ทำเลและการเดินทาง

มีนบุรีเปลี่ยนไปแล้ว อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าความเจริญมักจะมาพร้อมกับปัจจัยหลายอย่าง สิ่งนึงเลยถ้าเจ้าสิ่งนี้ไปถึงไหนที่นั้นต้องเจริญ นั้นคือรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่แล้วนอกจากการพัฒนาที่ดินให้ความเจริญเกิดขึ้น ก็จะมีรถไฟฟ้านี่แหละที่จะนำพาความเจริญทางด้านต่างๆ เข้าสู่ทำเลนั้นๆ ความเจริญจะเกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า อย่างกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังมาแรงไม่น้อย รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ก็เป็นสายที่พาดผ่านมาจากทางนนทบุรีมาเชื่อมต่อตามแนวถนนรามอินทรา และมาสุดที่สถานีตลาดมีนบุรี ส่งผลให้ย่านมีนบุรีจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากเดิมที่เคยเป็นทำเลที่ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ปัจจุบันกลายเป็นทำเลที่มีความเจริญอย่างก้าวกระโดดเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น New EBD (Extension Business District) เป็นทำเลส่วนต่อขยายย่านธุรกิจเมืองใหม่ทางกรุงเทพตะวันออก ที่ขยายตัวมาจากเมืองชั้นใน ที่หลายคนให้ความสนใจ และถูกจับตามองมากที่สุด ณ เวลานี้เลยก็ว่าได้

แต่ก่อนที่จะมาเป็นย่านมีนบุรีที่มี ศักยภาพครบครัน และคึกคักอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ในอดีตทำเลย่านมีนบุรีนั้นถือเป็นทำเลที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ชั้นใน และการคมนาคมยังไม่ถูกพัฒนาเหมือนในทุกวันนี้ ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบาก พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นบ้านเรือนสลับกับสวนไร่นา บ่อปลา นาบัว และไร่หญ้า ประชากรส่วนใหญ่ก็ประกอบอาชีพเป็นชาวไร่ชาวสวน แต่เมื่อตัดภาพมายังปัจจุบัน มีนบุรีได้ถูกพัฒนาไปมาก จากพื้นที่สวนไร่นาได้ถูกแทนที่ด้วยอาคารที่อยู่อาศัยที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายอยู่เต็มพื้นที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ ชั้นใน เรามาชมจุดเด่นจุดแข็งของทำเลมีนบุรีกันเลยครับ

ปัจจุบันย่านมีนบุรีมีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายโครงการ 1 ในนั้นคือ โครงการ ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี)  เนื่องจากศักยภาพของทำเลที่มีความหลากหลายในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเดินทาง การคมนาคม ที่มีรถไฟฟ้าถึงสองสายพาดผ่านได้แก่ สายสีชมพู Interchange กับสายสีส้ม ที่จะเปิดให้ใช้บริการได้ในอนาคตอันใกล้ และยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล รวมถึงเป็นทำเลที่ตั้งของแหล่งงานด้านอุตสหกรรมขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ โซนตะวันออกอย่าง นิคมอุตสหกรรมบางชัน ทั้งหมดนี้จึงทำให้ “มีนบุรี” กลายเป็น New EBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โซนตะวันออกเลยก็ว่าได้ และยังเป็นทำเลที่ติดอันดับตัวเลือกยอดนิยมในการอยู่อาศัยของผู้คนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายต่อการใช้ชีวิตในเมืองอีกด้วย

หากพูดถึงศักยภาพด้านการคมนาคม หรือการเดินทางต้องบอกเลยว่าสะดวกมากๆ หลังจากที่มีแผนโครงการสร้างรถไฟฟ้า ทำให้ย่านมีนบุรีมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ได้แก่ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ทั้งหมด 30 สถานี รวมเป็นระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร โดยจะมีจุด Interchange ทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน ระหว่างสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี, ระหว่างสายสีแดงที่สถานีหลักสี่, ระหว่างสายสีเขียวที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และระหว่างสายสีส้มที่สถานีมีนบุรีนั่นเอง ซึ่งการมาของรถไฟฟ้าทำให้ยกระดับการเดินทางของคนเมืองมีนบุรี ได้ไปไหนมาไหนอย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญ และเปลี่ยนมีนบุรีเป็นทำเลที่น่าอยู่อาศัยในทันที

