คอนโดใหม่ใจกลาง CBD to CBD “คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี”
คอนโดใหม่ใจกลาง CBD to CBD “คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี”
ในปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยใหม่ๆในกรุงเทพฯ จะเกิดจากการขยายตัวของเมือง ตามความเจริญจากการพัฒนาทางด้านต่างๆ การพัฒนาที่รวดเร็วของเมือง ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองใหม่ๆ อย่างเช่นคอนโดมิเนียมมีราคาที่สูงขึ้น ส่งผลมาจากราคาของที่ดินที่สูงขึ้นเรื่อยๆในทุกปี บวกกับที่ดินสวยๆ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยมีจำนวนน้อยลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้การตลาดในภาคอสังหาฯ เกิดการเปลี่ยนแปลง และมีการแข่งขันสูงขึ้นระหว่าง Developer (ผู้พัฒนาที่ดินให้เป็นที่อยู่อาศัย) ทำให้ Developer ทุกเจ้าเน้นความสำคัญ และสร้างความแตกต่างในทุกๆเรื่อง เริ่มตั้งแต่ ทำเล ต้องเป็นทำเลที่ดีที่สุด เดินทางเข้าออกต้องสะดวกกับผู้พักอาศัย พยายามหาที่ดินที่ติดกับรถไฟฟ้ามากที่สุดเพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กับโครงการ ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกที่มีครบในทุกๆด้าน ในส่วนของการออกแบบ คอนเซปต์ สไตล์ ต้องให้เหมาะกับกลุ่มคนที่กำหนดไว้ให้มากที่สุด จัดส่วนกลางให้มาก และมีประโยชน์ต่อผู้พักอาศัยมากที่สุด ส่วนห้องพักอาศัยต้องทำขนาดให้เหมาะกับ Lifestyle ของผู้พักอาศัย สุดท้ายต้องทำราคาให้สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจะไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่จะเน้นแต่ทำเลติดรถไฟฟ้า แต่ในปัจจุบันจะนำทุกๆ ปัจจัยที่สำคัญ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้สิ่งที่ดีที่สุด
กรุงเทพฯ จะแบ่งออกเป็นโซนหลักๆ ด้วยกัน 6 โซน คือ กรุงเทพเหนือ, กรุงเทพกลาง, กรุงเทพตะวันออก, กรุงเทพใต้, กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ ซึ่งทุกโซนก็จะมี Character ที่เหมาะกับคนอยู่อาศัยโดดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และ Lifestyle ของแต่ละคน โดยคนในปัจจุบันจะเลือกทำเลที่อยู่อาศัยจากความถนัดคุ้นเคยชำนาญในพื้นที่นั้นๆก่อน โดยไม่คำนึงว่าจะสะดวกกับชีวิตประจำวันหรือไม่ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังมีคนอีกกลุ่มที่เลือกทำเลที่อยู่อาศัย จากสิ่งที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด โดยคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว มีเวลาเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นการเดินทางที่ง่าย และสะดวกรวดเร็ว ไม่ชอบรถติดเสียเวลาไปกับการเดินทางในแต่ละวัน และใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
พูดถึงโซนในกรุงเทพที่มีความเจริญที่สุดก็คงเป็นโซนกรุงเทพตอนกลางและใต้ ซึ่งถูกกำหนดเป็น CBD (แหล่งเศรษฐกิจหลัก) เป็นจุดศูนย์กลางในด้านต่างๆ โดยมีสถานที่สำคัญๆ อาคารสูงๆ ที่กระจุกตัวอยู่ใจกลางเมือง มีทั้ง Office Building ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แหล่งช็อปปิ้ง สถานศึกษา โรงพยาบาล สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย และระบบคมนาคม ที่ครบถ้วน โดยในแต่ละวันมีผู้คนมากมายที่เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว มากกว่าโซนอื่นๆ
ผลจากการพัฒนาทางด้านต่างๆ จะส่งผลดีให้กับประชาชนได้มีชีวิตที่ดี และสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ที่อยู่ใจกลางเมืองอย่างคอนโดมิเนียม ที่ได้ประโยชน์จากการพัฒนาต่างๆ โดยตรง ทั้งการใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายกว่าแต่ก่อน เช่นรถไฟฟ้าที่ขยายพัฒนาเส้นทางใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้คนกรุงสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
การที่จะกำหนดออกแบบคอนโดมิเนียมให้ออกมาในรูปแบบสไตล์ไหน และตอบโจทย์กับใครมากที่สุด โดยทำเลจะเป็นสิ่งแรกที่จะสามารถบอกว่าควรทำโปรดักส์ออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดที่อยู่ใจกลาง CBD ที่มีความเจริญทันสมัยครบครันมากกว่าที่อื่นๆ ก็มักจะทำออกมาในแนว Super Luxury ที่ตอบโจทย์ความต้องการในมุมของคนที่มีความต้องการและมีศักยภาพที่สามารถซื้อคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ได้
Lifestyle ของคนกลุ่มนี้จะเป็นคนทำงานที่ต้องการการเดินทางที่สะดวก ให้ความสำคัญกับเวลา ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก และมีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวสำหรับพักผ่อน และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับไลฟ์สไตล์ในเมือง อย่างเช่น คอนโดใหม่ติดถนนใหญ่เพชรบุรี ตั้งอยู่ใจกลางระหว่าง CBD กับ New CBD และใกล้กับแหล่ง Lifestyle สำคัญของกรุงเทพฯ โดยออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ Attainable Luxury ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้สบายๆ กับโครงการใหม่ Cloud Thonglor – Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) คอนโดมิเนียมพรีเมียมติดถนนใหญ่เพชรบุรี ที่อาจตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งทำเล และราคา กับคุณได้
“FEEL THE CLOUD”
คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี คอนโดมิเนียม High rise 55 ชั้น 1 อาคาร ที่มีความสูงโดดเด่นถึง 202 เมตร ออกแบบสถาปัตยกรรมโดยเทนเดม อาร์คิเทค ในสไตล์ Modern Contemporary ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ Attainable Luxury พัฒนาโดย RISLAND (ไรส์แลนด์) ประเทศไทย พัฒนาโครงการภายใต้แนวความคิด “FEEL THE CLOUD” ให้ความรู้สึกที่ชั้น 55 เป็นท้องฟ้าที่สดใส พร้อมความหรูหราจาก silver lining สีเงิน ให้คุณสามารถมองเห็นวิวเมืองของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ได้อย่างสวยงามโดยไม่มีสิ่งกีดขวางมาบดบังทัศนียภาพ บนทำเลศักยภาพใหม่ใจกลางเมืองที่คุ้มค่าเกินราคา ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมือง โดดเด่นด้วยการรังสรรค์พื้นที่ส่วนกลางแบบ ‘Triple Facilities’ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนมากกว่า 4,000 ตารางเมตร” ถ้าดูจากทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย บวกกับ Concept ที่เน้นความหรูหรา จัดพื้นที่ส่วนกลางให้ขนาดใหญ่ และมีความสูงที่โดดเด่นที่สุดบนถนนเพชรบุรี Lifestyle ของคนที่เหมาะกับคอนโดนี้น่าจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานโดยมี Lifestyle ที่ชอบความสะดวกทันสมัย สรรหากิจกรรมให้กับตัวเองอยู่ตลอด ชอบใช้เวลาว่างส่วนตัวไปกับการท่องเที่ยว และรักความเป็นส่วนตัว
ถ้าดูจากภาพแบบเจาะลึกลงไปในกรุงเทพชั้นใน คอนโดใหม่ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) จะตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าอยู่กึ่งกลางของโซน CBD to CBD พอดี โดยจะแบ่งเป็น 5 โซน โดยโครงการ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งแต่ละโซนก็จะมี Character ที่ดีและสำคัญแตกต่างกันไป จะให้เห็นความสำคัญและโดดเด่นในแต่ละโซนเริ่มต้นตั้งแต่
1.เพชรบุรี (ที่ตั้งของ คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี)
2.อโศก
3.สุขุมวิท (พร้อมพงษ์)
4.ทองหล่อ เอกมัย
5.New CBD Rama9
โซนที่ 1 ถนนเพชรบุรี
โครงการคอนโด Cloud Thonglor – Phetchaburi ตั้งติดริมถนนใหญ่เพชรบุรี ถนนเพชรบุรีเป็นถนนที่มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นถนนที่รวมแหล่ง lifestyle สำคัญ ๆ เอาไว้ ทั้ง ร้านค้า, คลังสินค้า, Office Building, ห้างสรรพสินค้า รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งมากมาย ซึ่งถนนเพชรบุรีจะเป็นถนนใหญ่หลักที่ตัดกับถนนเส้นสำคัญๆ หลายเส้น ทำให้การเดินทางจากถนนเพชรบุรีไปยังจุดหมายอื่นๆ ทำได้ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว
โดยถนนเพชรบุรีเริ่มตั้งแต่บริเวณยมราช ตัดกับถนนพระรามที่6 –ถนนบรรทัดทอง – ถนนพญาไท– ถนนราชปรารภและถนนราชดำริ–ถนนชิดลม–ถนนวิทยุ–ถนนนิคมมักกะสัน – ซอยสุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) – ถนนอโศก-ดินแดง อโศกมนตรี – ซอยเพชรบุรี 38/1- ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) – ถนนรามคำแหง – ถนนพัฒนาการและถนนสุขุมวิท 71
Cloud Thonglor – Phetchaburi ตำแหน่งโครงการตั้งอยู่จุดกึ่งกลาง ระหว่าง CBD, New CBD rama9, สุขุมวิท พร้อมพงษ์ และทองหล่อ เอกมัย โครงการจะอยู่ช่วงกลางของถนนเพชรบุรี ในเรื่องการเดินทางเข้าออกโครงการ ถือว่าสะดวกกว่าที่จะอยู่บริเวณ 4 แยกอโศก หรืออยู่ปากซอยทองหล่อ เพราะเส้นทางเข้าออกจากตัวโครงการ จะสามารถหนีรถติดช่วงแยกอโศก โดยเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 (ซอยพร้อมพงษ์) ลัดทะลุไปยังถนนอโศก – สุขุมวิท เอ็มควอเทียร์ BTS สถานีพร้อมพงษ์ หรือจะมุ่งหน้าไปทองหล่อก็สามารถลัดทะลุโดยไม่จำเป็นต้องออกถนนใหญ่ให้รถติดเสียเวลา
โซนที่ 2 ทำเลติด CBD อโศก
Office Building บนถนนเพชรบุรี – อโศก
เพชรบุรี และ อโศก เป็นแหล่งจุดศุนย์กลางของ Office Building ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนทำงานมากมายเดินทางเข้าสู่โซนนี้ โดยบนอโศกจะมี Office Building ที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิเช่น Italthai Tower, Bangkok Tower, The Revenue Department, PheuThai, Thai Summit, BEM HQ, GMM Grammy, CharnIssara Tower, Interchange21, Exchange Tower Asoke, Sino-Thai Tower, Emporium Tower, Bhiraj Tower, S.S.P. Tower และ Metropolitan Authority เป็นต้น
จากจำนวน Office Building ที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้คนทำงานบริเวณโซนนี้มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยที่เดินทางสะดวกใกล้กับที่ทำงาน
ห่างจากโครงการ Cloud Thonglor – Phetchaburi 1.5 กิโลเมตร
SINGHA COMPLEX แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางอโศกที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปได้ไม่นาน เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีทั้ง อาคารสำนักงาน, Complex Mall รวมไปถึงอาคารที่พักอาศัย ทำให้ศักยภาพทำเลบริเวณอโศกมีมูลค่ามากขึ้นไปอีก ถ้าดูจากตลาดจะมี Real Demand ค่อนข้างที่จะสูง แต่ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ส่งผลให้ราคาที่พักอาศัยอย่างคอนโดมิเนียนมีราคาสูง แต่ถ้าขยับทำเลออกมาจากอโศกมาที่โครงการ Cloud Thonglor – Phetchaburi ที่เป็นทำเลทางเลือกใจกลางเมือง ที่มีราคาที่ดินถูกกว่า ราคาที่ดินที่ติดรถไฟฟ้า จึงสามารถพัฒนาสินค้าที่มีราคาเฉลี่ยราวๆ 150,000 บาทต่อตารางเมตรได้ Cloud Thonglor – Phetchaburi จึงตอบโจทย์คนกลุ่มเหล่านั้นได้
