สวนกระแส Summer  เช็คอินอย่างคูล ย่านปู่เจ้า

ท่ามกลางสภาพอากาศที่ปะทุเกือบจะถึงจุดเดือดนั้น ทำให้ใครหลายคนต่างพากัน ร้อนอก ร้อนใจ พาลให้อารมณ์เสียเอาได้แบบง่าย ๆ และวิธีคลายร้อนของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป โดยแบบที่เห็นเบสิคเลยนั่นคือ การออกไปหาร้านนั่งชิลแอร์เย็น ๆ ดื่มชา กาแฟ แกล้มขนมทานเล่นพอกรุบกริบ ให้ได้หายคลายร้อนกันบ้าง และหากได้ร้านคาเฟ่เก๋ ๆ มุมถ่ายรูปสวย ๆ คงดีไม่น้อย แต่ถ้าหากพักอยู่แถวชานเมือง อย่างย่านปู่เจ้า หล่ะ จะสามารถออกไปแฮ้งค์เอ้าเบา ๆ ในระแวกใกล้เคียงที่ไหนได้บ้าง คราวนี้เราจึงมีแหล่งแฮ้งค์เอ้าเพื่อหลบร้อน ในบรรยากาศสบาย ๆ มาเป็นลายแทง ให้ได้ตามไปเช็คอินกันแบบคูล ๆ ท้าลมร้อนให้ฉ่ำใจกันไปเลย มาฝากกัน

แหล่งคาเฟ่เก๋ ๆ สุด ECO และ Artist

เริ่มต้นจากระแวกใกล้เคียงย่านปู่เจ้า อย่างแบริ่ง กันเลย แน่นอนว่าย่านแบริ่งนี้ เป็นอีกย่านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องของคาเฟ่หลากหลายสไตล์ ที่ล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว โดยร้านแรกที่ไม่ควรพลาด ให้ตามไปเช็คอินแบบเก๋ ๆ แถมยังอยู่ใกล้ BTS สถานีแบริ่งเลย นั่นคือ ร้าน POMME  HEARTY  BEKERY & CAFE

ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ สไตล์โมเดริ์นประยุกต์ ซ่อนตัวอยู่ระหว่างตึกแถว ตกแต่งให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน ซึ่งชื่อของร้านยังมีความหมายดี ๆ แฝงอยู่อีกเช่นกัน นั่นคือ POMME (อ่านว่าปอมม์) โดยเป็นภาษาฝรั่งเศส มาจากชื่อลูกสาวเจ้าของร้าน คือ “แอปเปิ้ล” นั่นเอง ถือเป็นร้านที่มีกิมมิคโดดเด่น และใส่ใจในรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเสียจริง ๆ

เมนูของร้านที่โดดเด่นจะเป็นพวกขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส รวมถึงเครื่องดื่มอย่างกาแฟ แต่หน้าร้อนบวกกับอากาศร้อน ๆ แบบนี้ แนะนำเมนูโซดาซาบซ่า กับ น้ำผลไม้ปั่น อย่างมะม่วงปั่น (ของดีประจำหน้าร้อน) ก็ทำให้สดชื่นขึ้นได้แบบง่าย ๆ แถมราคายังน่ารัก ที่สำคัญเห็นเป็นร้านเล็ก ๆ แบบนี้ ยังมีมุมถ่ายรูป ให้เช็คอินกันแบบคูลๆ ได้ดีอีกด้วย

ต่อกันที่ร้านคาเฟ่ถูกอก ถูกใจ สายออแกนิคกันเลย ต้องร้านนี้ “FARM-MU” ร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ ในบรรยากาศอบอุ่น  น่ารัก ที่รวมเมนูทานง่าย ทั้งอาหาร ขนม เบอเกอรี่ และเครื่องดื่มต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน

โดยทางร้านเน้นการใส่ใจในคุณภาพ รสชาติ รวมถึงวัตถุดิบ เพราะเมนูของที่นี่ จะทำมาจากวัตถุดิบที่เป็นออแกนิค ใช้ผักสลัด และข้าวอินทรีย์ ใช้น้ำมันรำข้าว กับน้ำมันมะกอก และที่สำคัญไม่ใช้ผงชูรส

อีกทั้งเมนูของที่นี่ราคายังเป็นกันเองอีกต่างหาก ซึ่งตัวร้านตั้งอยู่ในโครงการดาดฟ้า จะอยู่ระหว่างลาซาล 31-33  เปิดให้บริการทุกวันเวลา 11.30 – 21.00 น.

