ทำเลและการเดินทาง

โครงการ SIAMESE KIN(ไซมิส คิน) ตั้งอยู่ริมถนนรัชดา-รามอินทรา ฝั่งขาเข้า เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนรามอินทราและถนนประเสริญมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ซึ่งถนนรามอินทราเป็นถนนสายสำคัญของชานเมืองฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะช่วง กม.8 เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่นไอซ์แลนด์, เดอะพรอมานาด, โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นต้น โดยหากเดินทางจากโครงการไปแฟชั่นไอซ์แลนด์ จะใช้เวลาประมาณ 5 นาที หากจะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจรงค์ ที่สำคัญคือเข้าถนนกาญจนาภิเษก(มอเตอร์เวย์) ใช้ระยะทางประมาณ 350 เมตร ถือว่าใกล้มากเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ส่วนถนนประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์) ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยมในการเดินทาง เพราะมีร้านอาหารชื่อดัง คอมมูนิตี้มอลล์ที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่เป็นระยะ โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองก็มีทุกสิ่งตอบโจทย์ได้ครบเช่นกัน ที่สำคัญคือมีจุดเชื่อมต่อทางด่วนได้ถึง 2 เส้นทาง คือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ช่วงใกล้กับ The Walk กับตลาดนัดหัวมุม และถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก

สุดท้ายตัวถนนรัชดา-รามอินทรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการเอง ถนนเส้นนี้มีระยะทาง 4.5 กิโลเมตร เป็นถนนที่เพิ่งตัดใหม่ได้ประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา เพื่อเชื่อมต่อถนนให้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อถนนนี้สร้างเสร็จก็มีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าต่างจับจองพื้นที่ทั้งสองฝั่งถนนสร้างโครงการขึ้นมา เพราะมองเห็นถึงศักยภาพเหล่านี้

พื้นที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยรามอินทรา 64 ลึกเข้าไปทั้งหมดกว่า 17 ไร่(พื้นที่สีม่วงในภาพ) มีทางเข้า-ออก อยู่ 2 จุด คือ ทางหลักจะอยู่หน้าโครงการริมถนนรัชดา-รามอินทรา ส่วนทางเข้า-ออก ที่ 2 จะอยู่ด้านหลังสุดของโครงการ ซึ่งสามารถทะลุออกไปถนนสวนสยาม – ถนนเสรีไทย ซึ่งหากมองจากแผนที่นี้แล้วจะสังเกตเห็นได้ว่า บริเวณนี้มีที่อยู่อาศัยไม่หนาแน่นมาก มีพื้นที่สีเขียวตามธรรมชาติ รวมถึงพื้นที่สีเขียวภายในโครงการเพิ่มเข้าไปอีก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความสงบ ร่มรื่น รวมถึงความแออัดที่ย่อมน้อยกว่าในตัวเมือง

การเดินทางครั้งนี้เราเริ่มต้นการเดินทางบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าสู่ถนนเกษตร-นวมินทร์

ขับตรงไปบนทางด่วนข้ามถนนลาดพร้าว

เมื่อข้ามถนนลาดพร้าวแล้วให้สังเกตป้ายถนนเกษตร-นวมินทร์ ให้ลงจากทางด่วนมาตามป้ายbvcnb

พอลงจากทางด่วนแล้วให้ชิดขวาไว้ก่อนเพื่อขึ้นสะพานลอยอีกที

เมื่อลงจากสะพานลอยแล้วให้ชิดขวาเอาไว้

แล้วกลับรถที่จุดแรกหลังจากลงสะพาน

เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้

เมื่อถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย

เข้าสู่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ฝั่งขาออก

เข้าสู่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ฝั่งขาออก

เลี้ยวซ้ายตรงสามแยก ซ้ายมือเป็นตลาดนัดรถไฟเกษตร-นวมินทร์

เข้าสู่ถนนรัชดา-รามอินทรา

ให้ชิดขวาเอาไว้เพื่อข้ามสะพานมาเรื่อย ๆ

เมื่ออยู่บนสะพานช่วงข้ามถนนนวมินทร์มาแล้ว ให้สังเกตป้ายถนนกาญจนาภิเษก (บางปะอิน-บางนา) ให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมตัวลงสะพาน สังเกตขวามือจะเห็นคอนโดของไซมิส

เมื่อลงสะพานแล้วให้ชิดขวาเอาไว้

กลับรถ

เมื่อกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้

เมื่อผ่านคอนโดมิเนียมทางซ้ายมือมาแล้ว ทางเข้าโครงการไซมิส คิน จะอยู่ถัดไป ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่โครงการได้เลย

Unit Plan เริ่มจากชั้นล่างสุดภาพทางซ้าย หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน เมื่อเปิดประตูหลักของบ้านออกมาจะพบกับห้องครัวเปิด ขวามือเป็นเคาน์เตอร์ครัว ซ้ายมีช่องสำหรับวางตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร เชื่อมต่อด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่น ข้างโซฟาสามารถออกไปสวนหลังบ้านได้ หลังโต๊ะทานอาหารมีห้องน้ำ และติดกับห้องน้ำ ทางซ้ายมือสุดเป็นบันได

ชั้น 2 ภาพแปลนตรงกลาง เริ่มจากบันไดกลางบ้าน เมื่อชั้นมาชั้น 2 แล้ว ห้องทางซ้ายมือของบันได เป็นห้อง Master Bedroom กลางห้องเป็นเตียงนอน ปลายเตียงวางเคาน์เตอร์ทีวีได้ ซ้ายมือของห้องถัดจากประตู สามารถวางโต๊ะทำงาน เชื่อมต่อด้วย Walk in Closet และห้องน้ำทางด้านหลังเคาน์เตอร์ทีวี แยกส่วนเปียก-แห้ง สุดท้ายของชั้น 2 ที่ห้องทางขวามือของบันได เป็นห้องอเนกประสงค์ ไม่มีประตูกั้น สามารถดัดแปลงให้เป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องพระได้

ชั้น 3 ภาพแปลนทางขวา เริ่มจากบันไดตรงกลาง ห้องทางขวาของบันไดเป็นห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้า และเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง สุดท้ายที่ห้องนอนทางซ้ายมือของบันได เป็นห้องนอน ซ้ายมือจากประตูห้องเป็นตู้เสื้อผ้า กลางห้องเป็นเตียง ปลายเตียงเป็นเคาน์เตอร์วางทีวี หลังเคาน์เตอร์วางทีวีเป็นห้องน้ำในตัว แยกส่วนเปียก-แห้ง ข้างเตียงกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ออกไประเบียงส่วนตัวทางหลังบ้านได้

โครงการ Siamese KIN(ไซมิส คิน) เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยว 43 ยูนิต และทาวน์โฮม 64 ยูนิต บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 17 ไร่ โดยครั้งนี้เราจะพามาชมบ้านตัวอย่างในส่วนของทาวน์โฮมที่เพิ่งเสร็จเรียบร้อยไปเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนบ้านเดี่ยว ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนตุลาคม เพราะทางไซมิส มีนโยบายในการสร้างให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยปล่อยขาย เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อได้มาดูบ้านหลังที่ตัวเองต้องการจริง ๆ เรียกได้ว่าเห็นปุ๊บ ถูกใจ แล้วค่อยซื้อ การันตีคุณภาพกันให้เห็นกับตา

หน้าโครงการติดกับถนนรัชดา-รามอินทรา ประตูทางเข้าหลักของโครงการแบบ Double Gate ควบคุมด้วยรีโมทเปิด-ปิดประตู

หน้าโครงการติดกับถนนรัชดา-รามอินทรา ประตูทางเข้าหลักของโครงการแบบ Double Gate ควบคุมด้วยรีโมทเปิด-ปิดประตู

โครงการนี้ทางไซมิสได้ร่วมกับ SCG HEIM สร้างบ้านนวัตกรรมขึ้นกับโครงการไซมิส คิน อยู่หลายวัสดุ ตั้งแต่งานโครงสร้างเหล็กระบบ modular+conventional เป็นโครงสร้างเหล็กแบบเดียวกันกับหอโตเกียวที่ประเทศญี่ปุ่น มีคุณสมบัติตรงที่ไม่ขึ้นสนิมด้วยสารเคลือบ ทำให้มีอายุถึง 140 ปี หลังคาใช้วัสดุเมทัลชีทพร้อมฉนวนกันความร้อน

หน้ากว้าง 4.8 เมตร ทุกหลัง สามารถจอดรถได้ 2 คัน

ผนังบ้านด้านนอก ใช้นวัตกรรมจาก SCG เป็นเซรามิค มีคุณสมบัติทำให้บ้านจะดูใหม่เสมอ เพราะเวลาฝนตกมักจะชำระล้างฝุ่น สิ่งสกปรกลงมาด้วย ไม่เกิดรอยร้าว สีไม่ซีด ไม่ลอกร่อนตลอดอายุการใช้งาน ตามร่องใช้ยางซีลปิดด้วยกาวอีพร๊อกซี่เรซิ่น ตัวเซรามิคจึงแน่น ไม่หลุด

หลังที่เป็นแปลงมุมจะได้พื้นที่ข้างบ้านพิ่มแบบนี้ด้วย

หน้าบ้านมีเฉลียงยื่นออกมากว้างพอสมควร สามารถวางตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ได้

กุญแจไขประตูหน้าบ้านเป็นกุญแจแบบใช้เลเซอร์ยิงเป็นหมุดเข้าไป ทำจากญี่ปุ่น จึงปลอดภัยต่อการโจรกรรม เพราะลูกกุญแจไม่สามารถนำไปปั๊มได้เหมือนทั่วไป โดยโครงการจ มีลูกกุญแจให้ 5 ตัว เท่านั้น หากลูกกุญแจหายจะต้องสั่งทำใหม่จากญี่ปุ่น

ประตูหน้าบ้านใช้ระบบล็อค 3 ชั้น และใช้แบบเดียวกันกับประตูหนีไฟ ไม่อมความร้อน น้ำหนักเบา

เปิดประตูบ้านออกมาจะพบกับห้องครัวเป็นส่วนแรก

ขวามือเป็นเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์

เซตครัวได้ Hob+Hoob พร้อมซิงค์ล้างจาน

เตาทั้งหมด 4 หัว

ซิงค์ล้างจานแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ป้องกันน้ำกระเด็นออก

ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงชั้นวางของต่าง ๆ

มีระบบ Smart Home จาก GRATIA สามารถควบคุมการเปิด-ปิด ไฟ เครื่องปรับอากาศ ผ่านแอปพลิเคชั่น และสามารถดูกล้องวงจรปิดผ่านมือถือได้ด้วย

ต่อจากห้องครัวจะถูกเชื่อมต่อด้วยห้องนั่งเล่น และพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร

ผนังบ้านใช้ซีเมนต์บอร์ด ผลิตจากโรงงานของ SCG แล้วยกมาประกอบที่โครงการ มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ปลวกไปกิน ผนังไม่ร้อน และยังสามารถป้องกันเสียงจากภายนอกได้ด้วยระบบ Thermal&Sound Insulated System

พื้นบ้านยกสูงจากพื้นดินขึ้นมาประมาณ 55 ซม. เพื่อยกงานระบบต่าง ๆ ไว้ด้านล่างให้ง่ายต่อการดูและรักษา เช่น กรณีเกิดน้ำรั่ว ช่างซ่อมสามารถกางผังระบบด้านล่างดู ก็จะรู้ได้ว่ารั่วจากจุดไหน ทำให้แก้ปัญหาได้ถูกจุด
ภายในบ้าน พื้นใช้วัสดุ Synthetic floor มีคุณสมบัติดูแลรักษาง่าย ไม่บวมน้ำ ยากต่อรอยขีดข่วน ช่วยซับแรงกระแทก เมื่อเกิดการลื่นล้ม และยังช่วยกันความร้อนจากจากด้านล่างไม่ให้เข้าสู่ภายในตัวบ้านง่ายขึ้น

โครงการได้ให้เครื่องปรับอากาศทั้งหลัง 5 ตัว ที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ใช้แบรนด์ชาร์ป พลาสมาคลัสเตอร์

ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้

ผนังบ้านทางโครงการติดตั้งวอลเปเปอร์มาให้ด้วย และยังใส่ฉนวนกันความร้อนมาให้ในผนัง เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน

ด้านข้างโซฟามีประตูกระจกกั้น ก่อนออกไปสู่สวนหลังบ้าน

แต่ถ้าเป็นแปลงมุมจะได้ประตูกระจกด้านหลังโซฟาเพิ่มขึ้นด้วย

ใช้กระจกเขียวตัดแสง ขอบอลูมิเนียม ใช้คุณภาพมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น

ประตูกระจกใช้ระบบ Double Lock ตามรอยต่อต่าง ๆ ทั้งบ้าน ถูกปิดเก็บรายละเอียดไม่ให้มีร่อง หรือช่องว่าง เพื่อกันความชื้น ฝุ่น แมลง เรียกว่าระบบ Air Tightness System

สวนที่ลูกบ้านจะได้จริง คือ ปูหญ้า พร้อมต้นไม้แนวรั้วทั้งทางด้านข้างบ้าน และหลังบ้าน

ภาพรวมของสวนหลังบ้าน พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางเหมาะสำหรับคนที่ชอบตกแต่งสวน ยิ่งแปลงมุมก็จะได้พื้นที่ข้างบ้านเพิ่มขึ้นด้วย

กลับเข้าไปดูในบ้านกันต่อค่ะ

ข้างโซฟาสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้

เราจะสังเกตว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดมาให้ด้วย 1 จุด แบบ 360 องศา บริเวณเหนือเคาน์เตอร์ทีวี

ข้างบันไดมีตู้ไฟติดตั้งให้เรียบร้อย

เปิดดูตู้ไฟจะพบอินเวอร์เตอร์ของโซล่าร์เซลล์ ขนาด 3 กิโลวัตต์(ตู้สีแดง) เพราะทุกยูนิตจะได้แผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคาให้ ซึ่งสามารถดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟ ใช้เฉพาะช่วงกลางวัน หากเราใช้ไฟมากกว่า 3 กิโลวัตต์ ระบบก็จะดึงไฟฟ้าบ้านปกติมาใช้อัตโนมัติ

เข้าไปดูห้องน้ำชั้นล่าง ด้านหลังโต๊ะทานอาหาร

เป็นห้องน้ำสำหรับแขก ไม่มีส่วนเปียก

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง

ชักโครกแบบประหยัดน้ำ

หลังชักโครกมีพื้นที่สำหรับวางของ และมีกระจกบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ

สำรวจชั้น 1 กันเรียบร้อยแล้ว ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ

บันไดพร้อมราวจับได้มาตามที่เห็นเลย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีห้องทางซ้าย และทางขวามือ

เรามาดูห้องทางขวามือกันก่อน เป็นห้องที่ไม่มีบานประตูกั้น

ห้องนี้ คือ ห้องอเนกประสงค์ ทางฝั่งหน้าบ้าน

ด้วยขนาดของห้องอเนกประสงค์นี้ เราสามารถดัดแปลงเป็นพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย เช่น ห้องทำงาน ห้องพระ หรือแม้แต่ห้องนอน

หน้าต่างกระจกบานสไดล์ ขอบอลูมิเนียม

วิวจากหน้าต่างห้องอเนกประสงค์ชั้น 2

เราออกมาดูห้องฝั่งตรงข้ามทางด้านหลังบ้าน

ห้องนอนแรก คือ ห้อง Master Bedroom

พื้นที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้

ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางเคาน์เตอร์ทีวี ข้างเตียงเป็นหน้าต่างกระจกบานสไลด์

หัวเตียงทั้ง 2 ข้างมีหน้าต่าง เป็นกระจกทรงสูง บานกระทุ้ง

ซ้ายมือจากประตูห้องนอน มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน ลึกเข้าไปก็มีพื้นที่สำหรับทำเป็น walk in closet ได้ แต่หลังจริงจะไม่มีตู้เสื้อผ้ามาให้นะคะ

ถัดจากปลายเตียงเป็นห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำจริงจะได้ตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นกระจกฉากกั้น และเครื่องทำน้ำอุ่น

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมเคาน์เตอร์สำหรับเก็บของด้านล่าง

ห้องน้ำชั้น 2-3 เป็นนวัตกรรมร่วมกับ SCG เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ยกมาจากโรงงานนำมาติดตั้งที่ตัวบ้านเลย ผนังห้องน้ำใช้แผ่นเหล็กพิมพ์ลาย ร่องใช้ยางปิด หมดปัญหายาแนวหลุดร่อน เป็นรา สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

สุดท้ายขึ้นไปดูชั้น 3 ค่ะ

ชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้อง อยู่ตรงข้ามกัน เราจะเข้าไปดูห้องทางขวามือ ฝั่งหน้าบ้านกันก่อน

ห้องนอนที่ 2 ฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้ข้างหน้าต่าง ปลายเตียงเป็นห้องน้ำ

หน้าต่างใช้กระจกบานสไลด์ ขอบอลูมิเนียม

ห้องน้ำในตัวของห้องนอนที่ 2 แยกส่วนเปียก-แห้ง

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง

ข้างส่วนเปียกมีหน้าต่างบานกระทุ้ง สำหรับระบายอากาศ และเพื่อไม่ให้ห้องน้ำมืดจนเกินไป

ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นห้องนอนเดียวที่มีระเบียงส่วนตัว

กลางห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต

มีทางเดินทั้ง 2 ข้างของเตียง

ด้านข้างเตียงมีประตูกระจกบานสไลด์ ขอบลูมิเนียม กั้นแบบมีธรณีประตู

ออกมาสู่ระเบียงส่วนตัว ได้วิวทางหลังบ้านค่ะ

ที่ระเบียงด้านนอก กำแพงยังคงปูด้วยเซรามิคเหมือนกันทั้งตัวบ้าน ส่วนขวามือเป็นกำแพงกั้นระหว่างยูนิต ทาด้วยสีฟูจิกุระ มีคุณสมบัติไม่ร่อนลอก ไม่ร้าว

พื้นระเบียงจะได้เป็นกระเบื้อง ส่วนพื้นที่เราเห็นนี้ทางโครงการจะปูให้เพียงครึ่งเดียว

กลับเข้ามาดูภายในห้องนอน ปลายเตียงทางขวามือเป็นห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง

ข้างอ่างล้างหน้า มีกระจกบานกระทุ้งทรงสูง สำหรับเพิ่มแสงสว่าง และระบายอากาศ

สุดท้ายเราจะพาออกมาดูส่วนสวนกลางของโครงการค่ะ

ประตูทางเข้า-ออก โครงการจุดที่ 2 ด้านหลัง ซึ่งตรงนี้สามารถทะลุออกไปยังถนนสวนสยาม-ถนนเสรีไทย ได้

บรรยากาศสวนส่วนกลาง อยู่ด้านหลังสุดของโครงการ มีทั้งต้นไม้ใหญ่และบ่อน้ำ เราสามารถมาวิ่งจ๊อกกิ้ง ออกกำลังกายเบา ๆ กันได้

โครงการ  SIAMESE KIN(ไซมิส คิน) เป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกครอบครัวได้เป็นอย่างดี เพราะมีทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ให้ได้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันได้ บรรยากาศในโครงการร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งตั้งใจปลูกไว้ทุกพื้นที่ภายในโครงการ สิ่งที่โดดเด่นมาก สำหรับโครงการนี้คือเรื่องการนำนวัตกรรมของวัสดุการก่อสร้างบ้าน จากแบรนด์คุณภาพอย่าง SCG และเทคโนโลยีในแบบญี่ปุ่น มาใช้เกือบทุกส่วนของบ้าน ตั้งแต่โครงสร้าง พื้น ประตู ผนังภายนอก ผนังภายใน ไปจนถึงหลังคาบ้าน ทุกส่วนถูกคิดมาเพื่อ ผู้อยู่อาศัยจริงภายในบ้านให้อยู่แล้วรู้สึกเย็น มีความป็นส่วนตัว ได้ความสะดวกสบายที่สุด สิ่งนี้สามารถสะท้อนถึง ความใส่ใจในรายละเอียด ส่งต่อมอบให้ลูกบ้าน อย่างมีคุณภาพ

ย่านรามอินทราช่วงห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ถือเป็นจุดศูนย์กลางของสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล ที่สำคัญหากเทียบกับโครงการอื่นในย่านนี้ก็ถือว่าอยู่ใกล้กับเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อออกนอกเมืองที่ คือ ถนนกาญจนาภิเษก เพียง 350 เมตร หรือจะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองก็สามารถใช้ถนนรัชดา-รามอินทรา จากหน้าโครงการเข้าสู่แยกเกษตรได้เลย หรือจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ในระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ก็สะดวกรวดเร็ว ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ผ่านบนถนนรามอินทรา สถานีวงแหวนตะวันออก ซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกับห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ ไซมิส คิน จึงถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ดีสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสงบ ร่มรื่น แต่ยังคงล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเดินทางได้ง่าย