โครงการ บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด Super Luxury ระดับ Hi-End ซึ่งโครงการนี้ ได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยการสั่งงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และยังสามารถสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้ลูกบ้านมีชีวิต และความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ได้นำระบบ Intelligent Home Automation เข้ามาใช้อีกด้วย ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับโครงการ บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา กันก่อน

บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา

สถานที่ตั้ง :                          ซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ลักษณะอาคาร :                   บ้านเดี่ยว 3 ชั้น (Super Luxury Villa)

จำนวนยูนิต :                        บ้านเดี่ยว 56 ยูนิต / บ้านแฝด 100 ยูนิต

ขนาดที่ดิน :                         32.3 ไร่

รูปแบบที่พักอาศัย

– Monte ที่ดิน 61.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

– Etna ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

– Esta บ้านแฝด ใช้ระเบียงบ้านร่วมกันที่ชั้น 1  มีพื้นที่ใช้สอย 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

จำนวนที่จอดรถ                  2-3 คัน

เฟอร์นิเจอร์ :                       No Furnished

พื้นที่ :                                  346-454 ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น :                       25,000,000 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวก :     ฟิตเนส, คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะ, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. , ระบบกล้อง CCTV, ระบบเข้า-ออกโครงการ Key Access

สร้างเสร็จประมาณ :           ปลายปี พ.ศ.2561

เว็ปไซต์ :                              www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/บ้านกลางเมือง-คลาสเซ่/บ้านกลางเมือง-คลาสเซ่-เอกมัย-รามอินทรา/

เจ้าของโครงการ :               บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

โทร :                                    1623 / 0-2261-2518

พิกัดที่ตั้งโครงการ :            13.832715, 100.620848

จุดขึ้นลงทางด่วน :              ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

สถานที่ใกล้เคียง :               The Walk, The Crystal Park, Central Plaza East-Ville, CDC, Tesco Lotus เลียบทางด่วน และตลาดนัดหัวมุม

สำหรับโครงการ CLASSE เอกมัย-รามอินทรา ตามที่กล่าวไป จะมีทั้งบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ตั้งอยู่บนทำเล ภายในซอยสุคนธสวัสดิ์ 19 สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก อยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ถนนประดิษฐมนูธรรม, และถนนเกษตร-นวมินทร์ สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง The Walk, The Crystal Park, Central Plaza East-Ville, CDC และตลาดนัดหัวมุม ถือได้ว่าทำเลนี้ มีพร้อมทุกอย่างที่ตอบโจทย์ต่อไลฟสไตล์ผู้พักอาศัย

บรรยากาศภายในโครงการมีความร่มรื่น ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นไม้นานาพันธุ์ที่ให้ความร่มรื่นกับโครงการ ตลอดแนวถนนภายในโครงการ

 

สวนสีเขียว สนามเด็กเล่นที่อยู่ทางด้านหน้าของโครงการ

 

Club House ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส อยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ

ที่พักอาศัยของที่นี่ จะแบ่งเป็น 2 โซน โดยจะแยกประตูเข้า-ออกอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแบ่งเป็นโซน Residence ที่เป็นบ้านแฝดทั้งหมด และโซน Villa พื้นที่ภายในจะเป็นบ้านเดี่ยว

โซน Villa เมื่อขับรถเข้ามาแล้ว จะอยู่ทางขวามือของโครงการ และเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด

ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นโซน Residence หรือโซนพื้นที่บ้านแฝดทั้งหมดของโครงการ CLASSE เอกมัย-รามอินทรา

ภายในโซน Residence ที่เป็นบ้านแฝดทั้งหมด สูง 3 ชั้น และมีบ้านแบบเดียว Esta  ซึ่งจะใช้ระเบียงร่วมกันที่ชั้น 1  มีพื้นที่ใช้สอย 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

บรรยากาศบริเวณพื้นที่หน้าบ้าน สามารถจอดรถได้ 3 คัน

ทางเข้าแต่ละโซนจะเป็นประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติ สามารถสั่งการด้วยแอพพลิเคชั่นจากมือถือได้นะครับ

เรามาที่โซน Villa  เมื่อขับเข้ามาแล้ว เราจะเจอกับวงเวียนที่แยกไปยังซอยต่างๆ ของโครงการ มีบรรยากาศที่ร่มรื่นเงียบสงบเหมาะแก่การพักอาศัย

โซนบ้านเดี่ยวหรือภายในโซน Villa มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ

– Monte ที่ดิน 61.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

– Etna ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 346 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

บ้านแบบ Monte เป็นบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการนี้ และเป็นบ้านที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เรียกว่า MULTIVERSE LAYOUT เป็นการออกแบบที่มีการเชื่อมโยงมุมมองของบ้านทั้ง 3 ชั้น แบบไร้รอยต่อ ให้เชื่อมถึงกันหมดไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหน แต่ก็ยังคงมีมุมส่วนตัวของตัวเองอยู่เช่นกัน โดยมีชื่อว่า  MULTIVERSE LAYOUT แบ่งเป็น 5 LAYOUT คือ

– Perceptual Space “ขยายขอบเขตของบ้านให้ใหญ่ขึ้น” พื้นที่บริเวณหน้าบ้าน ที่ไม่มีการทิ้งพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์

– Three Generational Space ปรับแต่งพื้นที่ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ให้คนภายในครอบครัวภายสามารถใช้เวลาร่วมกันได้

– Convertible Space เปลี่ยนลานจอดรถให้มีความเชื่อมโยงถึงกันได้ สามารถทำเป็นลานสังสรรค์ของครอบครัวได้ หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามต้องการ

– Multi-Dimension Space ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย เชื่อมต่อชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียว เพิ่มทางเข้าบ้าน 3 แบบ จากห้องรับแขก ห้องเตรียมอาหาร และจากบันไดหน้าบ้านสู่ห้องนั่งเล่นบริเวณชั้น 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายภายในบ้าน

– Outside-In Space จุดช่วยรับแสง ช่วยระบายอากาศ ช่วยให้บ้านมีมุมที่โปร่ง เห็นวิวได้รอบ และช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน

พื้นที่บริเวณหน้าบ้าน หรือที่เรียกว่า Convertible Space เปลี่ยนลานจอดรถให้กลายเป็นลานอเนกประสงค์ หรือสามารถจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ได้

มาที่พระเอกของเรา ระบบ Home Automation ซึ่งจะเป็น AI จาก Amazon ที่สามารถควบคุมคำสั่งภายในบ้าน ซึ่งเราสามารถสั่งผ่าน Echo & Alexa และสั่งผ่านจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิด ระบบไฟส่องสว่าง / ม่าน /เครื่องปรับอากาศ / ปั๊มน้ำ / เปิด-ปิดเพลง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยจะแบ่งการสั่งการเป็น 2 ส่วนคือ 1.จากสมาร์ทโฟนที่มีเมนูสั่งการผ่านแอพพลิเคชั่น ให้เราเลือกเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้โดยผ่านเมนูต่างๆ  2.ระบบ AI สมองกล Echo & Alexa จะเน้นการสั่งการด้วยคำสั่งเสียง หรือคล้ายๆ กับระบบ Siri ภายในไอโฟน ทั้งหมดจะทำงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่งจะสามารถคิด วิเคราะห์ ประมวลผล พร้อมสร้างชุดคำสั่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้ เพื่อทำให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนภายในบ้านได้อย่างลงตัว และลูกบ้านของโครงการ CLASSE เอกมัย-รามอินทรา จะได้รับการลงโปรแกรมภายในสมาร์ทโฟนของลูกบ้านเลย

หน้าตาของโปรแกรมสั่งการภายในบ้าน ถือว่าทำได้หลายอย่างมากๆ เช่นการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตามที่เราตั้งค่าไว้ / ดูกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ดูสถานะภายในบ้านเช่นระบบกำลังไฟ อุณหภูมิภายในบ้าน / เปิดสัญญาณกันขโมย เมื่อเราไม่อยู่บ้าน หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ตัวสัญญาณกันขโมยจะส่งสัญญาณไปยังป้อม รปภ. ที่หน้าโครงการเลยครับ

Echo ที่เชื่อมต่อจะมาจาก Alexa ช่วยเพิ่มจุดรับสัญญาณ สำหรับออกคำสั่งเสียงภายในบ้าน ส่วนการใช้งาน Echo & Alexa นั้นง่ายมากเพียงเราออกคำสั่งเสียงที่เป็นภาษาอังกฤษ ตามที่เราได้เซ็ทตั้งค่าไว้ในตอนแรก ว่าจะให้เปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยทำการซิงโครไนซ์จากแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนเข้ากับ Alexa ก่อน และ Alexa ก็จะรู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเรามีอะไรบ้าง (ทางผู้ดูแลระบบจะเป็นคนตั้งค่าให้) ตัวอย่างการเปิดไฟในพื้นที่นั่งเล่นภายในบ้าน ให้เราพูดว่า “Alexa turn on living light” หรือ “Alexa turn living light on” เจ้า Alexa จะอาศัยการจำคีย์เวิร์ดจากคำสั่งเสียงของเราที่ตั้งไว้ตอนแรกนั่นเองครับ  สำหรับเจ้า Alexa นั้น สามารถเป็นได้มากว่าตัวเปิด-เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเรายังใช้งานคำสั่งเสียง เพื่อหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต / ฟังเพลง / พยากรณ์อากาศ / จดบันทึก / ดูตารางนัดหมายต่างๆ ได้ หรือจะพูดคุยกับ Alexa เป็นเพื่อนแก้เหงาก็ยังได้เลยนะครับ

Remote IR extender ตัวควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่จะรับสัญญาณจาก Alexa และส่งสัญญาณไปยังเครื่องไฟฟ้าที่เราตั้งค่าไว้ โดยจะเป็นตัวกลางคอยเปิด – ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เรา เช่นกันเปิด-ปิดแอร์ / ทีวี / หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ควบคุมด้วยระบบรีโมทได้

ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ไม่มีรีโมท จะติดตั้งสวิตช์ที่มีเซ็นเซอร์ ถึงจะสั่งงานด้วยระบบนี้ได้ครับ

เปิด-ปิดม่านเราก็สามารถใช้สั่งเสียงจาก Alexa หรือจากแอพพลิเคชั่น ได้เช่นกัน

บันไดทางขึ้นชั้น 2-3 จะมีหลอดไฟทางเดิน ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างของโถงบันได ซึ่งเราสามารถสั่งเปิด-ปิดจาก Alexa ได้ หรือจะตั้งค่าเป็นเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่อเราเดินผ่าน (อาศัยการตั้งค่าผ่านแอพพลิเคชั่น)

บรรยากาศภายในโถงบันได โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งลูกนอนเป็นไม้เนื้อแข็ง เคลือบเงาสวยงาม ให้ความรู้สึกที่หรูและทันสมัย

ภายในห้องนอนใหญ่หรือห้อง Master Bedrooms

จุดเด่นของโครงการนี้ยังอยู่ที่ห้องนอนผู้สูงอายุ ซึ่งมีแนวคิด Sanctuary Unit เน้นดูแลและใส่ใจผู้สูงอายุเป็นหลัก โดยจะมีปุ่ม Emergency Button ปุ่มสีแดงนี้ เมื่อกดจะส่งสัญญาณช่วยเหลือไปยังแอพพลิเคชั่น และป้อมยาม รปภ. ด้านหน้าโครงการ สำหรับปุ่ม Emergency Button จะมีอยู่ 2 ปุ่มด้วยกัน

บริเวณโต๊ะหัวเตียง

และภายในห้องน้ำบริเวณ อ่างล้างหน้า โดยปุ่มนี้จะติดตั้งเฉพาะห้องนอนผู้สูงอายุที่อยู่บริเวณชั้นล่างเท่านั้น

ส่วนของห้องรับแขกที่เป็นเพดานแบบ Double Volume ที่ได้รับการออกมา Perceptual Space ให้พื้นที่ทุกส่วนเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว จากชั้น 2 และ 3 สามารถเห็นพื้นที่ห้องรับแขกได้ และห้องรับแขกยังเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนอีกด้วย ซึ่งทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น

ภายในชั้น 3 บริเวณกลางบ้านหรือห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom จะถูกออกแบบ Outside-In Space จุดเพิ่มช่วยรับแสง ช่วยระบายอากาศ ช่วยให้บ้านมีมุมที่โปร่ง เห็นวิวได้รอบ เพิ่มพื้นที่สีเขียวของบ้านและช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้าน

โครงการ บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่นำเอาเทคโนโลยี Home Automation เข้ามา ซึ่งทาง AP เองได้ สำรวจ ศึกษาและเรียนรู้จากการใช้ชีวิตของลูกบ้านในโครงการก่อนๆ มาคิดวิเคราะห์ผสานกับแนวคิด Internet of Things ออกมา จนได้ผลลัพธ์มาเป็นบ้านพักอาศัยที่ฉลาดและอัจฉริยะแบบนี้  ที่นี่ถือว่าเป็นโครงการแรกๆ ในไทยที่หยิบยกนำเอาเทคโนโลยีแนวคิดล้ำๆ แบบนี้มาใส่ไว้ให้ลูกบ้าน  นอกจากจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ลูกบ้านแล้ว การพัฒนาเทคโนโลยีในครั้งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งในการจุดประกายให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาต่อยอดของอนาคตสำหรับการอยู่อาศัยในโครงการใหม่ๆ ในอนาคตต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย-รามอินทรา หรือระบบ Home Automation ก็สามารถแวะเข้าไปชมบ้านตัวอย่างและพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ บ้านอัจฉริยะ ภายในโครงการกันได้นะครับ