และในโครงการดาดฟ้า กับคอนเซ็ปต์สุดกรีนภายใน Community  mall ที่เดียวกันนี้ ยังมีร้านคาเฟ่อีกหลายร้าน ที่เหมาะแก่การเช็คอินแบบคูล ๆ ไม่หวั่นกับอุณหภูมิที่ร้อนระอุกันเลย ไม่ว่าจะเป็น ร้านสายเฮลท์ตี้อย่าง “โอ้กะจู๋”

ร้านเด็ดดังที่วินาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก  เป็นร้านที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ กับอาหารออแกนิค โดยบรรยากาศของร้านที่สาขานี้ เน้นความโปร่งโล่งสบาย ให้แสงจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามา สร้างความรู้สึกอบอุ่นได้เป็นอย่างดี

โดยหลังคาทำมาจากพลาสติก ชนิดเดียวกันกับที่ใช้คลุมโรงเรือนปลูกผัก ขึงด้วยสแลนบังแดด เพื่อให้แสงส่องเข้ามาในร้านอย่างพอเหมาะ เป็นความใส่ใจที่(รักษ์)โลกตั้งแต่โครงสร้างของร้าน และคอนเซ็ปต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริง ๆ

อีกทั้ง “โอ้กะจู๋” ที่สาขาโครงการดาดฟ้าแห่งนี้ ยังมีเมนูเฉพาะ ที่จะมีแค่ที่นี่ที่เดียว นั่นคือ สเต็กแซลมอนผักชีสวน ยำผักพื้นบ้านรากบัวหญ้าหวาน เสริ์ฟมาพร้อมกับครีมซอสทรัฟเฟิล โดยตัวสเต็กแซลมอนชิ้นโตเนื้อนุ่ม ท็อปด้วยรากบัว และรากผักชี เคล้าความหวานแบบธรรมชาติจากหญ้าหวาน พ่วงด้วยยำธัญพืชรสเผ็ดเล็กน้อยเพื่อตัดเลี่ยนในเมนูนี้ ทำให้เข้ากันได้อย่างลงตัว แถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย  ร้านตั้งอยู่ที่โครงการดาดฟ้า เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.

หลังมื้ออาหาร แวะทานเครื่องดื่มเย็น ๆ เอาใจสายเฮลท์ตี้กันแบบสุด ๆ ทั้งอร่อย แถมดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญช่วยคลายร้อยได้ดี ต้องที่ “Gravity Artisan Cafe” คาเฟ่สัญลักษณ์รูปกวาง กับบรรยากาศของร้านสไตล์ลอฟท์ รายล้อมด้วยต้นไม้ เป็นธรรมชาติเหมือนอยู่ท่ามกลางป่า  จะพักผ่อนนั่งชิล หรือนั่งทำงาน ก็ให้ความรู้สึกสบายใจได้เป็นอย่างดี

 “Gravity Artisan Cafe” เป็นคาเฟ่ร้านเล็ก ๆ แต่แฝงความอบอุ่น ด้วยร้านที่เป็นเอกลักษณ์ สงบนิ่ง และผ่อนคลาย เน้นคุณภาพ และความอร่อยผ่านหลากหลายเมนู ทั้งเครื่องดื่มสมูธตี้, เบเกอรี่, กาแฟ และอื่นๆ ก็มีให้เลือกสั่งได้ตามความชอบใจ ดื่มด่ำและเติมพลังให้แก่ชีวิตได้ในแบบง่าย ๆ ร้านเปิดให้บริการทุกวันที่โครงการดาดฟ้า เวลา  08.00 – 20.00 น.

ถือได้ว่าเป็นแหล่ง Community mall ที่รวบรวมคาเฟ่สายกรีน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างหลากหลาย มาไว้ในที่เดียว ที่มีครบตอบโจทย์ทุกความต้องการเลยก็ว่าได้  แถมยังเป็นที่หลบร้อนแบบเก๋ ๆ พร้อมความคูลให้ได้เช็คอินกันแบบชิค ๆ ในวันหยุดพักผ่อนที่แสนร้อนได้ดีทีเดียว

ไม่เพียงเท่านั้นคาเฟ่หลบร้อนในระแวกปู่เจ้า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะมีร้านอย่างหลากหลาย ทุกซอกทุกมุม ให้ได้เลือกเข้าไปหลบร้อน  แต่หากคิดจะหาร้าน เพื่อนั่งตากแอร์ให้ฉ่ำใจ  แถมยังได้ดื่มด่ำกับความ Artist  แล้วหล่ะก็ The black forest  หรือที่แปลตรงตัว ว่า ร้านกาแฟป่าดำ คาเฟ่แนวอาร์ตๆ อาจถูกใจคุณก็เป็นได้ ด้วยดีไซน์ที่ตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกร้าน เป็นแบบ Simplify Art Nouveau งดงามราวเทพนิยาย ผสานศิลปะเหนือจินตนาการ และธรรมชาติให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้มีเสน่ห์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ภายในร้านมีทั้งหมดด้วยกันถึง 3 ชั้น เป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่  โปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยปูนเปลือย  และโครงเหล็กสไตล์ลอฟท์ แต่เน้นเฟอร์นิเจอร์ด้านในเป็นงานไม้ เพื่อให้สมชื่อกับคำว่า “ป่า” ที่เป็นชื่อของทางร้าน ส่วนเรื่องเมนูที่ร้านนั้น ก็ขึ้นชื่อหลายอย่างอยู่เช่นกัน ถูกใจสายคาเฟ่อย่างแน่นอน โดยตัวร้านตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 107 อยู่ระหว่างซอยแบริ่ง 3 และซอยแบริ่ง 5 เปิดให้บริการ วันอังคาร-อาทิตย์  เวลา 10.00 -20.00 น.

ถือได้ว่าทำเลโซนปู่เจ้านี้ เป็นแหล่งรวมคาเฟ่หลากหลายสไตล์  ที่ล้วนโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังพูดได้ว่า เป็นแหล่งของร้านคาเฟ่เก๋ ๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อน ซึ่งมีรายล้อมอยู่ทุกซอกซอย ไม่ว่าจะเป็นซอยเล็ก ๆ หรือเลียบถนนสายหลักอย่าง ถนนสุขุมวิท ก็มีให้เห็นอยู่มากมายเช่นเดียวกัน ทีนี้หากอยากนั่งชิล พักผ่อนคลายร้อนแล้วหล่ะก็  ไม่ต้องเข้าเมืองไปไหนไกล เพราะอยู่ที่นี่ ก็มีคาเฟ่ และร้านนั่งชิลให้เลือกหาอย่างหลากหลาย สามารถตอบโจทย์ในทุก ๆ ความต้องการให้แล้ว

ถิ่นโดดเด่นเฉพาะตัว บ่งบอกความเป็นตัวเอง

โซนสุขุมวิทตอนปลายอย่างย่านปู่เจ้า ไม่เพียงแค่เป็นถิ่นของคาเฟกิ๊บเก๋ ชิคๆ คูลๆ ไว้หลบร้อนสุดอาร์ตเท่านั้น แต่ทำเลแถวย่านนี้ ยังมีดีหลายอย่าง  เนื่องจากการขยายตัวของความเจริญมาจากช่วงสุขุมวิทตอนกลาง ทำให้ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย และโซนปู่เจ้านี้  เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด สังเกตได้ง่ายจากการมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว จากสถานีสำโรง ปลายทางสถานีเคหะฯ เกิดขึ้น นั่นเอง

แถมยังมีการเกิดขึ้นของศูนย์การค้าขนาดใหญ่  ออฟฟิศ อาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมไปถึงคอนโดมิเนียม อีกทั้งทำเลช่วงส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่าง BTS สถานีปู่เจ้า นี้ ก็ได้รับอิทธิพล ด้านการเจริญเติบโตของเมือง ที่แผ่ขยายออกมาเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้พื้นที่ใกล้เคียงของบริเวณทำเลปู่เจ้า  เป็นดั่งทำเลศักยภาพน้องใหม่ ที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต แถมทำเลย่านปู่เจ้า ยังอยู่ใกล้โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ซึ่งจัดได้ว่า เป็นทำเลมาแรงใจกลาง EBD หรือโซนเมืองธุรกิจต่อขยาย  พร้อมทั้งยังใกล้ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC ซึ่งจะเป็น HUB ใหม่ในอนาคต รวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ต่าง ๆ อีกด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีการเดินทางที่สะดวกสบาย  เป็นจุดเชื่อมต่อของสายรถไฟฟ้า, เป็นพื้นที่ของแหล่งงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่  และเป็นแหล่งรองรับชาวต่างชาติ โดยจากเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้ทาง บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจด้านอสังหาฯได้เล็งเห็น และให้ความสำคัญกับทำเลทอง น้องใหม่แห่งนี้ จึงได้รังสรรค์คอนโดมิเนียมโครงการใหม่อย่าง B-LOFT  LITE  SUKHUMVIT 115  ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย บนทำเลใหม่ใกล้รถไฟฟ้า เพียง 1 นาที ถึง BTS สถานีปู่เจ้า

ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ : B-LOFT LITE SUKHUMVIT 115

ผู้รับผิดชอบโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

ลักษณะโครงการ : คอนโด  Low Rise  8 ชั้น

จำนวนยูนิต : 78 ยูนิต

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ซอยสุขุมวิท 115 / ห่างจากบีทีเอส สถานีปู่เจ้า 300 เมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก : สระว่ายน้ำ ชั้นดาดฟ้า และฟิตเนส ชั้น 8

คอล เซ็นเตอร์ : 062 594 5000

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ : https://bit.ly/2DrdO1b

 

เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com

ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer