ค้นหารีวิวและสาระน่ารู้ เรื่องบ้านมากมายได้ที่นี่!
รีวิวบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ทำเล โครงการพรีวิว ข่าวอสังหาฯ และสาระน่ารู้กว่า 2,000 รายการ
รีวิว คอนโด THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE สวยและสูงที่สุด ย่านรามคำแหง-มีนบุรี เริ่ม 1.29 ล้านบาท
คอนโดทำเล NEW EBD "Extension District" ที่สูงและสวยที่สุดในย่านรามคำแหง-มีนบุรี เริ่มต้นเพียงประมาณ 1.29 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งสายสีส้ม และสายสีชมพู
1 Bedroom 25 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 30 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 34 ตร.ม.
-DOUBLE VOLUME LOBBY
-MEETING ROOM
-MAIL ROOM + SMART LOCKER
-LAUNDRY ROOM
-SHARING SERVICE
-CO-WORKING SPACE
27th FL. FACILITIES
-CO-KITCHEN
-PRIVATE DINING ROOM
-CO-PASSION ROOM
-GAME ROOM
-MULTI FUNCTION STUDIO
-SKY LOUNGE
-FITNESS
-SWIMMING POOL
ROOFTOP
-ROOFTOP GARDEN
ROOFTOP PARKING BUILDING
-SKY GARDEN
-STREET BASKETBALL
-JOGGING TRACK
-VIEW POINT
เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ
พิกัดที่ตั้งโครงการ
MRT สายสีชมพู มีนบุรี
ทำเลและการเดินทาง
โครงการตั้งอยู่มนทำเล “NEW EBD’’ Extension Business District ทำเลส่วนต่อขยายจุดตัดรถไฟฟ้าในอนาคตที่มีศักยภาพการเติบโต เชื่อมต่อความเจริญจากพื้นที่ใจกลางเมืองออกไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างถนนหรือรถไฟฟ้า
สำหรับโครงการใหม่ THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE (ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์) ทำเลจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู เป็นโครงการเบิกฤกษ์ โครงการแรกจากแบรนด์น้องใหม่ The Origin 6 โครงการ 6 ทำเล ที่ใช้ ”กลยุทธ์ทะเลสีคราม‘’ ลงมาจับตลาดกลุ่ม First jobber เน้น Local Demand เป็นหลัก ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยอย่าฃแท้จริง ซึ่ง Origin เคยประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์เดียวกันนี้มาแล้วจากทำเล “เทพารักษ์” อินเตอร์เชนจ์สายสีเขียว และสายสีเหลือง
มาครั้งนี้กับกลยุทธ์เดิมที่ Origin เลือกใช้กับจุดตัดใหม่ อย่างสายสีส้มและสีชมพู กับโครงการ THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE จะเป็นคอนโดสูงโครงการแรกที่ตั้งอยู่ใจกลางมีนบุรี โดยที่ตั้งโครงการจะติดถนนใหญ่รามคำแหง ใกล้ซอยรามคำแหง 209 และในอนาคตโครงการยังติดรถไฟฟ้าสถานีมีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) ที่จุดนี้ยังเป็นจุด Interchange ระหว่าง รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก และสายสีชมพู (ศูนย์ราชการนนทบุรี-มีนบุรี)
รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก จะมีสถานีทั้งหมด 17 สถานี โดยแบ่งเป็นใต้ดิน 10 สถานี ลอยฟ้า 7 สถานี และ 3 จุด Interchange
1.สถานีศูนย์วัฒนธรรม Interchange กับ MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
2.สถานีลำสาลี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีลำสาลี
3.สถานีมีนบุรี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สถานีมีนบุรี
รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จะมีสถานีทั้งหมด 12 สถานีใต้ดิน และ 5 จุด Interchange
รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ (หน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี) ไปสิ้นสุดที่ทางแยกร่มเกล้า บริเวณซอยรามคำแหง 192 รวมระยะทาง 34.5 กิโลเมตร มีด้วยกันทั้งหมด 30 สถานี Interchange 4 สถานี
