ทำเลและการเดินทาง

โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 เป็นคอนโดติดทะเลสาบ ตั้งอยู่ติดกับถนนนาคนิวาส การเดินทางมายังโครงการนี้นั้นง่ายมากมาได้หลายเส้นทาง ส่วนเส้นทางที่เรามานั้น จะเข้าจากซอยลาดพร้าว 71 ขับตรงมาเรื่อยๆ เลี้ยวเข้าถนนนาคนิวาส โครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จะอยู่ทางขวามือ หากเรามาจากถนนเลียบด่วน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 ก็จะเชื่อมกับถนนนาคนิวาสได้เช่นกัน หรือถ้าใครมาจากถนนเกษตร-นวมินทร์ ให้เลี้ยวเข้าถนนสุคนธสวัสดิ์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกโรงไม้ เข้าถนนนาคนิวาส ตัวโครงการ Atmoz ลาดพร้าว 71 จะอยู่ซ้ายมือ ซึ่งภายในซอยลาดพร้าว 71 ยังมีทางลัดมากมายให้เราได้เลือกใช้

เราขอเริ่มการเดินทางบนถนนลาดพร้าว ฝั่งขาออก ให้เราขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยลาดพร้าว71 ครับ

บริเวณปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ ซึ่งเป็นวินที่ใหญ่พอสมควรเลยครับ ส่วนการเดินทางไปยัง Atmoz ลาดพร้าว 71 ราคาประมาณ 20-25 บาท

ถนนภายในซอยลาดพร้าว 71 ช่วงแรกจะเป็นถนน 4 เลน และมีด่านกวดขันวินัยจราจรด้วยครับ

ขับตรงมาเรื่อยๆ ทางขวามือจะเป็นทางลัดไปซอยลาดพร้าว 73 หรือเป็นทางลัดไปยังถนนเลียบทางด่วนได้เช่นกัน

ขับตรงมาข้างหน้าจะมีทางแยก เลี้ยวซ้ายไปโชคชัย 4 และนาคนิวาส ถ้าเลี้ยวขวาเราจะออกเลียบทางด่วนได้ ส่วนตอนนี้ให้เราเตรียมเลี้ยวซ้ายนะครับ

ให้เราเลี้ยวซ้าย ส่วนในภาพนั้น บังคับให้เลี้ยวซ้าย ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00น. เพราะเป็นเวลาเร่งด่วน ห้ามเลี้ยวขวา

ขับตรงมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอทางแยกอีก ถ้าเราขับตรงไปก็จะเข้าสู่ถนนสังคมสังเคราะห์ ที่สามารถเชื่อมกับถนนโชคชัย4 ได้ แต่ตอนนี้ให้เราเลี้ยวขวาครับ เพื่อเข้าสู่ถนนนาคนิวาส

บรรยากาศภายในถนนนาคนิวาส มีความร่มรื่นจากต้นไม้ตลอดสองข้างทาง ส่วนถนนจะเป็น 4 เลน

ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2.5 กม. ให้เราสังเกตซอยนาคนิวาส 51ไว้ครับ  โครงการ Atmoz ลาดพร้าว71 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามทางขวามือเรา

เลี้ยวขวาก็ถึงที่ตั้งของโครงการ Atmoz ลาดพร้าว71 แล้วครับ

Floor Plan ชั้นที่ 2-3 จากแปลนเราจะเห็นว่าตัวโครงการ Atmoz Ladprao 71 จะมีทั้งหมด 4 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A,B,C, และ D  โดยที่อาคาร A และอาคาร D จะอยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ ตามด้วยอาคาร B และอาคาร C ซึ่งจะเห็นวิวของทะเลสาบขนาด 21 ไร่ บริเวณตรงกลางของโครงการจะเป็นพื้นที่สวน Arched Garden กว่า 2 ไร่ สระว่ายน้ำแบบ Natural From Swimming Pool ถัดเข้ามาด้านหลังจะเป็น Smart Fitness & Co-Chilling Space พร้อมสระว่ายน้ำ Lakeside Infinitie Pool & Pavilion ขนาด 33×23 M. เป็นระบบเกลือ ที่ทำให้เราสามารถเห็นวิวของทะเลสาบขนาดใหญ่ได้ ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ในชั้นที่ 1 จอดรถได้ประมาณ 50% แบบรวมซ้อนคัน

สำหรับห้องพักอาศัย เริ่มจากอาคาร A จะมีทั้งหมด 15 ยูนิต มีห้องหลายขนาด ตั้งแต่ 23.85 ตร.ม. จนถึงห้อง 50 ตร.ม.ห้องจะหันไปทางทิศใต้และทิศเหนือ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด , อาคาร B ลักาณะอาคารเป็นรูป U-Shape มีทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น มีห้องพักอาศัยหลายขนาด ตั้งแต่ 23.85 ตร.ม. จนถึงห้อง 50 ตร.ม. เช่นกัน ส่วนมากห้องมุมจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน อาคาร B ยังอยู่ติดกับส่วนส่วนกลางกว่า 2 ไร่ ด้านทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคาร ยังสามารถเห็นวิวของทะเลสาบได้เช่นกัน , อาคาร C จะมีลักษณะเป็นรูป L-Shape ตั้งอยู่ทางด้านหลังของโครงการ ในชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 30 ยูนิต/ชั้น ส่วนมากจะเป็นห้องพักอาศัยแบบ 1Bedroom (23.85-25.71 ตร.ม.) และ 1Bedroom Exclusive (28.94-41.59 ตร.ม.)ห้องทางทิศตะวันตกสามารถเห็นวิวของสวนส่วนกลาง และห้องทางทิศเหนือจะเห็นวิวของสวนส่วนกลางและวิวของทะเลสาบได้ทั้ง 2 แห่ง , สุดท้ายอาคาร D จะมีทั้งหมด 28 ยูนิต/ชั้นลักษณะอาคารจะเป็นรูป I-Shape ตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการ ส่วนมากจะเป็นห้องพักอาศัยแบบ 1Bedroom (23.85-25.71 ตร.ม.) อยู่ทางทิศใต้ และห้อง 1Bedroom Exclusive (28.94-41.59 ตร.ม.) กับ 1Bedroom Plus (38.06-51.90 ตร.ม.) อยู่ทางทิศเหนือ เห็นวิวของสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำด้วยครับ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด ยกเว้นอาคาร C ที่มีบันไดหนีไฟอยู่ 3 จุด

Floor Plan ชั้นที่ 4-8  ตั้งแต่อาคาร A ถึงอาคาร D  4 อาคาร จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องพักอาศัยไม่เท่ากัน เริ่มจากอาคาร A จะมีห้องพักอาศัย 19 ยูนิต/ชั้น ,อาคาร B มีห้องพักอาศัย 25 ยูนิต/ชั้น อาคาร C มีห้องพักอาศัยอยู่ 30 ยูนิต/ชั้น และอาคาร D มีห้องอาศัย 33 ยูนิต/ชั้น สำหรับแบบห้องจะมีลักษณะที่คล้ายกับชั้นที่แล้วเลยครับ แต่ละอาคารจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว บันไดหนีไฟ 2 จุด ยกเว้นอาคาร C ที่มีบันไดหนีไฟอยู่ 3 จุด Corridor กว้าง 1.5 เมตร และที่อาคาร A กับคลับเฮ้าส์จะมีสวนพักผ่อน Arched Garden พร้อมพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ กันได้ครับ

1Bedroom ขนาด 23.85-25.71 ตร.ม. มีทั้งหมด 236 ยูนิต : เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องทางด้านขวามือจะเป็นในส่วนของห้องน้ำ ห้องน้ำจะแบ่งแยกระหว่างโซนเปียกกับโซนแห้งอย่างชัดเจน ตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นส่วนของ Pantry ครัว เดินเข้ามาเรื่อยๆ บริเวณด้านในจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นจะติดกับห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน  ซึ่งภายในบริเวณห้องนอนจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้า และมีส่วนของระเบียงให้ด้วย

1Bedroom Exclusive ขนาด 28.94-41.59 ตร.ม. จำนวน 214 ยูนิต :เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเห็นขนาดห้องที่ใหญ่พร้อมกับส่วนของห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอน ด้านในสุดของห้องจะแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างห้องครัวและห้องนอน ห้องครัวจะเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน จึงหมดปัญหาเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหาร ด้านในสุดของห้องครัวมีระเบียงที่ช่วยระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ

1Bedroom Plus ขนาด 38.06-51.90 ตร.ม. จำนวน 248 ยูนิต :ห้องนี้ใหญ่กว่าทุกห้องที่เป็นแบบหนึ่งห้องนอน เพราะจะมีพื้นที่อเนกประสงค์  ให้เราสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเจอส่วนของ Pantry ครัว ที่อยู่ทางด้านหน้าของห้องใกล้กันจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่แบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนปียกได้อย่างชัดเจน และตามด้วยส่วนของห้องนอนที่เชื่อมติดกับระเบียงหลังห้อง 

2Bedroom ขนาด 50.48-54.32 ตร.ม. จำนวน 42 ยูนิต : ห้องนี้จะแบ่งพื้นที่ชัดเจน เมื่อเราเดินเข้ามาในห้อง ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น Living Area มีขนาดที่กว้างลึกเข้าไปด้านใน ทางขวามือจะแบ่งเป็นห้องน้ำและห้องครัวแบบปิดพร้อมกับระเบียงในตัว ทางซ้ายมือของห้อง แบ่งเป็นห้องนอนทั้งหมดทั้ง 2 ห้องเลยครับ โดยห้อง Master Bedroom จะอยู่ทางด้านหลังของห้อง สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ และยังมีหน้าหน้าต่างกระจกแบบเข้ามุม ซึ่งโดยรวมแล้วห้องนี้จะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างลงตัวดีครับ

ตอนนี้เราอยู่ที่สำนักงานขายโครงการ แอทโมซ ลาดพร้าว 71 แล้วนะครับ ตัวสำนักงานขายตกแต่งสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยเน้นโทนสีธรรมชาติ

เรามาดูกันที่โมเดลของโครงการ ซึ่งโครงการ แอทโมซ ลาดพร้าว 71 จะอยู่ติดกับถนนซอยลาดพร้าว 71 หรือถนนนาคนิวาส ซึ่งด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันตก มีทางเข้า-ออกอยู่ทางนี้ทางเดียว ห้องพักอาศัยทางทิศนี้จะเป็นห้องแบบ 1Bedroom Plus 38.06-51.90 ตร.ม. และ 1Bedroom Exclusive 28.94-41.59 ตร.ม.

ภาพมุมสูงจากด้านหน้าโครงการเราจะเห็นอาคารพักอาศัยทั้งหมด 4 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A B C และ D ตามลำดับ ระหว่างอาคาร B และอาคาร C จะมีพื้นที่สวนส่วนกลาง พื้นที่จอดรถจได้บริเวณชั้น 1 ทั้งหมด จอดได้ประมาณ 50% แบบรวมซ้อนคัน

อาคาร D มองจากทิศใต้ ส่วนมากทิศนี้จะเป็นห้องพักอาศัยแบบ 1Bedroom ขนาด 23.85-25.71 ตร.ม.

อาคาร C มองจากทิศตะวันออก หรือทางด้านหลังของโครงการ ห้องพักอาศัยทางทิศนี้เป็นแบบ 1Bedroom Exclusive ขนาด28.94-41.59 ตร.ม. วิวทางทิศนี้จะเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น

มองจากทิศเหนือของโครงการ บริเวณอาคาร B และอาคาร C ซึ่งทางทิศนี้จะเห็นวิวของทะเลสาบได้

มองมาจากทะเลสาบ หรือทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เราจะเห็นตัวโครงการ แอทโมซ ลาดพร้าว 71 ที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบกว่า 21 ไร่ เลยนะครับ ซึ่งจะเป็นคอนโดบรรยากาศ ริมทะเลสาบ ในคอนเซ็ปต์ “Urban Refresh”

บริเวณตรงกลางของโครงการ ระหว่างอาคาร B และอาคาร C จะมีพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ ช่วยให้ผ่อนคลายด้วยสระว่ายน้ำแบบ Natural Form Swimming Pool ท่ามกลางธรรมชาติสวนสีเขียว ขนาด 33×23 เมตร

ภาพมุมสูงของโครงการ จากอาคาร C ที่อยู่ด้านในสุด มองย้อนกลับไปยังด้านหน้าโครงการครับ

จากส่วนกลาง First-Class Facilities บริเวณอาคาร B และอาคาร C ซึ่งทางทิศนี้เราสามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบกว่า 21 ไร่ได้ มาพร้อมกับสระว่ายน้ำแบบ Lakeside Infinite Pool ขนาด 23×6 เมตร เสมือนว่าเราได้ไปว่ายน้ำในอยู่ในทะเลสาบจริงๆ

มาที่ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นห้องแบบ 1Bedroom Exclusive ขนาด 28.94-41.59 ตร.ม. ห้องที่ทางโครงการขายให้จะเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์แบบจัดเต็มเลยทุกๆ ห้องครับ ไม่ว่าจะเป็นชุด Built-in ตู้เสื้อผ้า ชุดเคาร์เตอร์ครัว เตา+ที่ดูควัน  ชั้นวางทีวี โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง เตียงนอนไม่รวมฟูก เครื่องปรับอากาศ Daikin ประตูแบบ Digital Door Lock

ประตูห้องเป็นไม้ ใช้ระบบ Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale พร้อมก้านโยก

เมื่อเดินเข้ามาในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Living Area มองตรงเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน พื้นห้องปูด้วยสมาร์ทไวนิลลายไม้ มีความสูงระหว่างพื้นกับเพดาน 2.40 เมตร ไฟในห้องเป็นแบบดาวไลท์ LED

มุมมองทางด้านซ้ายเป็นจุดวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ทางซ้ายสุดจะเป็นทางเข้าของห้องครัว

จากโซฟามองไปยังทีวี จะเห็นว่ามีระยะห่างกำลังดี และยังมีพื้นที่ ที่กว้างมากอีกด้วย ทางด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าของห้องน้ำครับ

ห้องครัวและห้องนอนจะอยู่ติดกัน แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนลงตัว ห้องครัวจะเป็นแบบปิดหมดปัญหาเวลาทำอาหารหนักๆแน่อน

บรรยากาศภายในห้องครัว ซึ่งทางโครงการจะให้เราแบบนี้เลยนะครับ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราไม่ได้

ผิว TOP ครัวเป็นเมลามีนสีขาว พร้อมอ่างล้างจาน 1 หลุม และเตาไฟฟ้า MEX

ด้านบน Built-in เป็นตู้เก็บ ของพร้อมที่ดูดควันและช่องวางไมโครเวฟ

ห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียง หมดปัญหาเรื่องกลิ่นเวลาทำงาน ซึ่งเราสามารถเปิดเพื่อระบายกั้นได้ โดยส่วนของระเบียงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สามารถเปิดได้กว้างมากขึ้น

บรรยากาศภายในห้องนอน มีขนาดที่ใหญ่ วางเตียงขนาด 5 ฟุต และยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ พร้อมหน้าต่างที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้

จะเห็นว่าวางเตียง 5 ฟุต มีพื้นที่เหลือ ให้เราได้วางโต๊ะทำงานเหลือโต๊ะหัวเตียงได้อีกครับ

พื้นที่ปลายเตียง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ พร้อมวางโต๊ะทำงาน และทีวีได้เช่นกัน

จากห้องนอนเมื่องมองย้อนกลับไปทางหน้าห้อง เราจะเห็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นที่เราผ่านมาก่อนหน้านี้ ส่วนของห้องนี้จะอยู่ทางซ้ายมือเราครับ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง ชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO ได้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมตู้ Built-in ใต้อ่าง

ภายในส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ซึ่งจะมีพื้นที่ที่กว้างเช่นกัน

ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower สามารถปรับระดับขึ้น-ลงได้ พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำให้ 1 จุด

ห้องตัวอย่างที่ 2 เป็นห้องแบบ 1Bedroom Plus แบบ 38.35 ตร.ม.

เมื่อเราเข้ามาในห้อง ส่วนแรกเราจะเจอกับพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องปูด้วยสมาร์ทไวนิลลายไม้ มีความสูงระหว่างพื้นกับเพดาน 2.40 เมตร ไฟในห้องเป็นแบบดาวไลท์ LED

ทางซ้ายมือเป็นส่วนของ Pantry ครัว ห้องน้ำ และทางเข้าของห้องนอน Master Bedroom โดยจะมีพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว

ส่วนทางขวามือ จะเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง พร้อมวางโซฟาด้านข้างได้อีกด้วย 

บรรยากาศโดยรวมภายในส่วนของ Living Area ถือว่าให้พื้นที่ให้มาพอสมควรเลย มีระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีที่กำลังดี

ด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเราสามารปรับแต่งได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นก็ยังได้ครับ

มุมมองย้อนกลับไปทางหน้าห้อง ซึ่งห้องนี้พื้นที่ Living Area มีขนาดพื้นที่ที่กว้างมากเลย

มาดูทางซีกซ้ายของห้อง จะเป็นห้องส่วนของ Pantry ครัว ห้องน้ำ และห้องครัว ที่อยู่ใกล้กัน

ห้องนอนมีขนาดที่ใหญ่ วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี แถมยังมีพื้นที่ให้เราเดิน อีกเยอะเลยนะครับ

ด้านข้างเตียง ถ้าเราจัดพื้นที่ดีๆ ก็ยังสามารถวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัวเลยครับ

ส่วนของ Pantry ครัวจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอน ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้แบบนี้ ยกเว้นแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราไม่ได้

ส่วนของห้องน้ำ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีขาวสวยงาม

ได้กั้นฉากอาบน้ำแบบ 3 ตอนให้ด้วยครับ ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower สามารถปรับระดับ-ขึ้นลงได้ ด้านข้างมีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำให้อีก 1 จุด

ด้านในสุดของห้องนอน  มีประตูทางออกไปยังพื้นที่ระเบียง ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีดำ 

ระเบียงมีขนาดที่กว้างมากครับ ซึ่งทางโครงการจะเดินท่อน้ำให้เราไว้แล้ว สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าเองในภายหลัง

ห้องตัวอย่างที่ 3 หรือห้องสุดท้าย จะเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ครับ ซึ่งจะเป็นห้องแบบ 1Bedroom  ขนาด 23.92 ตร.ม ได้เฟอร์นิเจอร์แบบจัดเต็มเช่นกัน

เมื่อเราเดินเข้ามาในห้อง จะเป็นช่องทางเดิน ทางขวามือเป็นส่วนของ Pantry ครัว ตรงข้ามกับห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area และตามด้วยส่วนของห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานเลยครับ พื้นห้องปูด้วยสมาร์ทไวนิลลายไม้เช่นกัน

ส่วนของ Pantry ครัว จะอยู่ทางหน้าห้อง ซึ่งเราจะได้เคาน์เตอร์ครัวแบบนี้เลยครับ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนดีครับ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ด้านล่างของอ่างมีตู้ Built-in สามารถเก็บของได้เล็กน้อย ส่วนชุดสุขภัณฑ์จะใช้ของ COTTO

ภายในส่วนเปียก ได้กั้นฉากอาบน้ำแบบ 3 ตอน ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower

ภายในส่วนเปียก ได้กั้นฉากอาบน้ำแบบ 3 ตอน ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower

เตาไฟฟ้าและที่ดูดควันยี่ห้อ MEX เราก็ได้เช่นกันนะครับ ผิวของฝาตู้เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน

ด้านในสุดของห้อง จะเป็นส่วนของห้องนอน วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่เหลือบริเวณปลายเตียงให้เราได้วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อได้ครับ

ซึ่งพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนจะอยู่ติดกัน กั้นแบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

ภายในส่วน Living Area นั่งจากโซฟา เราจะเห็นระยะห่างการดูทีวี ซึ่งก็ไม่ได้แคบจนเกินไปเลยครับ

อีกฝั่งด้านในของเตียง มีทางออกไปยังพื้นที่ของระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขอบอลูมิเนียมสีดำ ซึ่งช่วยให้แสงจากธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

ราวระเบียงห้องเป็นโครงเหล็ก ทาด้วยสีดำ เดินท่อน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้

ด้านบนของระเบียง จะเป็นจุดติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์

บรรยากาศโดยรวม จากห้องนอน เมื่อเรามองย้อนไปทางหน้าห้อง

Digital Sound System เชื่อมต่อด้วยระบบ Wifi, Bluetooth สามารถใช้มือถือเชื่อต่อ, ใช้ Flash Drive หรือ Micro Cardซึ่งจะเป็นโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งเราจะได้เมื่อชำระเงินจองพร้อมการผ่อนดาวน์ในงวดที่ 1

Thermostat ระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้อง ทำงานคู่กับพัดลมภายในห้องน้ำ เพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศ เมื่อไม่อยู่ห้องพักอาศัย ทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง และสามารถตั้งเวลาทำงานได้