อโศก เป็นอีกหนึ่งแหล่งธุรกิจหลักสำคัญในกรุงเทพ ตลอดแนวถนนอโศกที่เชื่อมระหว่างถนนเพชรบุรี กับถนนสุขุมวิท จะประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน, ร้านค้า, ร้านอาหาร และศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงอย่าง Terminal 21 เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวันบริเวณอโศกจะมีผู้คนมากมายตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทั้งคนทำงานที่อยู่โซนนี้ และคนที่ต้องมาเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าบริเวณแยกอโศกที่เป็นจุด Interchange สำคัญระหว่าง BTS (สถานีอโศก) กับ MRT(สถานีสุขุมวิท) นอกจากนั้นอโศกยังเป็นจุดศูนย์รวมโรงแรมระดับ 5 ดาว และแหล่ง Shopping ที่มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาและเลือกที่จะมาพักโรงแรมบริเวณอโศก เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT จากอโศกไปยังจุดหมายต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น จากสถานีอโศก เพียง 1 สถานี ถึง The EM District | 3 สถานีถึงชิดลม และ 4 สถานีถึงสยาม
CBD to CBD อโศกยังเชื่อมต่อไปยังโซนเพลิตจิต – วิทยุ และต่อไปยังสาทรที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจหลัก และในอนาคตโซนสาทรจะกลายเป็น HUB ใหม่ของโครงการ Mix Used ของกรุงเทพ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ One Bangkok, Dusit Central Park และสถานที่สำคัญอื่นๆ
โซนที่ 3 ทำเลติดกับ สุขุมวิท-พร้อมพงษ์
สุขุมวิท-พร้อมพงษ์ (The EM District) เป็นจุดศูนย์กลางทางการค้าหลักอีกจุดสำหรับคนไทย และต่างชาติ ที่มี Lifestyle ที่ชอบความพรีเมียม จัดว่าเป็น HUB ของศูนย์การค้าหรูหราในระดับ Super Luxury เหมาะสำหรับเดินเล่นพักผ่อน หรือช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดัง รับประทานอาหารจากร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
The EM District เป็นแหล่งรวม Brand ชื่อดังกว่า 1,000 Brands มาไว้ภายในที่แห่งเดียว โดยแยกเป็น เอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ ซึ่งแผนในอนาคตจะมี เอ็มสเฟียร์ เกิดขึ้นมาอีกแห่ง นั้นหมายถึง The Em District จะมีพื้นที่ถึงประมาณ 650,000 ตารางเมตร กลายเป็นอาณาจักรการค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศเลยทีเดียว และจะเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกรวมถึงคนไทย ส่งผลให้พร้อมพงษ์และบริเวณใกล้เคียงอย่างโซนถนนเพชรบุรี มีความทันสมัยกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับคนที่เข้ามาให้มีความสะดวกสบาย ในส่วนของการเดินทางจากโครงการ Cloud Thonglor – Phetchaburi ไป The Em District ก็แสนง่ายและสะดวก เพียงออกจากโครงการเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 (ซอยพร้อมพงษ์) สามารถลัดทะลุไปออกสุขุมวิทซอย ซอย 35 และ39 5 ถึงเอ็มควอเทียร์ หรือ BTS สถานีพร้อมพงษ์ ใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที
โซนที่ 4 ทองหล่อ และ เอกมัย
ทองหล่อ เอกมัย เป็นแหล่งรวม Lifestyle ของคนกรุงเทพ ที่มีความคึกคักตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เช้ายันค่ำ เป็นโซน Lifestyle ของคนที่ชอบ Hangout สังสรรค์ในเวลาว่าง ส่วน Character ของทองหล่อ เอกมัย ในเวลากลางวัน จะแสดงให้เห็นถึงคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบที่มีคนเยอะวุ่ยวายอย่างศูนย์การค้าใหญ่ๆ ดังนั้นบนถนนทองหล่อจะเต็มไปด้วยสถานที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และมีเอกลักษณ์เฉพาะร้านนั้นๆ กลุ่มคนที่ชอบใช้เวลาบนถนนทองหล่อ จะมีรสนิยมในการรับประทานอาหารตามร้านที่มีชื่อเสียง หรือร้านใหม่ๆ ตั้งแต่ร้านธรรมดาจนถึงร้านพรีเมียมระดับมิชลิน
ทองหล่อคือศูนย์กลางของ Community Mall อย่าง Market Place, J avenue, 72 courtyard และ The CommomsThonglor และที่ขาดไม่ได้สำหรับทองหล่อคือสถานบันเทิง Night life ต่างๆ เป็นที่นิยมของคนไทย และต่างชาติ และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ถ้าพูดถึงทองหล่อ คือ ร้านคาเฟ่ต่างๆ ที่ตกแต่งสไตล์เก๋ๆ มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีความแตกต่างในการนำเสนอกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมของคนคอกาแฟทุกเพศทุกวัย
ทองหล่อ (สุขุมวิท55) เอกมัย (สุขุมวิท63) เป็นถนนเส้นสั้นๆ ที่วิ่งขนานกัน โดยทั้ง 2 ถนนจะเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ซึ่งทองหล่อจะเป็นถนนที่สามารถระบายรถ ลัดทะลุ จากถนนสุขุมวิทไปยังถนนเพชรบุรี และสามารถเชื่อมต่อไปถนนพระราม9 ได้อย่างสะดวก หรือจากถนนเพชรบุรีไปยังถนนสุขุมวิท ที่เชื่อมต่อไปถนนพระราม4 ได้เช่นกัน ทองหล่อเป็นถนน 6 เลน ให้รถยนต์วิ่งได้ฝั่งละ 2 เลน จอดรถ ฝั่งละ 1 เลน นอกจากทองหล่อแล้ว ถนนที่มีลักษณะคล้ายกันคือ ถนนเอกมัย และถนนอโศก ที่เชื่อมต่อถนนระหว่างถนนสุขุมวิท กับถนนเพชรบุรีเข้าไว้เหมือนกัน โดยตำแหน่งที่ตั้งโครงการคอนโดใหม่ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) จะอยู่กึ่งกลางของทั้ง 3 ถนนที่กล่าวมา สามารถใช้ถนนทองหล่อ ถนนเอกมัย หรือจะถนนอโศก เป็นเส้นทางลัดทะลุเข้าออกถนนสุขุมวิทได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว มากไปกว่านั้นถ้าเดินทางจากโครงการไป ทองหล่อ – เอกมัย ก็ทำได้สะดวก เพียงออกจากโครงการเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 (ซอยพร้อมพงษ์) สามารถลัดทะลุไปออก ถนนทองหล่อ และเอกมัย สามารถเชื่อมต่อหากันได้ทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องออกไปถนนใหญ่เลย
โซนที่ 5 New CBD Rama9
เพชรบุรี – พระราม 9 เดินทางสะดวกเชื่อมต่อ CBD to CBD พระราม9 แหล่งเศรษฐกิจใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยความเจริญในทุกด้านที่เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วนอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นแหล่งรวมของกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ทั้งไทย และต่างชาติเพียงไม่กี่ปี ซึ่งในโซนนี้จัดว่าเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญแหล่งใหม่ โดยมี Office Building เกรดพรีเมี่ยมต่างๆ บนพื้นที่ให้เช่ามากกว่า 100,000 ตร.ม. ที่จะเริ่มมาจากช่วงถนนรัชดา – พระราม9 ต่อไปยัง อโศก- สุขุมวิท ตลอดแนวถนนตั้งแต่รัชดา พระราม9 (New CBD Rama9) จนถึงอโศก สุขุมวิท ล้วนแล้วมีแต่ Office Building และที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมตลอดสองข้างทาง สำหรับ New CBD Rama9 จะเป็นโซนที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่คือชาวจีน และเกาหลี
Central Plaza Rama9
Central Plaza Rama 9 ศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก เป็นศูนย์การค้า ตั้งอยู่บนที่ดินในโครงการ แกรนด์ พระราม 9 ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในโครงการแกรนด์ พระราม 9 (G Land) จุดมุ่งหมายของโครงการนี้คือพัฒนาที่ดินตรงแยก อโศก – พระราม 9 ให้เป็นจุดศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน, โรงแรม, ศูนย์การค้า และที่พักอาศัย จนกลายเป็น NEW CBD ของกรุงเทพมหานคร
Fortune Town
เป็นที่รู้จักกันดีเวลาใครผ่านไปผ่านมาบริเวณ แยกพระราม 9 เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงมุมสี่แยกพระราม 9 พอดี มีขนาดใหญ่แบบนี้ภายในมีอะไรบ้าง ส่วนใหญ่แล้วถ้าคิดถึงฟอร์จูน ทุกคนจะคิดถึงของไอที พวกคอมพิวเตอร์, กล้อง, มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับไอที คล้ายๆ กับพันธุ์ทิพย์
“สำหรับการเดินทางจากพระราม9 มาโครงการ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) โดยใช้ MRT จากสถานีพระราม9 มาเพียง 1 สถานีลงที่สถานีเพชรบุรี โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาที”
โรงพยาบาล ที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงกับโครงการ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) มีดังต่อไปนี้ โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลปิยะเวช, โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน, โรงพยาบาล คามิลเลียน และโรงพยาบาลกรุงเทพ
สถานศึกษา ที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงกับโครงการ Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) โรงเรียน นานาชาติโมเดิร์น กรุงเทพฯ, โรงเรียน นานาชาติเอกมัย, Ivy Bound International Bangkok, The American School of Bangkok (ASB), โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก กรุงเทพฯ, NIST International Bangkok, Trinity International Bangkok, International Bangkok Cluster และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
สรุปในเรื่องของทำเล และการเดินทางของคอนโดใหม่อย่าง Cloud Thonglor-Phetchaburi (คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี) ที่อยู่กึ่งกลางของโซนที่กล่าวมา ทุกโซนจะสามารถเดินทางเชื่อมหากันได้โดย รถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport Link และถนนหลักๆ คือ ถนนเพชรบุรี, สุขุมวิท, อโศก, พระราม9, รัชดาภิเษก ทุกถนนล้วนแล้วแต่เป็นถนนหลักสำคัญของกรุงเทพทั้งหมด ดังนั้นในเรื่องของทำเลการเดินทางจึงถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมาก
การเดินทางโดย BTS – MRT – AIRPORT LINK
สิ่งที่เป็นความโดดเด่นบนถนนเส้นเพชรบุรีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นั่นคือ การมีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวกสบายโดยครอบคลุม สามารถเชื่อมต่อ CBD to CBD โดยรถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT และแอร์พอร์ต เรล ลิงค์
โดยที่ตั้งของโครงการ “คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี” จะอยู่ใกล้กับ MRT สถานีเพชรบุรี มากที่สุด ประมาณ 1.4 กม และ MRT สถานีเพชรบุรี ยังเป็นจุด Interchange ไปยัง แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (สถานีมักกะสัน) ซึ่งขาเข้าจะมีปลายทางที่ พญาไท (Interchange กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีพญาไท) และขาออกที่มีปลายทางที่ สนามบินสุวรรณภูมิ สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งถือว่าเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปยังโซนเหนือของกรุงเทพ หรือจะเดินทางไปยังต่างประเทศบ่อยๆ
แต่สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนรถไฟฟ้าจาก MRT เป็น BTS เพียงเดินทางไปขึ้น MRT ที่สถานีเพชรบุรีเพียง 1 สถานี ไปลงที่สถานีสุขุมวิท ซึ่ง MRT สถานีสุขุมวิทจะเป็นจุด Interchange กับBTS ที่สถานีอโศก (สายสีเขียว) มากไปกว่านั้นถ้านั่ง MRT จากสถานีเพชรบุรีย้อนไปฝั่งขาออก 1 สถานีก็จะถึง MRT สถานีพระราม9 ที่เป็นตำแหน่งของ NEW CBD Rama9 นั้นเอง
ทางด่วนพิเศษศรีรัช ช่วงอโศก – พระราม9 ระยะห่าง 2.5 กิโลเมตร
ทางด่วน เป็นอีกสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญในการเดินทางของคนเมือง การที่มีทางด่วนอยู่ใกล้กับที่พักอาศัยนั้นจะเหมาะ กับคนเดินทางเข้าออกเมืองเป็นประจำโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือคนที่ต้องการความเร่งด่วนในการเดินทางจากจุดนึงไปยังอีกจุดนึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
รถไฟฟ้าสายสีส้ม (เครดิตรูปภาพ : รฟม.)
ทำเลการพัฒนา และสายรถไฟฟ้าที่ตัดผ่าน
ขอบคุณรูปจาก Knight Frank
บนถนนเพชรบุรี เป็นทำเลแห่งการพัฒนาของระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากการมีรถไฟฟ้าตัดผ่านเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 2 สายด้วยกันได้แก่ MRT สายสีส้มที่มีด้วยกันทั้งหมด 30 สถานี โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส นั่นคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (10 สถานีใต้ดิน, 7สถานีลอยฟ้า, 4จุด interchange), รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (13 สถานีใต้ดิน, 8จุด interchange) โดยถนนเพชรบุรีอยู่ในพื้นที่ ที่มีการตัดผ่านของ MRT สายสีส้มตะวันตก (ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ การเดินทางจากฝั่งธนบุรี เพื่อมายังกรุงเทพฯ ชั้นใน จะเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย ถึงแหล่งช็อปปิ้งอย่างตลาดขายส่งขนาดใหญ่ประตูน้ำได้แบบสบาย ๆ (ที่ MRT สถานีประตูน้ำ) และยังมี รถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเทา (ช่วงที่ 1วัชรพล-ทองหล่อ) รวม 15 สถานี เชื่อมจากในเมือง ไปยังพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ พื้นที่บนถนนเพชรบุรี จะเป็นทำเลใจกลางเมือง ที่มีระบบขนส่งสาธารณะแบบครบวงจรมีตัวเลือกในการเดินทางที่มากขึ้น
ภาพจำลองโครงการ “คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี”
หากมองในภาพรวมแล้ว โครงการ “คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี” เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Attainable Luxury ในราคาที่จับต้องได้ ตั้งอยู่ในทำเลจุดกึ่งกลาง CBD และ New CBD ทำให้โครงการไม่ได้เป็นแค่คอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่มีความสูงโดดเด่นที่สุดบนถนนเพชรบุรี พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นบนสุดของอาคาร โดยตัวอาคารมีระดับความสูงถึง 202 เมตร จำนวน 55 ชั้น ในระดับความสูงแบบนี้ เรื่องวิวไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพแน่นอน
ภาพจำลองวิวเมือง และ Facilities ชั้นบนของโครงการ
อินฟินิตี้ พูล สามารถมองเห็นวิวเมืองได้แบบ 360 องศา ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ห้องครัวส่วนกลาง ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก พื้นที่ทำงานรวม ห้องสมุด ห้องประชุม ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ จากุซชี่ ห้องชมภาพยนตร์ และสระเด็ก เป็นต้น
จุดเด่นอีกจุดที่คือพื้นที่ Facility ที่ให้มากกว่าที่อื่น โดยออกแบบ พื้นที่ส่วนกลางแบบ Triple Facilities พื้นที่มากกว่า 4,000 ตารางเมตร ซึ่งถือว่ามีพื้นที่ส่วนกลางที่มากกว่าโครงการอื่นๆ บนถนนเพชรบุรี เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่มี 661 ยูนิต โดยเริ่มจาก
ส่วนล่าง ชั้น 1 และชั้น 4 : ล็อบบี้, ครัวส่วนกลาง, ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก พื้นที่สวนและ Outdoor Active Area
ส่วนกลาง บนชั้นที่ 29 : Co-Working Space, ห้องสมุด และห้องประชุม
ส่วนลอยฟ้า ชั้นที่ 54 – 56 : ฟิตเนส, ห้องโยคะ, สกาย เลาจน์, ห้องชมภาพยนตร์, ห้องซาวน่า, ล็อคเกอร์, สระว่ายน้ำ, จากุซซี่, สระเด็ก, พื้นที่พักผ่อนรอบสระว่ายน้ำ และสวนหย่อมชั้นดาดฟ้า
ภาพจำลองห้องสมุดส่วนกลาง
ภาพจำลองครัวส่วนกลาง
“และทางโครงการยังให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และการออกแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโดยมีการจัดพื้นที่ภายในห้องพักอาศัย เพื่อให้เข้ากับ Lifestyle กับผู้อยู่อาศัยตรงกลุ่ม โดยเน้นความง่าย และสะดวกสบาย ที่สำคัญยังมองไปถึงในเรื่องของภาพลักษณ์ คือผู้พักอาศัยจะต้องรู้สึกว่า โครงการที่ตนอยู่ มีความโดดเด่น และมีกิมมิคที่พูดถึงได้” โดยมีแบบห้องตั้งแต่คลาวด์ สตูดิโอ,คลาวด์ สวีท , คลาวด์ สวีท อีลิท,คลาวด์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์คลูซีฟ และ คลาวด์ เพนท์เฮ้าส์ สรุปได้ว่าโครงการ คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี เป็นโครงการที่คุ้มค่ากับราคาที่สุดสำหรับในย่านสุขุมวิท-เพชรบุรี ซึ่งการเปิดพรีเซลจะมีราคาเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 135,000 บาท” เท่านั้น
ภาพจำลอง ห้องคลาวด์ สวีท
ภาพจำลอง ห้องคลาวด์ สวีท อีลิท
ข้อมูลโครงการ คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี
สถานที่ตั้ง: บนถนนเพชรบุรี, ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
ลักษณะอาคาร: คอนโดมิเนียมสูง 55 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 661 ยูนิต
ขนาดที่ดิน: 3 – 0 – 60 ไร่ หรือ 5,040 ตารางเมตร
รูปแบบที่พักอาศัย:
คลาวด์ สตูดิโอ : 24 ตารางเมตร
คลาวด์ สวีท : 31.5 – 32.5 ตารางเมตร
คลาวด์ สวีท อีลิท : 37.5 – 38 ตารางเมตร
คลาวด์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์คลูซีฟ : 54.5 ตารางเมตร
คลาวด์ เพนท์เฮ้าส์ : 80.5 – 102.5 ตารางเมตร
จำนวนที่จอดรถ: 334 คัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
1st Floor ล็อบบี้, พื้นที่อ่านหนังสือ, พื้นที่สวน, Outdoor Active Area
4th Floor ห้องครัวส่วนกลาง, ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก, สวนหย่อม
29th Floor พื้นที่ทำงาน Co-Working Space, ห้องสมุด และห้องประชุม
54th Floor ฟิตเนส, ห้องโยคะ, สกาย เลาจน์, ห้องชมภาพยนตร์, ห้องซาวน่า, ล็อคเกอร์
55th Floor สระว่ายน้ำ, จากุซซี่, สระเด็ก, พื้นที่พักผ่อนรอบสระว่ายน้ำ
56th Floor สวนหย่อมชั้นดาดฟ้า
ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว Service 1 ตัว
เจ้าของโครงการ:บริษัท พีบีอาร์ 49 จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไรส์แลนด์ (ไทยแลนด์) จำกัด
ปรึกษาโครงการ:
สถาปนิก: บริษัท แทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) จำกัด
ผู้ออกแบบภายใน: บริษัท ดีไซน์ เวิลด์ไวด์ พาร์ทเนอร์ชิพ จำกัด
ผู้ออกแบบภูมิทัศน์: บริษัท 1819 จำกัด
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ตารางเมตร/เดือน (ชำระล่วงหน้า 12 เดือน)
ค่าเงินกองทุน: 600 บาท/ตารางเมตร (ชำระ ณ วันโอนเงิน)
เริ่มก่อสร้าง: Q 3 ปี 2019
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: Q 4 ปี 2022
คลาวด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ (พรีเซล) ในวันที่ 15-16 มิถุนายน นี้ ที่โรงแรม Park Hyatt
พบโปรโมชั่นพิเศษในงาน พร้อมชมห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขาย
สามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cloudthonglor.com หรือ 02 026 6888