ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ แข็งแกร่งเหนืออุตสาหกรรม ปักหมุดลุยโครงการใหม่ 8-10 ทำเล มูลค่า 5,000 ล้านบาท
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ แข็งแกร่งเหนืออุตสาหกรรม
ปักหมุดลุยโครงการใหม่ 8-10 ทำเล มูลค่า 5,000 ล้านบาท
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) เดินหน้าผุดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้ลุย 8-10 โครงการ
มูลค่ารวม 4,500-5,000 ล้านบาท ผลักดันผลประกอบการขยายตัวตามเป้า 15% แตะ 4,000 ล้านบาท เผยไตรมาสแรกของปี 2561
รับรู้รายได้แล้ว 962.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 45% ตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการขยายตัวได้ดีในระดับที่สูงกว่า 30% อย่างต่อเนื่อง
ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 60% หรืออยู่ที่ระดับ 182.2 ล้านบาท
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเปิดขายโครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพกว่า 8-10 โครงการ มูลค่าโดยประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ เพราะในช่วงช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยมียอดขายใหม่ที่รอรับรู้รายได้กว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสสองมีแผนที่จะเปิดอีก 1 – 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการรับรู้รายได้ในปี 2561 มั่นใจจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเติบโต 15% หรือแตะ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท เติบโตได้ราว 45% นับเป็นการขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทสามารถเติบโตในระดับสูงกว่า 30% ตลอดช่วง 2 ปี ขณะที่มีกำไรสุทธิทั้งสิน 182.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงความสามารถในการบริหารและจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9% นับเป็นอัตราที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ และในส่วนของต้นทุนการขายและบริหาร บริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
สำหรับโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทฯ จะมีการขยายธุรกิจอย่างมากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นไตรมาสแรก บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.3 – 1.4 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท และความพร้อมในการขยายธุรกิจของทางบริษัทได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer