ศุภาลัยประกาศความแกร่งตัวเลข 9 เดือน ปี 67
ศุภาลัยประกาศความแกร่งตัวเลข 9 เดือน ปี 67
กำไร–รายได้พุ่ง พร้อมกำไรขั้นต้นเพิ่ม!
โชว์ความแกร่งทางการเงิน รักษาเครดิต A ยืนหนึ่ง 11 ปีซ้อน
บมจ.ศุภาลัย เผยตัวเลขผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2567 ชูสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โกยรายได้รวม 22,792 ล้านบาท กำไรสุทธิสูงถึง 4,201 ล้านบาท โค้งสุดท้ายลุยตลาดอสังหาฯ แนวราบ–คอนโดมิเนียมเต็มกำลัง เปิดเพิ่มอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่า 13,730 ล้านบาท ชูโปรดักส์ใหม่ในทุกทำเลทุกเซกเมนต์
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และกำไร โดยบริษัทฯ สามารถรักษาระดับการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ โดยกวาดรายได้รวมสูงถึง 22,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และรายได้รวมของไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 9,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ซึ่งรายได้หลักสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 มาจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค โดยแบ่งเป็นรายได้โครงการแนวราบ 64% และโครงการคอนโดมิเนียม 36% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ และกระแสตอบรับที่ดี ในกลุ่มสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ อีกทั้งในช่วงไตรมาส 1-3 ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จาก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ได้แก่ ศุภาลัย ไอคอน สาทร, ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน–ราชวัตร, ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ, ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ–รัตนาธิเบศร์ และซิตี้โฮม ระยอง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในมืออยู่อีก 28,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญสะท้อนถึงความต้องการของตลาด Real Demand ที่ถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญในการเติบโตทางรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่ง
ด้านกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 เท่ากับ 4,201 ล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือน ปี 2567 เท่ากับ 1,989 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 67% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 สูงถึง 18.4% ของรายได้รวม โดยปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับต่ำที่ 51% โดยมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 13,216 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 จำนวน 7,925 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 5,291 ล้านบาทในปี 2568 และ 2569 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A” จากทริสเรทติ้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงรักษาภาระหนี้สินทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นอกไปจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวม 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,730 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 โครงการแนวราบ และ 4 โครงการคอนโดมิเนียม โดยไฮไลท์ที่น่าสนใจคือการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 4 แบรนด์ ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บนทำเลศักยภาพ ได้แก่ ศุภาลัย ธาม เจริญนคร, ศุภาลัย บลู สาทร–ราชพฤกษ์, ศุภาลัย เซนส์ เขารัง ภูเก็ต และศุภาลัย คราม เขาเต่า และโครงการแนวราบระดับลักซ์ชัวรี่ ได้แก่ ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์, ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ถนนอุทยาน, ศุภาลัย แกรนด์วิลล์ สุขุมวิท–บางนา ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer