ทำเลและการเดินทาง

โครงการ RichPark Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59) ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้กับซอยพหลโยธิน 59 นอกจากนั้นยังอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต เพียง 0 เมตร ที่สถานีพหลโยธิน 59 อีกด้วย ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 นี้  โครงการตั้งอยู่ระหว่างช่วงถนนที่ใกล้กับวงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่ และถนนเทพรักษ์ ดั้งนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกมาก เชื่อมกับถนนเส้นหลักหลายสายที่ใช้เดินทางไปยังพื้นที่โซนต่าง ๆ ทั้งเข้าเมือง และออกนอกเมืองได้

เริ่มจากถนนพหลโยธินที่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ และถนนรามอินทราบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่ ใช้ถนนแจ้งวัฒนะเดินทางไปยังปากเกร็ด,ติวานนท์ เชื่อมไปจนถึงเมืองนนทบุรี ส่วนถนนเทพรักษ์เชื่อมไปสายไหม,สุขาภิบาล 5 หรือจะเดินทางบนถนนรามอินทราไปโซนมีนบุรีได้ นอกจากนั้นถนนรามอินทรายังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก

ถนนพหลโยธินเดินทางออกนอกเมืองไปยังปทุมธานีได้ หรือจะใช้เดินทางเข้าเมืองผ่านแยกเกษตรที่สามารถใช้เดินทางไปถนนงามวงศ์วาน หรือจะใช้เดินทางไปถนนประเสริฐมนูญกิจ หากเดินทางต่อก็จะเจอกับแยกรัชโยธินที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษกที่ใช้เดินทางเข้าโซนเมือง แหล่งออฟฟิศ โซนพระราม9, อโศก, สุขุมวิท หรือพระราม 4

ถนนวิภาวดีรังสิตสามารถใช้เดินทางมุ่งหน้ามายังถนนงามวงศ์วาน ถนนลาดพร้าว จตุจักร หมอชิต สะพานควาย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือจะเดินทางไปโซนรังสิต ดอนเมือง และจังหวัดปทุมธานี นอกจากนั้นยังมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้กับโครงการ คือ ทางด่วนยกระดับอุตราภิมุข หรือทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจะใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) เป็นหลัก โครงการอยู่ติดกับสถานีพหลโยธิน 59 ที่สามารถเดินทางไปยังทางจังหวัดปทุมธานีได้สะดวก โดยเดินทางมุ่งหน้าไปยังปลายทางสถานีคูคต และยังใช้เดินทางเข้าโซนเมือง สยาม สุขุมวิท และรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ยังมีสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่สถานีวงเวียนหลักสี่ นอกจากนั้นยังมี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่อีกด้วย

โครงการ RichPark Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59) ตั้งอยู่ในช่วงพหลโยธิน-หลักสี่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบครัน เพราะเป็นแหล่งที่พักอาศัย แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ โดยตลอดทั้งเส้นทางจะมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก-ส่ง อาคารพาณิชย์ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เทสโก้ โลตัส หลักสี่, บิ๊กซี สะพานใหม่, ไอที สแควร์, เซ็นทรัลพลาซ่า รามอินทรา และตลาดยิ่งเจริญ อีกทั้งยังมีสถานศึกษาชื่อดัง เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยเกริก และมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพฯ ส่วนสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล (CGH), โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช, โรงพยาบาลมงกุภฎวัฒนะ และยังอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง

การเดินทางไปยังโครงการ RichPark Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59) 

เริ่มการเดินทางจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปยังแยกรัชโยธินค่ะ

ขับตรงมาเรื่อย ๆ บนถนนรัชดาภิเษก เมื่อใกล้ถึงแยกรัชโยธินให้เราเตรียมตัวเลี้ยวขวาเพื่อที่จะเข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปทางวงเวียนหลักสี่

เลี้ยวเข้าถนนพหลโยธินให้ขับตรงตามถนนผ่านแยกเกษตร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วให้ขับตรงต่อไปมุ่งหน้าไปแยกวงเวียนหลักสี่ ซึ่งตลอดถนนทั้งเส้นนี้จะเป็นถนนแนวรถไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต

ขับตรงตามทางบนถนนพหลโยธิน ให้เราขับไปตามทางป้ายสะพานใหม่

เมื่อใกล้ถึงอนุสาวรีย์วงเวียนหลักสี่ให้ขับลงอุโมงค์เพื่อลอดใต้วงเวียนหลักสี่

เมื่อขึ้นมาจากอุโมงค์ให้ขับชิดซ้ายเพื่อที่จะเตรียมตัวเบี่ยงซ้ายเข้าโครงการ จากอุโมงค์เพียงประมาณ 450 เมตร ที่ตั้งโครงการจะอยู่ตรงรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 พอดี จนใกล้จะถึงสถานีพหลโยธินให้เราเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการค่ะ

ทางเข้าโครงการ Rich Park Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59)

โครงการ Rich Park Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59) คอนโดมิเนียมสไตล์ Modern Hybrid ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวโดยมีทางเชื่อม Sky walk ภายในโครงการมีพื้นที่ Community mall เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้แก่ผู้พักอาศัย

โครงการ ริชพาร์ค เทอมินอล@พหลโยธิน 59 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 3 -1-05 ไร่ ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนพหลโยธิน และสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) สถานีพหลโยธิน 59

สำหรับภายในอาคารชั้นที่ 1 กับ 3 จะเป็นพื้นที่ในส่วนของ Community Mall อาคารมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 4 ยูนิตพักอาศัยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทิศเหนือ และทิศใต้เป็นหลัก ข้อดี คือ ยูนิตทางทิศเหนือจะเป็นห้องที่แสงแดดส่องไม่ถึงมากนัก ภายในห้องจะค่อนข้างเย็นสบาย ส่วนยูนิตทิศใต้จะเป็นห้องที่ได้รับลม มีอากาศถ่ายเทดี

ทิศตะวันออก : ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน และสถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 59

ทิศตะวันตก : ด้านหลังโครงการ จะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้นจะเห็นวิวฝั่งสนามบินดอนเมือง

ทิศเหนือ : ซอยพหลโยธิน 59 จะมีบ้านพักอาศัย และกลุ่มอาคารพาณิชย์ ฝั่งตลาดยิ่งเจริญ

ทิศใต้ : พื้นที่เปล่า จะเห็นวิวเมืองฝั่งอนุเสาวรีย์หลักสี่

4^th Floor plan: ชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้นนี้ มีทั้งหมด 35 ยูนิต โดยพื้นที่บางส่วนจะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 14×5 เมตร, ฟิตเนส, โถงพักผ่อน และสำนักงานนิติบุคคล

ทิศเหนือ : มีห้องพักอาศัยจำนวน 14 ยูนิต แบ่งเป็น TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 24.61-26.37 ตร.ม. มีจำนวน 7 ยูนิต และ TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 33.14 – 34.45 ตร.ม. มีจำนวน 7 ยูนิต

ทิศใต้ : มียูนิตพักอาศัยจำนวน 15 ยูนิต ส่วนใหญ่จะเป็นยูนิต TYPE A ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 28.57 – 29.91 ตร.ม. มีจำนวน 13 ยูนิต และอีก 2 ยูนิต แบ่งออกเป็นยูนิต TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 25.69 ตร.ม. มีจำนวน 1 ยูนิต และ TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 34.20 ตร.ม.

ทิศตะวันออก : มียูนิตพักอาศัยจำนวน 2 ยูนิต เป็น TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 33.39 ตร.ม. และ TYPE D ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 34.40 ตร.ม.

