ค้นหารีวิวและสาระน่ารู้ เรื่องบ้านมากมายได้ที่นี่!
รีวิวบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ทำเล โครงการพรีวิว ข่าวอสังหาฯ และสาระน่ารู้กว่า 2,000 รายการ
รีวิว คอนโด SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน) by Homezoomer
2 Bedroom 109 - 119 ตร.ม.
2 Bedroom Duplex 113-132 ตร.ม
3 Bedroom 226 ตร.ม.
Penthouse 435 - 442 ตร.ม.
เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ
พิกัดที่ตั้งโครงการ
MRT สายสีน้ำเงิน ลุมพินี
แอร์พอร์ตลิงค์ ราชปรารภ
ทำเลและการเดินทาง
SALADAENG ONE คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ตั้งอยู่ภายในซอยศาลาแดง 1 ทำเลใจกลางเมือง ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจ การเงินที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งอนาคตจะหาที่ดิน Free Hold บนทำเลนี้มาพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ยาก ตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อกับถนนได้ 3 สาย ถนนสาทรเหนือ ถนนสีสม และถนนพระราม 4 เพียง 80 เมตร อยู่ติดอาคารอื้อจือเหลียง ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ติดถนนใหญ่พระราม4 นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับสวนลุมพินี พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพียงแค่เราข้ามถนนไปก็ถึงสวนลุมพินีแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกสบาย ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับทางด่วนทั้ง 2 จุด ทางด่วนพระราม 4 (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร) และทางด่วนพิเศษศรีรัช หรือจะขึ้นรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี และสีลม ซึ่งอยู่ใกล้เพียงประมาณ 400 เมตรเท่านั้น ส่วนเรื่องอาหารการกิน บริเวณรอบ ๆโครงการมีร้านอาหารดีๆอยู่จำนวนมาก ถือว่าเป็นโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน ตั้งอยู่ใจกลาง CBD กรุงเทพฯ สะดวกทั้งการเดินทาง ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน ใกล้กับสวนลุมพินี สวนที่พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่, ร้านค้าต่างๆในย่านสีลม ,อาคารสำนักงานมากมาย, โรงแรม 5 ดาว , ร้านอาหารชั้นนำหลากหลายชาติ , สถานทูตประเทศต่างๆ และไม่ไกลจาก Central World สยาม
วิวที่สามารถมองเห็นจาก SALADAENG ONE
พระราม9
เพลินจิต
สาทร ตึกมหานคร
วิทยุ
บางกะเจ้า
สีลม
ONE BANGKOK
สวนลุมพินี
City View
ผังโครงการ
Ground Floor Plan ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับศาลาแดงซอย 1 ซึ่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทางรถวิ่งนั้นจะวิ่ง สวนกันโดยขับวนขวาไปซ้าย ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่ Semi Outdoor ใช้สำหรับเป็นที่นั่งพักผ่อน หรือจะเป็นจุดรอรถมารับ ถัดเข้าไปจะเป็นจุด Drop Off บริเวณตรงนี้วงเวียนที่เห็นนั้นจะเป็นจุดที่มีน้ำตกสวยๆที่ไหลลงมาจากเพดาน สร้างความ Luxury ตั้งแต่เข้ามาภายในโครงการเลยทีเดียว ถัดจากจุด Drop Off ก็จะเป็นส่วนของ Lobby บริเวณด้านข้างจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถประมาณ 6 คัน และสำหรับ EV Charger อีกด้วย การวนรถจะวนไปด้านหลังเพื่อที่จะขึ้นไปที่จอดรถชั้น 2 -4 และลงไปที่จอดรถใต้ดินอีก 3 ชั้น เรื่องจำนวนที่จอดรถที่นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ จอดรถได้ 102% หรือ 192 คัน เข้ามาภายใน Lobby ความสูงของโถงประมาณ 5 เมตร พื้นที่ของ Lobby จะไม่ใหญ่มาก ซึ่งคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ส่วนใหญ่จะเน้นความเป็นส่วนตัวสูง ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของ Mail Box ที่จะอยู่ด้านหน้าก่อนจะเข้าไปภายในโถงลิฟท์ ลิฟท์ที่นี่จะมีจำนวนทั้งสิ้น 3 ตัว เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนยูนิตที่มีแล้วเพียงพอมากๆ
5th Floor Plan ที่พักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นนี้ จำนวนยูนิตมีทั้งหมด 12 ยูนิต เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นที่เริ่มมี Atrium
6th – 10th Floor Plan พอขึ้นมาชั้นบน Atrium จะแยกออกเป็น 2 ส่วน (Double Atrium) ด้านหน้าอาคาร (ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 – 19 และด้านหลังอาคาร (ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้) จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 – 24 สำหรับรูปแบบห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 5 – 10 จะเหมือนกัน จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด
11th – 15th Floor Plan จำนวนยูนิตจะลดลงไป 1 ยูนิต เพราะห้องฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 1 ยูนิต ซึ่งฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนี้จะเป็นด้านที่ Hot ที่สุด เพราะได้วิวสวนลุมพินี แต่ก็ใช่ว่าห้องตำแหน่งนี้จะเห็นวิวสวยที่สุด วิวสวนลุมพินีเพียงตำแหน่งเดียว ซึ่งห้องที่อยู่แนวตะวันออกเฉียงเหนือนี้จะสามารถเห็นสวนลุมพินีได้ทุกยูนิต สำหรับห้องทิศอื่นๆ วิวที่ได้นั้นจะบอกว่าสวยแบบคนละสไตล์ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวสวนลุมพินีเหมือนกัน เพิ่มเติมคือตึกอื้อจื่อเหลียง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ได้วิวโค้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกะเจ้า และทิศสุดท้ายตะวันตกเฉียงใต้จะหันไปทางตึกมหานคร เดียวจะมีห้องจริงๆวิวจริงๆให้ชมด้านล่างต่อครับ
16th Floor Plan จำนวนยูนิตจะลดลงเหลือเพียง 7 ยูนิต เนื่องจากห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้นได้เปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ้งห้องนี้ถือว่าเป็นห้องทีเด็ดเลยก็ว่าได้ จะมีให้ชมห้องตัวอย่างจริงๆด้านล่างครับ และด้านหน้าของอาคารชั้นนี้จะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางจึงทำให้ยูนิตด้านหน้านี้หายไป
17th -18th Floor Plan จำนวนยูนิตจะเท่ากับชั้น 16 พื้นที่ด้านหน้าจะหายไปเพราะในเรื่องกฎหมายรูปแบบอาคารตามระยะ set back ของตัวอาคาร จะต้องร่นระยะเข้ามาดังนั้นจะทำให้พื้นที่ของชั้นสูงๆ จะน้อยลงไปเรื่อยๆ
19th Floor Plan ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเหลือ 1 ยูนิต ห้องแบบ 2 ห้องนอนมีจำนวน 3 ยูนิต เพิ่มเติมคือห้องแบบ Duplex จำนวน 2 ยูนิต ทางด้านฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ สำหรับตำแหน่งห้อง 2 ห้องนอนจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะเป็นวิวสวนลุมพินี ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน กับห้อง Duplex ที่อยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้วิวที่ได้ก็ไม่ได้แพ้ฝั่งสวนเลย เพราะวิวที่ได้จะเป็น City View ที่หันไปทางตึกมหานครฝั่งสาทร
20th Floor Plan พอขึ้นมาถึงชั้นนี้รูปแบบห้องพักจะเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนจำนวน 3 ยูนิต และห้อง Duplex upper จำนวนเพียง 2 ยูนิต และช่อง Void จะเหลือเพียงอันเดียว
21st Floor Plan สำหรับชั้นนี้จะมีสวนส่วนกลางอยู่ด้านหน้าอาคารอีกชั้น อาคารที่ร่นเข้ามาทำให้จำนวนยูนิตเหลือเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และตำแหน่งของแต่ละยูนิตคือหันไปยูนิตละทิศเลย Layout ของห้องทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กับทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเหมือนกันแตกต่างตรงขนาดนิดหน่อย และห้องทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห้องนี้จะเป็นห้องที่สามารถออกมาบริเวณระเบียงแล้วเจอสวนสีเขียวเปรียบเสมือนเป็นสวนส่วนตัว ส่วนห้องทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นห้องแบบเดียวกับชั้นก่อนหน้านี้
22nd – 24th Floor Plan รุปแบบต่างๆของชั้นที่ 22 – 24 นี้จะเหมือนกับชั้นที่ 21 ต่างตรงที่ตัดสวนส่วนกลางด้านหน้าออกไป
25th Floor Plan ห้องพักอาศัยจะเหลืออยู่เพียง 3 ยูนิต โดยมีห้องแบบ 2 ห้องนอนทางด้านตะวันออกเฉียง ห้อง Duplex ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และห้องแบบ 3 ห้องนอน ที่หันไป 2 ทิศ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียง ชั้นนี้มีสวนส่วนกลางด้านหน้าอาคาร
26th Floor Plan ห้องแบบ 2 และ 3 ห้องนอน จะเหมือนกับชั้นที่ 25 แต่ห้อง Duplex ชั้นที่ 26 นี้จะเป็นชั้น Upper ของห้อง Duplex ที่ขึ้นมาจากชั้น 25
27th – 28th Floor Plan จะเหมือนกับชั้นที่ 25 – 26
