เซ็นทรัลพัฒนา เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD ดีที่สุดใจกลางเมือง เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68
เซ็นทรัลพัฒนา เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD
ดีที่สุดใจกลางเมือง เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68
มอบคุณภาพชีวิตเหนือระดับ The FutureWorkLife for Global Visionaries เชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ครบทุกมิติภายในโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’ผสานความเชี่ยวชาญบน The Prestigious Address หัวมุมถนนสีลม ทำเลศักยภาพหนึ่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ พัฒนาโครงการ Central Park Offices อาคารสำนักงานระดับ Class A จำนวน 43 ชั้น บนพื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม.
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยยั่งยืนระดับโลกภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all และผู้พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, โครงการที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ เผยโฉม Central Park Ofices อาคารสำนักงานระดับ Class A ประกาศปักหมุดเตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 2568 พร้อมมอบคุณภาพชีวิต
เหนือระดับ The Future WorkLife for Global Visionaries ตอบรับเทรนด์ Modern Workplace เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ครบทุกมิติ ภายในโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก Dusit Central Park ตั้งเป้าเป็นอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดของเซ็นทรัลพัฒนาที่ผสานความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารสำนักงานซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าภายในโครงการ Retail-Led Mixed Use ชั้นนำบนทำเลศักยภาพรอบกรุงเทพฯ รับชมวิดีโอได้ที่: https://youtu.be/68ZOk_eCG-k
ทั้งนี้เซ็นทรัลพัฒนา ได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ ‘Central Park’ ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน Central Park Offices โดยทั้งสองส่วนยังเชื่อมโยงกับโรงแรมดุสิตธานี และอาคารที่ พักอาศัย ภายในโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park มูลค่าการลงทุนรวม 46,000 ล้านบาทบนพื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ Chief Finance, Accounting and Risk Management Officerบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “Central Park Offices จะเป็นอีกหนึ่งโครงการ Key Milestone สำคัญในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานของเซ็นทรัลพัฒนา โดยเราได้ทุ่มเทความเชี่ยวชาญตลอดกว่า40 ปี ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาโครงการ Retail-Led Mixed Use ทำให้อาคารสำนักงาน 10 โครงการบนทำเลยุทธศาสตร์รอบกรุงเทพฯ ยังคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่าน CBD และย่านเศรษฐกิจนั้นๆโดยมีจุดแข็งสำคัญคือการพัฒนาอาคารสำนักงานภายใต้แนวคิด Employee Centric ที่ตอบรับเทรนด์และ Evolving ไปพร้อมกับไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งการเชื่อมโยงกับศูนย์การค้ายังเป็นEcosystem ที่ดีในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ใช้งานภายในอาคารได้ครบทุกมิติ โดยทุกอาคารใส่ใจมาตร์ฐานด้านความยั่งยืนและมี Facilities ครบครัน ทั้งนี้ ธุรกิจอาคารสำนักงานถือเป็นหนึ่งใน
องค์ประกอบสำคัญในทุกโครงการมิกซ์ยูสของเรา และในอีก 5 ปี (2567-2571) ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ต่อปี”
การพัฒนาโครงการ “Central Park Offices” ซึ่งเป็นอาคาร Prestigious Class A จะเป็นอีกหนึ่งอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดของเซ็นทรัลพัฒนา พร้อมมอบ “ประสบการณ์พิเศษที่เหนือกว่า”
ภายในโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park ด้วยจุดเด่น 3 ข้อ ดังนี้
1) โลเคชั่นดีที่สุดหนึ่งเดียวใจกลางเมือง (Prestigious Address): ศักยภาพที่แข็งแกร่งของทำเล
หัวมุมถนนสีลมที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เชื่อมต่อ Core Connectivity
อย่างลงตัว
2) โครงการมีขนาดเหมาะสม (Walkable Proximity & Seamless Integration): การออกแบบพื้นที่
โครงการคำนึงถึง Journey ในทุกส่วนของโครงการมิกซ์ยูส จึงสามารถมอบ “คุณภาพชีวิตที่ดี” ให้กับ
ผู้ใช้งานได้แบบ WorkLife Integration ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากมาทำงานและมาใช้ชีวิตที่นี่ เป็น
Community ของคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์
3) ทุกองค์ประกอบมีเพียงหนึ่งเดียวและเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว (Unique Exclusivity): ทั้ง Hotel,
Residence, Retail, และ Office ซึ่งมีเพียง 1 อาคารต่อ 1 Component ทำให้การใช้ชีวิตมีคุณภาพ
และสะดวกสบาย และเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว
นายคุณายุทธ เดซอุดม Head of Business Development Strategy บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า”เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มเทความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ ร่วมกับ Award-winning Design Consultant ระดับโลก ในการพัฒนาอาคาร Central Park Offices แห่งนี้ และด้วยจุดแข็งของทำเลที่ดีที่สุด เชื่อมต่ออย่างลงตัวกับพื้นที่สีเขียว จะทำให้ที่นี่เป็นอาคารสำนักงานระดับโลกที่ผู้คนอยากมาใช้ชีวิต โดยมี Positioningที่ชัดเจนและเหนือกว่าในการเป็น The Future Work/Life for Global Visionaries โดดเด่นด้วย
แนวคิดสำคัญคือ
1) Perfect WorkLife Harmony: โครงการที่ต้องการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนทำงานด้วยพื้นที่สีเขียว Rooftop Park ขนาด 7 ไร่ และดีไซน์ฟังก์ชั่น Private Terrace ที่สามารถมองเห็นวิว
สวนลุมพินีได้เต็มที่ตอบโจทย์ Modern Working Lifestyle ไม่ว่าจะเป็นProductivity Pilgrim: คนทำงานรุ่นใหม่ต้องการ Productivity & Creativity จึงดีไซน์ Flexible
Space ประกอบไปทั้ง fex space, ห้องประชุม, townhal! ที่ใช้งานได้หลากหลายSustainability-Minded: ตั้งเป้ามาตรฐาน LEED Gold, WELL Platinum และ Wired Score
Gold และมีระบบที่ใส่ใจ Well-Being เช่น การกรองและควบคุมคุณภาพอากาศ, การเลือกใช้วัสดุที่ลดการดูดซับความร้อนและใช้กระจกที่ลดการสะท้อนแสง, มีระบบ Smart Energy
Control, รวมถึงระบบ SecurityHealth Enthusiast: พื้นที่สีเขียว Rooftop Park ที่สอดรับกับ Healthy Lifestyle ของคนเมืองรองรับกิจกรรมต่างๆ ด้วย Jogging Track @วิ่งและ Trail พร้อมทำกิจกรรม Outdoor ได้อย่างมีคุณภาพAfter-Hours Networker: ไฮไลท์คือ Rooftop Bar บนชั้น 43 ที่สามารถชมวิวกรุงเทพได้แบบ360 องศา และ Glasshouse ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Retail มีร้านอาหารหลากหลาย
2)Convenient Connectivity: โครงการมี Major Interchange Station ของ BTS & MRT 2 สายหลักตัดกัน ดังนั้น จึงเดินทางสะดวกและเข้าสู่โครงการได้อย่างไร้รอยต่อ อีกทั้งแต่ละอาคารภายในโครงการยังเชื่อมโยงกัน ทำให้ผู้ใช้งานจากทุกองค์ประกอบสามารถสัมผัสประสบการณ์ Privilegeของแต่ละส่วนได้อย่างลงตัว โดยส่วน Central Park Retai! ถือเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพนักงานบริษัท ที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโครงการได้แบบ Complete Lifestyleตั้งแต่มื้อเช้ามี Grab & Go Food, มื้อกลางวันมีตั้งแต่ World-class Street Food ไปจนถึง BusinessLunch, สามารถเดิน Shopping หรือ Relax ระหว่างวัน, ตอนเย็น Socialize บน Rooftop Bar
3) Forward-Thinking Crowd: มอบการใช้ชีวิตระดับ Top-notch Quality ให้กับผู้คนที่มาใช้ชีวิตและทำงานที่นี่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของคนทำงานที่มีวิสัยทัศน์ทั้งจากบริษัทชั้นนำในไทยและต่างประเทศนอกจากนี้ สีลมยังเป็นย่านที่แวดล้อมด้วย Affluent Neighbourhood ตั้งแต่ศูนย์กลาง Financial &Commercial District, ย่านที่อยู่อาศัยระดับ UItra-luxury, Grade-A Office Towers, Embassies &Consulates รวมถึงมหาวิทยาลัย, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศในย่านใกล้เคียงกันนี้ เครือ Central Group ยังปักหมุด Strategic Locations ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์,
เซ็นทรัล ชิดลม และหัวมุมถนนสีลมนี้กับโครงการ Dusit Central Park ที่จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กระดับโลก”
โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับโลกภายใต้ความร่วมมือของบริษัท ดุสิตธานีจำกัด (มหาชน) กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการมิกซ์ยูสทั้ง 4องค์ประกอบรวม 46,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4ประกอบไปด้วย โรงแรม Dusit Thani Bangkok จำนวน 39 ชั้น 257 ห้อง เตรียมเปิดกลางปี 2024;อาคารสำนักงาน Central Park Offices พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิด Q2/2025; ศูนย์การค้าCentral Park พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิด Q3/2025; และที่พักอาศัย พื้นที่ขนาด 50,500 ตร.ม.แบ่งเป็น Dusit Residences และ Dusit Parkside เตรียมเริ่มทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้าในปลายปี 2568บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imaginingbetter futures for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคุณภาพผู้คนและชุมชน
รวมถึงสิ่งแวดล้อมให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทยเกี่ยวกับธุรกิจอาคารสำนักงานของเซ็นทรัลพัฒนา
ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา มีอาคารสำนักงานทั้งหมด 10 โครงการตั้งอยู่ในย่าน CBD & Prime Locationsทั่วกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของบริษัทไทยขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ไปจนถึงบริษัทระดับโล้ก โดยมีจุดแข็งในการเชื่อม Retail,Residence, Hotel, และ Office ภายใน Ecosystem เดียวกัน ทำให้ตอบโจทย์คนทำงานและผู้มาใช้บริการได้ครบทุกมิตินูอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาและดูแลให้อาคารสำนักงานตอบรับ Future Trend of Workplace อยู่เสมง จึงได้พัฒนาพื้นที่คอนเซ็ปต์ใหม่ คือ ‘at work’ใน 3 Locations คือที่เซ็นทรัลเวิลด์, จี ทาวเวอร์, และเซ็นทรัล ชลบุรี เพื่อตอบโจทย์ Hybrid Workplace โดดเด่นด้วยแนวคิด Flexible Design, มี Technology ที่รองรับ Multi-PurposeFunctions รวมถึงใส่ใจด้าน Aesthetics ตอบโจทย์คนที่ต้องการทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สวยงามรวมถึงมีการยกระดับ Evoving ไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนเช่นเดียวกับการดูแล Asset Enhancement อื่นๆ อย่างเช่นที่ได้พัฒนา centralwOrld Offices เป็น Milestone ของ modern workplace มาแล้ว และยังคงเป็นอาคาร์สำนักงานชั้นนำใจกลางเมือง โดยที่ผ่านมามี Occupancy Rate สูงเฉลี่ยกว่า 95% อยู่เสมอ และกว่า 75% ของผู้เช่าเป็น
International Companies หลายรายเป็นผู้เช่าระยะยาวมากกว่า 10 ปี