สำหรับผู้ที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวล เพราะย่านมีนบุรีก็มีถนนเส้นหลักพาดผ่านอย่างถนนรามอินทรา ที่พาไปเชื่อมต่อยังถนนเส้นสำคัญอื่นๆ ได้อีกหลายเส้นทาง อาทิ ถนนสิหบุรานุกิจ ถนนเสรีไทยที่เชื่อมต่อไปยังลาดพร้าวได้ ถนนสุวินทวงศ์เชื่อมต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา ถนนรามคำแหงเชื่อมต่อไปยังเขตสะพานสูง, บางกะปิ, สวนหลวง และถนนกาญจนาภิเษก ทำให้ไม่ว่าจะเข้าหรือออกเมืองก็ไม่ใช่เรื่องยาก

นอกจากเส้นทางการเดินทางที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทางแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลมีนบุรีคือ รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่แพ้กับในเมืองอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ต้องบอกเลยว่ามีความครบครันจริงๆ ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์ไหน มีนบุรีก็สามารถรองรับได้อย่าง Flow~

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คนในไลฟ์สไตล์ปัจจุบันก็คือห้างสรรพสินค้า เพราะเป็นแหล่งที่รวบรวมไปด้วยสินค้า และบริการมากมายที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ซึ่งมีนบุรีก็เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้ามากมาย ได้แก่ แฟชั่นไอส์แลนด์, Chic Republic, บิ๊กซี ร่มเกล้า, บิ๊กซี สุวินทวงศ์, โลตัส มีนบุรี และแม็คโคร รามอินทรา

สำหรับใครที่ไม่ชอบเดินห้าง แต่ชอบไปจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด ตามร้านค้า สไตล์ Local Market บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของมีนบุรี เพราะเป็นทำเลที่มีตลาดตั้งอยู่เยอะมาก รวมถึงร้านอาหาร และร้านค้าขนาดย่อมเรียงรายอยู่เต็ม 2 ข้างทางเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ตลาดมีนบุรี และตลาดนัดจตุจักร 2 (มีนบุรี) เป็นต้น

โรงพยาบาลถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่ขาดไม่ได้พอๆ กับที่อยู่อาศัย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่ฉุกเฉินหรือเจ็บป่วยขึ้นมา คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการมีโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านอีกแล้ว ซึ่งมีนบุรีก็เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลชั้นนำอีกหลายแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, โรงพยาบาลเสรีรักษ์ และ โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ซึ่งสถานพยาบาลเหล่านี้ นอกจากจะให้บริการการด้านการแพทย์แล้ว ยังถือเป็นแหล่งงานที่สำคัญขนาดย่อมของเหล่าบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย

และนอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานพยาบาลหลายแห่งแล้ว มีนบุรียังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังอีกหลายแห่งด้วย โดยครอบคุมการศึกษาระดับประถม มัธยม ไปจนถึงระดับอนุปริญญา และระดับปริญญาเลยทีเดียว ได้แก่ โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ, โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ, วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขต ร่มเกล้า ซึ่งในสถานศึกษาเหล่านี้ก็มักจะมีนักเรียน หรือนักศึกษาหมุนเวียนอยู่ตลอดในทุกๆ ปี

