ทำเลและการเดินทาง

แผนที่ตั้งโครงการ  คอนโด Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ)

สำหรับทำเลที่ตั้งของ คอนโด Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) จะตั้งอยู่ติดถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมไปยังถนนสำคัญๆ อย่าง ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่เชื่อมไปยังถนนประชาชื่น ถนนพระราม5 ถนนพระราม6 ถนนพหลโยธิน, ถนนวงศ์สว่าง  เชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก ถนนวิภาวดี หรือจะข้ามฝั่งไปยังฝั่งกรุงธนบุรีด้วยสะพานพระราม7 ก็สะดวกรวดเร็ว และถนนสามเสน ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนพระรามนครอย่างถนนราชดำเนิน ทำให้การเดินทางเข้า ออก ไปยังจุดมุ่งหมายอื่นๆ ทำได้สะดวกง่ายดาย และรวดเร็ว

มากไปกว่านั้นที่ตั้งของโครงการยังอยู่ใกล้กับ MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ เพียงประมาณ 600 เมตร เป็นส่วนต่อขยายจากบางซื่อ –  ท่าพระ และยังมีทางด่วนพิเศษศรีรัชที่ใกล้กับจุดขึ้น ลง เพียงประมาณ 600 เมตรเช่นกัน ยิ่งทำให้ทำเลแห่งนี้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว บวกกับในบริเวณใกล้เคียงยังครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆมากมาย ทั้งศูนย์การค้าเล็ก ใหญ่, โรงเรียนชั้นนำต่างๆ, โรงพยาบาล และอื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลให้ทำเลในจุดนี้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด และดูเหมือนว่าจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ทำให้กลุ่มคนที่มีความต้องการที่อยากจะมีที่อยู่อาศัยไว้พักอาศัยเพราะใกล้ที่ทำงาน หรือให้ลูกหลานมาพักอาศัยในระหว่างศึกษาเรียน หรือจะซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าก็ตาม ต่างพากันมาจับจองกันอย่างหนาแน่นจนถึงในปัจจุบัน  ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการนี้เมื่อมาเทียบกับราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นคอนโดสูงถึง 33 ชั้น จึงทำให้ คอนโด Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) เป็นคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยได้อย่างชัดเจนกว่าจุดอื่นๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย แต่การขยับออกมาของที่ตั้งโครงการกลับส่งผลให้กลายเป็นตำแหน่งที่สามารถเห็นโค้งน้ำได้ชัดเจนกว่า ก่อนจะไปชมรายละเอียดโครงการ มาทำความรู้จักกับทำเลของ คอนโด Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) กันก่อนว่ามีความสะดวกสบายทางด้านไหนกันบ้าง

บางโพ – เตาปูน ชุมชนดั้งเดิมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าที่ทำเลทองในอนาคต

‘บางโพ’ ย่านชุมชนดั้งเดิมในเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เดิมในอดีตเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชุมชนดั้งเดิม อาชีพของคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพค้าขาย ธุรกิจเก่าแก่ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน มีอาคารบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ตึกแถวอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าในย่านนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่มีความเจริญมากขึ้น ทั้งการมาถึงของรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ แต่พื้นที่แห่งนี้ก็ยังคงความเป็นชุมชนดั้งเดิมไว้ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพทำเล

ซอยประชานฤมิตร หรือที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อว่า “ถนนสายไม้” ตั้งอยู่ในย่านบางโพ บริเวณถนนประราษฏร์สาย 1 ซอย 24 เป็นแหล่งผลิตงานไม้ที่มีชื่อเสียง และมีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ความเป็นมาแต่เดิมในอดีต ผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้มีหลายชนชาติด้วยกันทั้ง คนไทย คนจีน คนญวน ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ยึดอาชีพงานฝีมือช่างไม้แกะสลักไม้ ทำเฟอรนิเจอร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากชาวจีนที่อพยพมาจากบางลำพูได้นำวิชาความรู้ติดตัวมาด้วย ประกอบกับมีพื้นที่ใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นเส้นทางล่องแพไม้ จึงทำให้ชุมชนมีอาชีพสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ตลอดทั้งภายในซอยจะมีร้านค้าเกี่ยวกับงานไม้จริง ไม้แปรรูปรายใหญ่รายย่อยอยู่มากมาย และนอกจากนั้นยังมีร้านค้าวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ งานช่าง งานฝีมือที่มีคุณภาพ สวรรค์ของคนรักงานไม้โดยเฉพาะ ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท และยังมีแหล่งงานไม้ที่อยู่ในซอยไสวสุวรรณ

ถนนประชาราษฏร์ สาย 1 เป็นถนนที่มีความยาวเริ่มต้นจากแยกเกียกกาย ยาวไปจนถึงแยกพิบูลสงคราม มีจุดตัดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่แยกบางโพ เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้เดินทางในย่านบางโพ  การสัญจรในย่านนี้นอกจากจะใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังมีรถโดยสารประจำทางอีกหลายสายที่วิ่งผ่านถนนเส้นนี้ไปยังถนนเส้นอื่น ๆ ได้ง่าย

ถนนประชาราษฏร์ สาย 1 เชื่อมต่อถนนเส้นหลักอีกหลายสายได้แก่

บริเวณแยกเกียกกาย เชื่อมถนนสามเสนไปยังเขตดุสิต และเชื่อมกับถนนทหาร ถนน ประดิพัทธิ์อีกด้วย

บริเวณแยกบางโพ เชื่อมถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่สามารถเชื่อมกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และถนนประชาชื่น

บริเวณแยกพิบูลสงคราม เชื่อมถนนวงศ์สว่าง และถนนพิบูลสงครามไปยังโซนนนทบุรี พระราม 5 นครอินทร์ ติวานนท์

ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร

มีจุดเริ่มต้นจากถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก หรือถนนกาญจนาภิเษก จนไปสิ้นสุดที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ และเชื่อมกับทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งแจ้งวัฒนะ ดาวคะนอง พระราม9 หรือบางนา

ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก มึจุดขึ้น-ลง 8 จุด ได้แก่

ด่านกาญจนาภิเษก เชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันตก, ด่านราชพฤกษ์ เชื่อมกับถนนราชพฤกษ์, ด่านบรมราชชนนี เชื่อมกับทางยกระดับบรมราชชนนี, ด่านบางบำหรุ เชื่อมกับถนนสิรินธร ถนนเทิดพระเกียรติ, ด่านจรัญสนิทวงศ์ 2 เชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์ โครงการสะพานเกียกกาย, ด่านจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมถนนจรัญสนิทวงศ์

ด่านพระราม 7 เชื่อมกับถนนประชาราษฏร์สาย 1 (Chapter One Shine Bangpo)

ด่านศรีรัช  เชื่อมกับทางพิเศษศรีรัช ถนนกำแพงเพชร 2

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระ)

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระ) ที่คาดว่าจะเปิดบริการในปี 2563 นี้ ระยะทาง 13 กิโลเมตร มีสถานีทั้งหมด 10 สถานี ได้แก่

1.สถานีเตาปูน Interchange จุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่)

2.สถานีบางโพ  (Chapter One Shine Bangpo) ห่างประมาณ 600 เมตร

3.สถานีบางอ้อ 4.สถานีบางพลัด 5.สถานีสิรินธร 6.สถานีบางยี่ขัน 7.สถานีบางขุนนนท์ 8.สถานีแยกไฟฉาย9.สถานีจรัญฯ13 10.สถานีท่าพระ

รถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) จุด INTERCHANGE กับ MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

รถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) มีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร ปัจจุบันมีสถานีให้บริการทั้งหมด 14 สถานี ได้แก่

สถานีเตาปูน, สถานีบางซ่อน, สถานีวงศ์สว่าง, สถานีแยกติวานนท์, สถานีกระทรวงสาธารณะสุข, สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี, สถานีแยกนนทุบรี, สถานีสะพานพระนั่งเกล้า, สถานีไทรม้า, สถานีท่าอิฐ, สถานีบางรักใหญ่, สถานีสามแยกบางใหญ่, สถานีตลาดบางใหญ่, สถานีคลองบางไผ่

เมกะโปรเจค สถานีกลางบางซื่อ (Bangsue Central Station)

สถานีกลางบางซื่อ หรือเรียกว่าศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย และเป็นว่าที่สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย สำหรับสถานีกลางบางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศโดยมีสายเหนือ, อีสาน, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก และยังออกแบบเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีน้ำเงิน) หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ นอกเหนือจากนั้นยังเตรียมการในอนาคตสำหรับรองรับรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย สถานีกลางบางซื่อ มีจำนวนทั้งหมด 24 ชานชาลา คาดว่าเมื่อสร้างเสร็จในปี 2563 จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย ซึ่งจะมาแทนสถานีกรุงเทพเดิม (หัวลำโพง)

สถานีกลางบางซื่อ ออกแบบมาให้มีพื้นที่ทั้งหมด 4 ชั้น ได้แก่

ชั้นใต้ดิน มีพื้นที่จอดรถได้ประมาณ 1,700 คัน

ชั้นที่ 1 พื้นที่จำหน่ายตั๋ว โถงรองรับผู้โดยสาร และร้านค้า พื้นที่เพื่อการพาณิชย์ต่าง ๆ

ชั้นที่ 2 ชานชาลาสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มจำนวน 2 ชานชาลา รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนจำนวน 2 ชานชาลา และรถไฟฟาทางไกลอีก 8 ชานชาลา ทั้งหมด 12 ชานชาลา

ชั้นที่ 3 ชานชาลารองรับรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้ง ทั้งหมด 12 ชานชาลา

ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือเกียกกาย

ท่าเรือเกียกกายตั้งอยู่ใกล้กับแยกเกียกกาย ตรงข้ามกับวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เรือด่วนเจ้าพระยาเป็นเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นระบบขนส่งคมนาคมในอีกทางเลือกที่มีความสะดวก รวดเร็วไม่แพ้กับการคมนาคมทางถนน มีระยะทางให้บริการเริ่มต้นตั้งแต่ ปากเกร็ด ไปจนถึงท่าเรือสาทร (ตากสิน) เป็นท่าเรือที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สถานีสะพานตากสิน

ศูนย์การค้าต่างๆ

ย่านบางโพเป็นย่านที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ดังนั้นจึงมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นใหม่มากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้คนในยุคปัจจุบัน

Gateway บางซื่อ ศูนย์การค้าแห่งใหม่ในย่านบางโพ ถือเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ไว้ครบ มีร้านอาหารชื่อดัง โรงภาพยนตร์ ร้านค้าต่าง ๆ และศูนย์บริการต่างๆแบบครบวงจร

Tesco Locus ประชาชื่น (เตาปูน) ห้างสรรพสินค้า ของใช้ทั่วไป เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารสด

Max valu สาขาบางโพ  จำหน่ายอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ของใช้ทั่วไป

Big C SUPERCENTER สาขาวงศ์สว่าง ซูเปอร์มาร์เก็ต และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร สินค้าและบริการต่าง ๆ

Makro สาขาสามเสน ศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคแบบขายส่ง สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป และบุคคลทั่วไป

Supreme Complex สาขาสามเสน ศูนย์การค้าแหล่งรวมกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ต่าง ๆ

Asawann คอมมูนิตี้มอลล์ สามเสน ศูนย์รวม ร้านอาหาร สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า และโรงเรียนติวเตอร์

Fat cat café แฟต แคท คาเฟ่แมวอ้วน คาเฟ่สำหรับคนรักแมว มีหลากสายพันธุ์ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ และพร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม

ไลฟ์สไตล์ดั้งเดิมของคนย่านเตาปูน-บางโพ

วิถีชีวิตการอยู่อาศัยของผู้คนสมัยอดีตมักจะอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป แต่ตลาดสดก็ยังเป็นแหล่งอำนวยความสะดวกที่นิยมของผู้คนในย่านนี้

Taopoon market ตลาดสดเตาปูน ตลาดสดที่เปิดให้บริการมานาน แหล่งจับจ่ายอาหารสด อาหารแห้ง และอื่นๆ

ตลาดสดขนาดใหญ่ ภายในตลาดจะมีอาหารสด อาหารแห้ง และร้านอาหารชื่อดังติดดาวมากมาย

ตลาดศรีเขมาฯ  ตลาดที่มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ อาหารพื้นเมือง อีกมากมาย

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยี นอกจากนั้นยังมีสถานศึกษาชั้นนำอื่นๆ เช่น โรงเรียนโยธินบูรณะ, โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โรงเรียนโยนออฟอาร์ค, โรงเรียน ราชินี บน, สถานีกลางบางซื่อ, สำนักงานใหญ่ SCG

โรงพยาบาลบางโพ  โรงพยาบาลที่มีทีมแพทย์ และพยาบาลที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการดูแล และการรักษาครบ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย

สำนักงานเขตบางซื่อ สถานที่ราชการสำหรับติดต่อ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในเขตบางซื่อ

ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานครเกียกกาย ที่รวบรวมหน่วยงานราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์สร้างสุขทุกวัย ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ สวนสาธารณะ ลานกีฬา และสถานที่ออกกำลังกาย

โครงการ Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) เป็นคอนโดสูง 33 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ติดถนนประชาราษฎร์สาย1 ทางเข้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันออก สำหรับตัวที่ดินจะมีลักษณะด้านหน้าแคบสำหรับเป็นทางเข้าออก และไปใหญ่ด้านใน จุดเด่นอีกจุดสำหรับโครงการนี้จะเป็นในส่วนของอาคารจอดรถที่แยกจากอาคารพักอาศัย โดยอาคารจอดรถจะมีความสูง 5 ชั้น จอดรถได้ประมาณ 280 คัน คิดเป็น 46% (รวมซ้อนคัน) ถ้าดูจาก Master Plan ตัวอาคารที่พักอาศัยจะเชื่อมต่อมาจากทางเข้าโครงการโดยตัวอาคารจะตั้งขนานกับทางเดินรถ วนไปทางด้านหลังสุดจึงจะเป็นอาคารจอดรถ สำหรับภายในอาคารที่พักอาศัยชั้นนี้จะประกอบไปด้วย LOBBY ที่เชื่อมต่อกับจุด Drop Off จากด้านนอก และเชื่อมออกไปยัง OUTDOOR LOBBY และพื้นที่สีเขียวที่จะอยู่กึ่งกลางระหว่างอาคารพักอาศัยกับอาคารจอดรถ

สำหรับ Facility จะมีอยู่ทั้ง 2 อาคาร โดยอาคารจอดรถชั้นบนสุดจะเป็นพื้นที่ของ GARDEN FACILITY ซึ่งจะประกอบไปด้วย Zen Chamber, PRIVATE COURT, CO-WORKING SPACE, PLAY YARD, YOGA YARD และ MEDITATION AREA

สำหรับ FACILITY ของอาคารที่พักอาศัยจะอยู่บนชั้นที่ 32 – 33 โดยมีพื้นที่ INFINITY POOL เป็นสระน้ำระบบเกลือที่มีความยาวถึง 25 เมตร ใกล้เคียงกันจะเป็นพื้นที่ของ SUNSET DECK และ SKY GARDEN  สำหรับรับวิวพระอาทิตย์ตกดิน และโค้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ในส่วนของชั้นที่ 33 จะเป็นพื้นที่ของ SKY FITNESS และ SKY LOUNGE

2nd – 4th FLOOR PLAN ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 2 ซึ่งชั้นที่ 2 – 4 จะมี Floor Plan เหมือนกัน โดยมีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น12 ยูนิต ข้อดีของ 3 ชั้นนี้คือจะได้เป็น Single Corridor ทั้งหมด

5th – 26th FLOOR PLAN จะเหมือนกันทั้งหมด Typical Floor Plan  ทั้งตำแหน่งของห้อง และแบบของห้องในแต่ละแบบ สำหรับตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบนั้นจะไล่มาตั้งแต่ห้องแบบ Studio ที่จะอยู่ทางด้านหน้าสุดทางทิศตะวันออก โดยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ และห้องแบบ 1 BEDROOM อีก 3 ยูนิตที่จะอยู่ทางด้านหน้าอาคาร แต่จะหันไปทางทิศใต้ ถัดเข้ามาตำแหน่งช่วงกลางอาคารจะเป็นห้องแบบ STUDIO หันทางทิศใต้ สำหรับห้อง STUDIO จะเป็นตำแหน่งที่ได้วิวแม่น้ำฝั่งเมืองรัฐสภาใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน Landmark ของกรุงเทพ และ 1 BEDROOM หันทางทิศเหนือ ในส่วนตำแหน่งห้องมุมจะเป็นห้องแบบ 1 BEDROOM RIVERFRONT ได้ทิศตะวันตก และใต้ ขนาด 44.55 ตร.ม. กับ 2 BEDOOOM RIVERFRONT ได้ทิศตะวันตก และเหนือ ขนาด 56.80 ตร.ม. โดยจะมีจำนวนยูนิต

ทั้งสิ้น 22 ยูนิต/ชั้น แบ่งออกเป็น

ห้องแบบ Studio จำนวน 11 ยูนิต

ห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 9 ยูนิต

ห้องแบบ 1 Bedroom Riverfront จำนวน 1 ยูนิต

ห้องแบบ 2 Bedroom Riverfront จำนวน 1 ยูนิต

27th – 30th Floor Plan พอขึ้นมาถึงชั้นที่ 27 จำนวนยูนิตจะลดเหลือเพียง 19 ยูนิต/ชั้น ซึ่งตำแหน่งของห้องในแต่ละแบบจะมีการเปลี่ยนเล็กน้อย โดยห้องแบบ STUDIO จะมีจำนวนลดน้อยลง โดยช่วงกลางอาคาร STUDIO จะเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 1 BEDROOM Exclusive เกือบทั้งหมด ในส่วนของห้องตำแหน่งมุมยังเหมือนกันชั้นผ่านๆมา

31st FLOOR PLAN สำหรับชั้นนี้ตำแหน่งและจำนวนยูนิตยังเท่ากับชั้นที่ 27 – 30 จำนวน 19 ยูนิต/ชั้น เพียงแต่ห้องแบบ 1 BEDROOM RIVERFRONT ที่เป็นห้องตำแหน่งมุม (ทิศตะวันตก และทิศใต้) จะเปลี่ยน LAYOUT ของห้องโดยจะภายในห้องนอนจะมีพื้นที่รับวิวกว้างขึ้น และได้พื้นที่ระเบียงที่ยาวขึ้น

จำนวนของห้องแต่ละแบบ / ชั้น

ห้องแบบ Studio จำนวน 5 ยูนิต

ห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 9 ยูนิต

ห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive 3 ยูนิต

ห้องแบบ 1 Bedroom Riverfront จำนวน 1 ยูนิต

ห้องแบบ 2 Bedroom Riverfront จำนวน 1 ยูนิต

STUDIO ขนาดตั้งแต่ 22.45 – 23.35 ตร.ม. สำหรับฟังก์ชั่นของห้องแบบนี้ภายในห้องจะไม่มีการกั้นส่วนต่างๆ ทุกส่วนภายในห้องจะเป็นพื้นที่ใช้งานเดียวกันเกือบทั้งหมด ข้อดีคือห้องจะดูกว้างไม่อึดอัด ง่ายต่อการใช้งานในแต่ละส่วน โดยนำครัว และห้องน้ำมาไว้ด้านหน้าสุดบริเวณทางเข้าห้อง ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ของเตียงนอนที่ติดกับทางออกไปยังระเบียงด้านนอก และส่วนสุดท้ายจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น โดยสามารถนำชุดโซฟาขนาดเลิฟซีทมาวางเข้ามุมได้อย่างพอดี สำหรับห้องแบบนี้เหมาะกับการพักอาศัยคนเดียวไม่ก็อย่างมาก 2 คน น่าจะเป็นจำนวนที่พอดีถ้าเทียบกับขนาดพื้นที่ของห้อง

1 Bedroom 28.80 – 29.30 ตร.ม. เป็นห้องที่ถูกออกแบบมาให้แยกสัดส่วนการใช้งานอย่างชัดเจน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ โดยกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ทำให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนง่ายต่อการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่ในส่วนของครัว โดยโต๊ะรับประทานอาหารตำแหน่งจะอยู่มุมห้องตรงข้ามกับชุดครัว ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ LIVING AREA ที่เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงด้านนอก ข้อดีของห้องแบบนี้คือจะได้ห้องที่ดูกว้างไม่อึดอัดเนื่องจากภายในห้องไม่มีอะไรมากั้นส่วนทำให้การมองเวลาเข้ามาภายในห้องไม่มีอะไรมาบังสายตา บวกกับห้องนอนกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนอีกด้วย จะยิ่งทำให้ห้องดูไม่อึดอัดเพิ่มขึ้นอีก ในส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน ถ้าดูจาก ROOM LAYOUT ทั้ง 2 แบบนี้จะสังเกตได้ว่าตำแหน่งพื้นที่ในแต่ส่วนนั้นถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว เหมาะกับการใช้งานเวลาพักอาศัยจริงๆ และใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า การที่จัดวาง LAYOUT ได้อย่างลงตัวนั้นจะส่งผลให้เหลือพื้นที่ใช้เพิ่มขึ้นอีก และทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัด

1 BEDROOM RIVERFRONT ขนาด 44.55 ตร.ม. สำหรับห้องแบบนี้จะมีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น เป็นห้องตำแหน่งมุมทางทิศใต้ ตะวันตก ซึ่งวิวที่ห้องแบบนี้จะได้รับนั้นจะเป็นวิวโค้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บวกกับวิวเมืองทั้งฝั่งกรุงเทพ และกรุงธนบุรี เส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และพระอาทิตย์ตกดิน ฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องแบบนี้จะแยกส่วนการใช้งานออกจากกัน โดยพื้นที่ครัว จะเชื่อมกับ LIVING AREA เป็นพื้นที่เปิดกว้างจนไปถึงด้านในที่เป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอก ในส่วนห้องนอนจะกั้นส่วนพร้อมมีห้องน้ำในตัว เพิ่มความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ซึ่งพื้นที่ใช้งานทั้ง 2 ส่วนนี้ภายในห้องนอน และพื้นที่ LIVING AREA จะมีพื้นที่ขนาดพอๆกัน ทำให้เกิดความสมดุลต่อการอยู่อาศัยเป็นอย่างดี

2 BEDROOM RIVERFRONT ขนาดตั้งแต่ 56.55 – 56.60 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สำหรับห้องแบบนี้จะมีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น เป็นตำแหน่งห้องมุมทางทิศเหนือ ตะวันตก วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา วิวเมืองทั้งฝั่งกรุงเทพ และกรุงธน การออกแบบสำหรับห้องนี้จะแยกเอาห้องนอนทั้ง 2 ห้องออกจากกันโดยนำ LIVING AREA มากั้นตรงกลางระหว่าง 2 ห้อง โดยพื้นที่ของครัวจะอยู่ด้านหน้าสุดทางเข้าห้องเชื่อมต่อกับพื้นที่ LIVING AREA และทางออกไประเบียงด้านนอก สำหรับห้องนอน MASTER จะเป็นห้องมุมที่ได้หน้าต่างเป็นกระจกใสเข้ามุมสามารถรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านนอกได้กว้างกว่าห้องทั่วไป ห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้พักอาศัยเป็นอย่างมาก

มาชม โครงการ Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) คอนโดสูง 33 ชั้น วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ยก FACILITY ไปไว้ชั้นบนสุด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย ซึ่งมุมนี้จะสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลาง สระว่ายน้ำ และ FITNESS ที่อยู่ด้านบนชั้นที่ 32 – 33 ได้อย่างชัดเจน

หลังจากเข้ามาภายในโครงการจุดแรกที่จะเจอจะเป็นจุด Drop Off ที่จะเชื่อมต่อกับ LOBBY ด้านใน บวกกับการตกแต่งที่ให้เข้าการสไตล์  Modern Chinese มีความเรียบง่ายแบบทันสมัยบวกกับความคลาสสิก

จุด Drop Off จะเป็นพื้นที่ในร่มที่มีขนาดค่อนข้างที่จะใหญ่สามารถรับ – ส่ง สิ่งของต่างๆในขณะยืนรอ ซึ่งสะดวกต่อการเป็นจุดรับ ส่ง

ทางเข้าไปยัง LOBBY ด้านใน จะเป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูโปร่งไม่อึดอัด

เข้ามาภายใน LOBBY จะแยกออกเป็น 2 ด้าน  ซ้าย และขวา ซึ่งตกแต่งออกมาในสไตล์จีน โดยเน้นเป็นสีขาวตัดสลับกับสีทอง ซึ่งจะดึงเอาความเป็นจีนที่มีมาจากกลุ่มชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มาเป็นเวลานาน

โถง LOBBY ทางด้านขวา

โถง LOBBY ทางด้านซ้ายนี้จะเป็นทางเชื่อมไปยังโถงลิฟท์ที่ใช้สำหรับขึ้นไปยังห้องพักอาศัย และเชื่อมต่อไปยังอาคารที่จอดรถ ถ้าสังเกตดีๆ บริเวณโถง LOBBY นี้จะมีทางออกไปยัง OUTDOOR LOBBY อีกด้วย

ออกมายังบริเวณ OUTDOOR LOBBY ที่ตกแต่ง Landscape ให้มีสระน้ำ ที่นั่ง และสวนสีเขียวในสไตล์จีน

เลือกเอาต้นไผ่มาตกแต่งให้เข้ากับ Concept Modern Chinese

ส่วนต่อมาจะเป็นชั้น Facility ที่อยู่บนอาคารที่จอดรถชั้นบนสุด GARDEN FACILITY

พื้นที่ GARDEN FACILITY นี้จะประกอบไปด้วย Zen Chamber  เน้นความสงบ, Private Court ที่เป็นคอร์ทสวนหิน, Play Yard สวนสำหรับเด็กเล่นพร้อมบ่อทราย, Yoga Yard ลานเล่นโยคะ และ Meditation Area สำหรับทำสมาธิ

และยังมีพื้นที่ INDOOR ที่เห็นเป็นกระจกใสๆ

พื้นที่ของ Co-Working Space จะมีจำนวนทั้งสิ้น 2 ชั้น

ภายใน Co Working Space จะจัดเตรียมชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้เรียบร้อย

มุมนี้เหมาะกับการกับ Workshop กันเป็นกลุ่มๆ

โถงเป็นแบบ Double Volume

พื้นที่นั่งเล่นบนชั้นที่ 2

กลับมาทางด้านอาคารพักอาศัย โดย MAIL ROOM จะอยู่ตำแหน่งบริเวณโถงลิฟท์ก่อนจะขึ้นไปยังห้องพักอาศัย

ลิฟท์โดยสารจะมีทั้งสิ้น 3 ตัว Service 1 ตัว

พาขึ้นมาชมในส่วน Facility บนชั้น 33 กันก่อน

ส่วนแรกจะเริ่มตั้งแต่ห้องออกกำลังกาย ที่จะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอาคารวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ภายในห้อง FITNESS ROOM จะจัดเตรียมเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับออกกำลังกายมาให้เรียบร้อยพร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่ไว้ใช้สำหรับประกอบในขณะออกกำลังกาย

ด้านในสุดของ FINESSS ROOM จะเป็นตำแหน่งของลู่วิ่ง ที่หันหน้าออกไปยังด้านนอกรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

วิวที่ได้ในขณะวิ่งอยู่ก็จะประมาณภายในรูปนี้

ออกมาจาก FITNESS ROOM จะเจอบันไดทางขึ้นไปยัง SKY LOUNGE

SKY LOUNGE

เข้ามาภายใน SKY LOUNGE มีการตกแต่งแบบ Modern Chinese   โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีแดงตัดสลับกับสีขาว ให้ความรู้สึก Modern Luxury

มุมนี้จะยืนอยู่ภายใน SKY LOUNGE มองย้อนกลับไปทางด้านนอก

พื้นที่นั่งเล่นอีกส่วนที่จะอยู่บนชั้นที่ 33 สำหรับจุดนี้จะเป็นจุดนั่งเล่นชมวิว ซึ่งวิวที่ได้จะเป็นวิวสระว่ายน้ำ วิวเมืองเส้นรถไฟฟ้า และวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ลงไปยังชั้นที่ 32 ที่เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ และ Jacuzzi

ส่วนต่อไปจะเป็นบันไดทางเชื่อมระหว่างพื้นที่ชั้นที่ 32 กับชั้น 33 โดยบริเวณบันไดจะมีที่นั่งไว้รับรองสำหรับนั่งเล่นนอนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งที่นั่งบนบันไดได้อย่างชัดเจน

สระว่ายน้ำมีขนาด 6*25 เมตร เป็นระบบเกลือ และ Sunset Deck

มาดูวิวในแต่ละทิศกันว่าจะได้วิวอะไรบ้าง

วิวทางทิศใต้จะหันไปทางเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และเห็นถนนประชาราษฎร์สาย1

วิวทิศใต้จะเป็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาพอดี สวยมากๆ

โค้งน้ำเจ้าพระยา

วิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้วิวเส้นทางด่วน กำลังวิ่งเข้าไปยังเมืองชั้นใน

วิวทางทิศตะวันตกที่หันไปยังฝั่งกรุงธน จะเห็นเส้นทางด่วนที่วิ่งมาจากบางบัวทองเชื่อมต่อไปยังเมืองชั้นใน

ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ห้องตัวอย่างแบบแรกจะเป็นห้องแบบ STUDIO

สำหรับห้องพักอาศัยที่นี่จะได้เป็นแบบ FULLY FURNISHED ซึ่งจะประกอบไปด้วยชุดครัว ตู้เสื้อ ชุดโซฟา เตียงพร้อมฟูก ภายในห้องน้ำอุปกรณ์ และสุขภัณฑ์เลือกใช้ COTTO และ AMERICAN STANDARD ความสูงภายในห้อง Floor to Ceiling 2.70 เมตร

เริ่มกันตั้งแต่เข้ามาภายในห้องกันเลย ชุดครัวที่ได้จะได้ทั้งตู้บน และล่าง ที่ติดตั้งตู้เก็บของต่างๆ บวกกับช่องสำหรับวาง MICROWAVE และเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย โดยตำแหน่งของชุดครัวนี้จะถูกวางเข้ามุมทางด้านหน้าของห้อง ซึ่งจะเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด

ถัดจากชุดครัวก็จะเป็นพื้นที่ของตู้เย็น ที่เว้นช่องสำหรับการวางไว้ให้เรียบร้อย

มุมนี้จะมองย้อนกลับไปทางเข้าของห้องพัก จะสามารถเห็นตำแหน่งของชุดครัวที่วางเข้ามุมไว้อย่างลงตัวดูแล้วไม่กินพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ

ส่วนถัดมาจะเป็นห้องน้ำที่จะอยู่ตรงข้ามกับชุดครัว และตำแหน่งของเตียงที่จะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน

ตำแหน่งของเตียงจะวางขนานถัดจากห้องน้ำ ซึ่งจะมีพื้นที่ว่างอยู่บริเวณข้างเตียงไว้สำหรับเดิน และตั้งโต๊ะสำหรับวางของใช้ส่วนตัวได้เพิ่มอีก

มุมนี้จะเป็นมุมที่มองย้อนกลับไปทางด้านหน้า จะเห็นได้ว่าห้องดูกว้าง และโล่ง ทั้งๆที่พื้นที่ภายในห้องมีขนาดประมาณ 22 ตร.ม. นิดๆ แต่กลับยังดูเหลือพื้นที่ใช้สอยอีก ซึ่งถ้าใครต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีก หรือชอบทำอาหาร แนะนำให้กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ห้องจะกลายเป็นห้องที่มีสัดส่วนเหมือนกับห้องแบบ 1 Bedroom ไปทันที

บริเวณปลายเตียง จะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟาที่จะวางเข้ามุมด้านในสุดของห้อง และชั้นวางทีวี

ห้องตัวอย่างถัดมาจะเป็นห้องแบบ 1 BEDROOM RIVERFRONT ขนาด 44.55 ตร.ม.

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอตำแหน่งของชุดครัว และตู้เก็บของที่ Built in ขนานติดกับผนัง

ชุดครัวที่ได้นั้นจะได้ และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ตามภายในภาพนี้เลย โดยจะเลือกใช้สีโทนขาวทำให้ดูสว่างสบายตา

เว้นช่องสำหรับวาง MICROWAVE และตู้เย็นมาให้เรียบร้อย

สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งจะวางไว้ในตำแหน่งตรงข้ามกับชุดครัว ซึ่งสามารถเห็นได้ว่ามีพื้นที่เหลือค่อนข้างจะเยอะๆ เนื่องจากการจัดวาง LAYOUT ที่ดีและลงตัวนั่นเอง

มองเข้าไปด้านในสุดจะเป็น LIVING AREA ที่เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงด้านนอก และจะเห็นตำแหน่งของการติดตั้งของแอร์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่กำลังดี

ส่วนต่อมาจะเป็นห้องนอน โดยทางเข้าห้องนอนจะอยู่กึ่งกลางระหว่างส่วนครัว และ Living Area ซึ่งห้องนอนจะกั้นส่วนได้อย่างเป็นส่วนตัว