30th – 31st Floor Plan พื้นที่ Facilities ของโครงการนี้ โดยสิ่งอำนวยสะดวกภายในโครงการจะถูกยกขึ้นมาไว้บนชั้นที่ 30 -31
ชั้น 30 พื้นที่ของสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส
ชั้น 31 ห้องประชุมจำนวน 2 ห้อง และห้อง Steam, Sauna จำนวน 1 ห้อง
Zoom โชว์รูม
พาไปชม 2 ห้องนอนตกแต่งใหม่พร้อมเข้าอยู่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ นำเข้าโดย Molteni&C แบรนด์จากอิตาลี ซึ่งเป็นที่ยอมรับยาวนานกว่า 84 ปี ในแคมเปญ Saladaeng One X #HouseOfMolteni ในราคา 3 แสนต้นต่อตารางเมตร สำหรับห้องชั้นสูงแบบ Fully Furnished
SALADAENG ONE คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลาง CBD กรุงเทพฯ เป็นคอนโดมิเนียมหรูสูง 33 ชั้น จำนวน 187 ยูนิต โดยมี Concept ที่ว่า THE ONE THAT MATTER สำหรับคอนโดมิเนียม SALADAENG ONE ตัวนี้ถือว่าเป็น 1 ในคอนโดมิเนียมที่ทาง SC Asset ได้พัฒนาขึ้นมาบนทำเลที่เรียกว่าหาแทบไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ศักยภาพของทำเลถือว่าหายากมากๆ ที่จะตั้งอยู่ใจกลาง CBD อย่างสาทร – สีลม ที่รายล้อมไปด้วย Office Building, ที่ตั้งสถานทูตของหลายๆประเทศ และ 2 Mega Projects ที่อยู่ระหว่างกำลังก่อสร้างอย่าง ONE BANGKOK และโครงการร่วมระหว่าง CPN และ DUSIT THANI | ZEN Saladaeng by Central
SALADAENG ONE ตอนเปิดขาย Pre sales ในช่วงแรกประมาณ 2558 ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 260,000บาท ต่อ ตารางเมตร สำหรับห้อง City View ในปัจจุบัน SALADAENG ONE สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ราคาต่อตารางเมตรพุ่งสูงถึง 350,000 บาทต่อ ตารางเมตร สำหรับห้องวิวสวนลุมพินี แต่จะมีใครรู้? ว่ายังมีราคาที่แพงกว่าตอน Pre sales ขึ้นมาเพียงนิดเดียว ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ ไม่ถึงสามแสนบาท ต่อ ตารางเมตร เท่านั้น และตำแหน่งของห้องยังได้วิวสวนลุมพินีอีกด้วย สำหรับรีวิวนี้จะนำเสนอห้อง 2 แบบ ทั้ง 2 แบบจะ เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมด ทั้ง 2 ห้องนี้จะมีความพิเศษที่แตกต่างกันทั้งเรื่องวิว และฟังก์ชั่นการใช้งาน
SALADAENG ONE ออกแบบมาดูเรียบหรูในสไตล์ Modern Contemporary ภายใต้ Concept Timeless Luxury ภายนอกอาคารออกแบบ facade ในลักษณะ Horizontal คล้ายกับหินอ่อนหนาบางวางเรียงซ้อนกัน โดยใช้ Aluminium Composite ลายหินอ่อนมาแทนหินจริง ที่ให้ความสวยงามแบบธรรมชาติแต่ดูแลรักษาง่ายกว่า และ Horizontal facade นี้ยังเป็นเมือนชายคาที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นชายคากันแดดกันฝน ทำให้หน้าตาภายนอกของ SALADAENG ONE ดูแพงในระดับคอนโดมิเนียม Super Luxury ที่ไม่เหมือนใคร ทาง SC Asset ลงรายละเอียด และให้ความสำคัญกับทุกจุด เพื่อที่จะให้โครงการออกมาสมบูณณ์แบบที่สุด ในฐานะที่เป็น THE ONE คอนโดมิเนียมในทำเลโซนนี้ สังเกตหินอ่อนบริเวณ Façade ด้านหน้า ทาง SC Asset ได้เลือกหินอ่อนสีขาว White Volakas มาเรียงกันโดยให้ลายของหินนั้นหันไปในทางเดียวทั้งหมด เอาหินอ่อนสีดำ Black Lauren มาตัดกับหินอ่อนสีขาวเพื่อไม่ให้อาคารดูจืดจนเกินไป
ที่เราเห็นแถบสีขาวการแบ่งชั้น ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจะเป็นวัสดุอลูมิเนียมคอมโพสิต ซึ่งทำเป็นลายหินอ่อน บวกกับกระจกหน้าต่างของโครงการที่ทำหักมุมเข้ามาสลับกัน จึงทำให้ตึกนั้นดูมีมิติ และดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ส่วนบริเวณชั้นล่าง และบริเวณลานจอดรถบนตัวตึกนั้น หินที่ใช้จะเป็นหินอ่อน เวลาขับรถเข้ามาภายในโครงการก็จะรู้สึกถึงความโอโถง และความเรียบหรูของตัวตึก สุดท้ายภาพรวมหน้าตาภายนอกของ SALADAENG ONE ออกมาสวยเรียบหรูตรง Concept
ตอนนี้อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ SALADAENG ONE มองเข้าไปด้านใน เวลานำรถเข้ามาจะต้องวนขวาตามทางที่เห็นนะครับ
เข้ามาภายในโครงการ SALADAENG ONE ส่วนแรกที่เจอด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง Semi Outdoor ไว้สำหรับนั่งเล่น และทำกิจกรรมอื่นๆ
ถัดเข้ามาคือจุด Drop Off ลักษณะเป็นวงเวียนโดยจะมีน้ำตกสุดเก๋อยู่บริเวณตรงกลาง
จากจุด Drop Off เข้าไปจะเป็นทางเข้า Lobby แค่มองเข้าไปตรงทางเข้าด้วยสายตาตอนนี้จะเห็นได้ว่าประตูทางเข้าหลักของ Lobby นั้นจะเป็นกระจกใสบานใหญ่ สามารถมองเข้าไปภายในได้อย่างชัดเจน
เข้ามาภายใน Lobby สิ่งแรกที่เห็นคือหินอ่อนที่นำมาปูทั้งพื้น และผนังทั้งหมด ทำให้รู้สึกเข้ามาแล้วมีความเย็นสบายอย่างบอกไม่ถูก ถึงพื้นที่บริเวณ Lobby จะไม่ใหญ่มากเหมือนที่อื่นๆ แต่กลับรู้สึกดีสบาย ซึ่งทุกอย่างอยู่ในจุดที่กำลังพอดี ด้านข้างคือพื้นที่สำหรับนั่งรอ โดยวางชุดโซฟาอยู่ประมาณ 3 ชุด บันไดที่เห็นนั้นจะเป็นทางขึ้นไปยังห้องนิติบุคคล และด้านในสุดคือ Mail Box Room
ความสูงของ Lobby จะอยู่ประมาณ 5 เมตร ส่วนการตกแต่งจะมีการตกแต่งโดยซ่อนไฟตามผนัง ผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน ดวงไฟแท่ง Prism ให้ความหรู เท่ ใน Lobby
สำหรับพื้นที่จอดรถ 102% นั้นจะอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 2 – 4 และใต้ดินอีก 3 ชั้น ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นที่ 5 แต่ความ พิเศษของ SALADAENG ONE ที่ไม่เหมือนใครนั้นคือ การวางผังภายในบริเวณตรงกลางอาคารเป็น Double Atrium โดยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 6 – 24 โดยจะแบ่ง Atrium ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือตั้งแต่ชั้นที่ 6 – 19 จะเป็น Double Atrium ซึ่งจะมีทั้งด้านหน้าของอาคาร และด้านหลังอาคาร แต่ชั้น 20 -24 ขึ้นไปจะเป็น Single Atrium ที่อยู่ด้านหลังอาคาร ส่วนชั้นที่ 25 – 33 จะไม่มี Atrium
การที่ออกแบบผังภายในอาคารโดยมี Atrium ข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัวสูงซึ่งเกือบทุกยูนิตจะเป็น Single loaded Corridor บรรยากาศดูแล้วไม่อึกอัดคับแคบ มีความโปร่งโล่ง
SC Asset เป็น Developer ที่ลงรายละเอียดและใส่ใจกับทุกอย่างเพื่อให้ได้ที่พักอาศัยออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ออกแบบประตูทางเข้าห้องพักมีส่วนเว้าเข้าไปทำให้เวลาเปิดปิดประตูจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และพื้นบริเวณประตูด้านหน้าห้องพักอาศัยจะมีการยกสเต็ปขึ้นมานิดหน่อยเพื่อเป็นการดักฝุ่นจากด้านนอกที่จะเข้าห้องพัก
ห้องแบบ 2 ห้องนอนที่กำลังจะไปชมกันนี้จะเป็นห้อง Promotion ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้นพร้อมเข้าอยู่ ในราคาที่ไม่ถึง 3 แสนต้นต่อตารางเมตร
ห้องจริงที่จะมาพามาชมจะเป็นห้องแบบ 2B ขนาด 113 ตร.ม. หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ วิวเมืองไปทางตึกมหานครเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน จัดฟังก์ชั่นแยกส่วนการใช้งานอย่างชัดเจน โดยเอาส่วนที่พักอาศัยห้องนอนทั้ง 2 ห้องไว้ในตำแหน่งด้านในสุด ส่วน Living และ Dining Area จะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้า ห้องนี้จะมีความพิเศษอีกอย่างคือห้องหน้าจะกว้างมาก ซึ่งปกติคอนโดทั่วไปจะไม่ออกแบบให้ห้องหน้ากว้างขนาดนี้
ห้องแบบ 2 ห้องนอน ยูนิตนี้จะมีความพิเศษกว่ายูนิตอื่นๆ เนื่อง SALADAENG ONE ได้ร่วมกับ Molteni&C เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หรูจากประเทศอิตาลีที่มีชื่อเสียงมายาวนานถึง 84 ปี ในแคมเปญ Saladaeng One X #HouseOfMolteni เฟอร์นิเจอร์ที่ เหล่าอาร์ตติส แฟชั่นดีไซน์ชื่อดังระดับโลก เลือกใช้ตกแต่งบ้านและคอนโด
ด้วยความเหมือนหลายๆอย่างระหว่าง SALADAENG ONE กับ Molteni&C ที่มี Concept เรียบหรูที่สะท้อนแนวคิด “ดีไซน์ ฟอร์ ไทม์เลส (Design for Timeless) การออกแบบเหนือกาลเวลาสร้างคุณค่าเหนือระดับ” มีจุดประสงค์เดียวกันที่จะถ่ายทอดชีวิตหรูแบบคนมีสไตล์ใน Concept #HouseOfMolteni
Molteni&C เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นที่ซ่อนกลิ่นอายของความเรียบหรู ซึ่งสไตล์การออกแบบของทาง Molteni&C จะเหมือนกับ SALADAENG ONE ตรงที่เป็นคอนโดหรูระดับ Super Luxury แต่ดีไซน์ต่างๆทั้งภายนอก และภายในโครงการจะมีความเรียบหรู ใช้โทนสีที่เรียบง่าย แต่ทุกอย่างที่ดีไซน์ออกมานั้นจะมีความหรูในความเรียบ การลงรายละเอียดตั้งแต่เล็กๆจนถึงใหญ่ ซึ่งตรงกับ Concept ของ Molteni&C ที่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ออกมาแต่ละชิ้นมีความเรียบแต่แฝงไปด้วยความหรูในรายละเอียดทุกจุด ดังนั้นจึงเหมาะกับการมาตกแต่งให้กับห้องพักที่นี่
SALADAENG ONE เป็นคอนโดหรูใจกลาง CBD กรุงเทพ กับ Molteni&C เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นที่ซ่อนกลิ่นอายของความเรียบหรู มารวมเข้าไว้ด้วยกันภายในห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้ เราไปชมรายละเอียดภายในห้องกันเลยครับ
ห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดจะขายไปพร้อมกับห้องนี้
เข้าภายในห้อง ตำแหน่งห้องนี้จะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ วิวเมือง และตึกมหานคร อย่างที่กล่าวมา Layout และฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับห้องนี้จะแยกส่วนระหว่างห้องนอน กับ ห้องนั่งเล่นและครัวออกจากกันไว้อย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น พอเข้ามาภายห้องส่วนแรกที่เจอคือ Dining Area ถัดเข้าไปคือพื้นที่ของ Living Area
โต๊ะรับประทานอาหารสามารถเลือกชุดที่สามารถนั่งได้ถึง 6 ท่าน ชุดโต๊ะรับประทานอาหารที่เห็นนี้จะเป็นการดีไซน์ในแบบ เฉพาะมีความเป็นโมเดิร์นแบบไม่เหมือนใคร
มุมนี้จะสามารถมองเห็นภาพรวมของ Living Area กับ Dining Area ได้อย่างชัดเจน ห้องแบบนี้จะดีตรงที่หน้ากว้าง สาจัดสรรพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด จึงทำให้ Layout ที่ออกมานั้นมีพื้นที่ใช้สอยที่เยอะขึ้น และใช้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
กระจก Full Height สูงถึง 3 เมตร ดังนั้นสามารถรับวิวภายนอกแบบไม่มีสิ่งสะดุดสายตา สร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องขนาดใหญ่ ซึ่งเป็น Uniqueness design ถ้ามองออกไปยังด้านนอกบริเวณระเบียงจะเห็นได้ว่าราวกันตกนั้น SALADAENG ONE ยังเลือกที่จะใช้กระจกใสนิรภัยเพื่อให้มองออกไปด้านนอกนั้นไม่มีอะไรมาบดบังสายตา ระเบียงราวกันตกด้านบนเป็นกระจกด้านล่างทำฐานได้มั่นคงตามมาตรฐานเพื่อที่จะรองรับน้ำหนักของแผ่นกระจก
วิวสาทรจากระเบียงของห้อง
มาถึงในส่วน Living Area เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นทั้งหมดนี้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ของ Molteni&C ซึ่งจะมีความเรียบหรูสไตล์โมเดิร์น เห็นแล้วรู้สึกถึงความแพงในแต่ชิ้น ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนครัวที่ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยส่วนครัวนั้นจะไม่มากินพื้นที่ในส่วน Living Area เว้าหายไปเลย ทำให้บริเวณ Living area นี้มีพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่
ชุดโซฟาที่ดีไซน์โดย Molteni&C ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานได้มากกว่าโซฟาทั่วไป โดยสามารถปรับพนักพิงได้ให้นั่งได้สบาย ตามความสูงของคนนั่ง
ผนังบริเวณชั้นวางทีวีตกแต่งด้วยหินอ่อนเพิ่มความหรูหราให้กับภายในห้องเป็นอย่างมาก
Pantry ครัว ที่เห็นนี้จะได้รับมอบจากทางโครงการทั้งหมด ชุดครัวจะเป็น Pantry ตัว U ท็อปครัว Composite Stone สีอ่อน หน้าบานสำหรับตู้ต่างๆ เลือกใช้เป็นไม้สีเข้ม Soft Close ตู้เก็บเครื่องซักผ้า อบผ้า และมีตู้เย็นฝังของยี่ห้อ SIEMENS ติดตั้งมาให้เรียบร้อย พื้นส่วนครัวงจะปูด้วยหินอ่อนสีขาว
นี่คือมุมที่ดีที่สุดภายในห้องก็ว่าได้ รับวิวผ่านกระจกใสบานใหญ่ ระเบียงที่เป็นกระจกใส ทำให้การรับวิวจากด้านนอกไม่มีอะไรมาบดบังสายตา ห้องนี้จะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียง วิวเมืองและสามารถเห็นตึกมหานครได้อย่างชัดเจน
ภาพที่เห็น วิวนี้ดูแพงมากครับ
โต๊ะกลางบริเวณ Living Area ดีไซน์จาก Molteni&C
นี่ก็เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์จาก Natuzzi Italia
โต๊ะข้างโซฟาดูดี สไตล์โมเดิร์นที่ซ่อนกลิ่นอายของความเรียบหรูจาก Natuzzi Italia
ส่วนต่อไปจะไปชมห้องนอนกันบ้าง ซึ่งจะแบ่งเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว Bedroom 2 และห้องน้ำที่แยกออกมาอีก 1 ห้อง
เริ่มซ้ายมือห้องแรกจะเป็นห้องนอนที่ 2
ตรงกลางคือ Master Bedroom
ขวามือคือห้องน้ำที่ 2
ห้องน้ำที่ 2 ห้องนี้จะเป็นห้องน้ำสำหรับผู้ที่พักอยู่ห้องนอนที่ 2 หรือแขกที่มาเยี่ยม ภายในห้องน้ำจะปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด โดนใช้หินสีอ่อนสีขาวตัดกับสีดำ ติดตั้งกระจกบานใหญ่ที่มีฟังก์ชั่นเป็นตู้เก็บของในตัว พร้อมซ่อนไฟเพิ่มความหรูหราเปรียบเสมือนได้มาพักในโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาว
Shower Box ติดตั้งเป็นกระจกใสมาให้เรียบร้อย
เคาน์เตอร์หินสีดำ ก๊อก Grohe และอ่างเป็นของ TOTO ภาพนี้จะเห็นความสวยงามของไฟ Indirect Light ที่ซ่อนไว้ใต้ตู้กระจก
สุขภัณฑ์เป็นแขวนผนัง (Wall Hung Toilet) ซึ่งจะง่ายต่อการดูแลรักษาทำความสะอาด
ออกมาจากห้องน้ำซ้ายมือคือห้องนอนที่ 2 ส่วนขวามือคือ Master Bedroom
เข้ามาชมภายในห้องนอนที่ 2 กันก่อนครับ สำหรับภายในห้องนอนที่ 2 นี้หน้าต่างที่ได้จะเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับวิวตึกมหานครตามภาพนี้เลยครับ
ภายในห้องนอนที่ 2 ยังจัดให้มี Bay window มุมพิเศษภายในห้องนอนที่สามารถไปนั่งบนขอบหน้าต่างมองวิวได้อย่างชัดเจน
Master Bedroom ซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้ง และขวามือจะเป็นส่วนของ Walking in Closet
ตู้เสื้อผ้า Built – in จะติดตั้งมาให้เรียบร้อยตามภายในภาพ เป็นตู้กระจก Built-In ที่สูงจากพื้นยันจรด
โต๊ะเครื่องแป้งที่ Built – in หลบเข้าไปด้านในทำให้ไม่กินพื้นที่ทางเดิน ส่วนด้านในคือตำแหน่งของเตียงนอน
ห้องน้ำ Master bedroom ปูพื้นด้วยหินอ่อนสีดำ ผนังเป็นหินอ่อนสีขาว เคาน์เตอร์เลือกใช้เป็นหินอ่อนสีดำตัดกับตู้ไม้ด้านล่าง กระจกบานใหญ่มีความยาวพอสมควร
เคาน์เตอร์สำหรับห้องน้ำ Master จะเป็นแบบ HIS and HER
สุขภัณฑ์ Toto Washlet แบบ Wall Hung
ทีเด็ดของห้องน้ำ Master คือจะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย บวกกับเป็น Sexy Bath สามารถแช่น้ำชมวิวด้านนอกโดยผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ติดตั้งมาให้
มุมนี้จะเห็นได้ว่าอ่างอาบน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่ น่าจะแช่ได้สบายๆ การลงรายละเอียดกับวิวที่ผู้พักอาศัยจะได้รับ มุมนี้มองจากภายในห้องน้ำออกไปผ่านตำแหน่งของเตียงทะลุไปด้านนอกได้อย่างชัดเจนไม่มีอะไรมาบังสายตาเลย นี่คือจุดเด่นของทาง SC Asset ที่ใส่ใจกับทุกๆรายละเอียด และสามารถตอบโจทย์กับผู้พักอาศัยได้อย่างแท้จริง
สำหรับวิวห้องนี้จะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดินออกมาระเบียงจะวิวนี้เลยครับ
ตำแหน่งของเตียงภายใน Master Bedroom จะถูกวางไว้ขนานกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ วิวที่ได้กับบรรยากาศ ตามที่เห็นภายในภาพนี้เลยครับ
ห้องถัดมาจะเป็นห้องมุมทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ Type 2D-1
ห้องแบบที่ 2 ยังคงเป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่จะอยู่ที่ 109.02 ตร.ม. ความสูงของห้อง Floor to Ceiling 3 เมตร บริเวณครัวจะ Drop ลงมาเหลือ 2.8 เมตร เปิดประตูเข้าภายในห้องพักส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ Foyer และตู้สำหรับเก็บรองเท้า ถัดเข้าไปด้านในคือ Living Area ตำแหน่งวางชุดโซฟาสำหรับนั่งเล่นดูทีวี
พอเดินเข้ามาด้านในจะรู้สึกถึงความกว้างของพื้นที่ Living Area ทั้งๆที่วางเฟอร์นิเจอร์ค่อยข้างที่จะเต็มพื้นที่ สิ่งที่ทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัดมาจากกระจกใหญ่เต็มบาน Full height สูง 3 เมตร เป็นกระจกที่ไม่มีเส้นกลาง สามารถรับวิวภายนอกโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง กระจกบานตรงกลางจะเป็นบาน Fix จะเข้า ออก ใช้บานข้างซึ้งสามารถเปิด ปิด ได้ทั้ง 2 ข้าง Living Area พื้นโซนนี้จะปูด้วย Engineer Wood หนา 14 mm
สามารถวางชุดโซฟาเป็นตัว L ได้ขนาดใหญ่ตามภาพนี้ พอวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางแล้ว พื้นที่บริเวณ Living Area ยังดูไม่อึดอัด แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินอยู่พอสมควร
มุมนี้จะมายืนอยู่อีกมุมของ Living Area มองย้อนกลับไปยังทางเข้า จะเห็นได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ใส่มาค่อนข้างจัดเต็มมาก แต่ห้องยังดูโล่งสบายตา ถือว่า Layout ทำออกมาได้เยี่ยมมาก การที่จัด Layout โดยแยกฟังก์ชั่นการใช้งานออกจากกันจะทำให้ห้องดูเรียบหรูเป็นระเบียบ สามารถใช้พื้นที่ในแต่ละส่วนได้อย่างคุ้มค่า โซนฝั่งที่เรายืนอยู่จะเป็นโซน Living and Dining Area ซึ่งสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ ไม่ไปรบกวนในส่วนของ Private Area ที่จะอยู่อีกข้างของห้องพัก
มาต่อกันที่โซน Pantry ครัวกันบ้าง Pantry ครัวนั้นจะเป็นตัว U Built – in ชั้นเก็บของความสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดาน รวมถึงตู้เย็นฝังของยี่ห้อ SIEMENS ซึ่งหน้าบานของชุดครัวเป็นไม้วีเนียร์ แบบ Soft Close ทั้งหมด
ซิ้งล้างจานของ Teka ส่วนก๊อกน้ำร้อนน้ำเย็นเป็นของ Grohe
เตาอบเป็นของ Siemens เช่นกัน
ภาพที่เห็นนี้จะเป็นมุมมองจากบริเวณ Pantry ครัวมองออกไปด้านนอก ห้องนี้จะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ วิวที่เห็นนั้นคือบางกะเจ้า ถ้าชั้นสูงกว่านี้จะสามารถมองเห็นโค้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
กระจกสูง 3 เมตร ที่ SC Asset ติดตั้งมาให้นั้นคือทำให้ห้องดูดีมาก ทำให้ห้องดูมีอะไรที่ไม่ธรรมดา ทำให้ห้องดูโปร่งสบาย ทำให้คนพักอาศัยมีชีวิตที่ดีในแต่ละวันกับการได้พักอาศัยที่นี่
Private Area คือส่วนต่อไปที่จะไปชมกัน Master Bedroom และ Bedroom 2 ช่องทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้องนั้นจะอยู่ถัดเข้าไปจาก Living Area
เรามาแวะชมห้องน้ำที่ 2 กันก่อน พื้น ผนัง เป็นหินอ่อนทั้งหมด อุปกรณ์ต่างๆจะเหมือนกับห้องก่อนหน้า
ห้องนอนที่ 2 สำหรับยูนิตนี้จะสามารถเห็นวิวสวนลุมพินีได้ด้วย บางคนอาจจะมองข้ามตำแหน่งของยูนิตนี้ไป ว่ายังสามารถเห็นวิวสวนลุมได้ และไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพ
ส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งยูนิตทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะขายดีที่สุดเพราะได้วิวสวนลุมพินี ทุกคนก็ต่างพากันไปแย่งชิงเพื่อที่จะได้ยูนิตตำแหน่งที่เห็นสวนลุมพินีมาครอบครองถึงราคาต่อตารางเมตรจะสูงถึง 3 แสนกลางๆ บาทต่อตารางเมตรก็ตาม แต่กลับมองข้ามยูนิตตำแหน่งอื่นๆ ที่มีวิวไม่แพ้ตำแหน่ง HOT เลย แถมราคาต่อตารางเมตรอาจจะไม่ถึง 3 แสนบาทด้วยซ้ำ
เข้ามาภายในห้องน้ำ Master bedroom ห้องนี้จะติดตั้งอ่างอาบน้ำไว้ให้ด้านในสุดของห้องเพื่อที่จะสามารถแช่น้ำและชมวิวด้านนอกไปพร้อมกัน
Shower Box จะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถชมวิวได้เช่นเพราะจะอยู่ติดกับอ่างอาบน้ำ หินอ่อนที่ปูภายในห้องนี้สวยมาก ดูแพงมาก อาบน้ำไปชมวิวด้านนอกไป
Master bedroom จะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ วิวที่ได้จะไปทางบางกะเจ้า
และยังสามารถนอนชมสวนสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลาง CBD กรุงเทพได้อีกด้วย
Facilities จะถูกยกขึ้นมาไว้บนชั้นที่ 30
พอเดินออกมาจากลิฟท์จะเจอส่วน Semi outdoor เดินขึ้นบันไดไปชมสระว่ายน้ำกัน
สระว่ายน้ำจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของอาคาร มีความยาวถึง 25 เมตร (ระบบเกลือ)
มุมมองเวลาว่ายน้ำและวิวได้ คือดีมาก และมีต้นไม้ตกแต่งเพิ่มความเขียวร่มรื่นให้มากขึ้น
บริเวณริมสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สำหรับ Pool Bed
ส่วนต่อมาคือห้องฟิตเนส ห้องฟิตเนสจะอยู่ในตำแหน่งด้านข้างของอาคารซึ่งจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (วิวสวนลุม) ภายในห้องฟิตเนสจะเตรียมเครื่อง และอุปกรณ์ไว้อย่างครบครัน
ห้องฟิตเนสนี้จะหันไปทางสวนลุมพินีเช่นกัน สามารถปั่นจักรยานชมวิวสวนไป
นี่คือวิวที่ได้ในขณะปั่นจักรยาน
เราขึ้นไปชั้นบนกันต่อ
ส่วนกลางบนชั้นที่ 31 นี้จะมีห้องประชุม 2 ห้อง และ Sky Lounge
เข้ามาภายในห้องประชุม สำหรับห้องประชุมนี้สามารถกั้นให้เป็น 2 ห้องก็ได้ และสามารถเปิดบานกั้นเพื่อจะได้ห้องประชุมที่ใหญ่ขึ้น กระจกในห้องประชุมก็จัดเป็นบานเต็มเช่นกันครับ
ประชุมไปพร้อมกับวิวบางกะเจ้า
วิวที่ได้จากห้องประชุม
ต่อมา Sky Lounge
ภายใน Sky Lounge จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือจะดูทีวี
นี่คืออีกมุมที่อยู่ภายใน Sky Lounge
มีชุดโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่อีกมุมของห้อง
Island ตั้งอยู่กลางห้อง
มีบาร์เล็กๆไว้สำหรับชงเครื่องดื่ม
นั่งเล่นโทรศัพท์และชมวิวไปด้วย
SALADAENG ONE
สรุป by Homezoomer
SALADAENG ONE เป็นคอนโด Super Luxury วิวสวนลุมพินีที่ตั้งอยู่ใจกลาง CBD กรุงเทพฯ Central Lumpini สาทร วิทยุ เรียกว่าเป็นทำเล Rare item เลยก็ว่า ในปัจจุบันคงจะเป็นเรื่องที่ยากในการหาที่ดินแปลงสวยๆ ในบริเวณโซนนี้ที่จะเป็น Free Hold ใกล้แหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย การเดินทางก็สะดวกง่ายดาย ตัวโครงการห่างจากถนนพระราม4 เพียง 80 เมตร สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 3 เส้นหลักๆ ถนนสาทรเหนือ ถนนสีสม และถนนพระราม 4 นอกเหนือจากนั้นยังใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลุมพินี และ สีลม เพียงประมาณ 400 เมตร ในเรื่องทำเลถือได้ว่าอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพที่สูงมากในกรุงเทพฯ
SALADAENG ONE ออกแบบมาให้ดูเรียบหรูในสไตล์ Modern Contemporary ภายใต้ Concept ที่ว่า “Timeless Luxury” Façade ออกแบบมาโดยใช้หินอ่อนมาตกแต่งหน้าตาภายนอกในลักษณะ Horizontal Design ทำให้เกิดความเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร บนความเรียบหรูที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ ส่วนการออกแบบ ภายในอาคารนั้น จะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวกับผู้พักอาศัย บริเวณกลางอาคารออกแบบให้เป็น Double Atrium และ ทางเดินคล้ายรูปตัว S ตั้งแต่ชั้น 6-24 ที่จะต้องเดินเชื่อมระหว่าง Atrium เพื่อเข้าห้องตัวเอง จึงทำให้เป็น Single Loaded Corridor ที่มีมิติ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะอยู่บนชั้นที่ 30-31 เป็น Sky Facilities ที่สามารถรับวิวทั่วกรุงเทพได้
ห้องพิเศษขายแบบ Fully Furnished ที่ตกแต่งโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูจากประเทศอิตาลี Molteni&C ในแคมเปญ Saladaeng One X #HouseOfMolteni 2 ห้องนอน ขนาด 113 ตารางเมตร วิวสาทร และตึกมหานคร บางคนอาจจะคิดว่า SALADAENG ONE เป็นคอนโดที่มีราคาต่อตารางสูงถึง 3 แสนกว่าๆต่อตารางเมตร ซึ่งจริงๆแล้วยังมียูนิตอื่นๆ ที่ราคาไม่ถึง 3 แสนต่อตารางเมตรเหลืออยู่ ยูนิตที่ว่าคืออาจจะได้วิวอื่นที่ไม่ใช่วิวสวนลุมพินี แต่ถ้าเอาภาพรวมของโครงการทั้งหมดเช่นเรื่องทำเล ดีไซต์การออกแบบ วัสดุที่นำมาใช้ และผู้พัฒนาโครงการอย่าง SC Asset มาเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าคุ้มมากกับสิ่งที่ได้รับจากทางโครงการในราคาที่ไม่ถึง 3 แสนบาทต่อตารางเมตร บนทำเลใจกลาง CBD กรุงเทพฯ !!! หาไม่ได้แล้ว
ซึ่งห้องพิเศษ แคมเปญ Saladaeng One X #HouseOfMolteni นี้ถือว่าเป็นยูนิตที่ทาง SC Asset ตั้งแต่ทำเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงดีไซต์ของ Molteni&C ที่เข้ากับ SALADAENG ONE ได้ลงตัวที่สุด ในราคาที่สามารถจับต้องได้
Live the Legacy this 6-7 October with Saladaeng One X #HouseOfMolteni
Spacious 2 bedroom fully furnished with imported Italian craftsmanship of 84 years heritage by Molteni&C SALADAENG ONE 2 bedroom starts at 36.5 MB.
Fully furnished by Molteni&C valued at 2.5 MB.
Live the Legacy register at www.saladaengone.com or call 1749
Tag
เนื้อหาที่น่าสนใจ
คอนโดมิเนียม
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า Airport Link
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT
- คอนโดอารียา (AREEYA PROPERTY)
- คอนโด ลุมพินี LPN
- คอนโดคิวเฮ้าส์ Q.HOUSE
- คอนโดเจ้าพระยามหานคร CMC
- คอนโดอนันดา (ANANDA)
- คอนโดเอพี (AP)
- คอนโดนารายณ์ NARAI PROPERTY
- คอนโดพฤกษา PRUKSA
- คอนโดลลิล LALIN PROPERTY
- คอนโดศุภาลัย SUPALAI
- คอนโดเมเจอร์ MAJOR DEVELOPMENT
- คอนโดเสนา SENA
- คอนโดเอสซี แอสเสท SC ASSET
- คอนโดแกรนด์ ยู GRAND U
- คอนโดปริญสิริ PRINSIRI
- คอนโดแลนด์แอนด์เฮ้าส์ LAND&HOUSES
- คอนโดแสนสิริ SANSIRI
- คอนโดโนเบิล NOBLE DEVELOPMENT
- คอนโดไรมอน แลนด์ RAIMON LAND
คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า
-
คอนโด ใกล้ BTS อโศก
-
คอนโด ใกล้ BTS ทองหล่อ
-
คอนโด ใกล้ BTS เอกมัย
-
คอนโด ใกล้ BTS พระโขนง
-
คอนโด ใกล้ BTS อ่อนนุช
-
คอนโด ใกล้ BTS อุดมสุข
-
คอนโด ใกล้ BTS บางนา
-
คอนโด ใกล้ BTS พญาไท
-
คอนโด ใกล้ BTS อารีย์
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานควาย
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานตากสิน
-
คอนโด ใกล้ BTS กรุงธนบุรี
-
คอนโด ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่
-
คอนโด ใกล้ BTS บางหว้า
Contact Us
ติดต่อโฆษณาได้ที่
โทร. 02–663–8697
หรือ 092–369–3622
Line : Homezoomer
Facebook : Homezoomer
E-mail : contact@homezoomer.com