มีนบุรียังเป็นที่ตั้งของแหล่งงานด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญของโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกอย่าง อุตสหกรรมบางชันที่มีพื้นที่ประมาณ  677-68-10 ไร่ และมีโรงงานอุตสาหกรรมพื้นที่ถึง 108 โรงงานด้วยกัน อาทิ Farmhouse, Nestle, ไทยน้ำทิพย์, PTT และสยามร่วมมิตร เป็นต้น นอกจากนี้ย่านมีนบุรี ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านแหล่งงานอุตสาหกรรมลาดกระบัง ที่มีพื้นที่ประมาณ 2,559 ไร่ มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่กว่า 302 โรงงาน เช่น 3M, KCE, cpram, DKSH, IZUZU, DTAC และ HONDA เป็นต้น

นอกจากแหล่งงานด้านอุตสาหกรรม มีนบุรียังเป็นทำเลที่ใกล้กับแหล่งงานที่สำคัญอื่นๆ ของกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง โดยใช้เวลาเดินทางไปไม่ถึง 1 ชม.*

20 นาที* ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

40 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง

40 นาที* ถึง ย่านอโศก-พระราม 9

(แผนที่โครงการ ATMOZ FLOW MINBURI)

จากภาพรวมจะเห็นว่ามีนบุรีได้มีการพัฒนาไปมาก มีความเจริญไม่แพ้กับในโซนกรุงเทพฯ ชั้นใน และยังมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปในอนาคต ทำให้เหล่านักพัฒนาด้านอสังหาฯ มากมายเล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลนี้ เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ มากมาย เช่นเดียวกับ AssetWise ที่ได้เห็นศักยภาพของทำเลเช่นเดียวกัน จึงได้เกิดเป็นเมกะโปรเจคใหม่นั่นก็คือโครงการ “ATMOZ FLOW MINBURI” ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางมีนบุรี รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ภายในโครงการยังมาพร้อมส่วนกลางกว่า 35 กิจกรรม ซึ่งต้องบอกว่าเยอะมากจริงๆ สามารถรองรับการใช้ชีวิตได้อย่าง Flow~ มากกว่านั้นคือ ความคุ้มค่าที่จะได้รับ เมื่อเปรียบเทียบราคากับภาพรวมต่าง ๆ ห้องแบบ 1 Bedroom ที่เริ่มต้นเพียง 1.49 ลบ.* เท่านั้น บอกเลยว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ไม่ว่าจะซื้ออยู่เองหรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่าก็ตาม

สำหรับโครงการ ATMOZ FLOW MINBURI จะเป็นหนึ่งในโครงการ WisePark เป็นโครงการขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ที่เป็น Hub ใหม่ใจกลางมีนบุรี เป็นจุดศูนย์กลางแห่งใหม่ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ทั้งที่พักอาศัยที่เป็นคอนโดมิเนียม รวมไปถึง Community Mall ที่จะอยู่ด้านหน้าสุดติดถนนใหญ่ สำหรับโครงการ WisePark จะมี Concetp – The Next Urban Community for All Gens จะออกแบบมาภายใต้แนวคิด Wisecology ที่คำนึงถึงเรื่องการอยู่อาศัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งด้านความปลอดภัย  ความทันสมัย  สุขอนามัย รวมไปถึงการพัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย  เพราะภายในโครงการจะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และการใช้งานที่ตอบโจทย์แบบยั่งยืนสำหรับลูกบ้าน ทุกเพศ ทุกวัย ทุก Generation รวมทั้งชุมชนโดยรอบ ซึ่งจะตอบโจทย์ Lifestyle ของผู้พักอาศัยเป็นอย่างมาก สำหรับโครงการนี้จะเหมาะกับคนอยู่อาศัยจริงๆ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคอนโดใหม่ที่กำลังเป็นกระแสแรงอยู่ในตอนนี้กัน โครงการ ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี) เป็นคอนโดใหม่ติดถนนใหญ่สีหบุรานุกิจ เป็นถนนที่เชื่อมต่อมาจากถนนรามอินทรา สำหรับตัวโครงการจะเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 3 อาคารซึ่งจะแบ่งออกเป็น Building A  B และ C ในส่วนของส่วนกลางที่นี่เค้าจะแยกออกมาอีก 1 อาคารโดยเฉพาะ จะเป็น Pavilion อยู่ตรงกลางโครงการระหว่าง 3 อาคาร  จำนวนยูนิต 739 ยูนิต บนที่ดิน  6-0-21.10 ไร่ จำนวนที่จอดรถประมาณ 235 คัน หรือคิดเป็น 32% โดยปกติแล้วคอนโด Atmoz เค้าจะให้ความสำคัญกับผู้พักอาศัยเป็นหลัก โดยจะคิดออกแบบในส่วนต่างๆ เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความสุข และความสะดวกสบายต่างๆ ตลอดเวลาที่พักอยู่ที่นี่ สำหรับโครงการนี้เค้าออกแบบส่วนกลางให้ถึง 35 กิจกรรม ถือว่าเยอะมากๆๆ เดี๋ยวไปชมกันว่ามีอะไรบ้าง

สำหรับโครงการจะออกแบบมาภายใต้ Concept “การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด ตอบโจทย์วิถี New Normal ที่ผสมผสานเทคโนโลยี และพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติไว้ในทุกรายละเอียดได้อย่างกลมกลืน เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน ภายใต้ 3 แนวคิด “ Smart Living, Unique History Traditional, Nature Physically”

ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี)

จุดเด่นส่วนต่อมาจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางโดยจะแยกออกมาอีก 1 อาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อยู่ภายในโครงการ ATMOZ FLOW MINBURI สำหรับที่นี่จะจัดส่วนกลางมาให้ 35 กิจกรรม เยอะมากกกก

โครงการ ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี) ภายในโครงการจะประกอบไปด้วยอาคารพักอาศัย 3 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A B C และมี Pavilion แยกออกมาอีก 1 อาคาร ซึ่งส่วนกลางที่นี่จะมี 35 กิจกรรม จะประกอบไปด้วย

Building A

ชั้นที่1 – 1.Social zone  2.The stage  3. Smart Locker

ชั้นที่2–  4. Co-Working 5.Private Seat 6. Meeting Room 7. Sky Flow seat

Building B

ชั้นที่1  8. Lobby B

Building C         

ชั้นที่1. 9.Lobby C

ชั้นที่8 10. Wind Flow Space Area

Ground Floor / Park

11. OXY Grassland 12. The Meadow Yard 13. Mysterious River
12. Sun Deck Jacuzzi 15. Fun Creek 16. Kids Pool + Shallow Pool
13. Wild Flow Social Space 18. Mysterious Forest 19. Blue Lagoon

Pavilion (Facility Building D)

ชั้นที่1 20. Relax Flow Spa 21. Salon & Nail 22. Play Room

23. Open air library lounge 24. Refreshing area

ชั้นที่2 25. Co-kitchen 26. Social Terrace 27. Live studio

28. Co working space 29. Creative zone 30. Yoga & Dance
29. Health Station 32. Active Gym 33. Slow Bar

ชั้นที่3 34. Party Lounge 35. Cozy Wind Flow

(Facility Building E)

ชั้นที่1 36. The Fall 37. Hidden Cave

ชั้นที่2 38. Sky Flow wink

ทางเข้าออกโครงการจะหันไปทางตะวันตกเฉียงใต้นะครับ

นำภาพบรรยากาศส่วนกลางบางส่วนให้ชมกันครับ ห้องกระจกใสบริเวณชั้นที่ 2 ของอาคาร A Flow Seat, Private Seat, Meeting Room

Wind Flow Space Area บนอาคาร C

ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลาง

Active Gym

Co-kitchen

Active Zone & Party Lounge

รูปแบบห้องพักอาศัย

ห้องพักอาศัยที่นี่จะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะกระจายอยู่ทั้ง 3 อาคาร เราไปชมห้องตัวอย่างทั้ง 4 แบบกันเลยครับ รูปแบบที่พักอาศัย : 1 Bedroom 23 ตร.ม. 1 Bedroom Exclusive 25 ตร.ม. 1 Bedroom Extra 28 ตร.ม. และ1 Bedroom Plus 32 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างที่ 1 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23 ตร.ม. สำหรับห้องที่นี่จะได้รับเป็นแบบ Fully Furnished ประกอบไปด้วยชุดครัวที่มาพร้อมกับ Hood Hob โต๊ะวางทีวี ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า ชุดโซฟา เตียง เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock สำหรับความสูงภายในห้อง Floor to Ceiling 2.40 เมตร  เปิดเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ของครัว และตู้ชั้นวางของ ครัวจะได้เป็นครัวปิดนะครับ ซึ่งห้องแบบนี้จะกั้นส่วนครัวด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ตรงข้ามกับชุดครัวทางโครงการจะ Built in ตู้ และชั้นเก็บของมาให้ตามภาพนี้เลยครับ

ถัดเข้าด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ตำแหน่งวางชุดโซฟา ที่เชื่อมต่อไปยังตำแหน่งของเตียง ที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างพอดี ตรงข้ามชุดโซฟา และเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวี และ Built in ตู้เสื้อผ้า ถ้ามองย้อนกลับไปด้านหน้าของตัวห้องจะเห็นตำแหน่งของห้องน้ำซึ่งจะอยู่ด้านหน้าของตัวห้อง

ภายในห้องน้ำจะกั้นส่วนแห้ง กับส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ทางโครงการจะเลือกใช้เป็นของ Cotto หรือเทียบเท่า

ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในการใช้งานถูกออกแบบเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เข้ามาภายในห้องจะเจอ Living Area เป็นอันดับแรก พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟา และชั้นวางทีวี ขนาดของโซฟาสามารถวางขนาดที่สามารถนั่งได้ประมาณ 3 ท่านเลยนะครับ แถมยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะกลางได้อีกด้วย  มุมวางชั้นทีวีสำหรับพื้นที่ตรงนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สามารถ Built in ชั้นวางทีวี วางของเป็นแนวยาวเพิ่มได้อีกนะครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นในส่วนของครัวสำหรับแบบนี้ จะได้เป็นครัวปิดเช่นกัน เข้ามาภายในครัวตำแหน่งของชุดครัวจะวางขนานไปกับผนัง และเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงด้านนอก สำหรับห้องนี้เหมาะกับใครที่ชอบทำอาหารเป็นประจำ เพราะอากาศจะถ่ายเทได้ดี ทางโครงการกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน 2 ตอน ชุดครัวที่ได้จะมาพร้อมกับเครื่องใช้มาตรฐานจะมี Hood Hob เป็นของ TEKA

เข้ามาภายในห้องนอน ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และเหลือพื้นที่สำหรับเดินเข้าออกอีกด้วย ติดกับเตียงจะเป็นในส่วนของตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะได้ตู้เสื้อผ้ามากับห้องแบบนี้เลยครับ สำหรับห้องแบบนี้ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน จะได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่าห้องแบบอื่นๆ ที่ห้องน้ำอยู่ด้านนอก

ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ครบ ทางโครงการกั้นส่วนแห้ง เปียกมาให้โดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเลย

ห้องตัวอย่างที่ 3 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 28 ตร.ม. Living Area จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องเลยครับ จะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟา และชั้นวางทีวี จากภาพนี้จะสามารถมองเห็นระยะในการนั่งดูทีวี ระยะถือว่ากำลังพอดีไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป ชั้นวางทีวีจะได้เป็นทรงยาว มีที่ตั้งทีวี และมีลิ้นชักเก็บของด้วย และถ้ายืนอยู่ด้านหน้าห้อง มองเข้าไปยังด้านในจะเป็นตำแหน่งของห้องนอน และครัว(ปิด)

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี และห้องน้ำ สำหรับห้องแบบนี้ห้องน้ำจะได้เป็นแบบ Double Access ห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง สามารถเข้าออกได้จาก Living Area และห้องนอน ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งจะวางถัดมาจากชุดโซฟา สังเกตได้ว่าพื้นที่ค่อยข้างกว้าง ดูจากหลังวางโต๊ะ โซฟาแล้ว ยังเหลือพื้นที่ว่างสำหรับเดินไปเดินมาอีกพอสมควรเลย

ตำแหน่งของครัวจะอยู่ด้านในสุดของห้อง ห้องแบบนี้ได้เป็นครัวปิดนะครับ กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ข้อดีของประตูกระจกใสคือ ทำให้ห้องดูโล่งโปร่งไม่อึดอัด ภายในครัวทางโครงการจะ Built in ชุดครัวมาให้ตามแบบนี้เลยนะครับ พื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีในเวลาทำครัวต่างๆ

เข้ามาภายในห้องนอน สังเกตได้ว่าพื้นที่ภายในห้องนอนนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ดูจากหลังวางเตียงแล้ว ยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกครับ สำหรับห้องแบบนี้จะได้ Walk in Closet เล็กๆ ด้วยนะครับ ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ Built in ตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นถึงฝ้าให้ตามนี้เลย

ภายในห้องน้ำอุปกรณ์ต่างๆ จะเลือกใช้เป็นของ Cotto กั้นส่วนแห้ง และเปียกมาให้เรียบร้อย ภายใน Shower Box ทางโครงการจะออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องน้ำมาอีกด้วยครับ สำหรับห้องน้ำที่เป็น Double Access แล้วแต่ใครจะชอบเลยครับ จะสะดวกมั้ยก็สะดวก จะเป็นส่วนตัวมั้ยก็เป็นส่วนตัว มันขึ้นอยู่กับคนใช้งานมากกว่า ยกตัวอย่างเวลาอยู่ Living area นั่งดูทีวี ก็เข้าห้องน้ำสะดวกไม่ต้องวนไปห้องนอนก่อน หรือเวลากลางคืนตื่นมาเข้าห้องน้ำก็สามารถเข้าได้เลยไม่ต้องวนออกไปเข้าข้างนอก ผมว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานมากกว่าครับ

ห้องตัวอย่างที่ 4 จะเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 32 ตร.ม. จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ห้องแบบนี้จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มขึ้นมา คือห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อื่นๆ ได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัยครับ พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area ตำแหน่งของชุดโซฟา และชั้นวางทีวี บริเวณชั้นวางทีวีสามารถ Built in ตู้วางของ หรือเป็นชั้นเก็บของได้เพิ่มเติมนะครับ ถัดจากชุดโซฟาจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหาร

นี่จะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มเติมขึ้นมา ทางโครงการจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน สามารถเข้าออกได้ 2 ทางนะครับ จากด้านนอกบริเวณ Living Area กับห้องนอน มุมนี้จะมองไปยังห้องครัวที่กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสเหมือนกัน

สำหรับห้องอเนกประสงค์ทางโครงการตกแต่งให้เป็นห้องทำงานขายของออนไลน์ Live สด อะไรประมาณนี้ ซึ่งฟังก์ชันแบบนี้จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่หันมาขายของออนไลน์ ทำห้องพักเป็นที่ทำงาน และเป็นที่พักอาศัยในเวลาเดียวกัน สำหรับห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆ ก็ได้นะครับ จะทำเป็นห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือจะทำเป็นห้องเก็บของก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของผู้พักอาศัยแต่ละคนเลยครับ

ห้องแบบนี้จะได้เป็นครัวปิด ทางโครงการจะ Built in ชุดครัวเป็นรูปตัว L เข้ามุมได้อย่างพอดี ชุดครัวจะได้ตามนี้ทั้งหมดเลยนะครับ ติดกับส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำอุปกรณ์ต่างๆ กั้นส่วนแห้ง และเปียก จะเหมือนห้องอื่นๆ ที่ผ่านมาเลยครับ