เข้ามาภายในห้องนอน ตำแหน่งของเตียงจะถูกวางไว้ขนานไปกับหน้าต่างกระจกบริเวณตรงกลางของห้อง ตำแหน่งของแอร์จะติดตั้งไว้ช่วงมุมสุดด้านบนของห้อง ถัดเข้ามาจะเป็นตู้เสื้อผ้า ถ้ามองจากรูปนี้แล้วยังเหลือพื้นที่เปล่าอีกพอสมควร ซึ่งสามารถหาเฟอร์นิเจอร์อื่นๆมาตกแต่งเพิ่มก็ยังสามารถทำได้

พื้นที่ตรงกลางระหว่างตู้เสื้อผ้า และเตียง ยังมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ ซึ่งสามารถ Built in เป็นตู้ ชั้นเก็บของ หรืออย่างอื่นได้เพิ่มอีก

มองย้อนกลับไปด้านในทางเข้าไปยังห้องน้ำ

บริเวณด้านหน้าก่อนเข้าไปยังภายในห้องน้ำจะเป็นพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะเก้าอี้  สำหรับทำงาน หรือเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือแนะนำให้ BUILT IN เข้ามุมเป็นโต๊ะที่มาพร้อมกับชั้นตู้ต่างๆ

ภายในห้องจะแยกส่วนแห้ง และเปียกออกจากกันให้เรียบร้อย

สรุปได้ว่า คอนโด Chapter One Shine Bangpo (แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ) แห่งนี้เป็นคอนโดมิเนียมสูง 33 ชั้น แยกอาคารจอดรถกับอาคารพักอาศัย ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพครบครันทั้งทางด้านคมนาคม สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญๆมากมาย ใกล้จุดขึ้น ลง ทางด่วน และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ ทำให้ในเรื่องการเดินทางนั้นสะดวก และง่ายดาย นอกเหนือจากนั้นยังใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ทั้งศูนย์การค้าเล็ก ใหญ่ โรงเรียนชั้นนำ โรงพยาบาล และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ในส่วนการออกแบบทั้งภายนอก และภายในนั้นทำออกมาได้ดีและลงตัวในสไตล์โมเดิร์น มีห้องพักให้เลือกอยู่ 5 แบบหลักๆ  เป็น FULLY FURNISHED โดยจะมี STUDIO 1 แบบ, 1 BEDROOM 3 แบบ และ 2 BEDROOM 1 แบบ จำนวนยูนิตมีทั้งสิ้น 607 ยูนิต โดยห้องแบบ STUDIO จะมีจุดเด่นเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการจัดวาง รูปแบบภายในห้อง และมีพื้นที่ค่อนข้างที่จะกว้าง ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาพักอาศัยจริงๆ สำหรับ FACILITY ก็ทำออกมาได้อย่างสวยงามโดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางกระจายตามจุดต่างๆทั่วโครงการ แต่จุดหลักๆจะมีอยู่ 2 จุด คือ บนอาคารจอดรถชั้นที่ 5 ที่จะเป็นพื้นที่ของ GARDEN FACILITY และบนอาคารพักอาศัยชั้นที่ 32 – 33 จะเป็นพื้นที่ของ SKY FACILITY ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อมาเทียบกับราคาที่เริ่มต้น 1.89 ล้านบาทแล้วถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

พิเศษ!!! กับโปรโมชั่น  PAY LESS GET MORE จ่ายน้อย ได้มาก
รับโปรฯ สุดคุ้ม มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท*

– ส่วนลดสูงสุด 600,000 บาท
1ห้องนอน , 1 ห้องนอน Exclusive ลด 200,000 บ.

1ห้องนอน (RF) ลด 400,000 บ.

2ห้องนอน (RF) ลด 600,000 บ.

– อยู่ฟรี 1 ปี

– ฟรี ค่าใช้จ่ายวันโอน 7 รายการ
– ฟรีค่าทำสัญญาสูงสุด 100,000

– ผ่อนถูกกว่าเช่า ล้านละ 1,000 บาท / เดือน*

นัดชมโครงการและขอข้อมูลเพิ่มเติม Line@chapteronecondo

ราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท*

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ : http://bit.ly/2ow9iK8

 

*โปรโมชั่นอยู่ฟรี 1 ปี ไม่มีค่าใช้จ่ายหมายถึงลูกค้าจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 100,000 บาท ภายใน 30 วันหลังจากโอนกรรมสิทธิโดยที่ 100,000 บาทนั้นจะครอบคลุมการผ่อนชำระกับทางธนาคารที่ร่วมรายการในโปรแกรมที่รวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้วไม่เกิน 8,000 บาทต่อเดือน โดยที่ทางลูกค้าจะต้องเป็นคนชำระให้กับทางธนาคารโดยตรง

#PRUKSA #ChapterOneShineBangpo #chaptertOne #แชปเตอร์วันชายน์บางโพ #คอนโดวิวแม่น้ำที่สวยที่สุด