CENTRIC RATCHAYOTHIN คอนโดใหม่

CENTRIC RATCHAYOTHIN จุดศูนย์กลางของการอยู่อาศัยบนทำเลที่ใช่ จะอะไรก็สะดวก

ถ้าพูดถึงทำเลกรุงเทพมหานครว่าทำเลโซนไหนที่เป็นจุดศูนย์กลางบ้าง ก็จะมีอยู่หลายโซน แต่ละโซนแต่ละฝั่งของกรุงเทพฯ
นั้นก็จะมีความสำคัญคล้ายๆกันบ้าง ต่างกันบ้าง แต่รถไฟฟ้าจะเป็นตัวกลางที่จะสามารถทำให้ทุกโซนสามารถเชื่อมต่อกันได้
เริ่มจากใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณ CBD อย่างสาทร, สยาม (BTS) หรือจะเป็น New CBD พระราม 9 (MRT) ที่เชื่อมต่อกันทำให้การเดินทางของคนกรุงเทพฯในปัจจุบันสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อนาคตอันใกล้จะมี HUB ของการเดินทางเกิดขึ้นใหม่ที่กรุงเทพฯตอนเหนือ สถานีกลางบางซื่อ  ทำให้บริเวณโซนนั้นเป็นโซนรวมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน  รวมถึง   “รัชโยธิน” ย่านสำคัญที่อยู่ถัดจาก 5 แยกลาดพร้าว เป็นย่านที่มีความเจริญ เพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมานานแล้ว  ซึ่งปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ตัดผ่าน ยิ่งทำให้ทำเลนี้ เริ่มมียิ่งมีความน่าสนใจและครบครัน ทั้งการเดินทางและการอยู่อาศัย มากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการขยายตัวความเจริญที่เข้ามาถึงมากขึ้น รวมถึงคอนโดมิเนียมเช่นกัน ทำให้รัชโยธินเป็นย่านที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในเรื่องของที่พักอาศัย เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านต่างๆได้เกิดขึ้นบนทำเลนี้อย่างรวดเร็ว และจะทำให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีกไปเรื่อยๆ และถ้ารถไฟฟ้าสายสีเขียวเสร็จ และสายอื่นๆที่ใกล้กับรัชโยธินที่จะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้นี้ แน่นอนราคาที่ดินจะสูงขึ้นกว่าในปัจจุบันอีกหลายเท่าตัว ถ้ามองในราคาปัจจุบันตอนนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงทุนเพื่อจะเป็นเจ้าของห้องพักคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัย หรือการลงทุนเพื่อมูลค่าที่สูงขึ้นในอนาคต

รัชโยธิน จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองสำหรับที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียม นอกเหนือจากนั้นด้วย ที่ตั้งของที่ดินของโครงการฯ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน  ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมืองที่มุ่งหน้าไป 5 แยกลาดพร้าว ที่ตั้งโครงการจะอยู่ก่อนถึงแยกรัชโยธิน – รัชดา ฝั่งตรงข้ามกับเมเจอร์ รัชโยธิน ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งสะดวกต่อการเดินทางเข้าเมือง  ทำให้ผู้พัฒนาที่ดินอย่าง SC ASSET มองเห็นศักยภาพที่โดดเด่นของที่ดินผืนนี้บนทำเลรัชโยธิน จนได้นำคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “CENTRIC “มาไว้บนรัชโยธินโดยใช้โครงการว่า “CENTRIC RATCHAYOTHIN “

CENTRIC RATCHAYOTHIN “Seamlessly connect Location”

ด้วยทำเลของโครงการฯ ตั้งอยู่บนย่านรัชโยธินซึ่งมีจุดเด่นคือ เป็นย่านที่ตั้งอยู่บนจุดตัดของถนนสำคัญสองสายสำคัญคือ ถ. พหลโยธินและรัชดาภิเษก ความพิเศษของถนนสองสายนี้คือ เป็นถนนที่มีความยาว และเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญอื่นๆ มากมายทำให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายไม่มีสะดุด

รัชโยธินเค้าเรียกกันว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนก็สะดวก รัชโยธินเป็นถนนที่อยู่ตรงกลางระหว่างถนนหลักเส้นสำคัญๆ เช่น รัชดาภิเษก | วิภาวดี | ลาดพร้าว | เกษตร – นวมินทร์ + รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) | สถานีกลางบางซื่อ

ถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนที่เชื่อมทั้งฝั่งกรุงธนบุรีและพระนครเข้าไว้ด้วยกัน โดยถนนรัชดาภิเษกเชื่อมต่อมาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ มาผ่านถนนวงศ์สว่าง แล้วจึงเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ถนนรัชดาภิเษกจะเป็นถนนที่มีความยาวมาก และตัดกับถนนเส้นสำคัญในกรุงเทพหลายเส้นเริ่มตั้งแต่ ถนนวิภาวดี – รังสิต | ลาดพร้าว |พระราม 9|เพชรบุรีตัดใหม่|อโศก|สุขุมวิท |พระราม 4|พระราม 3 | กรุงธนบุรี ทุกถนนที่กล่าวมานั้นสามารถเริ่มต้นจาก “รัชโยธิน” ทำให้จากโครงการฯ สามารถเดินทางไปยังย่านสำคัญ เช่น New CBD พระราม9 – อโศก , ปิ่นเกล้า-ท่าพระ ได้โดยตรง

 

ถนนพหลโยธิน เป็นถนนที่เหมือนเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพอีกสายหนึ่ง โดยถนนเริ่มจากใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณอนุเสาวรียฯ ซึ่งเชื่อมต่อมาจาก ถ.พญาไท จนเชื่อมสู่ภูมิภาค และยังมีถนนสายสำคัญตัดผ่าน อาทิ ราชวิถี วิภาวดี-รังสิต ลาดพร้าว รัชดาฯ งามวงศ์วาน เกษตร-นวมินทร์ ไปจนเชื่อมต่อไปถึงภาคเหนือของประเทศ ทำให้จากโครงการฯ สามารถเดินทางไปยังย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่สยาม อนุสาวรีย์ชัยฯ อารีย์ ห้าแยกลาดพร้าว ม.เกษตรศาสตร์ ได้อย่างสะดวก

ถนนวิภาวดี – รังสิต เป็นถนนที่เชื่อมต่อจากกรุงเทพชั้นใน ซึ่งถนนวิภาวดี – รังสิตเป็นถนนเส้นยาว และมีถนนเส้นสำคัญๆตัดผ่านอยู่หลายเส้น เช่นแยกดินแดง, สุทธิสาร, ลาดพร้าว, รัชวิภา, บางเขน,หลักสี่ และอนุสรณ์สถาน เพื่อจะเข้าเมือง หรือออกเมือง ดังนั้นถนนวิภาวดี – รังสิต นี้มีความสำคัญมากๆ กับกรุงเทพฯ หรือเรียกอีกอย่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ดินแดง – ดอนเมือง) อย่างที่เข้าใจกันว่า ถนนวิภาวดี – รังสิต เชื่อมต่อถนนในกรุงเทพมหานครไปถนนพหลโยธินสู่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และตัดผ่านสนามบินดอนเมือง

ลาดพร้าว | เกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) สำหรับ 2 ถนนนี้จะเป้นถนนที่ขนานกัน และสามารถลัดหากันได้โดยมีถนนเส้นหลักๆเช่น ถนนลาดพร้าว – วังหิน (โชคชัย4), ถนนนาคนิวาส – ถนนสุคนธสวัสดิ์(ลาดพร้าว 71), ถนนนวมินทร์ ซึ่งถนนลาดพร้าว และเกษตร – นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) นี้จะตัดกับถนนหลักสำคัญ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา – เอกมัย และไปจบที่ถนนหมายลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก)

รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) จะเป็นรถไฟฟ้าที่ต่อขยายมาจาก BTS สถานีหมอชิต (ปัจจุบันเส้นหมอชิต – สำโรง) – สถานีคูคต (เส้นต่อขยาย) โดยมีความยาวประมาณ 19 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี เริ่มตั้งแต่ สถานีหมอชิต ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว – แยกรัชโยธิน BTS สถานีรัชโยธิน (Centric Ratchayothin) – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ – แยกหลักสี่ – สะพานใหม่หน้าตลาดยิ่งเจริญ – กิโลเมตรที่ 25 ของถนนพหลโยธิน เส้นการเดินของรถไฟฟ้าจะเปลี่ยนไปทางด้านทิศตะวันออก (ด้านเหนือของพื้นที่ประตูกรุงเทพฯ) – คลองสอง (บริเวณสถานีตำรวจภูธรคูคต)  – ถนนลำลูกกา คลองสอง (บริเวณสถานีคูคต)

สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) นี้จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนที่อยู่โซนรัชโยธิน – กรุงเทพ (เหนือ) อย่างมาก เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้จะสามารถเข้าสู่ใจกลางเมือง พญาไท ( Interchange Airport Link) สยาม (Interchange ไปเส้นสีลม – บางหว้า) อโศก (interchange MRT) พร้อมพงศ์ – ทองหล่อ – บางนา จนไปสุดปลายสายของรถฟ้าสายสีเขียว โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ ซึ่งสถานี BTS รัชโยธินห่างจากโครงการเพียง 150 เมตร นอกจากช่วยทำให้เดินทางสะดวกมากขึ้น ยังช่วยลดการเสียเวลา ทำให้คุณสามารถควบคุมเวลาในการเดินทางได้อย่างดี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการประมาณปี พ.ศ.2563 ใกล้เคียงกับเวลาที่โครงการสร้างแล้วเสร็จพอดี

สถานีกลางบางซื่อ หรือเรียกว่าศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย และเป็นว่าที่สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอีกด้วย สำหรับสถานีกลางบางซื่อจะเป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศโดยมีสายเหนือ, อีสาน, ใต้, ตะวันออก และตะวันตก และยังออกแบบเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (สายสีน้ำเงิน) หรือ แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ นอกเหนือจากนั้นยังเตรียมการในอนาคตสำหรับรองรับรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย

สถานีกลางบางซื่อ มีจำนวนทั้งหมด 24 ชานชาลา คาดว่าเมื่อสร้างเสร็จในปี 2563 จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของไทย ซึ่งจะมาแทนสถานีกรุงเทพเดิม (หัวลำโพง)

เรียกได้ว่าโครงการฯตั้งอยู่บนทำเลที่มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย สะดวกทั้งขับรถหรือใช้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะการที่โครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมือง จึงสะดวกเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานในเมือง จากโครงการฯ สามารถเลี้ยวซ้ายโดยไม่ต้องติดสัญญาณไฟจราจรมุ่งตรงสู่ New CBD พระราม9-อโศกได้โดยตรงผ่านถนนรัชดาภิเษก หรือจะเข้าเมืองทำงานย่านอารีย์ ก็สามารถเดินทางไปตามถนนพหลโยธินได้โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถ (หรือจะเลือกใช้บริการรถไฟฟ้า BTS  ไปถึงอารีย์เพียง 5 สถานีเท่านั้น) นอกจากนั้นยังมีเส้นทางลัดทะลุออกถนนหลายเส้น / ใกล้ทางด่วน Tollway อีกด้วย

PERFECT NEIGHBOURHOOD

นอกจากที่ตั้งของโครงการฯ ที่มีจุดเด่นด้านทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายแล้ว จุดเด่นของการอยู่อาศัยย่าน “รัชโยธิน” กับคอนโดใหม่ CENTRIC RATHCAYOTHIN

 

แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่แทบจะตอบโจทย์ทุกด้านและไลฟ์สไตล์ของชีวิต ทั้งสถาบันศึกษา อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ / โรงเรียนหอวัง

แหล่งจับจ่ายใช้สอย Central Plaza Lardprao, Major Ratchayothin, Union mall, Tesco Lotus, ตลาดนัดสวนจตุจักร / ใกล้รถไฟฟ้า Interchange สายสีน้ำเงิน สายสีเหลือง / สนามบินดอนเมือง

อาคารสำนักงานบริษัทชั้นนำอาทิ  ปตท / การบินไทย / SCB / TRI PETCH ISUZU และอื่นๆอีกมากมาย  สำหรับสถานพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลเปาโล เกษตร โรงพยาบาลวิภาวดี

ถนนพหลโยธิน ถ้าเริ่มจากหมอชิตขึ้นมาตามถนนมุ่งสู่แยกเสนานิคม จุดที่มีความเจริญทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นแหล่งของกิน แหล่งที่เที่ยว หลักๆเลยจะมีอยู่เพียง 2 จุดเท่านั้น จุดแรกก็คงเป็นบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวซึ่งจุดนี้ก็ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ จุดถัดมาเริ่มต้นเลยแยกเมเจอร์ รัชโยธินขึ้นมาจนไปถึงแยกเสนานิคม ทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นแหล่งของกิน ร้านอาหารชื่อดดังมากมาย เป็นแหล่งที่ผู้คนมาเที่ยวเดินเล่นในเวลาว่าง สตรีทฟู๊ด ร้านสะดวกซื้อครบครัน เช่นจากโครงการฯ สามารถเดินไปหาอะไรทาน หรือซื้อกลับบ้าน แถวเมเจอร์รัชโยธิน ได้เลย เพียงแค่ข้ามสะพานลอยของบีทีเอส สะดวกไม่ต้องข้ามถนนใหญ่ให้อันตราย

ดังนั้นการที่จะเลือกที่อยู่อาศัย ก่อนอื่นต้องดูทำเลที่ตั้งว่าอยู่ทิศทางไหน เพราะที่ตั้งของทำเลถึงจะอยู่ที่เดียวกันแต่คนละฝั่งถนน ก็มีผลที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างสำหรับคนใช้รถส่วนตัว ฝั่งขาเข้ากับฝั่งขาออก คนที่ต้องเดินทางไปทำงานในเมืองตอนเช้า เวลาในการออกจากบ้านจะสำคัญมาก ถ้าออกช้าไปเพียง 5 – 10 นาที อาจจะทำให้คนนั้นเข้างานสายได้เลย การที่เลือกที่ตั้งคอนโดฯอยู่ฝั่งขาเข้าจะมีผลดีต่อคนทำงานในเมืองในตอนเช้า ไม่ต้องเสียเวลาในการไปกลับรถ บางที่ที่กลับรถก็อยู่ไกล พอกลับรถมาแล้วก็เจอรถติดทั้งๆที่คอนโดก็อยู่ต้นถนน แต่ต้องมาเริ่มตรงกลางถนนเพราะต้องกลับรถ นี่ก็เป็นอีก 1 เหตุผลในการเลือกฝั่งที่ตั้ง ถึงจะอยู่ย่านเดียวกัน แต่คนละฝั่ง มันแตกต่างกัน หรือจะเป็นคนที่ใช้รถไฟฟ้า ก็ควรเลือกโครงการที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า มีสะพานลอยให้เดินข้าม ก็จะได้ทั้งความสะดวก และความปลอดภัย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกโครงการเพราะ เราจะอยู่กับมันไปอีกนาน

CENTRIC RATCHAYOTHIN

CENTRIC เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ทาง SC ASSET โดยเน้นเรื่องการอยู่อาศัยบนทำเลที่มีการเดินทางสะดวก เป็นจุดศูนย์กลางของทุกอย่างเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัย ดังนั้น SC ASSET จึงคัดสรรแต่สิ่งที่มีคุณภาพ, ทำเลที่เยี่ยม, เพื่อมาเติมเต็ม และทำให้ชีวิตในแต่ละวันของผู้พักอาศัยเกิดความสะดวกและสบายมากขึ้น

คอนโดสูง 21 ชั้นติดถนนใหญ่พหลโยธิน จำนวนทั้งสิ้น 261 ยูนิต ภายใต้ Concept “The Center of Hybrid Lifestyle” สร้างสรรศูนย์กลางของการใช้ชีวิตและการพักผ่อนอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวเพียง 261 ยูนิต โดยเน้นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถรองรับกิจกรรมและความต้องการที่หลากหลาย

Facilities แบ่งออกเป็น 3 โซน (Triple Facilities) รองรับ 3 Activities ACTIVE | RELAX | WORKING

1st Zone – ชั้น Ground

Lifestyle Park |Grand Lobby สูง 5.5 เมตร | Resident lobby Lounge | Business lounge & private meeting room

2nd Zone – ชั้น 4 – 5

Triple Volume Co-working space

– Upper floor: Reading Bar

– Main floor: Co-working space

–  Lower floor: Co-living space

Sensational Garden

– Water features

-Co-dining space

3rd Zone – Rooftop

-Active zone Fitness

-25 meters Infinity Edge Pool with Jacuzzi

-Virtual class exercise room

ห้องพักอาศัยเริ่มต้นตั้งแต่แบบ Studio 24-26 ตรม / 1 Bedroom 30 ตรม / 1 Bedroom Plus 34-39 ตรม. / 2 Bedroom 55 ตรม. มาพร้อมกับห้องเพดานสูง 3 เมตร พร้อมพื้นที่เก็บของมากมายที่ช่วยจัดการความเรีบร้อยของห้องพัก โดยเฉพาะห้อง ไฮไลท์ของโครงการ One bedroom plus ขนาด 35 ตารางเมตร ที่มีห้องเอนกประสงค์ที่ให้เจ้าของมีพื้นที่สามารถตกแต่งได้ตามไลฟสไตล์ของตัวเอง ห้องขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished

ที่ตั้งโครงการ CENTRIC RATCHAYOTHIN

ติดถนนใหญ่พหลโยธิน – ใกล้ BTS สถานีรัชโยธิน เพียง 150 เมตร

ใกล้ถนนสำคัญอย่างเช่น รัชดาภิเษก, วิภาวดี, เกษตร-นวมินทร์  ใกล้เส้นทางลัดทะลุออกถนนหลายเส้น, ใกล้ทางด่วน Tollway ศรีรัช / ศรีรัช-วงแหวนตะวันตก (เชื่อมต่อฝั่งธน),

ใกล้จุดรถไฟฟ้า Interchange (เหลือง-เขียว, น้ำเงิน-เขียว,เหลือง-น้ำเงิน)

ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนหอวัง และ St. stephen’s international schoolไม่ไกลจากสนามบินดอน

 

อยู่ใจกลางจุดศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ Central Lardprao, Major Ratchayothin, Union Mall, Tesco Lotus, ตลาดนัดสวนจตุจักร

ใกล้อาคารสำนักงานชื่อต่างๆ อาทิเช่น ตึกชินวัตร 3, ปตท สำนักงานใหญ่, การบินไทย, SCB และอื่นๆอีกมากมาย

พิกัดที่ตั้งคอนโดใหม่ CENTRIC RATCHAYOTHIN 13.831460, 100.570860

การที่จะเลือกที่อยู่อาศัยที่ใช่

  1. ทำเลที่ใช่

การจะดูทำเลว่าทำเลไหนดี ทำเลไหนเหมาะกับตัวเราที่สุด ทำเลไหนอยู่แล้วชีวิตดีขึ้นสะดวกสบายขึ้น ทำเลไหนที่เราคุ้นเคย สิ่งสำคัญที่ควรคำนึกถึงคือความปลอดภัย อยู่ติดถนนใหญ่มั้ย อยู่ในจุดบอดมืดยากต่อการเข้าถึงและมองเห็น มีสะพานลอยข้ามถนนหรือไม่ล้วนแล้วเป็นแต่สิ่งสำคัญ และทำเลไหนที่อนาคตไกล สามารถทำกำไรให้กับเราได้ในอนาคตได้ ถึงจะไม่ 100% แต่กำไรแน่นอน

  1. ราคาที่ใช่

เรื่องราคาก็สำคัญเพราะงบประมาณของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน แต่ความเป็นจริงแล้วเรื่องราคานั้นสำคัญ เพราะราคาจะ เป็นตัวกำหนดสิ่งที่คนซื้อจะได้ ราคาที่อาจจะสูงนิดหน่อยแต่ได้ของที่มีคุณภาพ มีความทนทานในการใช้งาน มีอายุที่ค่อยข้างนานกว่าของที่คุณภาพต่ำกว่า การที่ได้ของที่มีคุณภาพก็จะลดค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลซ่อมแซมลงไป นอกเหนือจากนั้นราคายังเป็นตัวกลองและสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่ากลุ่มคนประเภทไหนจะเข้ามาอยู่อาศัย มากกว่านั้นในเรื่องราคาก็สามารถมองถึงความคุ้มค่า และไม่เสียเวลากับคนซื้อ อย่างเช่นห้องเป็นแบบ Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่) กับ Fully Fitted (ให้มาแต่ครัว ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า หัวเตียง) ห้องแบบเฟอร์นิเจอร์ครบราคาอาจจะสูงกว่านิดหน่อย แต่เราไม่ต้องเสียเวลาในการไปหา นัดช่าง นัดเข้ามาทำ เก็บงาน กว่าจะเสร็จคงเสียเวลา และเสียเงินมากกว่ากับการที่เรายอมจ่ายเป็นแบบ Fully Furnished ตั้งแต่แรก และสุดท้ายต้องเลือกทำเลที่ใช่และทำให้ราคาที่ใช่ เพื่อในอนาคตนั้นสามารถทำราคาที่สูงขึ้น

  1. Product สินค้าที่ใช่

เรื่อง Product นี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ การเลือกซื้อคอนโดสักที่ไม่ใช่แค่ดูแค่ภายในห้องที่อยู่เพียงเท่านั้น จะต้องดูทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่การออกแบบหน้าตาภายนอก เพราะที่อยู่อาศัยก็เปรียบเสมือนเป็นหน้าเป็นตาและสร้างความภูมิใจให้แก่เจ้าของ ถัดมาที่ต้องดูและศึกษาให้ดีคือความปลอดภัย สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือคนที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าก่อนเข้าไปภายใน ว่ามีความเข้มงวด จริงจังกับการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้านหรือไม่ ต่อมาก็คือส่วนกลางที่ทางโครงการจัดเตรียมมาให้นั้นมีครบตามที่เราต้องการหรือไม่ อาทิเช่นมีห้องออกกำลังกาย, สระว่ายน้ำ, สถานที่นั่งเล่น, สวนสีเขียว และอื่นๆ สิ่งต่อมาต้องคำนวณถึงความหนาแน่นของจำนวนยูนิตที่มีในแต่ละชั้นมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน เยอะไปก็แย่งขึ้นลงลิฟท์ น้อยหน่อยก็เป็นส่วนตัว แล้วส่วนสุดท้ายก็คือภายในห้องพักที่เราจะอยู่นั้นมีพื้นที่ใช้สอยพอกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันหรือเปล่า มีการวางออกแบบฟังก์ชั่นได้ดีแค่ไหน ถ้าอยู่จริงๆแล้วอยู่ได้มั้ย ทุกอย่างควรจะต้องดูให้รอบคอบ

  1. ผู้พัฒนาที่ดิน (Developer) ที่ใช่

ข้อนี้ก็สำคัญมากเช่นกันเพราะจะเป็นตัวกำหนดความเชื่อถือให้กับผู้อยู่อาศัยทั้งก่อนการขาย และหลังการขาย รวมถึงการบริหารงานของผู้พัฒนาที่ดินนั้นว่าเป็นมืออาชีพหรือเปล่า ซึ่งอาจจะวัดจากโครงการต่างๆที่ขาย และสร้างเสร็จ เรื่องความเชื่อถือนั้นสำคัญมาก การที่จะเลือกซื้อคอนโดสักที่ ง่ายๆเลยไปดูโครงการต่างๆก่อนหน้านี้เป็นยังไง มีคนพูดถึงยังไง มีผลตอบรับทางดีหรือเปล่า ทั้งการขาย การก่อสร้าง และการดูแลลูกบ้านหลังการขายว่ามีความเชียวชาญมากน้อยแค่ไหน ลงรายละเอียดลึกมั้ย หรือจะไปสอบถามจากลูกบ้านที่อยู่ๆแล้วว่ามีความรู้สึกแบบไหนกับบริษัทที่ทำคอนโดมาขาย ทำให้ชีวิตดีสะดวกสบายมากน้อยยังไง พวกนี้เป็นสิ่งที่สามารถวัดได้ว่าคอนโดที่นี่ควรซื้อมั้ย

Find Your Center

โครงการฯ เปิดจอง Online Booking วันที่ 6 มีนาคม 2561 สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับ Username และ Password สำหรับจองออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ booking.scasset.com

Pre-sale วันที่ 10-11 มีนาคม 2561 นี้ ที่ Sales Gallery

โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ที่ https://goo.gl/bQ5kMc

เริ่ม 3.7 ล้านบาท*

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1749 หรือ LINE : @Sccondo

 

Homezoomer