นอกจากรถไฟฟ้าแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์ก็ถือว่าสะดวก และรวดเร็วต่อการเดินทาง The Origin Ram 209 Interchange จะเป็นถนนที่ค่อนข้างกว้างมีหลายเลน แถมยังใกล้กับ ถนนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) เส้นบางนา – บางปะอิน ระยะห่างประมาณ 6.5 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเชื่อมไปยัง Motorway กรุงเทพ–ชลบุรี หรือ ถนนบางนาตราด และไปยังปทุมธานี (บางปะอิน) ได้อย่างสะดวก ในส่วนคนที่เดินทางออกนอกประเทศบ่อย ๆ จากโครงการไปถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทางเพียงประมาณ 14 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทางเข้า-ออกเมือง ด้วยถนนเส้นหลัก จะมีอยู่ 3 เส้น คือ ถนนรามอินทรา,ถนนลาดพร้าว-เสรีไทย และถนนรามคำแหง ที่เชื่อมต่อไปยังเมืองชั้นใจกลางทั้งหมด หรือใช้ถนนร่มเกล้าเพื่อเชื่อมไปยังถนนลาดกระบัง,ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ – ชลบุรี (สามารถเข้าเมืองได้ด้วยทางด่วนพิเศษศรีรัช)
ถ้ามองย้อนไปในอดีต “มีนบุรี” เป็นย่านที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่สีเขียวเกษตรกรรม โดยมีคลอง และลำน้ำไหลผ่านหลายสาย จนมาถึงปัจจุบันย่านมีนบุรีมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นจากอดีตกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ เป็นทำเลที่ใกล้กับ แหล่งงานอุตสาหกรรมใหญ่ มากมาย
สถานศึกษา มีสถานศึกษาทั้งของรัฐ เอกชน รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียง เช่น โรงเรียนบดินเดชา สิงหเสนี, โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ, โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา,โรงเรียนเทพอักษร,โรงเรียนสารสาสน์วิเทศมีนบุรี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, รวมถึงโรงเรียนนานาชาติอย่าง Interkids Billingual School ซึงถือเป็นทำเลที่อัดแน่นไปด้วยสถานศึกษาคุณภาพ
แหล่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงห้างสรรพสินค้า เช่น BigC , Tesco Lotus, ไทวัสดุ, Mego Home, Uniquo มีนบุรี, Promenade, Fashion Island, Amorini รามอินทรา, Makro, Golden Place, Sammakorn Place,Pasco,Homepro และอื่นๆ
ใกล้โรงพยาบาล ทั้งของรัฐ และเอกชน เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์,โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ รามคำแหง,โรงพยาบาลเสรีรักษ์ และโรงพยาบาลนวมินทร์ 9
ด้วยความเป็นคอนโดสูงที่แรกของโซนนี้ บวกกับภายในโครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้มากถึง 19 อย่าง ในราคาที่เป็นเจ้าของได้อย่างสบาย ๆ เริ่มต้นเพียงประมาณ 1.29 ล้านบาท เลยทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจกับคนในพื้นที่ และรอบ ๆ ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ที่มีความสะดวกแบบครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในประจำวันให้ดี และมีความหมายขึ้น โดย The Origin Ram 209 Interchange เป็น 1 ใน 6 ทำเลคอนโดน้องใหม่ ที่จะเน้นไปยังกลุ่ม Local demand ที่อยู่ในพื้นที่มีนบุรีส่วนใหญ่จะเป็น Real demand จริง ๆ
การเดินทางไปยังโครงการ The Origin Ram 209 Interchange
เริ่มต้นการเดินทางที่ถนนพระราม 9 มุ่งหน้าไปยังถนนศรีนครินทร์ (บางกะปิ)
เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางลัดไปถนนศรีนครินทร์ (ซ.ถาวรถวัล)
หลังจากให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกเส้นทางบางกะปิ จะเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์
ขับตรงมาเรื่อยๆบนถนนศรีนครินทร์ เมื่อใกล้ถึงแยกกรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก เตรียมตัวชิดซ้ายเพื่อจะเตรียมตัวขึ้นสะพานกลับรถ
ไปตามเส้นทางตามป้ายกรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า
ขับตรงไปบนถนนกรุงเทพกรีฑา หลังจากนั้นให้เข้าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และเลี้ยวเข้าถนนคู่ขนานกาญจนภิเษก เพื่อมุ่งหน้าไปมีนบุรี
ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกคลองเจ็กจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรามคำแหงตามป้ายมีนบุรี
หลังจากเลี้ยวซ้ายแล้ว การเดินทางบนถนนรามคำแหงจะเริ่มต้นที่ซอยรามคำแหง 151 ซึ่งโครงการจะอยู่ใกล้ซอยรามคำแหง 209 ดังนั้นให้เราขับตรงไปเรื่อย ๆ
จุดสังเกต คือ ห้างเทสโก้โลตัส สาขาสุขาภิบาล 3 และบิ๊กซี สาขาสุขาภิบาล 3 ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งจะอยู่ประมาณซอยรามคำแหง 203-205 ให้เราเตรียมตัวขึ้นสะพาน
เมื่อลงจากสะพานแล้วให้เตรียมตัวชิดซ้ายทันที Sales gallery จะอยู่ทางซ้ายมือ
ผังโครงการ
1st Floor Plan
โครงการ THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 4 – 0 – 87 ไร่ ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนรามคำแหง ซึ่งจะหันไปทางทิศใต้ โดยเข้ามาภายในโครงการด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่ของร้านค้าพาณิชย์ต่าง ๆ ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นจุด Drop off สำหรับรับส่งผู้ที่พักอาศัย ซึ่งจะเชื่อมต่อเข้าไปยังส่วนของ Lobby ด้านในอาคาร พื้นที่ต้อนรับ และที่นั่งพักผ่อน ความสูงของ Lobby เป็นแบบ Double volume และพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ ที่อยู่บนชั้นที่ 1 ถัดเข้าไปจะมี Meeting room, Co-working space, Mail room (Smart locker ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือแจ้งเตือนรับพัสดุ) และ Laundry room,
ที่โถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์โดยสาร 1 ตัว สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังอาคารจอดรถ 8 ชั้นที่อยู่ด้านหลัง โดยมีพื้นที่จอดรถ คิดเป็น 33% (รวมซ้อนคัน) โดยที่อาคารจอดรถจะเชื่อมกับอาคารพักอาศัยโดยมีทางเดินผ่านพื้นที่สวนสีเขียวก่อน ช่วยให้เวลาเดินไปอาคารจอดรถไม่ร้อนจนเกินไป
Rooftop Parking
อาคารจอดรถมีทั้งหมด 8 ชั้น ซึ่งชั้น Rooftop มีลิฟต์จำนวนทั้งหมด 2 ตัวสำหรับขึ้นไปชั้นบนอาคารจอดรถ ที่อยู่บนสุดนั้นจะเป็นพื้นที่ของสวนส่วนกลางสาธารณะ ซึ่งประกอบไปด้วย Street basketball, Jogging track, Sky garden และ View point รับวิวเมือง และส่วนบริเวณด้านหลังสุดของโครงการจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อน
2nd–25th Floor Plan: ในส่วนของห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 โดยจำนวนยูนิตที่มีจะเฉลี่ยอยู่ที่ 38 ยูนิตต่อชั้น จะแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน แยกเป็นฝั่งซ้ายด้านหลังของอาคาร ทางทิศเหนือฝั่งขวาทางด้านหน้าอาคารที่หันไปทางทิศใต้ โดยมีโถงลิฟต์ อยู่บริเวณตรงกลางระหว่าง 2 ฝั่ง
อาคารทิศเหนือ (ด้านหลัง) : ต่อชั้นจะมีจำนวนทั้งสิ้น 21 ยูนิต จะมีห้องแบบ Studio ขนาด 22.00 ตร.ม. (สีแดงเข้ม) จำนวน 9 ยูนิต หันไปทางทิศตะวันออก และตะวันตก และ ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. (สีชมพูอ่อน) จำนวน 12 ยูนิต โดยตำแหน่งของห้องแบบ 1 Bedroom Plus ที่มีขนาด 30.00 ตร.ม. จะเป็นตำแหน่งห้องมุมทั้งหมดทั้งทางทิศเหนือ ใต้ และตำแหน่งช่วงกลางอาคารที่หันไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
อาคารทิศใต้ (ด้านหน้า) : จะมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 17 ยูนิตต่อชั้น โดยจะมีห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.00 ตร.ม. (สีชมพู) จำนวน 16 ยูนิต หันไปทิศตะวันออก และตะวันตก และห้องแบบ 1 Bedroom Plusขนาด 34.00 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะหันไปทางทิศใต้ และตะวันออก จะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต จะอยู่ในตำแหน่งหัวมุมเหมือนกันทุกชั้น
26th Floor Plan , 28yh – 31th Floor Plan : จำนวนห้องพักอาศัย จะลดลงเหลือเฉลี่ยชั้นละ 19 ยูนิต เพราะด้วยกฏหมายของอาคารที่ต้องทำแบบของอาคารลดหลั่นลงเมื่อถึงระยะตามกฏหมาย โดยยังแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนแยกอาคารทิศเหนือ และใต้
อาคารทิศเหนือ: จะลดลงเหลือเพียง 2 ยูนิต จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 30.00 ตร.ม. ทำให้ทั้ง 2 ยูนิตนี้เป็นยูนิตที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากแยกออกไปเพียงแค่ 2 ยูนิต โดยรอบด้านไม่ติดกับใคร ทำให้เป็นยูนิตที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
อาคารทิศใต้ : จำนวนยูนิตยังเหมือนเดิมเท่ากับชั้น 2-25 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 17 ยูนิต ต่อชั้น โดยในส่วนของห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00 ตร.ม. ห้องที่จะหันไปทางทิศใต้ และตะวันออกตำแหน่งเป็นห้องมุม ที่มีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต และห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.00 ตร.ม. (สีชมพูเข้ม) จำนวน 16 ยูนิต ซึ่งห้องแบบนี้จะหันไปทางทิศตะวันออก และตะวันตกมุมเหมือนกันทุกชั้น
27th Floor Plan : เป็นชั้นของ Facility ส่วนกลางที่มีทั้ง Indoor อย่างเช่น Fitness , Co-passion room,Private dining room , Co-kitchen, Multi function studio และ Game room ในส่วนของ Outdoor จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และโซนนั่งพักผ่อนอย่าง Sun bed
27M Floor Plan : จะเป็นชั้นในส่วนของพื้นที่ Sky lounge สำหรับนั่งพักผ่อนรับชมวิว
ROOFTOP 31st Floor Plan จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อน และรับวิวเมือง
ห้อง Type B1-01 แบบ Studio ขนาดพื้นที่ 22 ตร.ม.
เมื่อเข้าไปในห้อง ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวที่ทางโครงการ Built-in มาให้เรียบร้อย และห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำ พื้นที่ครัวแบบปิดด้วยฉากกั้นประตูบานเลื่อนจะช่วยป้องกันกลิ่นอาหาร Living area เชื่อมต่อกับห้องนอนโดยตรง Built-in ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า และฐานเตียงคิงส์ไซส์ เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง สำหรับห้องขนาดเริ่มต้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว ชอบความสงบ หรือพักอาศัยอยู่ชั่วคราวใกล้ที่ทำงาน
ห้อง Type B2-02 แบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 25 ตร.ม.
เปิดประตูเข้าไปในห้องจะพบกับ Living area ที่มีพื้นที่กว้าง สำหรับทำกิจกรรม Activityต่าง ๆ ทางโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีไว้ให้ สามารถจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ พร้อมชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี ในส่วนของห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นประตูบานเลื่อน ทางโครงการ Built-in ฐานเตียงขนาด 6 ฟุต และตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำแยกส่วนแห้งเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำพร้อมฝักบัว Hand shower ห้องครัวปิดฉากกั้นประตูบานเลื่อนป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี พื้นที่ว่างระหว่างห้องน้ำ และห้องครัวสามารถ Built-in ตู้ชั้นวางของ หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
ห้อง Type BP1-01 แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 30 ตร.ม.
ภายในห้องจะพบกับ Living area ที่มีพื้นที่ใช้งานที่กว้าง ทางโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีไว้ให้ สามารถจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี เชื่อมต่อกับ Dining area ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง เหมาะที่จะรับประทานอาหาร และดูทีวีไปพร้อม ๆ กัน ห้องนอนกั้นฉากด้วยประตูบานเลื่อน ทางโครงการ Built-in ฐานเตียงนอนเตรียมไว้ให้ และ Built-in ตู้เสื้อผ้า เรียบร้อย ในส่วนของห้องเอนกประสงค์กั้นฉากด้วยประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ห้องเอนกประสงค์นี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือได้ตามการใช้งาน ส่วนพื้นที่ครัว Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานไว้ให้ ห้องน้ำมีส่วนใข้งานทั้งส่วนแห้ง และเปียก
ห้อง Type BP2-01 แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 34 ตร.ม.
ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของโครงการ จะอยู่ตำแหน่งหัวมุมของทุกชั้น ชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเริ่มต้น ภายในห้องจะเป็น Living area เชื่อมต่อกับ Dining area สามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2-4 ที่นั่งได้ ในส่วนของห้องนอนกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนเป็นสัดส่วน Built-in ฐานเตียง และตู้เสื้อผ้าไว้ให้ ห้องนอนเล็กที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์ได้เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ในส่วนของห้องครัว Built-in เคาน์เตอร์ครัวไว้ให้สามารถต่อเติมทำเป็นครัวปิดกั้นฉากด้วยประตูบานเลื่อนจะช่วยป้องกันกลิ่นอาหารในภายหลังได้ เชื่อมต่อกับห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก
Zoom โชว์รูม
สำหรับที่ Sales gallery จะมีห้องตัวอย่างพร้อมเข้าชมด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ Studio ขนาด 22.00 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 25.00 ,และ 1 Bedroom Plus ขนาด 30.00 ตร.ม. ห้องที่ได้รับมอบ เฟอร์นิเจอร์จะเป็นแบบ Full Fitted (Built-in ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ ฐานเตียง 5 ฟุต,ตู้เสื้อผ้า และชั้นวาง TV)
ห้องตัวอย่างแรกที่จะพามาชมจะเป็นห้องแบบ Studio พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 22.00 ตร.ม. ความสูงภายในห้อง Floor to ceiling 2.60 เมตร
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง จะพบกับเคาน์เตอร์ครัวทางซ้ายมือ และห้องน้ำทางขวามือ ส่วนครัวกับส่วนที่พักอาศัยจะกั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกสีเขียวตัดแสงแบบบานเลื่อน กลายเป็นครัวปิดที่ช่วยป้องกันกลิ่นอาหาร และจากห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built-in ให้จะประกอบไปด้วยตู้บน และตู้ล่าง และเว้นพื้นที่สำหรับตำแหน่งของตู้เย็นไว้ให้เรียบร้อย
ชุดครัวที่ได้จะติดตั้งเตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน จากแบรนด์ TEKA
ตู้บนของชุดครัวจะเป็นมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ส่วนตู้ล่างจะเป็นตำแหน่งเครื่องซักผ้า
เข้ามาภายในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่โครงการนี้เลือกใช้มีแบรนด์ COTTO และอุปกรณ์จากแบรนด์ HAFELE
อ่างล่างหน้า และโถสุขภัณฑ์ได้รูปทรงตามนี้ และมีระยะใช้งานที่กำลังดี
แยกสัดส่วนระหว่างส่วนแห้งกับส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกใส
Shower Box แบบกระจก ติดตั้งฝักบัว Hand shower มาให้ตามภาพ
ถัดเข้ามาด้านในของห้อง ห้องแบบ Studio ฟังก์ชั่นของห้อง พื้นที่ Living area กับตำแหน่งของเตียงอยู่รวมกัน แต่ข้อดีของห้องนี้คือทางโครงการเค้ากั้นสัดส่วนครัวมาให้เรียบร้อย เลยทำให้ห้องแบบนี้มีฟังก์ชั่นการใช้งานดีกว่า Studio อื่น ๆ ทั่วไป
มองย้อนกลับไปทางเข้าจะเห็นพื้นที่ฝั่งปลายเตียง สามารถจัดเป็นมุมทีวี โดยทางโครงการจะ Built-in ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้าตามแบบห้องตัวอย่างไว้ให้เรียบร้อย
ทางโครงการจัดเตรียมฐานวางเตียงสำหรับขนาดคิงส์ไซส์ไว้ให้เรียบร้อย และพื้นที่ด้านข้างของเตียงสามารถนำชุดโซฟาขนาด 2 คน และโต๊ะกลางมาวางไว้ได้พอดี
พื้นที่ด้านในสุดบริเวณหน้าต่าง สามารถ Built-in เป็นโซฟา Day bed จัดเป็นมุมนั่งพักผ่อน หรือมุมอ่านหนังสือได้
พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนต และระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดระบายอากาศ และรับแสงจากธรรมชาติ และเป็นพื้นที่สำหรับตากผ้าต่าง ๆ
ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นห้อง แบบ 1 Bedroom ขนาด 25.00 ตร.ม. ความสูงภายในห้อง Floor to ceiling 2.60 เมตร
ภายในห้อง สวนแรกจะเป็นพื้นที่ Living area โดยภายในห้องที่ได้นั้น ทางโครงการจะ Built-in ชั้นวางทีวีให้ พื้นที่ Dining area สามารถที่จัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี
พื้นที่ Living Area สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่ได้พอดีกับพื้นที่
มาถึงในส่วนของห้องนอน ทางโครงการจะ Built-in ฐานเตียงขนาดคิงส์ไซส์ตรงตำแหน่งขนานกับหน้าต่าง และตู้เสื้อผ้าที่ Built-in เชื่อมต่อมาจากเตียงให้
ห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนมาให้ตามภาพนี้เลย
สำหรับห้องแบบนี้เค้าจะแยกส่วนที่พักอาศัย (Living Area กับ Bedroom) กับส่วนใช้งาน (ครัวและห้องน้ำ) ออกจากกันโดยแบ่งออกไปด้านข้าง เพื่อแยกส่วนไม่ให้เรื่องกลิ่นต่าง ๆ มารบกวนภายในห้องนอน โดยพื้นที่ว่างบริเวณตรงกลาง ระหว่างห้องน้ำ (ซ้าย) กับห้องครัว (ขวา) สามารถ Built-in เป็นวางของ โต๊ะเครื่องแป้ง มุมแต่งตัวได้
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกใส
ฝักบัวแบบ Hand shower
ห้องครัวปิด โดยมีฉากกั้นเป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อน เพื่อช่วยป้องกันเรื่องกลิ่นอาหาร และกลิ่นต่าง ๆ ที่อาจมาจากห้องน้ำ
พื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียง โดยกั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศ
มุมภายในครัวมองย้อนไปยังห้องน้ำ
เคาน์เตอร์ครัว ทางโครงการ Built-in มาให้พร้อมติดตั้ง เตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน
ประตูกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน
พื้นที่ตรงระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้พอดี
ห้องตัวอย่างสุดท้าย จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 30.00 ตร.ม. ความสูงภายในห้อง Floor to ceiling 2.60 เมตร เฉพาะห้องแบบ 1 Bedroom Plus แบบนี้ ภายในจะติดตั้งกระจกแบบ Smart mirror ใช้งานในแบบทัชสกรีน และยังสามารถเชื่อมต่อ Internet โดยผ่าน Wi-Fi ได้ ซึ่งห้องแบบอื่นจะไม่ติดตั้งมาให้
เข้ามาส่วนแรกภายในห้อง จะเป็นส่วนของ Living area เหมือนกับห้องตัวอย่างก่อน ๆ ที่ทางโครงการจะ Built-in ชั้นวางทีวี และตู้วางรองเท้ามาให้เรียบร้อย ซึ่งห้องพักอาศัยที่นี่จะได้รับมอบเป็นแบบ Fully Fitted
สามารถจัดวางชุดโซฟา และโต๊ะกลางขนาด 2 ที่นั่งได้สบาย
สำหรับตำแหน่งของ Dining area สามารถจัดวางชุดโต๊ะรับประทานหารที่มาพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง และเว้นพื้นที่สำหรับจัดวางตู้เย็นขนาดใหญ่
บริเวณตำแหน่งพื้นที่ว่างผนังด้านบนของโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถ Built-in ชั้นวางของ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น
ระยะห่างของสายตา ระหว่างตำแหน่งของทีวี กับตำแหน่งโซฟาอยู่ในระยะกำลังพอดี
ห้องแบบ 1 Bedroom Plus จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาซึ่งสามารถทำเป็นห้องเอนกประสงค์ หรือห้องอื่น ๆ ได้ตาม Lifestyle ของแต่ละคน ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ติดกับห้องนอน
เข้ามาภายในห้องนอน โครงการ Built-in ฐานเตียงขนาดคิงส์ไซส์มาให้ และตู้เสื้อผ้าตามแบบที่เห็นมาให้เรียบร้อย
พื้นที่บริเวณปลายเตียง สามารถจัดเป็นมุมทีวีได้ โดยติดตั้งทีวีติดผนัง จะประหยัดพื้นที่ใช้สอย และดูสวยงาม
พื้นที่บริเวณปลายเตียง สามารถจัดเป็นมุมทีวีได้ โดยติดตั้งทีวีติดผนัง จะประหยัดพื้นที่ใช้สอย และดูสวยงาม
สำหรับพื้นที่ครัวของห้องแบบ 1 Bedroom Plus จะมีพื้นที่น้อยกว่าห้องก่อนเนื่องจากเอาพื้นที่ไปทำเป็นห้องพื้นที่ของห้องเอนกประสงค์แทน ซึ่งห้องแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทำอาการ เน้นการใช้พื้นที่ใชสอยในรูปแบบอื่นอย่างเต็มที่มากกว่า โดยตำแหน่งชุดครัวจะอยู่ระหว่าง ห้องน้ำ กับห้องเอนกประสงค์ (ขวา) ที่กั้นส่วนด้วยประตูบานกระจกใสแบบบานเลื่อน
Built-in เคาน์เตอร์ครัวให้พอดีกับพื้นที่ ทั้งตู้บน และล่าง พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก
ติดตั้งมาพร้อมฝักบัว Hand shower
สำหรับแบบ 1 Bedroom Plus ห้องเอนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมา สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องงานอดิเรก ห้องทำงานได้ตามการใช้งาน โดยห้องนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงของห้อง
Facility
Ground FL.
-DOUBLE VOLUME LOBBY
-MEETING ROOM
-MAIL ROOM + SMART LOCKER
-LAUNDRY ROOM
-SHARING SERVICE
-CO-WORKING SPACE
27th FL. FACILITIES
-CO-KITCHEN
-PRIVATE DINING ROOM
-CO-PASSION ROOM
-GAME ROOM
-MULTI FUNCTION STUDIO
-SKY LOUNGE
-FITNESS
-SWIMMING POOL
ROOFTOP
-ROOFTOP GARDEN
ROOFTOP PARKING BUILDING
-SKY GARDEN
-STREET BASKETBALL
-JOGGING TRACK
-VIEW POINT
สวนสีเขียวสำหรับพักผ่อน และจัดพื้นที่สำหรับทางเดินไปยังอาคารจอดรถไว้อย่างเรียบร้อย
จุดเด่นของ The Origin Ram 209 Interchange มีด้วยกัน 7 อย่าง
1.อยู่ในทำเล New Interchange จุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย ส้ม-ชมพู ซึ่งอยู่ในย่าน “NEW EBD” Extension Business District เป็นทำเลกลยุทธ์ ที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากย่านเทพารักษ์
2. ราคาที่ถือว่าคุ้มค่า เริ่มต้นแค่ 1.29 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆที่โครงการมีให้ ซึ่งไม่ต่างกับคอนโดใจกลางเมืองเลย แต่ราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าเยอะมาก เจาะกลุ่ม First jobber เน้น Local Demand เป็นหลัก
3. เป็นคอนโดที่สวย และสูงที่สุดในย่านมีนบุรี จัดพื้นที่ส่วนกลางให้เยอะกว่าที่อื่น มากถึง 19 รายการ และขายห้องแบบ Fully Fitted BUILT- IN FURNITURE
4. To Live รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า แหล่งงาน โรงพยาบาล และโรงเรียนชั้นนำมากมาย ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันสะดวกเหมือนอยู่ในเมือง
5. To Invest ที่มีผลตอบแทน 5-7% สำหรับปล่อยเช่า และถ้าดูจากแผนโครงการต่างๆ จากภาครัช และเอกชน คาดว่าราคาที่ดินในโซนนี้จะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
6. Smart Product ถึง 4 อย่าง Access Control, Air Condition and Light system, Smart Mirror และ Smart Closet
7. 2 Excellence Service คือ On-Call Smart Locker จัดส่ง-รับพัสดุส่วนตัว ผ่านการแจ้งเตือนจาก Application และ Maid/Cleanings Service แม่บ้านรับจ้าง ดูแลความสะอาดอย่างมืออาชีพ
สรุป by Homezoomer
โครงการ THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE (ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์) คอนโดมิเนียม High rise สูง 31 ชั้น จำนวน 1007 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 22-34 ตร.ม. ห้องที่ได้เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Fully Fitted พร้อมพื้นที่ส่วนกลางตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์มากถึง 19 อย่าง และใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้ม และสายสีชมพู โดยโครงการจะติดกับสถานีมีนบุรีซึ่งจะเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีส้มกับสายสีชมพู โครงการใหม่จากแบรนด์ THE ORIGIN เน้นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนที่กำลังมองหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ มีศักยภาพในราคาที่เอื้อมถึง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ซึ่ง THE ORIGIN RAM 209 INTERCHANGE (ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์) 1 ใน 6 ทำเลศักยภาพจากแบรนด์ THE ORIGIN ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม High rise ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท เฉลี่ย 69,500 บาท/ตร.ม. ที่แรกบนทำเลมีนบุรี ซึ่งภาพรวมของทำเลคอนโด The Origin Ram 209 Interchange ตั้งอยู่ในแหล่งที่พักอาศัยใหม่ ที่ถูกขยายตัว ออกมาจากกรุงเทพชั้นใน หรือทำเล “NEW EBD’’ Extension Business District อาจเป็นเพราะความเจริญที่เข้าถึง บวกกับภาครัฐมีแผนจะพัฒนาระบบขนส่งรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสีชมพู ยิ่งเพิ่มศักยภาพให้กับตัวทำเลในอนาคตไปอีก ให้พื้นที่ย่านมีนบุรีมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก และจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในอนาคต
อีกทั้งเดินทางเข้า-ออก ด้วยรถยนตร์ก็ถือว่าสะดวกมาก ถนนรามคำแหงช่วงที่ตั้งโครงการ The Origin Ram 209 Interchange จะเป็นถนนที่ค่อนข้างกว้างมีหลายเลน แถมยังใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอกที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับกรุงเทพรอบนอก (ถนนกาญจนภิเษก) เส้นบางนา – บางปะอิน ซึ่งสามารถเชื่อมไปยัง Motorway กรุงเทพ – ชลบุรี หรือ ถนนบางนาตราด และไปยังรังสิต-ปทุมธานี (บางปะอิน) ได้อย่างสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งผ่ากลางเมืองให้เสียเวลาเลย และสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งจะเหมาะกับใครที่เดินทางออกนอกประเทศบ่อย ๆ
ด้วยความเป็นคอนโดที่สูงที่สุดที่แรกของโซนนี้ บวกกับราคาที่เป็นเจ้าของได้อย่างสบาย ๆ เริ่มต้นเพียงประมาณ 1.29 ล้านบาท เลยทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจกับคนในพื้นที่ และรอบ ๆ ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในประจำวันได้ดี และมีความหมายขึ้น และมุ่งเน้นไปยังกลุ่ม Local demand ที่อยู่ในพื้นที่มีนบุรีส่วนใหญ่จะเป็น Real demand จริง ๆ และเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มองเห็นศักยภาพของทำเลจากการพัฒนาทางด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
29 มิ.ย. นี้ เปิดจองครั้งแรก! กับราคาดีที่สุดในกรุงเทพฯเพียง 1.29 ล้านบาท
.
คลิก https://bit.ly/2K7Jlta ลงทะเบียนรับสิทธิ์ พร้อมสิทธิ์เข้ารับ PRIVILEGE CARD
ที่โครงการ เพื่อใช้เป็น ส่วนลด 200,000 บ. ในการเข้าจอง ในวันงาน!
.
#TheOrigin
#LiveYourValue
#EmpathyDesignThinking
#จัดจ้านย่านอินเตอร์เชนจ์
#คอนโดใหม่ของคนมีนบุรี
Tag
เนื้อหาที่น่าสนใจ
คอนโดมิเนียม
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า Airport Link
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS
- คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT
- คอนโดอารียา (AREEYA PROPERTY)
- คอนโด ลุมพินี LPN
- คอนโดคิวเฮ้าส์ Q.HOUSE
- คอนโดเจ้าพระยามหานคร CMC
- คอนโดอนันดา (ANANDA)
- คอนโดเอพี (AP)
- คอนโดนารายณ์ NARAI PROPERTY
- คอนโดพฤกษา PRUKSA
- คอนโดลลิล LALIN PROPERTY
- คอนโดศุภาลัย SUPALAI
- คอนโดเมเจอร์ MAJOR DEVELOPMENT
- คอนโดเสนา SENA
- คอนโดเอสซี แอสเสท SC ASSET
- คอนโดแกรนด์ ยู GRAND U
- คอนโดปริญสิริ PRINSIRI
- คอนโดแลนด์แอนด์เฮ้าส์ LAND&HOUSES
- คอนโดแสนสิริ SANSIRI
- คอนโดโนเบิล NOBLE DEVELOPMENT
- คอนโดไรมอน แลนด์ RAIMON LAND
คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า
-
คอนโด ใกล้ BTS อโศก
-
คอนโด ใกล้ BTS ทองหล่อ
-
คอนโด ใกล้ BTS เอกมัย
-
คอนโด ใกล้ BTS พระโขนง
-
คอนโด ใกล้ BTS อ่อนนุช
-
คอนโด ใกล้ BTS อุดมสุข
-
คอนโด ใกล้ BTS บางนา
-
คอนโด ใกล้ BTS พญาไท
-
คอนโด ใกล้ BTS อารีย์
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานควาย
-
คอนโด ใกล้ BTS สะพานตากสิน
-
คอนโด ใกล้ BTS กรุงธนบุรี
-
คอนโด ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่
-
คอนโด ใกล้ BTS บางหว้า
Contact Us
ติดต่อโฆษณาได้ที่
โทร. 02–663–8697
หรือ 092–369–3622
Line : Homezoomer
Facebook : Homezoomer
E-mail : contact@homezoomer.com