเลือกเดินห้างสรรพสินค้าบนถนนศรีนครินทร์อย่าง ธัญญาพาร์ค, ซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์ปาร์ค ก็ไม่ไกล

ที่สำคัญ คือ Century Movie Plaza 2 โปรเจคยักษ์ใหญ่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโลตัส ติด BTS อ่อนนุช เตรียมเปิดให้บริการช่วงเดือนเมษายน ปี พ.ศ.2561 โดยจะเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ และโรงแรม ใครหลายคนต่างก็เชื่อว่าการมาของ Century Movie Plaza 2 จะสามารถทำให้ย่านอ่อนนุชมีความคึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีก

เริ่มต้นการเดินทางจากถนนสุขุมวิท ขาออก จากทองหล่อ

ผ่านแยกเอกมัย

ผ่านพระโขนง

ตรงมาเรื่อย ๆ ตามถนนสุขุมวิท เมื่อเลยพระโขนงมาแล้วจะขึ้นสะพานข้ามคลอง

พอลงสะพานแล้วให้ชิดซ้ายไว้

แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกอ่อนนุช

เข้าสู่ถนนอ่อนนุช หรือซอยสุขุมวิท 77 เมื่อเห็นบิ๊กซีทางขวามือ ให้ชิดขวาไว้

เลยบิ๊กซีมาเพียง 40 เมตร ก็จะพบกับโครงการ เลี้ยวขวาเข้าไปจอดรถหลัง Sale Office ได้เลย

GROUND FLOOR หน้าโครงการหันไปทางทิศเหนือ ติดกับถนนอ่อนนุช ขาเข้า รั้วโครงการโดยรอบสูง 6 เมตร ตัวอาคารอยู่กลางแปลงที่ดิน ถัดจาก Secret Garden ด้านหน้าโครงการ ทำให้ลดเสียงดังจากภายนอกก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร ให้ความสงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้านในสุดของที่ดินทางทิศใต้เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ

ภายในอาคารบริเวณโถ่งล็อบบี้มีพื้นที่กว้างสำหรับรับแขก กลางอาคารทางซ้ายมือมีลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้นทั้งหมด 4 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว และบันไดหนีไฟ 2 จุด

Floor Plan ชั้น 37-38 ส่วนกลางที่มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 14.5*20 เมตร ยื่นออกจากตัวอาคารไปทางทิศเหนือ ด้านหน้าอาคาร พร้อม THE DUSK RELAX POOL & POOL SPA และ THE DAWN POOL BAR อีกทั้งยังมี EXECUTIVE MEETING ROOM, SKY IRISH SOCIAL CLUB, SKY CO-CULINARY SPACE ให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน หรือจะนั่งชมบรรยากาศสวย ๆ ในช่วงเย็นทางด้านทิศตะวันตกของโครงการ ซึ่งสามารถมองเห็นไปถึงโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า ทางฝั่งทิศตะวันตกของอาคาร ด้านหลังสุดของอาคารทางทิศใต้เป็น DYNAMIC FITNESS&BOXING GYM มีบันไดเชื่อมต่อไปจากชั้น 37 ไปยังชั้น 38 ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งส่วนกลางที่ทางออริจิ้นจัดมาให้เต็ม ๆ ทั้ง 2 ชั้น

Floor Plan ชั้น 16 และ ชั้น 17-36 จะเป็นส่วนห้องพักอาศัยโซนแรก ห้องพักจะหันหน้าออกทางทิศตะวันออก ได้วิวฝั่งชานเมืองตั้งแต่ถนนศรีนครินทร์-ลาดกระบัง และทิศตะวันตก เป็นทิศที่ได้วิวดีที่สุดของโครงการ เพราะจะได้วิวในตัวเมือง และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของบางกระเจ้า มีเพียงห้องมุมด้านหน้าโครงการที่จะได้วิวทางทิศเหนือ และห้องมุมด้านหลังจะได้วิวทางทิศใต้ด้วย ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีทั้งหมด 23 ยูนิต/ชั้น ลิฟท์ทั้ง 4 ตัว อยู่ทางทิศตะวันออกกลางอาคาร รวมถึงบันไดหนีไฟ 2 จุดก็อยู่ทางทิศตะวันออกเช่นเดียวกัน

Floor Plan ชั้น 39-46 และชั้น 47 เป็นส่วนห้องพักอาศัยโซนชั้นบนสุดของโครงการ ต่อจากส่วนกลางที่ชั้น 37-38 โซนนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เพราะแต่ละชั้นจะมีทั้งหมดเพียง 13 ยูนิต/ชั้น ซึ่งห้องแบบ 2 Bedroom จะมีเฉพาะในโซนนี้ และเป็นห้องมุมทั้งทางทิศเหนือ และทิศใต้ ลิฟท์ทั้ง 4 ตัว อยู่ทางทิศตะวันออกกลางอาคาร บันไดหนีไฟอยู่ทางทิศตะวันออก 1 จุด และทิศตะวันตกอีก 1 จุด

Unit Plan 22 ตร.ม. 1 Bedroom ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ KnightsBridge PRIME Onnut เมื่อเปิดประตูห้องจะพบกับห้องครัวปิดก่อนเป็นอันดับแรก ขวามือเป็นเคาน์เตอร์ครัว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง ก่อนเข้าโซนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ เมื่อเข้าสู่โซนห้องนอนจะมีลักษณะเหมือนกับห้องแบบ Studio คือมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่ในส่วนเดียวกัน ด้านขวามือปลายเตียงเริ่มจากเคาน์เตอร์วางทีวี โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้า ด้านข้างตู้เสื้อผ้าจะเป็นระเบียงห้อง ส่วนด้านซ้ายมือของห้องจะเริ่มจากโซฟา เตียงขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่ข้างหน้าต่าง

Unit Plan 26 ตร.ม. 1 Bedroom เริ่มจากส่วนแรกที่ห้องนั่งเล่น ซ้ายมือหลังประตูเป็นเคาน์เตอร์วางทีวี ซ้ายมือตรงข้ามกันโซฟา ถัดจากโซฟาเป็นโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อไปที่ห้องนอนโดยกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ส่วนทางฝั่งซ้ายมือของห้อง หากเลี้ยวซ้ายจากห้องนั่งเล่น ตรงกลางจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทำงาน ซ้ายมือเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง ขวามือเป็นห้องห้องปิด และระเบียง

Unit Plan 31 ตร.ม. 1 Bedroom Plus แปลนห้องนี้จะคล้ายกับแปลนห้องขนาด 26 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูห้องจะพบกับห้องนั่งเล่นก่อน หลังประตูทางซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์วางทีวี ขวามือฝั่งตรงข้ามกันเป็นโซฟา ถัดจากโซฟาเป็นโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อลึกเข้าไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ส่วนทางด้านซ้ายของห้อง หากเลี้ยวซ้ายมาจากห้องนั่งเล่น จะพบกับห้องครัวเปิด ซ้ายมือเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง ขาวมือคือห้องอเนกประสงค์ สามารถดัดแปลงทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนอีก 1 ห้องก็ได้ และระเบียง

Unit Plan 54 ตร.ม. 2 Bedroom ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ KnightsBridge PRIME Onnut ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของโครงการ คือโซนชั้นสูง และเป็นห้องมุม เริ่มจากประตูห้อง ส่วนแรกจะพบกับห้องครัวปิด หลังประตูห้องซ้ายมือจะมีตู้สำหรับเก็บของให้ ขวามือเป็นเคาน์เตอร์ครัว กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ และเชื่อมเข้าสู่พื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่  ซ้ายมือห้องแรกจะเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง ห้องทางขวามือฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องนอนแรก มีระเบียงห้อง กลางห้องทางขวามือเป็นห้องนั่งเล่น มีพื้นที่วางโต๊ะทานอาคารขนาด 4-6 คนได้ และห้องที่ 2 ทางซ้ายมือ หลังโต๊ธทานอาหาร คือ Master Bedroom เมื่อเดินเข้าห้องจะพบกับเตียงอยู่ด้านขวามือข้างหน้าต่าง ปลายเตียงเป็นเคาน์เตอร์วางทีวี และตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำในตัวแยกส่วนเปียก-แห้ง

ครั้งนี้เราจะพามาดูห้องตัวอย่างของโครงการ KnightsBridge PRIME Onnut ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้อง มีเพียงห้องขนาด 54 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ จะไม่มีห้องตัวอย่างให้ชมค่ะ เรามาเริ่มดูห้องแรกกันเลยค่ะ กับห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ 22 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom

ประตูห้องเป็นแบบ Digital Door Lock ทุกยูนิต เข้ามาในห้องก็จะพบกับห้องครัวเป็นส่วนแรก ซ้ายมือเป็นช่องสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ครัวทั้งหมด ขวามือเป็นห้องน้ำ ใช้ไฟดาวน์ไลท์ ตรงกลางกั้นโซนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 2 บาน สูงชิดฝ้าเพดาน 3 เมตร ซึ่งความสูง Floor to Ceiling 3 เมตร ทุกยูนิต ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ KnightsBridge PRIME Onnut

เคาน์เตอร์ครัวมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่ตรงกลาง ซ้าย-ขวา เป็นตู้และชั้นเก็บของ ซึ่งทุกห้องจะได้แบบนี้ค่ะ

Top เคาน์เตอร์ครัว ใช้วัสดุหินสังเคราะห์

ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ช่วยป้องกันน้ำกระเด็นออกเวลาล้างจาน

ทุกยูนิตจะได้ Hood+Hob แบบ 2 หัว ด้วยค่ะ

ตู้ด้านบนเคาน์เตอร์ครัวเข้าชุดแบบนี้ ทางดครงการก็ให้มาด้วย

เข้าไปดูในห้องน้ำกันบ้างค่ะ ชุดสุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ COTTO ทั้งหมด พื้นห้องน้ำ และผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

อ่างล้างหน้าใช้แบบแขวนผนัง ด้านล้างมีช่องสำหรับเก็บของ

นอกจากสุขภัณฑ์ กับอ่างล้างหน้าที่เราจะได้ ทางโครงการก็มีกระจกหน้าอ่างล้างหน้า กระจกกั้นส่วนเปียก-แห้ง และ Rain Shower มาให้ครบเลยค่ะ

กลางห้องมีประตูกระจกขอบอลูมิเนียมสีดำ ระบบ Single Lock กั้นระหว่างห้องครัวส่วนแรกของห้อง กับโซนห้องนอน

เข้าสู่โซนห้องนอนที่รวมพื้นที่ห้องนั่งเล่นเข้าไปด้วย พื้นในส่วนห้องนอนปูด้วยลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร

มีพื้นที่วางโซฟาขนาด 2 คนนั่ง ข้างหัวเตียง และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกลางขนาดเล็กได้

ตรงข้ามโซฟาเราจะได้เคาน์เตอร์วางทีวีแบบ Built in ยาวตลอดแนวผนังชิดกับตู้เสื้อผ้าทางด้านขวา ซึ่งสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก

ถัดมาเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งห้องขนาด 1 Bedroom จะให้เครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU แบรนด์ไดกิ้นมาด้วย ซึ่งขนาดของเครื่องปรับอากาศแล้ว สำหรับห้องขนาด 22 ตร.ม. ก็เพียงพอแล้วค่ะ

ด้วยความสูงของฝ้าเพดานขนาด 3 เมตร ทางออริจิ้นไม่ได้ทำมาแค่เพียงให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัดเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีการคิดมาเพื่อลูกบ้านด้วยการใช้ประโยชน์จากความสูงนี้ โดยทำตู้เสื้อผ้า Built in ตรงปลายเตียงให้สูงตามไปด้วย เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น

ข้างเตียงยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างได้ด้วยนะคะ

หน้าต่างใช้กระจกบานกระทุ้ง ขอบอลูมิเนียมสีดำ ตรงนี้ถือเป็นมุมทำงานที่ได้วิวเมืองสวย ๆ จากห้องของเราเอง แล้วยิ่งถ้าได้ห้องทางฝั่งทิศตะวันตกก็จะเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงบางกระเจ้าด้วยค่ะ ซึ่งวิวแบบนี้หาได้ยากมาสำหรับทำเลย่านอ่อนนุช

ถัดจากตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นระเบียงห้อง กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 บาน ขอบอลูมิเนียมสีดำ ระบบ Single Lock

ราวระเบียงใช้เหล็กโปร่งสีดำ คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศถูกแขวนไว้ด้านบนหันหน้าออกนอกอาคาร

ภาพสุดท้ายสำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 22 ตร.ม. ค่ะ แม้จะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ แต่พอมาดูห้องตัวอย่าง เรากลับไม่รู้สึกอึดอัดเลย เป็นขนาดที่กำลังพอดีสำหรับลูกบ้านวัยเรียน หรือวัยทำงานที่อาศัยอยู่คนเดียว

ต่อมาที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม.

โซนแรก คือ ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ตรงกลางกับพื้นที่ฝั่งซ้ายมือหลังเคาน์เตอร์ทีวี ก่อนจะกั้นห้องนอนด้วยกระตูกระจก ปูพื้นด้วยลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร ใช้ไฟดาวน์ไลท์ Floor to Ceiling 3 เมตร

ขวามือสามารวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางขนาดเล็ก

ตรงข้ามโซฟาเป็น Built in เคาน์เตอร์วางทีวี

ข้างเคาน์เตอร์วางทีวี หลังประตูห้องก็มี Built in ตู้เก็บของให้ ซึ่งก็ยังคงใช้ประโยชน์จากความสูงของเพดานด้วยการทำตู้เก็บของนี้ใช้สูงชิดฝ้าเพดาน เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น

ถัดจากห้องนั่งเล่นก็จะมีพื้นที่ตรงกลางห้องซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อพื้นที่ของห้องทางฝั่งซ้าย

ตรงข้างโซฟานี้ยังมีพื้นที่เหลือ เหมาะสำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 2 ที่นั่งได้ค่ะ

ต่อไปเข้าไปดูพื้นที่ในห้องนอนกันบ้าง

โซนห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 บาน ขอบอลูมิเนียมสีดำ ระบบ Single Lock

พื้นที่เฟอร์นเจอร์ชิดผนังทางด้านขวา

Built in ตู้เสื้อผ้าสูง 3 เมตร อยู่ทางขวามือของห้องติดกับประตูกระจก ทำให้มีพื้นที่พอสมควรก่อนจะถึงเตียงนอน

เตียงขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เล็ก ๆ ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างห้อง ทำให้ไม่อยู่ชิดกระจกมากเกินไป ช่วยให้ช่วงกลางวันเตียงจะได้ไม่ร้อนจนเกินไป

หน้าต่างข้างเตียงใช้กระจกบานกระทุ้ง ขอบลูมิเนียมสีดำ

กระจกถูกออกแบบมาให้คำนึงถึงตอนนอนมองวิวด้านนอกได้แบบพอดีกับสายตา ถ้าเป็นห้องทิศตะวันออกจะได้วิวทางฝั่งนอกเมืองทางถนนศรีนครินทร์-ลาดกระบัง แต่ถ้าห้องทางทิศตะวันตกจะได้วิวในเมือง ซึ่งตอนกลางคืนจะเห็นแสงไฟสวยมาก และยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ออกจากห้องนอนไปดูอีกฝั่งของห้องกันบ้างค่ะ

กลางห้องตรงข้ามกับพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารจะมี Built in โต๊ะทำงานพร้อมกับชั้นวางของสูงชิดเพดานห้องมาให้อีกค่ะ

ข้างขวาของโต๊ะทำงานเป็นห้องครัวปิดค่ะ

ห้องครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 บาน ขอบอลูมิเนียมสีดำ เฟอร์นิเจอร์วางไว้ชิดด้านซ้ายทั้งหมด ซึ่งห้องครัวปิดแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารเป็นประจำ โดยเฉพาะอาหารไทยที่มีกลิ่นฉุน การที่มีประตูกั้นแยกจากส่วน     อื่น ๆ จะทำให้ป้องกันกลิ่นที่จะฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้

ซ้ายมือติดกับประตูกระจกมีช่องสำหรับวางตู้เย็น ต่อด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์

ซิงค์ล้างจานแบบฝังเคาน์เตอร์

มีตู้เก็บของอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว Built in มาเข้าชุดกัน

ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 บาน ขอบอลูมิเนียมสีดำ ระบบ Single Lock

ราวระเบียงกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ใต้คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ

สุดท้ายเข้ามาดูในห้องน้ำ อยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะอาหาร ตรงข้ามกับห้องครัว

กระจกกั้นส่วนเปียก Rain Shower พร้อมกระจกหน้าอ่างล้างหน้าแบบยาวตลอดแนวผนัง ทั้งหมดนี้ทางโครงการให้มาครบเลยค่ะ

ห้องตัวอย่างสุดท้าย 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม.

ห้องขนาด 31 ตร.ม. นี้จะวางแปลนเหมือนกันกับห้องขนาด 26 ตร.ม. โซนแรกของห้อง คือ ห้องนั่งเล่น

ด้านขวาสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็ก

ตรงข้ามโซฟาเป็น Built in เคาน์เตอร์วางทีวี

และมี Built in ตู้เก็บขนาดสูง 3 เมตร ติดกับเคาน์เตอร์วางทีวี

ถัดจากโซฟาเข้าไปด้านในห้อง มี Built in โต๊ะทานข้าวถูกออกแบบมาให้สามารถพับเก็บ ย่อพื้นที่ลงได้ ตัวนี้โครงการก็ให้มาอีกค่ะ ถัดไปข้างซ้ายมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น

โซนห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ขอบอลูมิเนียมสีดำ

เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนชิดทางขวามือของห้อง เริ่มจาก Built in ตู้เสื้อผ้า และเตียง

ตู้เสื้อผ้าสูง 3 เมตร ชิดฝ้าเพดาน

เตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องทางเดินเล็ก ๆ ฝั่งใกล้กับหน้าต่าง

หน้าต่างใช้กระจกบานกระทุ้ง ขอบอลูมิเนียมสีดำ

หัวเตียงห่างจากตู้เสื้อผ้าเล็กน้อย

ออกจากห้องนอนมาดูทางฝั่งซ้ายของห้อง ตรงข้ามกับโต๊ะทานข้าวกันบ้างค่ะ พื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำข้างซ้าย กับห้องครัวข้างขวา คือ ครัวเปิด

เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ มาพร้อม Hood+Hob แบบ 2 หัว และตู้เก็บของด้านบน เหมาะสำหรับการทำครัวแบบเบา ๆ ใช้งานครัวไม่หนักมาก ตรงนี้ก็ถือว่าเพียงพอค่ะ

ต่อมาที่ข้างขวาของครัว เป็นห้องอเนกประสงค์ กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ขอบอลูมิเนียมสีดำ

ห้องนี้ทางโครงการได้ตกแต่งเป็นห้องทำงาน ให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วห้องนี้สามารถดัดแปลงเป็นห้องอื่นได้อีก ตามแต่เจ้าของห้องเลยค่ะ เช่น ห้องทานอาหาร, ห้องนอนอีก 1 ห้อง เป็นต้น

ถ้าทำห้องนี้เป็นห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้อง ก็สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ ชิดริมกำแพงฝั่งนี้ได้ โดยยังมีพื้นที่ว่างเดินออกไประเบียงได้

ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจก ขอบอลูมิเนียมสีดำ ระบบ Single Lock

ราวระเบียงกั้นด้วยเหล็กโปร่งสีดำ มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ใต้คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ

ออกมาจากห้องอเนกประสงค์ สุดท้ายจะเป็นห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง กั้นด้วยกระจกใส และมี Rain Shower

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง และกระจกติดผนัง สุขภัณฑ์อยู่ถัดไปทางซ้าย

KnightsBridge PRIME Onnut โครงการลำดับที่ 40 จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการประมาณ 2,553 ล้านบาท คอนโดมิเนียมสูง 47 ชั้น ซึ่งหากเสร็จสมบูรณ์เมื่อไรก็จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในย่านอ่อนนุช เน้นความสงบเงียบ เป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้าน ด้วยรั้วโครงการทุกด้านสูงถึง 6 เมตร ตัวอาคารอยู่กลางแปลงที่ดิน มีสวนสีเขียวอยู่ด้านหน้า มาพร้อมกับที่จอดรถแบบอัตโนมัติ และส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริง ถึง 3 ชั้นเต็ม ๆ รวมแล้วกว่า 1 ไร่ ให้ความรู้สึกถึง “ที่สุดของการใช้ชีวิต” ตามคอนเซ็ปต์ที่ทางออริจิ้นตั้งใจมอบให้แก่ลูกบ้าน ภายในห้องพักอาศัยทุกห้อง ฟ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ทุกยูนิต ที่ไม่ได้ให้เพียงความรู้สึกโปร่ง สบายสำหรับผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังใส่ใจรายละเอียด ใช้ประโยชน์กับสิ่งที่ออกแบบมาให้ได้มากที่สุด อย่างตู้เก็บของ Built in สูงเท่าฝ้าเพดาน ที่ถูกใส่มาให้ด้วย แม้ว่าทางโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบ Fitted แต่ก็เกือบจะเป็นแบบ Fully Furnished เพราะให้มาเยอะมาก ห้องพักอาศัยจะหันหน้าทางทิศตะวันออก และมีไฮไลท์อยู่ทางทิศตะวันตก เพราะจะได้วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างบางกระเจ้าอยู่ไม่ไกล

อ่อนนุช เป็นหนึ่งในทำเลที่อยู่อาศัยยอดนิยมในกรุงเทพฯ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองออกมาไม่ไกล จึงทำให้ยังคงมีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกอยู่ อย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอ่อนนุช ใช้เวลาเดินทางเข้าทองหล่อ-เอกมัย ไม่เกิน 6 นาที ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ถึง 2 จุด ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองมักจะมีข้อด้อยตรงที่ไกลจากทางด่วน บนถนนอ่อนนุช หรือซอยสุขุมวิท 77 เอง ก็เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองยาวไปจนถึงต่างจังหวัดทางภาคตะวันออกได้ดี เริ่มตั้งแต่ต้นถนนที่แยกออกมาจากสุขุมวิทช่วงกลาง แล้วตรงยาวเชื่อมต่อกับถนนลาดกระบัง ประมาณ 20 นาทีก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วสามารถตรงต่อยาวออกไปถึงฉะเชิงเทราได้ด้วย เรียกได้ว่าอ่อนนุชช่วงต้นมีศักยภาพทำเลสูง เพราะอยู่ช่วงตรงกลางระหว่างในเมืองกับออกนอกเมืองได้สะดวกทั้งคู่