ไทยแลนด์ยุค 4.0 ขึ้นทุกอย่าง “ยกเว้นเงินเดือน”

ปัญหาเก่าก็ยังไม่หมดไปปัญหาใหม่ก็ต่อคิวเข้ามา เป็นสิ่งที่ประเทศเรากำลังเจออยู่ในช่วงนี้ยิ่งมนุษย์เงินเดือนแบบพวกเราแล้วละก็ แทบจะกินเนื้อกินหนังตัวเองก็ว่าได้ พอเงินเดือนออกก็ต้องใช้หนี้ พอถึงกลางเดือนก็เข้าสู่ภาวะ “คนจนผู้ยิ่งใหญ่” นี่คือวงเวียนชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ยิ่งอยู่ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ไม่ต้องพูดถึงเลยจ้า ได้ข่าวมาว่าค่าครองชีพต่างๆ กำลังจะขึ้นราคาตามมาอีกหลายอย่าง ขึ้นทุกอย่างจริงๆ แต่ยกเว้นเงินเดือนที่ไม่ขึ้น….

ค่าแท็กซี่

ราคาค่าแท็กซี่ สำหรับแนวทางใหม่ทาง TDRI ได้เสนอโมเดลราคาค่าโดยสารแท็กซี่ โดยอิงรูปแบบมาจากต่างประเทศ ซึ่งคิดค่าโดยสารสองส่วนได้แก่ ค่าโดยสารตามระยะทาง และ เวลาในการเดินทางสำหรับแนวทางการปรับเปลี่ยน ที่ทาง TDRI เสนอคือจะขึ้นค่าโดยสารเป็น 40 บาทต่อ 2 กิโลเมตรแรก จากราคาเดิม 35 บาท ซึ่งคาดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ และต้องดูท่าทีของกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย ซึ่งโมเดลค่าโดยสารของแท็กซี่ในกรุงเทพมหานครถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง หากราคาแพงไป ผู้โดยสารก็ไม่ขึ้น ทำให้คนขับแท็กซี่ต้องวิ่งรถเปล่าๆ เสียทั้งเวลา เชื้อเพลิง รถติด ฯลฯ แต่หากค่าโดยสารถูกเกินไปก็จะเกิดเรื่องที่ว่าคนขับแท็กซี่ไม่พอใจรายได้ที่ได้รับ จึงทำให้เกิดเรื่องของการไม่รับผู้โดยสาร เน้นรับชาวต่างชาติมากกว่า หรือปัญหาอื่นๆ

ค่าไฟ

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประเมินว่า มีแนวโน้มที่ค่าไฟฟ้าจะปรับขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้ามากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาจทำให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นตามในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ค่าแก๊สหุงต้ม

แก๊สหุงต้มปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ ปัจจุบันแก๊สบรรจุถังขนาด 15 กิโลกรัม มีราคา 395 บาท หรือปรับขึ้นมาประมาณ 40 บาท โดยเมื่อรวมกับค่าขนส่งแล้ว แก๊สขนาด 15 กิโลกรัม 1 ถัง อาจมีราคาขายปลีกสูงถึง 420-450 บาท ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนและผู้ประกอบการร้านอาหาร แม่ค้าบางรายยอมรับว่า “ใช้วิธีตักกับข้าวน้อยลง แทนการขึ้นราคา”

ค่ารถเมล์

สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง(รถร่วมขสมก.)ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร 4 บาท ระบุว่าแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เพราะราคาน้ำมันและก๊าซ NGV สูงขึ้น จึงขอเพิ่มค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนจริง รถเมล์ธรรมดาและมินิบัส ขอปรับราคาจาก 9 บาท เป็น 13 บาท (ตลอดสาย) รถปรับอากาศสีน้ำเงิน ขอปรับราคาปรับจาก 12-24 บาท เป็น 16-28 บาท (ตามระยะทาง) รถปรับอากาศสีเหลือง ขอปรับราคาปรับจาก 13-25 บาท เป็น 17-29 บาท (ตามระยะทาง)

ค่ารถบัสโดยสาร

รถบัสโดยสารก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเช่นกัน เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2561 “เจ๊เกียว” หรือ นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร 10 สตางค์ต่อกิโลเมตร เจ๊เกียว ระบุว่า รถบัสโดยสารมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ผู้ประกอบการจึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นไปเกือบ 30 บาทต่อลิตร หากกระทรวงคมนาคมไม่อนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารก็จำเป็นต้องลดเที่ยววิ่ง

ค่ารถขนส่งสินค้า

ด้วยราคาน้ำมันตอนนี้ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานบอกว่า “ยิ่งวิ่งรถ ยิ่งขาดทุน” จึงยื่นข้อร้องเรียนขอปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้า 5 เปอร์เซ็นต์ ในเบื้องต้น แม้ไม่สอดคล้องกับต้นทุนจริงๆ ที่ต้องปรับขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เกรงว่าหากขึ้นค่าขนส่งมากเกินไปจะยิ่งซ้ำเติมผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานจะรอการตอบรับจากกระทรวงคมนาคมถึงวันที่ 10 มิ.ย. 2561 ถ้าไม่มีความคืบหน้าใดๆ อาจต้องหยุดวิ่งรถครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 15,000 คัน เพื่อลดภาวะขาดทุน และคาดว่าอาจส่งผลให้สินค้าขาดตลาดได้

ค่ารถไฟ

จากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมารถไฟไม่เคยมีการปรับค่าโดยสารตั้งแต่ปี 28 ทำให้รถไฟต้องประสบปัญหาขาดทุน เพื่อลดปัญหาการขาดทุนลดลงขณะนี้ ทางการรถไฟ จึงได้มีนโยบายที่จะปรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 เพิ่มขึ้น ล่าสุดได้มีการสั่งการให้รองผู้ว่าการรถไฟที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมต้นทุนการดำเนินงานการให้บริการขนส่งคนที่รถไฟให้บริการใหม่ ว่ามีต้นทุนที่แท้จริงอย่างไรและควรจะปรับเพิ่มไปที่เท่าไหร่ จากเดิมที่มีการจัดเก็บค่าโดยสารแรกเข้ารถไฟชั้น 3 อยู่ที่ 2 บาท โดยจะเสนอปรับราคาค่าโดยสารแรกเข้าเพิ่มเป็น 8-10 บาท/คน/เที่ยว คาดว่าจะมีการเสนอให้เข้าที่ประชุมบอร์ดรถไฟและเพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ก่อนที่จะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีภายใน 2-3 เดือนจากนี้ หรือประมาณเดือนกันยายน หรือ หรือ ตุลาคม 61

 

 

ขอบคุณขอมูลจาก Sanook, Workpointnews, Thairath

 

 

เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com

ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer