AP ผู้นำเทรนด์ที่พักอาศัยสำหรับคนสูงวัย
AP พาไปศึกษาดูงานเทรนด์อนาคตขึ้น เป็นผู้นำรูปแบบที่พักอาศัยสำหรับคนสูงวัย
ทาง Homezoomer ได้มีโอกาส เดินทางไปศึกษาดูงานกับ AP Thailand ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในครั้งนี้เป็นโอกาศที่ดีมากที่ได้ไปดูนวัตกรรมใหม่ๆ ที่คนญี่ปุ่นได้คิดและสร้างขึ้นมาเพื่อคนสูงวัย ทางญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับคนสูงวัยอย่างมาก เนื่องจากอัตราของผู้สูงวัยมีจำนวนที่สูงขึ้นมาเรื่อยๆ และมีบทบาทสำคัญในอนาคต หลายๆที่เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง และเตรียมตัวรับมือเพื่อที่จะรองรับกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัย
AP THAILAND ผู้พัฒนาธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์จึงมีความคิดที่ว่าจะสร้างที่พักอาศัยที่รองรับกับแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไป และควรมีที่พักอาศัยเพื่อคนสูงวัยรุ่นใหม่ที่ตั้งอยู่ในเมือง มีการเดินทางที่สะดวก ใกล้แหล่งสิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ โดยมีพันธมิตรอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป – MECG) พันธมิตรทางธุรกิจ มาต่อยอดสู่การขยายพอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียมไปยังตลาดกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยรุ่นใหม่ (The Young Old) อายุ 60 – 75 ปี ที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน ภายใต้แนวคิด ‘INTERGENERATIONAL LIVING’ คอนโดมิเนียมในเมืองสำหรับผู้สูงวัยรุ่นใหม่ ที่ผสานความต่างของทุกเจนเนอเรชั่นเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว
“นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนใน ‘คอนโดมิเนียมเพื่อผู้สูงวัยรุ่นใหม่’ นั้น จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ในอีกเพียงไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในทุกมิติ และตอบสนองความต้องการให้กับผู้อยู่อาศัยโดยแท้จริง”
แน่นอนว่าการพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยมีความซับซ้อนมากกว่าการพัฒนาเพื่อคนในวัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มคนสูงอายุ ทั้งในเรื่องการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ คำนึกถึงวัสดุที่นำมาใช้ว่าเหมาะสมและปลอดภัยในการใช้ชีวิตในแต่ละวันหรือไม่
“จากข้อมูล World Population Ageing โดยองค์การสหประชาชาติ ที่จัดอันดับประเทศในเอเชีย พบว่าในปี 2573 ประเทศไทยจะมีสัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเป็น 19% เป็นอันดับที่ 3 รองจากประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ซึ่งความท้าทายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่อยู่ที่วิธีการออกแบบที่อยู่อาศัยเพียงเท่านั้น ในเมื่อโจทย์ใหญ่ธุรกิจเพื่อผู้สูงวัยคือ คนที่จะอยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งก็คือ คนกลุ่มเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation X) ที่วันนี้มีอายุมากสุดคือ 57 ปี (เกิดระหว่าง พ.ศ. 2504 – 2524) ซึ่งแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ต่างไปจากกลุ่มเบบี้ บูม (Baby Boom) ทั้งพฤติกรรมที่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตในเมือง การเดินทางที่สะดวกสบาย อยากอยู่ใกล้เพื่อน ลูกหลาน การไม่กลัวเทคโนโลยี ชอบเข้าสังคมและความพร้อมทางการเงินที่มีการวางแผนมาอย่างดี”
แนวคิดใหม่ ‘INTERGENERATIONAL LIVING’ นั้นประกอบด้วย 3 แกนหลักคือ
1.Rethink Space การปรับวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่ใหม่ทั้งหมด โดยนำหลัก Universal Design เข้ามาผสมผสานในการออกแบบพื้นที่เพื่อคนทุกเจนเนอเรชั่น
2.Redefine Living การสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงวัยรุ่นใหม่ ซึ่งเราพร้อมส่งมอบคุณค่าของสินค้าที่อยู่เหนือกาลเวลา ทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่อยู่ในเมือง (Location in Location) การเพิ่มสัดส่วนของพื้นที่ส่วนกลางที่มากขึ้นกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในชีวิต
3.Remodeling Community การพัฒนาโมเดลที่ส่งเสริมความสุขในการอยู่อาศัย ทั้งด้านจิตใจ และคุณค่าต่อชุมชน
การพัฒนานวัตกรรมที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงวัย กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (MECG) ได้มีแนวทางดำเนินงานผ่าน 3 บริษัทในเครือ ได้แก่
1.การพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Nursing Home ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2533 โดยบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (MEC) และบริหารจัดการผ่านบริษัทในเครือของ MEC
- การลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย โดยบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (MJR) ซึ่งจะเป็นผู้ลงทุนพัฒนา และส่งมอบต่อให้กับบริษัทพันธมิตรเป็นผู้บริหารจัดการโครงการต่อไป
3 .ธุรกิจรีโนเวทที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงวัย ผ่านทางบริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท โฮม (MEH) และธุรกิจพัฒนา ที่อยู่อาศัย ภายใต้ ‘มาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย’ ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท โฮม (MEH) สำหรับบ้านเดี่ยว และ บริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (MJR) สำหรับคอนโดมิเนียม
การเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ทาง AP และ กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (MECG) ได้พาไปศึกษาดูงานทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน เริ่มต้นจาก
1.Charm Premier Fukasawa (Nursing Home)
สถานที่แรกนี้จะเป็นตัวอย่างของบ้านพักของผู้สูงวัยในประเทศญี่ปุ่น ที่บริหารจัดการโดย Charm Care Corporation เป็น Partner กับ บริษัท มิตชูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท สำหรับสถานที่แรกนี้จะให้อารมณ์แบบบ้านพักที่เป็นการให้บริการแบบ Full Service ที่มีทุกอย่างเตรียมไว้รับรองครบ
โดยที่นี่ได้เปิดให้บริการตั้งแต่สิงหาคม 2017 จำนวนห้องพักทั้งสิน 85 ห้อง ในปัจจุบันมีคนเข้ามาอยู่ 34 คน สิ่งอำนวยความสะดวกในการพักอาศัยทุกชั้นจะมีเหมือนกันหมด เช่น ส่วนครัว ห้องอาบน้ำ
แต่ในส่วนของส่วนกลางจะอยู่ชั้นล่างสุดซึ่งจะเป็นห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์สำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ที่แยกออกเป็นหลายๆส่วน โดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆทันสมัย อย่าง Digital Mirror ซึ่งผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่ที่นี่จะต้องเข้ากิจกรรมออกกำลังกายนี้ 2 ครั้ง/สัปดาห์
ภาพที่เห็นนี้จะเป็นห้องสำหรับอาบน้ำ โดยเจ้าเครื่องที่เห็นนี้จะเป็นเครื่องอาบน้ำที่ถูกสร้างมาเพื่อคนสูงวัยโดยเฉพาะ
ให้ทุกวันของการพักอาศัยที่นี่ รู้สึกเหมือนเป็นชุมชนของการอยู่อาศัยที่มีความสุข ภายในประกอบไปด้วย ห้องออกกำลังเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสันทนาการ โดยภายในอาคารให้บรรยากาศเหมือนแกลเลอรี่ศิลปะเพราะประกอบไปด้วยงานศิลป์ของนักศึกษามากกว่า 100 ชิ้นที่จัดแสดงไว้ให้ผู้สูงวัยได้เสพงานศิลป์เพื่อการผ่อนคลาย ส่วนด้านนอกจัดเป็นสวน Outdoor พร้อมระเบียงไม้ให้สามารถออกไปนั่งชมสวนในวันที่อากาศดี
Wellness Square อาคารพักอาศัยเพื่อผู้สูงวัย ตั้งอยู่ภายในโครงการ Fujisawa Sustainable Smart Town ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Panasonic Corporation
ภายใน Wellness Square ประกอบด้วย 2 อาคาร คือ North และ South พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีย่อมส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ที่นี่จึงพัฒนาให้สามารถรองรับบุคคลได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงวัย โดยมีแนวคิดส่งเสริม การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของคนทุกเพศทุกวัยเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย โดยพื้นที่หลักของ Wellness Square มุ่งเน้นไปที่การใช้สอยของผู้สูงวัย และยังประกอบไปด้วยบริการอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมโยงคนทุกเพศทุกวัยเข้าไว้ด้วยกัน เช่น บ้านพักผู้สูงวัย คลีนิกตรวจรักษาสุขภาพ ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ห้องจัดกิจกรรม และอื่นๆ
ในส่วนของคลีนิกรักษาสุขภาพนั้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบันทึกและเชื่อมโยงทุกข้อมูลของผู้พักอาศัย ทั้งจากโรงพยาบาล ศูนย์กีฬา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับยา และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นไว้ในฐานข้อมูลที่สามารถนำมาเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา เพื่อแก้ปัญหาการขาดความเชื่อมโยงของข้อมูล ที่จำเป็นและข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้การรักษาล่าช้า
ภาพบรรยากาศภายในจะมีจุดบริการต่างๆ ทำให้ไม่เงียบเหงา Service ต่างๆภายใน Smart Town นี้จะเป็นของ Panasonic ทั้งหมด
ภายในห้องอาบน้ำกลาง ที่จัดเตรียมความสะดวกไว้ให้ครบ พร้อมออกแบบฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะสมกับคนสูงวัยทุกจุด
พื้นที่ส่วนกลางที่ใช้สำหรับรับประทานอาหารดูโปร่ง และมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับคนสูงวัยที่ต้องการพื้นที่ในการเดิน
นี่จะเป็นห้องเตรียมอาหารให้สำหรับผู้พักอาศัย ดูสะอาดและได้มาตรฐาน
Renovation Business & Elderly-friendly
Residential Design
‘Mitsubishi Estate Home Home Gallery’
Mitsubishi Estate Home (MEH) ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านและรีโนเวทที่อยู่อาศัยโดยมีมาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ผนวกกับความร่วมมือกับพันธมิตรในการรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำมาซึ่งความสะดวก ปลอดภัย และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยมีความซับซ้อนมากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เนื่องจากจำเป็นต้องคำนึงถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัยในการดำรงชีวิต ภายใต้แนวคิดหลักในการออกแบบที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกวัย (Universal Design) เช่น การออกแบบให้มีสิ่งกีดขวางบนพื้นให้น้อยที่สุด การติดตั้งราวจับ เพื่อความปลอดภัยในการเคลื่อนไหวของผู้สูงวัย การออกแบบประตูทางเข้าให้มีความกว้างมากกว่าปกติ หรือการจัดวางระบบไฟส่องสว่างทั้งเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงการบริหารจัดการอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมตลอดทั้งวัน เป็นต้น
“นอกเหนือจากการออกแบบที่สวยงาม และอบอุ่น เหมาะสำหรับการพักอาศัยแล้ว Home Gallery ที่ Shakujii ยังได้รับการออกแบบให้คำนึงถึงความสำคัญของการใช้เวลาร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย”
เข้ามาชมภายในบ้านตัวอย่างกันครับ บ้านแบบนี้ดูผ่านๆก็เหมือนบ้านพักอาศัยทั่วไป เพียงแต่ทุกจุดภายในบ้านแบบนี้ เค้าจะออกแบบมาเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย อย่างภาพนี้จะสังเกตได้ว่ามีราวจับตั้งแต่ทางทางเข้าหน้าบ้าน พื้นจะไม่มี Step ที่จะมาขัดขวางการเดินภายในบ้าน และบ้านแบบนี้จะมีอุณหภูมิที่เท่ากันทั้งหลัง
เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อง่ายและเหมาะกับการใช้งานของผู้สูงวัยมากที่สุด
จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือ Layout ของตัวบ้านจะอยู่จัดวางไว้ในตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการวางระบบต่างๆ และภายในห้องซักรีดนี้จะเป็นทั้งห้องซัก และห้องตากในห้องเดียวกัน โดยผู้พักอาศัยที่อยู่ที่นี่จะไม่จำเป็นต้องออกไปตากผ้าด้านนอก โดยเค้าจะใช้ระบบลมความร้อน (แอร์โร่เทค) เป็นตัวทำให้ผ้านั้นแห้งได้เหมาะกับตากไว้กลางแดดออกบ้าน
นี่จะเป็นบรรยากาศบนชั้นที่ 2
สำหรับที่นี่การรับสร้างบ้านของทาง Mitsubishi Estate Home (MEH) ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านและรีโนเวทที่อยู่อาศัยโดยมีมาตรฐานการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับผู้สูงวัย จะมีการรีโนเวทประมาณ 2,500 หลัง/ปี และรับสร้างบ้านตกอยู่ประมาณ 400 หลัง/ปี จุดแข็งของทาง Mitsubishi Estate Home (MEH) จะสามารถสร้างบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 150 ตร.ม. ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือน
Materials & Innovation
‘NODA SHOWROOM by NODA Corporation’
NODA Corporation บริษัท ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุปูพื้นชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน และความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย
ผมที่นี่สุดเพราะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็น และให้ความสำคัญ แต่พอได้มาศึกษาดูอ่านที่นี่แล้วรู้สึกประทับใจที่ได้มีรโอกาสดีๆแบบนี้ เราไปชมว่าภายใน NODA นี้มีอะไรกันบ้างครับ
จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการอยู่อาศัยของผู้สูงวัยขึ้น อันเริ่มต้นจากการทำวิจัยและพัฒนาโดยได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ และนำความชำนาญของตนในฐานะผู้ผลิตวัสดุปูพื้น มาพัฒนาเป็น ‘นวัตกรรมวัสดุปูพื้นที่ช่วยลดแรงกระแทก’ (Shock Absorbing Floor) ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงวัย ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการรองรับแรงกระแทกและให้ความอบอุ่นเมื่อสัมผัส
อีกหนึ่ง Hi-Light ภายใน NODA Showroom คือ การจำลองประสบการณ์สูงวัยให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัส ด้วยการสวมชุดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สัมผัสประสบการณ์เสมือนเป็นผู้สูงวัย ที่อยู่อาศัยภายในบ้านที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “ปลอดสิ่งกีดขวาง (Barrier Free)” คือการออกแบบทางเดินให้ราบเรียบ ไร้ขั้นบันไดหรือทางต่างระดับ หรือมีบันไดน้อยที่สุด เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ได้รับเกียรติจาก คุณ วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์)
และผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ผู้สูงวัยดำเนินชีวิตประจำวันได้สะดวก ช่วยเหลือตนเองได้ ลดอุบัติเหตุและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ พื้นบ้านที่สามารถกันการลื่นหกล้ม และช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ
ประตูบ้านภายใต้แนวคิด Universal Design ที่สามารถผลักออกได้ไม่ว่าจะอยู่ทั้งภายใน และภายนอกห้อง และถึงแม้อยู่ในพื้นที่จำกัดประตูนี้ก็ยังสามารถเปิดได้กว้างและยังสามารถติดตั้งราวจับได้ด้วย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงวัยที่ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน หรือรถเข็น
และนี่คือที่ตั้งโครงการใหม่ของ AP ที่จะมาพัฒนาที่ดินให้เป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับผู้สูงวัยในอนาคต ด้วยทำเลที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงการเดินทาง และในเรื่องของการดีไซต์ ออกแบบ ให้ลงตัวที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย รอติดตามชมกันเร็วๆนี้ครับ และผมเชื่อว่าเทรนด์นี้จะเป็นที่น่าสนใจและต้องการอย่างมากในอนาคต
ขอขอบพระคุณ AP THAILAND เป็นอย่างสูงที่มอบโอกาสดีๆในการดูงานในครั้งนี้ครับ
CR ข้อมูลต่างๆ จาก AP THAILAND
HOMEZOOMER