ทำเลและการเดินทาง

โครงการ The Diplomat Sathorn ตั้งอยู่ติดกับถนนสาทรเหนือ หรือเรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมือง CBD อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นที่สุดของทำเล ตัวโครงการ The Diplomat Sathorn ยังตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพียง 190 เมตร การเดินทางมายังโครงการนั้น เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ เพราะตัวโครงการจะอยู่ติดกับบันไดทางขึ้น BTS สถานีสุรศักดิ์เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น ยิ่งมีความสะดวกมาก จะเข้าหรือออกเมืองก็มีความสะดวกเพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสาทรเหนือ ซึ่งจะเป็นฝั่งขาเข้าเมือง ขับตรงไปนิดเดียวเองก็จะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ที่ย่านสาทร และเชื่อมถนนพระราม 4 ถนนวิทยุ ถนนสุขุมวิท หรือจะเลี้ยวซ้ายผ่านช่องนนทรี ก็จะเชื่อมกับถนนสีลม ในทางกลับกัน เมื่อมายังโครงการ ถ้าเรามาจากถนนสาทรใต้ ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ เลี้ยวขวาเข้าถนนประมวญ บริเวณหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีเวียง และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุรศักดิ์ ขับตรงไป เราก็จะออกถนนสาทรเหนือ ขับมานิดเดียวก็จะถึงโครงการแล้วครับ  ถือว่าตัวทำเลเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยนะครับ

จากแผนที่เราจะเห็นว่าโครงการ The Diplomat Sathorn ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสาทร และยังติดกับบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ออกมาจากโครงการก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีความสะดวก และยังอยู่ใกล้กับทางด่วนพิเศษศรีรัช ว่าแล้วเราไปชมภาพการเดินทางกันดีกว่าครับ

การเดินทางเราเริ่มจากถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาเข้าเมือง

ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้ (ตลาดพลู) จะมีจราจรหนาแน่นในเวลาเร่งด่วนบ้างครับ

ขับตรงไปเรื่อยๆ เหมือนเดิม

ผ่านสถานี BTS กรุงธนบุรีครับ ขับตรงไป

ตอนนี้ให้ขับตามป้ายถนนพระราม 4 ไปก่อนนะครับ

ข้ามสะพานตากสิน ตอนนี้เราจะเริ่มเข้าสู่ถนนสาทรแล้วครับ

ผ่าน BTS สะพานตากสิน ขับตรงไปเหมือนเดิม

ก่อนถึงแยก สาทร-สุรศักดิ์ จะมีจุดขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัช  ซึ่งเราสามารถไปพระราม 9 – แจ้งวัฒนะ หรือบางนา – ดาวคะนอง บางโคล่ ได้ครับ

ผ่านแยก สาทร-สุรศักดิ์ ตอนนี้ให้เราขับไปตามป้ายถนนพระราม 4 ก่อนครับ

ขับมาจนถึง BTS สุรศักดิ์ ให้เราเตรียมชิดซ้ายเลยครับ

ชิดซ้ายเลยครับ เพื่อเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ

ถึงแล้วครับ โครงการ The Diplomat Sathorn จุดสังเกตง่ายๆคือ ตัวโครงการนั้นจะอยู่ติดกับบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า                    BTS สุรศักดิ์ เลยครับ

เส้นทางที่ 2 เป็นการเดินทางมาโครงการ The Diplomat Sathorn โดยอาศัยรถไฟฟ้า BTS นั่งมาลงสถานีรถไฟฟ้า           BTS สุรศักดิ์ ครับ

เลือกออก ทางออกที่ 3 ครับ

ทางออกที่ 3

แวะดูค่าโดยสารไปยังสถานีต่างๆ กันหน่อยครับ

ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ฝั่งถนนสาทรเหนือ ติดกับบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์เลย

เลี้ยวซ้ายเป็นทางออกครับ ส่วนทางขวานั้นจะเป็นทางขึ้น ที่เดินมาจากหน้าโครงการ

ทางเดินไปยังบันไดทางลง ครับ

ลงบันไดมาแล้ว เดินย้อนกลับมา เราจะเห็นซุ้มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ใต้บันไดรถไฟฟ้าครับ

ค่าโดยสารตามป้ายเลยครับ

ผ่านโรงแรม Mode Sathorn ซึ่งโรงแรมนี้จะอยู่ติดกับโครงการ The Diplomat Sathorn

เดินมานิดเดียว เราจะเจอกับโครงการ The Diplomat Sathorn แล้วครับ ถือว่าใกล้รถไฟฟ้าจริงๆ ครับ

รั้วโครงการด้านหน้าอยู่ใกล้กับบันไดรถไฟฟ้าเลย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โครงการ The Diplomat Sathorn จะอยู่ติดกับบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ทำให้มีความสะดวกสบายในด้านการเดินทางมากครับ

เรามาเริ่มต้นกันที่หน้าโครงการ THE DIPLOMAT SATHORN กันก่อนเลยครับ

บริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะมีจุดเด่นก็คือ อยู่ติดกับบันไดรถไฟฟ้าสถานี BTS สุรศักดิ์เลยละครับ

ทางเข้า-ออกของโครงการจะมีอยู่ทางเดียว ติดกับถนนสาทรเหนือ พื้นทางเข้าของโครงการเทด้วยคอนกรีตพิมพ์ลายสวยงาม และมี รปภ. รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ตัวโครงการ เดอะ ดิโพลแมท สาทร ลักษณะของโครงการเป็นอาคาร 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ออกแบบผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์น

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าภายในโครงการครับ

ทางเข้าไปยังส่วน Lobby ด้านหน้าดีไซน์ที่เรียกว่า  Timeless Elegance

ภาพอีกมุม เมื่อเรามองขึ้นไปด้านบน ส่วนด้านหน้าโครงการจะอยู่ทางทิศใต้

ทางด้านซ้ายของโครงการจะเป็นทางเข้า ที่ใช้ระบบแบบ Access Control กั้นด้วยไม้กระดกอีกชั้น

ส่วนด้านขวาของโครงการ มีส่วนของ Drop off เราสามารถขับวนขวาออกมาได้เช่นกันครับ

ว่าแล้วเราเข้าไปในโครงการกันดีกว่านะครับ ทางเข้าไปยังส่วน Lobby นั้น มีความสวยงามและอลังการมาก

บรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งด้วยหินอ่อนโทนสีขาวและแชนเดอเลียร์ Venetian Chandelier ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา

ภายใน Lobby มีที่นั่งให้อยู่หลายที่เลยครับ

ประตูทางเข้าไปยังส่วนพักอาศัย เป็นประตูขอบไม้ตรงกลางเป็นกระจกสองบาน

เข้า-ออกด้วยระบบคีย์การ์ดเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

เมื่อเราเดินเข้ามาทางเข้าทางซ้ายมือนั้น เป็นส่วนของ Mail Box แบ่งเป็นสัดส่วน

ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ต่อไปเราจะขึ้นไปที่ชั้น 35 ที่เป็น Facilities กันก่อนครับ

ในชั้น 34 จะมีสวนพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งจะอยู่ทางทิศเหนือของอาคาร

เดินตรงมาเราจะเห็นสระว่ายน้ำ ที่กั้นด้วยระเบียงเอาไว้ครับ

จากระเบียงมองมาทางขวามือ เราจะเห็นสระว่ายน้ำที่ยาวไปทางด้านหน้าเลยครับ

ตอนนี้เราเดินมาทางฝั่งทิศใต้ เราจะเห็นวิวของเมืองย่านเซนต์หลุยส์และถนนจันทน์

ภายในสระ มีSunken Seat ไว้ให้นั่งเล่น หรือลงไปนั่งชิวได้สบาย

และยังมีร่มไม้ให้เรารู้สึกถึงธรรมชาติท่ามกลางตึกสูง

พื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำจะเป็นรูปตัว L สำหรับส่วนที่ว่ายน้ำได้ จะมีขนาด 7 x 28 เมตร

บรรยากาศโดยรวมในส่วนของสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นแบบระบบเกลือ

มองขึ้นไปด้านบนจะเห็นส่วนของห้องฟิตเนส ที่อยู่บนชั้น 35

ในตอนนี้เราได้ขึ้นมายังชั้น 35 ซึ่งเป็นส่วนห้องฟิตเนสขนาดใหญ่

เครื่องเล่น มีให้เลือกเยอะเลยนะครับ เรียกได้ว่าเล่นได้ครบทุกส่วนของร่างกายได้เลย

มองลงไปด้านล่างชั้น 34 เราจะเห็นสระว่ายน้ำ ที่เราพาไปชมมาก่อนหน้านี้

บรรยากาศโดยรวมของห้องฟิตเนสอีกด้านหนึ่ง

ซึ่งห้องฟิตเนสจะหันไปทางทิศใต้ได้วิวย่านเซนต์หลุยส์และถนนจันทน์

มาต่อกันที่ชั้น 8 ครับ โครงการนี้มีส่วน Facilities อยู่หลายที่เลยนะครับ ในรูปที่เราเห็นจะเป็นห้องKid’s Room ไว้สำหรับให้น้องๆมานั่งเล่น

ชั้นนี้มีสระเด็ก ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากครับ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กๆ แน่นอน

ด้านบน จะเป็น Rain Cloud ให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

มาที่ส่วนด้านหน้าหรือทางทิศใต้ของอาคาร จะมี The Diplomat Club ที่ตกแต่งสวยงาม เหมาะกับลูกบ้านทุกคน

มีเก้าอี้แบบอาร์มแชร์ และโซฟาขนาดใหญ่ให้อยู่หลายที่เลยครับ ในห้องมีกระจกบานใหญ่ที่คอยให้แสงจากธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

ชุดเก้าอี้และโซฟานั่งเล่นบริเวณด้านหน้า ใกล้ๆกันจะมีทางออกไปยังพื้นที่สวนที่อยู่ทางทิศใต้ของอาคาร

พื้นที่นั่งเล่นอีกจุดนึงครับ หรือจะมานอนเล่นพักผ่อนก็ได้ครับ

พื้นที่สวนบริเวณหน้าจะยกชั้นมีอีกระดับ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพื้นที่โล่ง พื้นปูด้วยหญ้า มีบ่อน้ำพุ และพื้นที่นั่งเล่น

เดี๋ยวเราจะออกมาดูวิวข้างนอกที่บริเวณสวนกันครับ

มีพื้นที่นั่งเล่นให้หนึ่งชุด

มองย้อนกลับไป จากประตูที่เราเดินออกมาครับ

ประติมากรรมน้ำล้น ที่ทางโครงการตกแต่งให้ดูสวยงามและได้บรรยากาศจากธรรมชาติ

จากพื้นที่สวนชั้น 8 มองย้อนขึ้นไปด้านบนของตัวอาคาร

เรามาดูกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรกกันก่อนครับ เป็นห้องขนาด 76.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งทางโครงการจะให้ห้องมาแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์จัดเต็มทั้ง Built-in และลอยตัว พื้นห้องปูด้วยไม้เอ็นจิเนียร์  มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 3 เมตร  ถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่และโปร่งโล่งสบายมากเลย  จากภาพเมื่อเปิดประตูห้องมาซ้ายมือจะเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของต่างๆ ถัดไปจะเป็นส่วนของ Pantry ครัว

ตู้เก็บของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบ His & Her จะอยู่ทางด้านซ้ายมือหลังจากเปิดประตูห้องเข้ามา  ในส่วนช่องว่างของตู้นั้นสามารถวางของสะสม หนังสือหรือสิ่งต่างๆ ตกแต่งได้ตามใจชอบ

เปิดตู้ให้ดูกันดีกว่า ในส่วนบนของตู้สามารถเก็บของต่างๆ ได้เยอะมาก  สามารถเก็บของได้หลายอย่างเลย ส่วนตู้ด้านล่างสามารถเก็บรองเท้าได้หลายคู่เช่นเดียวกัน และยังมีช่องใส่ของกระจุกกระจิกอีกหลายช่อง

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าทางโครงการได้แบ่งเป็นส่วนของ His & Her ช่องซ้ายและขวา อันนี้ต้องแบ่งกันเองแล้วว่าใครจะอยู่ฝั่งไหนกันครับ

นี่คือส่วนด้านล่างซ้ายขวาสามารถเก็บรองเท้าได้ สามารถเก็บได้หลายคู่มากๆ สำหรับท่านที่ชื่นชอบสะสมรองเท้าก็สามารถเก็บได้อย่างสบาย

ในส่วนของ Pantry ครัว จะมี Island ไว้สำหรับเตรียมหรือพร้อมเสิร์ฟอาหาร ถือว่าสะดวกมากๆ ถ้าท่านใดที่ชอบจัดปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่อยากออกไปข้างนอกชวนเพื่อนมาปาร์ตี้ทำอาหารทานกัน ไม่ต้องกังวลไป มีครัวก็ต้องมีมุมทานข้าวให้อยู่ข้างๆ อยู่แล้วครับ

มุมตรงข้ามกับ Pantry ครัว ก็จะเป็นในส่วนของ Living Room นั่งทานกาแฟ ดูข่าว ดูหนัง นั่งเล่น พื้นที่ในส่วนนี้ก็ถือว่ามีขนาดกว้างพอสมควร ดูแล้วไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย

มองย้อนกลับจากส่วน Island จะเห็นพื้นที่ยาวๆ ที่มาจากประตูทางเข้า

ส่วนของ Island มีชุดไมโครเวฟติดไว้อยู่ด้านล่าง ไมโครเวฟ ยี่ห้อ Kuppersbusch พร้อมชุดอ่างล้างจานของ Teka

ส่วนของตู้เย็นจะเป็น Built-in ฝังอยู่ในชุดเคาน์เตอร์ครัว

จากภาพส่วนซ้ายมือนี้จะเป็นมุมทานอาหาร ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของ Living Room

ในส่วน Living Room ก็จะมีโซฟานุ่มๆ ขนาด 2 ที่นั่ง ไว้ให้แล้ว

มีประตูบานเลื่อนเป็นแบบกระจกขอบอลูมิเนียม ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้

นี่คือวิวจากระเบียงห้อง ที่เห็นจะเป็นทิศตะวันออกเห็นวิวเมือง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และวิวเมืองย่านสาทร

มองย้อนจากส่วนของ Living Room ก็จะเห็นส่วนของมุมทานอาหารและ Pantry ครัว ที่ดูกว้างขวางอย่างชัดเจน

เดินเข้ามาถัดจากห้อง Living Room และ Pantry ครัวแล้ว มีทางเดินแยกไปยังห้องต่างๆ ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำส่วนกลาง ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก และตรงกลางเป็นทางเข้าของห้อง Master Bedroom ครับ

เราเข้ามาดูห้องน้ำส่วนกลางกันดีกว่าครับ จะเห็นในส่วนของอ่างล้างหน้า ชุดสุขภัณฑ์ และที่แขวนผ้าเช็ดตัว 

อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Villeroy & Boch อย่างดี ส่วนผิว TOP เป็นหินอ่อนโทนครีมลายไม้

ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งพร้อมกั้นฉากอาบน้ำให้ด้วย  ฝักบัวเป็นแบบ Hand shower ทรงแท่ง ด้านข้างมีช่องเก็บของใช้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ และด้านบนเพดานมี Rain Shower ขนาดใหญ่ให้อีกครับ

ออกจากห้องน้ำมาจะเจอห้อง Master Bedroom ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก

เข้ามาดูห้องนอนเล็กกันดีกว่า ห้องนอนนี้วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ  แล้วยังมีพื้นที่ใช้สอยเหลืออีกมาก

ตู้เสื้อผ้าของห้องนอนเล็กก็จะ Built-in เข้ามาเช่นกัน  และอยู่ทางซ้ายมือเมื่อมองออกไปทางประตูทางเข้าห้อง

มาต่อกันที่ห้องนอน Master Bedroom ครับ ห้องนี้จะแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งพื้นที่พักผ่อน Walk-in closet และมีห้องน้ำในตัว

เริ่มที่ส่วน Walk-in closet ครับ จะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เราด้วยนะครับ ส่วนทางซ้ายจะเป็นทางเข้าของห้องน้ำ

เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำส่วนแรกที่เราเจอก่อนนั้น จะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ HIS & HER  บรรยากาศภายในห้องน้ำแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง

ทางด้านซ้ายเป็นจุดไว้ชุดโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler

ส่วนทางด้านขวาจะเป็นส่วนเปียก กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจก

อ่างล้างหน้าแบบ HIS & HER ใช้ของ Villeroy & Boch

ส่วนเปียกกั้นฉากอาบน้ำให้ครับ ได้ฝักบัวแบบทรงแท่ง เช่นกัน

บรรยากาศภายในส่วนเปียก มีที่นั่งอาบน้ำ และด้านข้างมีช่องเก็บของสำหรับอาบน้ำให้ครับ

บรรยากาศภายในห้องนอน Master Bedroom

ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 จะเล็กกว่าห้องที่แล้ว เป็นห้องขนาด 45 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom เมื่อเดินเข้ามาเราจะเจอกับตู้เก็บของหรือตู้รองเท้า

ตู้เก็บของที่อยู่ตรงข้ามกับประตูหน้าห้อง แบ่งเป็น HIS&HER เช่นกัน

ตู้เย็นเป็นแบบ Built-in ยี่ห้อ TEKA ฝาตู้เป็นไฮกรอสสีเทาทั้งหมด

ส่วนพื้นที่ Living Room จะอยู่ด้านในเลยครับ

เก็บรองเท้าได้หลายคู่เลยนะครับ ชั้นด้านบนเราสามารถเก็บของอื่นๆ ได้เช่นกัน

บรรยากาศโดยรวมภายในห้อง Living Room มีพื้นที่ที่กว้างกำลังดีครับ ไม่อึดอัด ด้านในสุดจะเป็นกระจกและหน้าต่างที่ให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาได้ ซึ่งห้องนี้จะไม่มีระเบียงให้ครับ

มุมมองย้อนกลับไปทางหน้าห้อง เราจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องครัว ส่วนทางขวาจะเป็นประตูทางเข้าไปยังห้องนอน

ชั้นวางทีวี ชั้นเก็บของที่อยู่ติดกับทางเข้าของห้องนอน มีระยะห่างจากโซฟากำลังดี

พื้นที่รับประทานอาหาร จะอยู่ภายในส่วน Living Room พื้นที่โดยรวมนั้นแบ่งเป็นสัดส่วน

มาดูส่วนของห้องนอน ประตูห้องจะเป็นแบบเลื่อนซ่อนในผนัง พื้นที่ของห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตได้กำลังดี และยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ

อีกฝั่งนึงจะเป็นทางเข้าของห้องน้ำ Walk-in closet ส่วนทางขวาได้แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน

พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน สามารถปรับเปลี่ยนโต๊ะได้ตามการใช้งาน

ทางเข้าของห้องน้ำ มีส่วน Walk-in closet ให้ครับ ซ้ายและขวาเป็นตู้เสื้อผ้า แบ่งเป็น HIS&HER

บรรยากาศภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยหินอ่อนโทนครีม พื้นที่ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมกั้นฉากอาบน้ำให้ด้วยนะครับ

โครงการ THE DIPLOMAT SATHORN ตั้งอยู่ติดกับถนนสาทรเหนือ หรือทำเลใจกลางเมืองทีเป็น CBD อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของประเทศไทยและยังเป็นที่สุดของทำเลอีกด้วย ตัวโครงการ THE DIPLOMAT SATHORN ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ และยังอยู่ใกล้กับสถาศึกษาชั้นนำอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพียง 190 เมตร การเดินทางมายังโครงการนั้น เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ เพราะตัวโครงการจะอยู่ติดกับบันไดทางขึ้น BTS สถานีสุรศักดิ์เลย ด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น มีความสะดวกมาก ไม่ว่าเราจะเข้าหรือออกเมืองก็มีความสะดวกพอๆกัน เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสาทรเหนือ ซึ่งจะเป็นฝั่งขาเข้าเมือง เพียงแค่เราขับตรงไปนิดเดียวเอง ก็จะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ในย่านสาทรแล้ว ถ้าขับตรงไปอีก จะเชื่อมกับถนนพระราม 4 ถนนวิทยุ ถนนสุขุมวิท หรือถ้าเลี้ยวซ้ายผ่านช่องนนทรี ก็จะเชื่อมกับถนนสีลม ที่เป็นย่านธุรกิจสำคัญอีกแห่งของประเทศ โดยรวมแล้วจุดเด่นของโครงการจะเป็นเรื่องของทำเลเลยนะครับนี้เลยนะครับ เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณรอบๆโครงการไม่ต้องห่วงเลย มีอยู่หลายที่เลยครับ อาทิเช่น โรบินสัน บางรัก , เซ็นทรัล สีลม คอมเพล็กซ์, ท็อปส์ มาร์เก็ตเพลส (สาขาสีลม) ,วิลล่า มาร์เก็ต (สาขาสีลม ซอยพิพัฒน์) ,ฟู้ดแลนด์ (สาขาพัฒน์พงศ์) ,ท็อปส์ ซุปเปอร์ (สาขาเซนต์หลุยส์/บางรัก) , โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ,โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ,โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก, โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์, โรงพยาบาลเลิดสิน, โรงแรมแชงกรีล่า, โรงแรมโอเรียลเต็ล, โรงแรมเลอบัว เป็นต้น

ด้านโครงการ THE DIPLOMAT SATHORN เป็นคอนโดสูงจำนวน 35 ชั้น 1 อาคาร มีทั้งหมด 192 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน 1-2-12 ไร่ งานออกแบบมีความสวยงาม เน้นความประณีต โดยการออกแบบ Timeless Treasure ให้เหมือนสมบัติล้ำค่า เป็นที่น่าจับต้อง โดยที่เราหาไม่ได้อีกแล้วบนถนนสาทร สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะมีอยู่หลายจุด เริ่มที่ชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก มีฝักบัวขนาดใหญ่ ที่ไหลมาจากด้านบนจากรูปทรงที่คล้ายกับก้อนเมฆ ใกล้ๆกันจะเป็น Kid Room ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Diplomat club มีมุมนั่งเล่น หรือนั่งอ่านหนังสือ พร้อมกันพื้นที่สวนพักผ่อนแบบ Outdoor ส่วนสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสนั้น จะอยู่ชั้น 35 โดยชั้นบนสุดจะเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ ให้เราได้เห็นวิวเมืองแบบ Panoramic view ด้านสระว่ายน้ำจะอยู่ชั้น 34 เป็นระบบเกลือสระรูปตัว L และเป็นแบบ Semi-indoor swimming Pool มีทั้งส่วนที่โดดแดดและอยู่ในที่ร่ม ให้เราได้เห็นวิวเมืองและท้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ในโซนใจกลางเมือง ห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะมีอยู่หลายขนาดเริ่มตั้งแต่ 1 Bedroom 40 ตร.ม. ถึง Penthouse 203 ตร.ม. และโครงการนี้ยังให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished แบบจัดเต็ม หรือแบบ Luxury Fully Furnished ที่ใช้วัสดุอย่างดีตกแต่งด้วยความหรูหรา และยังเป็นโครงการที่อยู่ใจกลางเมืองแบบติดกับบันไดรถไฟฟ้า ที่หาไม่ได้อีกแล้วในจุด CBD โซนสาทร ตอนนี้โครงการ THE DIPLOMAT SATHORN ได้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และใครที่กำลังสนใจจะซื้อเก็บไว้ ปล่อยเช่า หรือซื้อให้บุตรหลาน ที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน  ก็สามารถลองเข้าไปชม คอนโดตกแต่งครบ บนที่สุดของทำเลถนนสาทรและติดรถไฟฟ้า ได้ที่โครงการ THE DIPLOMAT SATHORN