ทิศตะวันตก : มียูนิตพักอาศัยจำนวน 4 ยูนิต เป็น TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดต 24.61 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต , TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 28.57-29.10 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต และ เป็น TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 33.14 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต

5^th Floor plan : สำหรับชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นมาอีก 7 ยูนิต ทางทิศใต้ นอกนั้นจะเหมือนกับชั้นที่ 4 ที่มีจำนวนยูนิต 35 ยูนิต รวมเป็น 42 ยูนิต

TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 24.61-26.37 ตร.ม. มีจำนวน 3 ยูนิต

TYPE A ห้องแบบ1  Bedroom ขนาด 29.91 ตร.ม. มีจำนวน 1 ยูนิต

TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.14 – 34.45 ตร.ม. มีจำนวน 3 ยูนิต

6^th  -14^th  Floor plan : จะเป็นชั้นพักอาศัย ที่มีจำนวนยูนิตเฉลี่ยชั้นละ 54 ยูนิต เพิ่มขึ้นมาจำนวน 12 ยูนิต จากเดิมที่ชั้น 5 ที่มีเพียง 42 ยูนิต ยูนิตที่เพิ่มขึ้นมา แบ่งเป็นยูนิตทิศเหนือจำนวน 10 ยูนิต และทิศใต้จำนวน 2 ยูนิต

ยูนิตที่เพิ่มขึ้นทางทิศเหนือ จะมีทั้งหมด 10 ยูนิต

TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 24.61-26.37 ตร.ม. มีจำนวน 4 ยูนิต

TYPE A ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 29.91 ตร.ม. มีจำนวน 4 ยูนิต

TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 33.14 – 34.45 ตร.ม. มีจำนวน 2 ยูนิต

ยูนิตที่เพิ่มขึ้นทางทิศใต้ จะมีทั้งหมด 2 ยูนิต

TYPE C ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 24.94 ตร.ม. มีจำนวน 1 ยูนิต

TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.32 ตร.ม. มีจำนวน 1 ยูนิต

TYPE A ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.57-29.91 ตร.ม.  

ตำแหน่งของยูนิต TYPE A ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทิศใต้ที่จะเห็นวิวเมืองทางฝั่งอนุเสาวรีย์หลักสี่ Layout ห้อง มีพื้นที่แนวยาวแบบตอนลึก ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัว และห้องน้ำ ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ Living area และจัดเป็นมุมนั่งรับประทานอาหารได้จำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนห้องนอนจะกั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน ภายในห้องนอนจะเชื่อมกับระเบียงด้านนอก สามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ และเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับห้องแบบนี้เหมาะสำหรับที่จะพักอาศัยคนเดียว หรือจะพักอาศัยเป็นคู่ก็ยังได้

TYPE C  ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 24.61-26.37 ตร.ม.

ตำแหน่งของยูนิต TYPE C จะอยู่ทั้งทิศใต้ และทิศเหนือ การแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องจะคล้าย ๆ กับยูนิต TYPE A แต่จะมีข้อแตกต่างกันที่พื้นที่ Living area ที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังสามารถจัดวางชุดโซฟา Built-in ชั้นวางทีวี และ จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นังได้เหมือนกัน แต่จะต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเล็ดลง เพื่อให้มีขนาดพอดีกับพื้นที่ใช้งาน ยูนิตแบบนี้เหมาะที่จะอาศัยอยู่คนเดียว

TYPE B ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.14-34.45 ตร.ม. 

สำหรับตำแหน่งของ TYPE B นี้จะวางผังสลับกับยูนิต TYPE C ภายในห้องจะมีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นมา คือ ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือจัดเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มได้ เมื่อเข้ามาในห้อง ส่วนแรกจะเป็นพื้นทีครัว จะได้เป็นครัวเปิดที่มีพื้นที่กว้าง สามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 4 ที่นั่ง เชื่อมกับพื้นที่ Living area ที่วางชุดโซฟา พร้อมโต๊ะกลาง และ Built-in มุมทีวีได้ ส่วนห้องนอน และห้องอเนกประสงค์กั้นพื้นที่ด้วยประตูแบบบานเลื่อนกระจกใส ที่ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น พื้นที่ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ และยังมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้

TYPE D ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40  ตร.ม. 

ตำแหน่งของยูนิต  TYPE D จะอยู่ทางทิศตะวันออกบริเวณมุมของอาคาร ห้องแบบนี้จะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น Layout ห้องออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานเป็นรูปตัว L มีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็ก หรือจะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ มีพื้นที่ใช้งานที่กว้าง โดยมีพื้นที่ครัวที่เป็นครัวเปิด สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ  2-4 ที่นั่ง เชื่อมกับพื้นที่ Living area ส่วนห้องนอนกั้นพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนด้วยประตูแบบบานเลื่อนช่วยทำให้ภายในห้องได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งจัดเป็นมุมแต่งตัว นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ว่างที่เหมาะจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อน โดยการวางโซฟา Day bed หรือจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานได้

วันนี้เราจะพามาชมโครงการ RichPark Terminal@Phaholyothin59 (ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59) เป็นคอนโดมิเนียม สูง 14 ชั้น จำนวน 1 อาคาร สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เป็นคอนโดที่มีจุดเด่นตรงที่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต)สถานีพหลโยธิน 59 เพียงระยะ 0 เมตร ปัจจุบันใกล้เสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ พร้อมเข้าอยู่ภายในสิ้นปี 2562 นี้แล้วค่ะ

นอกจากนั้นภายในโครงการยังมี Community mall มีร้านค้าทั้งหมด 12 ยูนิตที่ชั้น 2 ซึ่งจะรวบรวมร้านอาหาร ร้านค้า และอื่น ๆ  และมีโซนชอปปิ้งอีกด้วยค่ะ

ในอนาคตจะมี Sky walk เชื่อมต่อระหว่างอาคารกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (ส่วนต่อขยายหมอชิต-ตูคต) สถานีพหลโยธิน 59 โดยตรง จุดเด่นอย่างที่บอกว่าเป็นภาพคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า ถ้าดูจากภาพนี้แล้วจะเห็นว่าตัวโครงการจะอยู่ติดเพียง 0 เมตร โดยจะเชื่อมจากตัวโครงการที่บริเวณชั้น 2 สามารถเดินเชื่อมไปที่สถานีรถไฟฟ้าได้โดยตรง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัยเป็นอย่างมาก

ก่อนจะไปชมห้องตัวอย่าง เราจะมาชมพื้นที่ส่วนกลางหลัก ๆ ของโครงการซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 4 โดยจะมีโถงนั่งพักผ่อน Lobby Hybrid Loft เป็น Double Volume  โดยมีโต๊ะที่นั่ง ชุดโซฟาให้เลือกนั่งหลากหลายมุม ซึ่งเหมาะใช้เป็น Co-working space นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือได้อย่างสะดวก

ภายในพื้นที่โถงกว้าง ความสูง Double volume พร้อมติดตั้งกระจกใสให้ได้เห็นวิวเมืองโดยรอบ ๆ โครงการ ใช้แสงธรรชาติจากภายนอก โดยตกแต่งใช้โทนสีขาวตัดสลับกับสีดำ

ภายในพื้นที่โถงกว้าง ความสูง Double volume พร้อมติดตั้งกระจกใสให้ได้เห็นวิวเมืองโดยรอบ ๆ โครงการ ใช้แสงธรรชาติจากภายนอก โดยตกแต่งใช้โทนสีขาวตัดสลับกับสีดำ

สำหรับสระว่ายน้ำจะอยู่บนชั้น 4  เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีขนาด 14 x 5 เมตรซึ่งโครงการจะแยกสระเด็ก และสระผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัยต่อผู้พักอาศัย

Facility นอกจากจะอยู่บนชั้นที่ 4 แล้ว ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 14 เป็นพื้นที่สวนลอยฟ้า

ขึ้นมาชั้น Root top ชั้นที่ 14 จะเป็นสวนนั่งพักผ่อนเปิดโล่งแบบเต็มชั้น มี Jogging track ให้มาวิ่งออกกำลังกาย สูดอากาศด้านบนค่ะ

วิวรถไฟฟ้า และวิวเมืองทางฝังถนนพหลโยธินที่อยู่ทางทิศเหนือ ที่มองเห็นได้จากชั้นสวนลอยฟ้า

ห้องตัวอย่างที่โครงการจัดไว้ให้ชม มีทั้งหมด 2 แบบ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom และห้องแบบ 1 Bedroom Plus ซึ่งภายในห้องจะ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานเหมือนกันทุกยูนิต ประกอบไปด้วย เคาน์เตอร์ครัว, เตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง และเครื่องปรับอากาศ Panasonic

ห้องตัวอย่างแรกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.44 ตร.ม. กันก่อนนะคะ เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง เราจะพบกับพื้นที่ครัว ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ Living area และห้องนอนที่เชื่อมกับระเบียงค่ะ โดยจะมีความสูง Floor to ceiling อยู่ที่ 2.70 เมตร พื้นห้องจะปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี และซ่อมแซมง่าย

ประตูห้องพัก จะติดตั้งเป็น Digital Door lock จากแบรนด์ COLT ที่สามารถใช้งานผ่านระบบคีย์การ์ด , กุญแจ และรหัสผ่าน

พื้นทีครัวจะได้เป็นครัวเปิด  ซึ่งทางโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ ตำแหน่งจะอยู่ถัดจากเคาน์เตอร์ครัว

บริเวณเคาน์เตอร์ด้านล่างมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟไว้เรียบร้อย

เคาน์เตอร์ครัวจะติดตั้งเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานมาให้ด้วย วัสดุ Top ครัว เลือกใช้ปิดผิวลามิเนต มีข้อดี คือ ทนต่อรอย ขีดข่วนต่าง ๆ

มองย้อนกลับไปทางหน้าประตูห้อง ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเห็นว่าตำแหน่งของห้องน้ำซึ่งจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าห้องโดยจะอยู่แยกจากห้องนอน ข้อดี คือ เมื่อมีแขกมาเยี่ยมก็สามารถใช้ห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนของเรา

เข้ามาภายในห้องน้ำ ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว

สำหรับโถสุขภัณฑ์ ทางโครงการเลือกใช้จากแบรนด์ American standard ซึ่งเป็นแบรนด์มาตรฐาน

สำหรับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำ เลือกใช้แบรนด์ จาก CHARMER ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเช่นกัน

พื้นที่อาบน้ำ จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้โดยจะเป็นกระจกใสแบบ Temple Glass แยกพื้นที่แห้งและเปียกออกจากกัน และติดตั้งฝักบัวแบบ Hand shower

บริเวณ Shower Box ก่อธรณีช่วยป้องกันน้ำออกมาด้านนอก

มองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง จะเป็นตำแหน่งชุดครัว โดย Layout จะจัดให้เป็นทางเดิน โดยแยกส่วนใช้งานอย่างพื้นที่ครัว และห้องน้ำให้แยกส่วนออกจากพื้นที่พักผ่อน

เมื่อเดินเข้ามาด้านในถัดจากพื้นที่ครัว จะเป็นพื้นที่ Living area สำหรับห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด โดยจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

พื้นที่สำหรับวางโต๊ะนั่งรับประทานอาหาร จะอยู่ถัดจากพื้นที่เคาน์เตอร์ครัว ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่ครัว และห้องนอน

สำหรับ Living area จะอยู่ตำแหน่งกลางห้อง

พื้นที่ Living area ทางโครงการจะจัดชุดโซฟาขนาดประมาณ 2 ที่นั่ง และมุมทีวีไว้ให้เป็นไอเดีย  สำหรับภาพนี้จะเป็นระยะการนั่งดูทีวี ซึ่งอยู่ในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป

สำหรับห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน 3 ตอน ข้อดี คือ ทำให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัด และ สามารถรับแสงธรรมชาติได้จากภายนอก

สำหรับห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน 3 ตอน ข้อดี คือ ทำให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัด และ สามารถรับแสงธรรมชาติได้จากภายนอก

ภายในห้องนอน ทางโครงการจะ Built-in เตียงนอนคิงส์ไซส์ ขนาด 5 ฟุต ติดกับห้องพักมาให้เรียบร้อย

ถ้าดูจากภาพนี้ภายใน ห้องนอนจะเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอก

ห้องนอนจะเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก โดยหน้าต่างเป็นกระจกใสบานกระทุ้ง 1 บานไว้เปิดสำหรับระบายอากาศ และรับแสงสว่างจากธรรมชาติในช่วงกลางวันได้อย่างเต็มที่

บริเวณปลายเตียง ทางโครงการ จะ Built-in ที่เป็นกระจกตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมติดตั้งกระจกบานใหญ่ให้พร้อมใช้งาน

ถ้าดูจากภาพนี้ จะเห็นระยะห่างระหว่างปลายเตียงกับตู้เสื้อผ้า ยังมีพื้นที่ว่างไว้สำหรับเดินเข้าออกด้านข้างเยอะพอสมควร

มุมนี้จะมองออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นมุมที่สามารถนำโต๊ะมาตั้งเป็นโต๊ะทำงาน หรือเอาโซฟามาวางเข้ามุมเป็นมุมนั่งเล่น เพิ่มขึ้นได้อีกจุด

บริเวณพื้นที่ว่างข้างเตียงสามารถเพิ่มโต๊ะใช้งานขนาดเล็ก ๆ ไว้เป็นมุมอ่านหนังสือ หรือมุมนั่งพักผ่อนได้

ห้องตัวอย่างถัดมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus สำหรับห้องแบบนี้จะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 34.27-34.40 ตร.ม. โดยห้องนี้จะมีขนาด 34.45 ตร.ม. ภายในห้องความสูง Floor to ceiling 2.70 ตร.ม. โดยห้อง 1 Bedroom Plus นี้ จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ได้ใช้งานเพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง

ห้องตัวอย่างถัดมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus สำหรับห้องแบบนี้จะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 34.27-34.40 ตร.ม. โดยห้องนี้จะมีขนาด 34.45 ตร.ม. ภายในห้องความสูง Floor to ceiling 2.70 ตร.ม. โดยห้อง 1 Bedroom Plus นี้ จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ได้ใช้งานเพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าห้อง แต่สำหรับห้องนี้จะแตกต่างกับห้องแบบ 1 Bedroom ตรงที่ตำแหน่งของเคาน์เตอร์ครัวจะวางขนานกับผนังทางเข้าห้องน้ำ ทำให้มีพื้นที่บริเวณด้านหน้าใหญ่ และกว้างกว่าแบบที่แล้ว

เมื่อมองย้อนกลับไปยังหน้าห้อง จะเห็นว่ามีพื้นที่ใช้งานที่กว้างขึ้น เดินเข้าออกได้สบาย ไม่อึดอัด เพราะการวางเคาน์เตอร์ครัว ช่วยทำให้พื้นที่ด้านหน้ากว้างขึ้น

ถัดจากบริเวณพื้นที่ครัว จะเป็นพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 2 ที่นั่ง

เคาน์เตอร์ครัวติดตั้งเตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานจาก TEKA มาให้พร้อมใช้งาน ส่วน Top ครัวเลือกใช้วัสดุปิดผิวเมลานีนที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ทนรอยขีดข่วน และทำความสะอาดง่าย

ทางโครงการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งไว้ดูเป็นตัวอย่าง หรือเราจะติดตั้งโต๊ะรับประทานอาหารแบบที่สามารถพับเก็บได้ เมื่อไม่ได้ใช้งานก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นด้วยค่ะ

เข้ามาดูภายในห้องน้ำ โดยฟังก์ชั่นจะเหมือนกับห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Temple Glass แยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกจากกันเป็นสัดส่วน

ตำแหน่งโถสุขภัณฑ์จะอยู่ในตำแหน่งเข้ามุมห้องพอดี

ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ติดตั้งกระจกบานใหญ่ไว้ให้พร้อมใช้งาน

อ่างล่างหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมเช็ดทำความสะอาดง่าย โดยด้านล่างจะเป็นตู้สำหรับเก็บของ เครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมา

สำหรับพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งกระจก Temple Glass เป็นฉากกั้นอาบน้ำไว้แยกส่วนแห้ง และส่วนเปียก

ตำแหน่งชุดโซฟาจะวางอยู่ตรงกลางห้อง ระหว่างห้องครัว และห้องนอน

พื้นที่ Living area สามารถวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็ก ด้านในซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์กั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อนอยู่ติดกับห้องนอน

ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน , ห้องงานอดิเรก , ห้องแต่งตัว หรือเป็นห้องนอนก็ได้ตามการใช้งาน

ภายในห้องอเนกประสงค์ ทางโครงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดีย โดยจะตกแต่งพื้นที่ด้วยการ Built-in ตู้หนังสือ หรือชั้นวางของ

บริเวณด้านหน้าห้องนอนจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี ซึ่งสามารถ Built-in ชั้นติดกับผนังตามภาพนี้

เข้ามาภายในห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

ภายในห้องนอน ทางโครงการได้ Built-in เฟอร์นิเจอร์ให้ครบพร้อมใช้งาน ประกอบไปด้วย ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต , ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ตำแหน่งตู้เสื้อผ้า จะ Built-in ขนานติดไปกับผนัง บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องนอน และตรงข้ามจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นตู้ขนาดใหญ่ สีขาว โดยมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประตูบานเลื่อน มีหน้าบานกระจกที่ทางโครงการ Built-in ไว้ให้ และมีชั้นเก็บของด้านบน โดยมีฟังก์ชั่น และพื้นที่เก็บของเยอะพอสมควร

โครงการคอนโดมิเนียมที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเล และติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต) ที่สถานีพหลโยธิน 59  ที่เชื่อมต่อ Sky walk กับโครงการโดยตรง เพียง 0 เมตร โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่พหลโยธินที่ใกล้กับบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่ที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สำหรับการเดินทางเข้าออกเมืองก็มีความสะดวกมาก เพราะถนนพหลโยธินเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลัก ได้แก่ ถนนรามอินทรา, ถนนแจ้งวัฒนะ , ถนนเทพรักษ์ และยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ สำหรับแหล่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงโครงการที่มีอย่างครบครัน จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า , ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต ,ร้านค้าทั่วไป , โรงพยาบาล และสถานศึกษา  นอกจากความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รอบ ๆ โครงการแล้ว ภายในโครงการเองยังมี Community Mall ที่ประกอบไปด้วยร้านสะดวกซื้อ , ร้านอาหาร และโซนชอปปิ้ง รวบรวมไว้ครบในทึ่เดียว

สำหรับโครงการ ริชพาร์ค เทอมินอล @พหลโยธิน 59 ได้รับการออกแบบอาคารในสไตล์ Modern Hybrid เป็นคอนโดมิเนียม High rise อาคารสูง 14 ชั้น มีทั้งหมด 563 ยูนิต ภายในโครงการจะมีขนาดห้องตั้งแต่ 24 – 34.45 ตร.ม. ในรูปแบบห้อง 1 Bedroom  และห้อง 1 Bedroom Plus  ซึ่งเป็นขนาดห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัยได้จริง แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วน และยังมีพื้นที่ส่วนกลาง (Facility) ให้ได้ใช้งานจะมีทั้งแบบ Out door อย่างสระว่ายน้ำ , สวนนั่งพักผ่อน และ Jogging track และแบบ In door ก็จะเป็นฟิตเนส , Co-working space ที่มีมุมนั่งสำหรับพักผ่อน หรืออ่านหนังสือ

โครงการคอนโดมิเนียมที่มีทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า พร้อมมี Community mall อยู่ภายในโครงการ ในราคาเฉลี่ยเพียง 92,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าเป็นราคาที่ยังสามารถจับต้องได้ การมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะทำให้ในอนาคตทำเลในย่านนี้ก็มีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แพ้กันกับทำเลแนวรถไฟฟ้าในพื้นที่โซนอื่นๆ

โครงการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังสนใจโครงการคอนโดมิเนียมในย่านพหลโยธิน-หลักสี่ ที่มีทำเลติดรถไฟฟ้า และยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านต้น ๆ เหมาะจะซื้ออยู่อาศัยเป็นที่พักหลังแรก หรือจะซื้อเป็นโครงการหลังที่ 2 ก็ได้