เข้ามาภายในห้องนอน พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว ยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สังเกตได้จากพื้นที่ปลายเตียง ในส่วนของตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งจะ Built in เข้ามุมห้องพอดี ห้องอเนกประสงค์ สามารถเข้าออกได้จากห้องนอนด้วยนะครับ เค้าจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

สรุปได้ว่าโครงการ ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี) เป็นรีสอร์ทคอนโดใหม่ที่มาสร้างกระแส มาสร้างความน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการอยู่อาศัยบนทำเลใจกลางมีนบุรี เพราะในทำเลนี้ยังไม่เคยมีโครงการขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ในการอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบนี้มาก่อน สำหรับทำเลที่ตั้งของที่นี่ ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางเมืองใหม่ของกรุงเทพตะวันออก New EBD (Extension Business District) ความเจริญต่างๆ ได้วิ่งตามรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่วิ่งขนานแนวถนนรามอินทราเข้าสู่มีนบุรี ทำให้มีนบุรีกลายเป็นทำเลสำคัญแห่งใหม่ไปทันที มากไปกว่านั้นยังเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่มีทั้งศูนย์ราชการต่างๆ โรงเรียน โรงพยาบาล นิคมต่างๆ และอีกมากมาย รวมไปถึงคนพื้นที่ที่อาศัยอยู่ในโซนนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ คนค้าขายในตลาดต่างๆ บริเวณใกล้เคียงทุกรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  ในเรื่องของการเดินทางก็ถือว่าสะดวกเพราะติดถนนใหญ่ ใกล้กับถนนเส้นสำคัญๆ มากมาย  ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น บวกกับใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีตลาดมีนบุรีเพียง 300 เมตรเท่านั้น

ATMOZ FLOW MINBURI (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี) เป็นรีสอร์ทคอนโดแห่งใหม่ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร 739 ยูนิต บนที่ดินกว่า 6 ไร่ ทีเด็ดของที่นี่จะเป็นส่วนกลางที่จัดเต็มถึง 35 กิจกรรม ถือว่าเยอะที่สุดแล้วในย่านนี้ ในส่วนของแบบห้องจะมีอยู่ 4 แบบให้เลือก แต่จะบอกว่าคนให้ความสนใจกับห้องแบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 28 ตร.ม. เป็นห้องที่มีฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัวสุดๆ ห้องที่นี่ได้เป็นแบบ Fully Furnished นะครับ

นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นอีกจุดที่เป็นจุดขายของที่นี่เลยคือ โครงการ WisePark เป็นโครงการขนาดใหญ่เปรียบเสมือนเป็น Hub ใหม่ที่รวบรวมที่พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ในเพียงโครงการเดียว และจะมี Community Mall ที่จะอยู่ด้านหน้าสุดติดกับถนนใหญ่ ซึ่งมีขนาดที่ดินใหญ่กว่า 33 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในมีนบุรีเลยก็ว่าได้ โดย WisePark จะออกแบบมาภายใต้แนวคิด Wisecology ที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องการอยู่อาศัย และ Lifestyle ของลูกบ้านเป็นหลัก โดยจะพัฒนาในสื่งต่างๆ ให้ตอบโจทย์กับผู้อยู่อาศัยทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งจะการันตีได้ว่าผู้อยู่อาศัยใน WisePark นี้จะอยู่แล้วมีความสุข และสะดวกสบายที่สุด สำหรับโครงการนี้จะเหมาะกับคนอยู่อาศัยจริงๆ และกลุ่มนักลงทุนที่สามารถปล่อยเช่า และทำกำไรได้อย่างแน่นอน ถ้าเอาทุกอย่างของโครงการนี้ตั้งแต่ ที่ตั้งทำเล รูปแบบการออกแบบต่างๆ ภายในโครงการ โดยเฉพาะส่วนกลางที่มีมากถึง 35 กิจกรรม แล้วมาเทียบกับราคาที่เริ่มต้นเพียง 1.49 ลบ* ถือว่าคุ้มมากๆ

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ https://bit.ly/3NBI7mN