ทำเลและการเดินทาง

โครงการ The kith plus เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคารสูง 8 ชั้น ตั้งในภายในซอยสุขุมวิท 113 (ซอยด่านสำโรง) จากปากซอยสามารถเดินเข้ามาได้ประมาณ 400 เมตร รถสามรถวิ่งสวนกัน 2 เลน ซึ่งในซอยนี้สามารถเข้า-ออกได้อีกหลายเส้นทาง อย่างถนนศรีนครินทร์ หรือทะลุออกซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) สุขุมวิท 109 และสุขุมวิท 111อยู่ใกล้กับทางด่วนกาญจนาภิเษก จุดขึ้น-ลงที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (ช้าง 3 เศียร) ที่สำคัญรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กำลังจะเปิดทดลองวิ่งในเดือนธันวาคมนี้จะมีสถานีสำโรง ซึ่งห่างเพียง 200 เมตรจากปากซอย และในอนาคตยังเป็นจุดเชื่อมกับaรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มาจากลาดพร้าว-บางกะปิ-ศรีนครินทร์ อีกด้วย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น อิมพีเรียลสำโรง, บิ๊กซีสำโรง, ตลาดเอี่ยมเจริญ, ตลาดธรรมโรจน์นิมิตร, โรงพยาบาลสำโรง ฯลฯ

เริ่มต้นการเดินทางจาก BTS สถานีแบริ่ง ฝั่งมุ่งหน้าสำโรง

ตรงมาเรื่อย ๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อเห็นอิมพีเรียลสำโรงทางขวามือให้ชิดซ้าย

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 113 ปากซอยจะอยู่เชิงสะพานข้ามคลองสำโรงพอดี ซึ่งใต้สะพานนี้สามารถกลับรถได้

บรรยากาศภายในซอยคึกคัก มีร้านค้า อาหารการกิน ทั้งสองข้างทาง

มาดูแผนที่กันชัด ๆ จะเห็นได้ว่าโครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 113 ตรงหัวมุมที่ตัดกับซอยสำโรงเหนือ 7 พอดี โดยทางเข้า – ออกคอนโดจะอยู่ด้านซอยสำโรงเหนือ 7 ส่วนทางด้านหน้าจะเป็น Shop House ทั้งหมด 25 อาคาร เหมาะสำหรับการทำธุรกิจขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็น Home Office หรือร้านค้า ร้านบริการต่าง ๆ ถือเป็นทำเลเยี่ยม เพราะอยู่ท่ามกลางชุมชนและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

Floor plan อาคาร A ชั้น 2 จำนวน 27 ยูนิต ลิฟท์ 2 ตัวบริเวณกลางอาคาร บันไดหนีไฟ 3 จุด ที่มุมอาคารทั้ง 2 ด้าน และกลางอาคาร ทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ห้อง Type B ส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะได้วิวสวนส่วนกลาง ส่วน Type A ส่วนใหญ่หันหน้าทางทิศใต้ และตะวันตก ได้วิวภายนอก

Floor plan อาคาร A ชั้น 3 จำนวน 27 ยูนิต ความพิเศษของชั้นนี้คือ สวนลอยฟ้า ที่กินพื้นที่ประมาณ 2 ยูนิต มี Wifi ให้บริการฟรีในบริเวณนี้ โดยสวนลอยฟ้าจุดนี้จะให้วิวภายนอกคอนโด ด้านทิศใต้

Floor plan อาคาร A ชั้น 4 จำนวน 27 ยูนิต สวนลอยฟ้าชั้นนี้จะเชื่อมต่อกับชั้น 3 เป็นบล็อคเดียวกัน ทำให้มีพื้นที่สวนกลางเพิ่มมากขึ้น รองรับกับจำนวนของลูกบ้านได้อย่างเพียงพอ

Floor plan อาคาร A ชั้น 5 จำนวน 29 ยูนิต

Floor plan อาคาร A ชั้น 6 จำนวน 29 ยูนิต

Floor plan อาคาร A ชั้น 7 จำนวน 27 ยูนิต สวนลอยฟ้าจุดที่ 2 ของอาคาร A กินพื้นที่ประมาณ 2 ยูนิต มี Wifi ให้บริการฟรีเช่นเดียวกันกับจุดแรก หันหน้าออกคอนโดด้านทิศตะวันตก

Floor plan อาคาร A ชั้น 8 จำนวน 27 ยูนิต นิต สวนลอยฟ้าชั้นนี้จะเชื่อมต่อกับชั้น 7 เป็นบล็อคเดียวกัน

