เทคนิคการตกแต่งห้องให้เข้ากับตัวเอง
เทคนิคการตกแต่งห้องให้เข้ากับตัวเอง
สถานที่สุดชิลที่ชวนให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด คงหนี้ไม่พ้น “ห้องนอน”ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวแห่งความสุขที่พร้อมให้เราปล่อยทิ้งทุกอย่างที่วุ่นวายมาทุกวันด้วยการเอนตัวนอนพักได้อย่างเต็มที่ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาเทคนิคในการแต่งห้องดูดีมีสไตล์ ในพื้นที่จำกัดเพื่อที่จะทำให้การพักผ่อนนี้อิ่มเอมมากยิ่งขึ้น วันนี้ Homezoomer มีเคล็ดลับดีๆมาฝากดังนี้
1.สภาพแวดล้อมพื้นฐานของห้อง
โดยพิจารณาจากห้องนอนจริง ว่ามีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้หรือไม่หรืออยู่ฝั่งข้างในตัวบ้าน แสงไม่อาจเข้าถึงได้เลย เพื่อนำมาตัดสินใจในการเลือกใช้สีทาห้องอีกครั้ง เพราะถ้าเป็นห้องขนาดเล็ก เป็นห้องที่แสงไม่สามารถส่องผ่านถึง หากทาสีทึบจะยิ่งทำให้รู้สึกมืดอับ เสมือนถูกผนังบีบให้แคบลง ควรเลือกใช้สีสว่าง สีขาว สีครีม สีเบจ หรือสีอ่อนๆ แทน เพื่อจะทำให้ห้องแลดูสว่างมีมิติมากขึ้น แต่หากเป็นห้องขนาดใหญ่ แสงสว่างเข้าถึง ควรเล่นสีทึบสักหน่อย เพราะการทาสีโทนอ่อน ในพื้นที่สว่าง อาจทำให้ผนังดูซีดเก่ารู้สึกเคว้งคว้างจนเกินไป
ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ความชอบแต่ละบุคคลด้วย คุณต้องรู้ว่าสีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณที่สุด หรือจะพิจารณาการเลือกสีจากเฟอร์นิเจอร์หรือพรมในห้องก็ได้ โดยเลือกให้แมทกัน ถ้าเฟอร์นิเจอร์หรือพรมสีสด ผนังห้องควรเป็นสีอ่อนเพื่อขับให้เฟอร์นิเจอร์ดูเด่นขึ้น ถ้าเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนก็ควรทาผนังเป็นสีเข้า เพื่อที่ห้องจะได้ไม่ดูจืดจนเกินๆไป
2. ดูที่สไตล์ความชอบ
หากเป็นคนที่ชอบแนววิจเทจ ลองจัดมุมห้องด้วยเก้าอี้หวายที่มีการสานไม้แบบสวยๆ เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยการเพิ่มตู้ไม้ที่คลาสสิคลงไป นำกระเป๋าเดินทางเก่าๆมาประดับบนโต๊ะ ซึ่งจะได้กลิ่นไอของวินเทจไม่เบา ส่วนผนังห้องจะทาสีเก่าๆ คลาสิคหน่อยหรือจะติดวอลเปเปอร์ลายวินเทจเก๋ๆก็ยังได้ เพื่อให้เข้ากับที่นอน และผ้าห่อมที่มีลวดลายออกแนวย้อนยุคจะแมทกันอย่างลงตัว
แต่หากเป็นคนเรียบๆแต่รักในศิลปะอาจตกแต่งห้องด้วยโทนสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ เพิ่มกรอบรูปกรอบดำไว้บนฝาผนัง โชว์ภาพลวดลายที่เป็นศิลปะ และประดับด้วยโคมไฟสองข้างเตียงแค่นี้ก็ดูดีมีสไตล์แล้ว
ส่วนเจ้าหญิงสุดชิค ผู้รักกลิ่นไอความหวาน หรูอย่างมีระดับ อาจต้องใช้โคมระย้ามาระดับห้องเข้าช่วย สีของห้องจะออกสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหรา ตัดด้วยวอเปอเปอร์ผนังหินเก๋ๆ ทำให้ห้องนอนดูสวยงามไม่เบา
สำหรับหนุ่มที่ชอบความเรียบง่าย แต่มีกลิ่นไอความเทห์ ผนังอาจปูเปลือยเปล่า หรือจะใช้วอเปเปอร์ลายโทนคลาสสคิปูยาว ในด้านหัวเตียง ตัดกับชั้นวางหนังสือสีขาว มีโคมไฟเก๋อันใหญ ทีวีจอแบนแขวนติดห้อง เล่นสีโทนขาวดำ ดูเท่ห์ๆ ดิบๆ ไม่เบา
3.เลือกแอคเซสซอรี่ชิ้นโปรดมาจัดวาง
แขวนผนังโชว์ หรือสร้างมุมอ่านหนังสือส่วนตัวสักมุมของห้อง หากเป็นคอกีตาร์จะแขวนโชว์ 4-5 เครื่องก็ยังได้หรือจะนำของสะสมมาติดกรอบไว้โชว์ในห้องแสนรัก จะเพิ่มชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี
4.หาที่อยู่ให้ข้าวของ
แบ่งหมวดหมู่เครื่องใช้ภายในห้อง โดยใช้ตู้ลิ้นชักหรือกล่องขวดโหล เขามาช่วย จะติดป้ายกำกับเขียนด้วยลายมืออันคลาสสิค แต่ต้องคุมสีโทนเป็นสีที่เหมาะกับห้อง เช่นสีขาวจะได้รู้สึกสงบผ่อนคลายดูเป็นระเบียบ ส่วนสิ่งของที่ใช้เป็นประจำ เช่นพวกเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย อาจตกแต่งพื้นที่แต่งตัวในห้อง ด้วยการแขวนของให้เป็นแนวดิ่ง พวกกระเป๋า หมวก สร้อย ตุ่มหู นอกจากจะหยิบใช้สอยง่าย ยังดูเป็นงานศิลปะยิ่งขึ้น
5.ใช้เฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับพื้นที่
เตียงนอนหรือโซฟา ไม่ควรใหญ่จนเกินไป หากเป็นเตียงที่พับเก็บได้ หรือมีลิ้นชักใต้เตียงไว้เก็บของ จะช่วยลดพื้นที่ในการใช้สอยในห้องได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญอย่ามองข้ามพื้นห้อง พื้นสวยๆ จะชวยให้ห้องดูโดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ อาจใช้พรมมาประดับตกแต่ง ให้แมทกับสีโทนของห้องจะช่วยให้ห้องแสนสุขของคุณเป็นห้องที่ทำให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียคร่าวๆ สามารถนำไปปรับใช้ในห้องของคุณได้ ไม่ว่าห้องนั้นจะเล็กจะใหญ่คุณสามารถเสกสรรค์ความสุขนี้ได้ด้วยตัวของคุณเอง ลองนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ตามแบบสไตล์ที่เป็นตัวคุณได้เลยนะครับ
สถานที่ โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เสรีไทย
รูป และบทความ Homezoomer