Floor plan อาคาร B ชั้น 2 จำนวน 34 ยูนิต ลิฟท์ 2 ตัวบริเวณกลางอาคาร บันไดหนีไฟ 3 จุด ที่มุมอาคารทั้ง 2 ด้าน และกลางอาคาร ทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ห้อง Type B ส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศใต้ และทิศตะวันตก จะได้วิวสวนส่วนกลาง ส่วน Type A ส่วนใหญ่หันหน้าทางทิศเหนือ และตะวันออก ได้วิวภายนอก

Floor plan อาคาร B ชั้น 3 จำนวน 32 ยูนิต สวนลอยฟ้า กินพื้นที่ประมาณ 2 ยูนิต มี Wifi ให้บริการฟรีในบริเวณนี้ โดยสวนลอยฟ้าจุดนี้จะให้วิวภายนอกคอนโด ด้านทิศตะวันออก

Floor plan อาคาร B ชั้น 4 จำนวน 32 ยูนิต สวนลอยฟ้าชั้นนี้จะเชื่อมต่อกับชั้น 3 เป็นบล็อคเดียวกัน

Floor plan อาคาร B ชั้น 5 จำนวน 34 ยูนิต

Floor plan อาคาร B ชั้น 6 จำนวน 34 ยูนิต

Floor plan อาคาร B ชั้น 7 จำนวน 32 ยูนิต สวนลอยฟ้า กินพื้นที่ประมาณ 2 ยูนิต มี Wifi ให้บริการฟรีในบริเวณนี้ โดยสวนลอยฟ้าจุดนี้จะให้วิวบริเวณสวนส่วนกลาง ภายในคอนโด ด้านทิศตะวันตก

Floor plan อาคาร B ชั้น 8 จำนวน 32 ยูนิต สวนลอยฟ้าชั้นนี้จะเชื่อมต่อกับชั้น 7 เป็นบล็อคเดียวกัน

Room Layout Type A ขนาด 28 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว เปิดประตูเข้ามาเป็น Living room ถัดจากโซฟามีโต๊ะอาหาร โดยขวามือจะเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องนอน ซ้ายมือเป็นห้องครัวและระเบียง

Room Layout Type B ขนาด 28 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว ห้องแบบนี้จะแยกโซนชัดเจน โดยฝั่งขวา คือ Living room ถัดจากโซฟามีโต๊ะอาหาร และห้องนอน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นโซนห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงจะเชื่อมต่อกับห้องครัวในแนวเดียวกัน
The kith plus จะมี 2 อาคาร รูปตัว L หันเข้าหากัน ส่วนกลางตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร บริเวณชั้น 1

บริเวณด้านหน้าโครงการไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของ Sales Office เพียงอย่างเดียว แต่ทั้งสองฝั่ง คือ ซอยสุขุมวิท 113 และซอยสำโรงเหนือ 7 ติดริมถนนจะเป็น Shop House 3.5 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ทั้งหมด 25    ยูนิต แถมฟรี!!! Solar roof พร้อมติดตั้ง ให้ได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟได้ยาวนานถึง 25 ปี ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท

บรรยากาศภายใน Sale Office ที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่าน

The kith plus by SENA อีกหนึ่งแบรนด์ที่หลายคนให้ความสนใจไม่น้อย ด้วยทำเลเยี่ยม ราคาที่หลายคนเอื้อมถึง

โมเดล The kith plus มีแผงโซลาร์เซลติดตั้งที่อาคาร B เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้ในส่วนกลางตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ราคาส่วนกลางถูกลง โดยอาคาร A หันออกด้านทิศตะวันตกกับทิศใต้ อาคาร B หันออกด้านทิศเหนือกับตะวันออก

จุดเด่นของที่นี่ คือ สวนลอยฟ้าแทรกตัวอยู่บนคอนโดชั้น 3-4 ลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส อาคารละ 2 จุด เสมือนการใส่ธรรมชาติลงไปให้อยู่ใกล้ตัวมากขึ้น

สวนลอยฟ้าจุดที่ 2 บนชั้น 7-8 แบบเดียวกันกับชั้น 3-4 รวมพื้นที่กว่า 200 ตร.ม. พร้อมฟรี wifi ทุกจุด

บริเวณส่วนกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคาร A และ B

พื้นที่จริงของ The kith plus อยู่ด้านหลัง Sale Office ทางเข้า-ออก คอนโดจะอยู่ด้านซอยสำโรงเหนือ 7 ทางทิศตะวันตก

เราลองเข้ามาดูห้องตัวอย่าง เริ่มจากห้อง Type A ขนาด 28 ตร.ม. ค่ะ

เข้าห้องมาจะพบโซฟาอยู่ทางซ้าย เคาน์เตอร์ทีวีทางขวา มองตรงเข้าไปจะเห็นห้องนอนทางขวา และห้องครัวทางซ้าย

โซฟาที่มีให้มาด้วย ข้างใต้จะมีฟังชั่นเป็นลิ้นชักไว้เก็บของได้ มาพร้อมกับโต๊ะกลาง 1 ตัว

เคาน์เตอร์วางทีวีก็ให้มาด้วย แต่ไม่มีชั้นวางของด้านบนนะคะ ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวี กำลังพอดี

เดินเข้ามาในห้องอีกนิดจะมีพื้นที่ว่าง ด้านซ้ายจะได้โต๊ะ-เก้าอี้รับประทานอาหารมาด้วยค่ะ

ด้านหลังโต๊ะรัปประทานอาหารเป็นห้องครัว ชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ก็ได้เช่นกัน โดย TOP ครัวเป็นลามิเนต ระเบียงห้องต่อจากห้องครัวมีกั้นด้วยกระจกเลื่อน 3 บาน

เมื่อออกมาจากห้องครัวมองไปทางซ้ายมือจะพบกับห้องนอน เป็นประตูไม้ กระจกบานใหญ่ติดไว้หน้าห้องสามารถมองทะลุเข้าไปในห้องนอนได้ ทำให้ห้องดูไม่ทึบ

ลูกบ้านจะได้เตียงขนาด 5 ฟุต เครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 btu. 1 เครื่อง

ทางเดินด้านข้างของเตียงฝั่งติดกับหน้าต่างด้านนอก ช่องว่างเดินได้พอดี

หน้าต่างเป็นกระจกสไลด์บานใหญ่ 2 บาน

ตู้เสื้อผ้าก็ให้มาด้วยนะคะ ติดกับหัวเตียงพอดี

ถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นพื้นที่เล็กๆ สำหรับวางโต๊ะทำงานแต่ส่วนนี้ไม่ได้ให้มานะคะ และห้องน้ำในตัวค่ะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้ง สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ COTTO และ American Standard

ยังค่ะ The kith plus ยังแถมให้ไม่พอ โซนอาบน้ำยังมี Rain shower ให้ด้วย

เข้ามาดูห้อง Type B ขนาด 28 ตร.ม. ซึ่งเท่ากันกับ Type A กันต่อเลยค่ะ

พอเปิดประตูห้อง จะเห็นโซฟาทางขวามือ เคาน์เตอร์ทีวีซ้ายมือ ลึกเข้าไปคือห้องนอนค่ะ

โซฟามีฟังชั่นเป็นลิ้นชักเก็บของเช่นเดียวกันค่ะ ถัดจากโซฟาเป็นโต๊ะอาหาร

เคาน์เตอร์ทีวี ที่ให้มาอีก พร้อมช่องเก็บของเพิ่ม

ด้ายซ้ายฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหาร เป็นส่วนห้องครัวและห้องน้ำ

ห้องนอนเตียง 5 ฟุต พื้นที่เท่ากับห้องนอนของ Type A

มีเครื่องปรับอากาศในห้องนอนมาให้ด้วยนะคะ ขนาด 9,000 btu. 1 เครื่อง ประตูห้องนอนเป็นกระจกสไลด์ 3 บาน

ภายในตู้เสื้อผ้า

เคาน์เตอร์ห้องครัวพร้อมซิงค์ TOP เป็นลามิเนต ระเบียงห้องต่อจากห้องครัวมีกั้นด้วยกระจกเลื่อน 3 บาน

ลักษณะของเคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ มีตู้เก็บของ ลิ้นชัก และช่องวางไมโครเวฟให้ครบเลยค่ะ

ออกมาดูระเบียง เป็นรั้วโปร่ง มีก๊อกน้ำด้านล่างสำหรับทำเป็นโซนชำระล้างได้

ห้องน้ำที่อยู่ในส่วนเดียวกันกับห้องครัว

มี Rain shower เหมือนกันกับห้อง Type A ค่ะ

สวนลอยฟ้าอาคารละ 2 จุด รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 200 ตร.ม. หรือประมาณ 8 ยูนิต/อาคาร ชั้น3-4 และ7-8 แต่ละจุดจะกินพื้นที่ 2 ชั้น โดยบริเวณนี้จะมี WIFI ให้บริการฟรี  ให้ความร็สึกเหมือนยกธรรมชาติมาไว้ใกล้ ตัวมากขึ้น ความใส่ใจในรายละเอียดของเสนาที่มีต่อลูกค้าคือการนำแผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งบริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคาร B ประมาณ 30 แผง สำหรับนำแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในส่วนกลางทั้งหมด ไฟฟ้าส่องสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ตรงนี้จึงเป็นสาเหตุทำให้ค่าส่วนกลางของที่นี่มีราคาถูกลงโดยแผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 25 ปี ผลิตไฟฟ้า 30 kW/ชั่วโมง