ทำเลและการเดินทาง

โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 9 – ศรีนครินทร์ มีทำเลที่โดดเด่นเลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถเข้า-ออก ได้หลากหลายเส้นทาง เช่น มาจากทางด่วนศรีรัช เลี้ยวซ้ายลงถนนศรีนครินทร์ ตรงมาประมาณ 930 เมตร ให้เลี้ยวขวาที่สี่แยกกรุงเทพกรีฑา เข้าไปประมาณ 3.2 กิโลเมตร ก็จะพบโครงการตั้งอยู่ทางขวามือ สุดถนนกรุงเทพกรีฑาทะลุออกจากถนนกาญจนา มอเตอร์เวย์ได้ โดยโครงการนี้จะตั้งอยู่ติดกับโครงการแกรนด์ บูเลอวาร์ด ซึ่งขณะนี้ช่วงถนนกรุงเทพกรีฑากำลังก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ซึ่งจะเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมโยงโครงข่ายถนนสายหลักตามแนวตะวันตก-ตะวันออก ของกทม. คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปี และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่านบนถนนศรีนครินทร์

จากแผนที่นี้จะเห็นได้ว่าโครงการตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพกรีฑา อยู่ติดกับโครงการแกรนด์ บางกอกบูเลอวาร์ด บนพื้นที่ 41 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี  2 ชั้น มี 3 แบบ ซึ่งในเฟส 1-3 ได้ Sold Out ไปแล้ว แต่ล่าสุดสำหรับเฟส 4 ที่มีการออกแบบใหม่ ทิศเหนือของโครงการจะติดกับถนนกรุงเทพกรีฑา ทิศใต้ของโครงการติดกับที่พักอาศัยแนวราบ สูง 1 – 2 ชั้น ทิศตะวันออกติดกับ รร.อนุบาลยุคลธรและที่พักอาศัยแนวราบสูง 1 – 2 ชั้น  ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Airport Link หัวหมาก, สนามบินสุวรรณภูมิ, ทางด่วนพระราม 9, โรงพยาบาล สมิติเวช

เริ่มต้นเดินทางจากถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสมุทรปราการ ช่วงเลยสี่แยกลำสาลีมาเล็กน้อย

เมื่อถึงสี่แยกกรุงเทพกรีฑา ให้ชิดซ้าย

เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑา

ช่วงนี้ให้ระวังการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ไว้ด้วยนะคะ

บรรยากาศภายในซอยค่ะ

ขับตรงเข้ามาเรื่อย ๆ ประมาณ 3.2 กิโลเมตร จะสังเกตเห็น โครงการแกรนด์ บางกอกบูเลอวาร์ดอยู่ทางขวามือ

ถัดมาก็จะพบกับบางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 9 – ศรีนครินทร์ อยู่เยื้องกับปั๊มน้ำมันบางจากค่ะ

แบบ SPACE พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถ

MODERNIZE พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องพักผ่อน 2 ที่จอดรถ

DWELLER พื้นที่ใช้สอย 287 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่าง แบบ SPACE พื้นที่ใช้สอย 214 ตร.ม. ซึ่งบ้านตัวอย่างจะมีเพียง 2 แบบนะคะ

ที่จอดรถหน้าบ้าน สามารถจอดได้ 2 คัน

เดินมาทางซ้ายมือ ตามทางเดินเพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน เป็นประตูกระจก 2 บาน

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะพบกับห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง เดินสวนกันได้สะดวก ไฟดาวไลท์แบบเดียวกันทั้งบ้าน พื้นชั้น 1 เป็นแกรนิตโต้ Floor to Ceiling 2.8 มีเครื่องปรับอากาศของไดกิ้นให้ด้วยค่ะ

สามารถวางโซฟาได้ถึง 4-5 ที่นั่ง รวมโต๊ะกลาง หรือโต๊ะข้างโซฟาได้อีกค่ะ หลังโซฟาจะเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บานใหญ่ จึงทำให้มีแสงสว่างเข้ามาอย่างเพียงพอ

มีพื้นที่ว่างระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องทานข้าวด้านหลัง(หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่น ๆ ก็ตามสบายเลยค่ะ) สามารถวางตู้หรือชั่นวางของสำหรับกั้นระหว่างห้องได้สบาย ๆ

หลังชั้นวางของก็จะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ จะให้ปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือโต๊ะทานข้าวก็ได้ค่ะ ด้านข้างและด้านหลังเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน สามารถออกสู่พื้นที่นอกบ้านได้

พื้นที่นอกบ้าน บริเวณด้านข้าง สามารถจัดตกแต่งสวน ปลูกต้นไม้ได้

เมื่อกลับเข้ามาในตัวบ้าน หันหลังให้ประตูกระจกเมื่อสักครู่ ก็จะพบกับพื้นที่ครัวเปิดด้านซ้าย ตรงข้ามกันด้านขวาเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้น 2

เมื่อเดินตรงมาเลยห้องครัวเปิดเข้าไป จะพบว่ามีอีก 3 ประตู ซึ่งด้านขวามือนี้ เป็นประตูที่ทะลุออกตรงลานจอดรถหน้าบ้านค่ะ

ส่วนประตูด้านซ้ายห้องแรกเป็นห้องน้ำ ห้องตรงกลางเป็นอีก 1 ห้องครัวไทย

ภายในห้องน้ำชั้น 1 ก็มีพื้นที่อาบน้ำ แยกโซนเปียกแห้งเอาไว้ด้วยค่ะ สุขภัณฑ์ใช้ของ Americanstandard

โดยพื้นที่ส่วนเปียกจะเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคต่างระดับ ซึ่งเป็นหลุมลงไป

เข้าไปดูห้องสุดท้ายของชั้น 1 กันค่ะ

ส่วนนี้จะเป็นห้องครัวที่ 2 ซึ่งเป็นห้องครัวไทย เรียกได้ว่าที่นี่ให้มาเป็น Double Kitchen ใครที่ชอบทำอาหารต้องถูกใจแน่นอนค่ะ เพราะการทำอาหารไทยนั้นจะมีควัน และกลิ่นที่มากกว่าอาหารฝรั่ง หากมาทำในส่วนนี้ก็จะแยกตัวออกมา ไม่รบกวนส่วนห้องนั่งเล่นได้ดีทีเดียว หรือต้องการจะใช้ครัวเดียวก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้อง Laundry ก็ได้ค่ะ

เมื่อเปิดประตูห้องครัวออกมาจะเป็นหลังบ้านค่ะ มีพื้นที่ไว้ตากผ้าได้อีกนะคะ ส่วนแท้งค์กับปั๊มน้ำทางโครงการมีมาให้

ลองขึ้นไปดูชั้น 1 บ้างค่ะ

บันไดไม้เนื้อแข็ง ราวบันไดเป็นเหล็กโปร่งสีดำ

เดินขึ้นไปชั้น 2 ตรงหน้าที่เห็นเลย คือ พื้นที่ว่าง พื้นของชั้น 2 ทั้งหมดเป็นลามิเนต Floor to Ceiling 2.7

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ของบ้าน สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามใจเลยค่ะ

เราหันมาดูข้างขวากันก่อน ซึ่งมี 2 ห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน

นี่คือห้องแรกทางซ้ายมือ อยู่ฝั่งหน้าบ้าน โดยทั้ง 3 ห้องนอนชั้น 2 นี้ มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ห้องน้ำในตัวของห้องแรกค่ะ โดยห้องน้ำจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด แต่ห้องนี้กระจกจะเป็นแนวยาว ด้านล่างกระจกสามารถวางของได้ตลอดแนว 

ห้องนอนที่ 2 ฝั่งหลังบ้าน ตรงข้ามกับห้องแรกค่ะ โดยห้องนี้จะกว้างกว่าห้องแรกเล็กน้อย ปลายเตียงสามารถวางโต๊ะทำงานได้

ห้องน้ำจะอยู่ถัดจากประตูห้องไปทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับหน้าต่างข้างเตียงค่ะ

มาถึงห้อง Master Room อยู่ทางซ้ายของบันได มุมนี้ถ่ายจากห้องนั่งเล่นส่วนกลางเข้าไปในห้องค่ะ

ด้านซ้ายมือของห้องจะเป็นห้องนอนค่ะ กว้างขวางมาก ทางเดินทั้ง 2 ข้างของเตียงก็กว้างดีค่ะ มีระเบียงเป็นประตูกระจก 2 บาน

หัวเตียงที่กว้างมากพอที่จะสามารถวางโต๊ะทำงานเล็ก ๆ ได้ด้วยนะคะ

ลองหันหลังให้ระเบียง ก็จะเห็นภาพรวมของห้อง ซึ่งขวามือเป็นประตูห้อง ด้านซ้ายเป็นโต๊ะทำงานขนาดค่อนข้างใหญ่ ส่วนตรงหน้าของเราเป็น walk in closet

ห้อง walk in closet ในขนาดกำลังพอดี ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าอยู่แทบด้านซ้าย ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมชั้นวาง มีฟังก์ชั่นที่ถูกใจสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบในการแต่งตัวแน่นอนค่ะ 

ห้องน้ำของ Master Room มีขนาดพอ ๆ กับห้องน้ำในตัวของห้องอื่น 

มาถึงบ้านแบบ MODERNIZE พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. 

พื้นที่จอดรถ 2 คัน

สังเกตว่าประตูทางเข้าจะเป็นกระจกที่มีมุมยื่นออกมาด้วย เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันค่ะ ว่ามุมที่ยื่นออกมานั้นจะมีอะไร

บริเวณหน้าบ้านสามารถจัดสวนเล็ก ๆ หรือทำทางเดินสวย ๆ ได้นะคะ

ประตูกระจก 2 บานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมเคลือบสีดำ

เมื่อเปิดประตูกระจกเข้ามาในตัวบ้าน ส่วนพื้นจะพบกับ Robi  ฟังก์ชั่นพื้นที่เก็บรองเท้า ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากบ้านแบบญี่ปุ่น พื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้ต่างระดับกับพื้นบ้าน แถมมีประโยชน์มากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนฝนตกแล้วรองเท้าของเราเปียกก็จะไม่เลอะเทอะพื้นบ้าน ไม่ต้องเอารองเท้าไว้นอกบ้านตากแดด ตากฝน ที่สำคัญป้องกันสัวต์เลื้อยคลานได้ด้วยนะคะ

ตู้ข้าง ๆ จะเป็นชั้นวางรองเท้า ที่ให้มาอย่างจุใจ และเก็บได้มิดชิดอย่างดีค่ะ

มาดูในบ้านกันต่อเลยค่ะกับห้องนั่งเล่นสวย ๆ กว้าง ๆ พื้นแกรนิตโต้ ไฟดาวไลท์

ลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่น ก็จะมีพื้นที่อีกส่วนสามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาดครอบครัวได้ มีประตูกระจกทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทำให้ดูโล่งสว่าง

ประตูกระจกด้านนี้ จะเป็นมุมยื่นออกไป

ลองออกไปดูพื้นที่ข้างบ้านกันค่ะ

พื้นที่ข้างบ้าน สามารถทำเป็นทางเดินไม้ระแนง จัดสวนก็ได้ค่ะ ส่วนรั้วสูง 1.5 เมตร

มุมระหว่างข้างบ้านกับหลังบ้านค่ะ

มุมระหว่างข้างบ้านกับหลังบ้านค่ะ

ส่วนนี้มุมข้างบ้านที่เชื่อมต่อหน้าบ้าน จะเห็นได้ว่ามีสามารถทำเป็นพื้นที่สีเขียวไว้ใกล้ ๆ ตัวได้นะคะ

กลับเข้ามาในตัวบ้าน จะเห็นอีกส่วนของบ้านที่ลึกเข้าไป ด้านซ้ายเป็นเคาน์เตอร์ครัวเปิดค่ะ

บรรยากาศส่วนครัวเปิด

เดินเข้ามาที่บันไดส่วนทางขวาของบ้าน จะเห็นว่ามีห้องอีก 3 ห้อง

ห้องแรกซ้ายมือจะเป็นอีกหนึ่งห้องนั่งเล่น ซึ่งทางโครงการตั้งใจจะทำให้เป็น Double Living Room เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับครอบครัวเวลามีแขกมาที่บ้าน แต่เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้อีกนะคะ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องโฮมเธียรเตอร์ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

หันหลังให้กับห้องเมื่อซักครู่ ก็จะเห็นห้องเก็บของใต้บันได และประตูทางเข้า-ออกกับที่จอดรถ

ถัดเข้ามาทางด้านซ้าย ห้องที่ 2 จะเป็นห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องน้ำชั้น 1 มีโซนเปียก แห้ง ใช้วัสดุกระเบื้องเซรามิค

ถัดมาจากห้องน้ำ คือห้องตรงสุดทางเดินของชั้น 1 คือห้องครัวไทยค่ะ เช่นเดียวกันกับบ้านแบบแรก คือ Double Kitchen หรือ ห้อง Laundry ค่ะ

ได้เวลาขึ้นชั้น 2 กันแล้วค่ะ บันไดเป็นไม้เนื้อแข็งเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ราวบันได้เหล็กโปร่งสีดำ 

มุมมองแรกของชั้น 2 เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ชั้น 2 นี้พื้นจะเป็นลามิเนตทั้งหมดค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางของชั้น 2 นี้ จะมีความกว้างมากกว่าบ้านแบบแรก

ทางขวามือจะมี 2 ห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน ลองเข้าไปดูห้องทางซ้ายกันก่อนนะคะ

ทางขวามือจะมี 2 ห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน ลองเข้าไปดูห้องทางซ้ายกันก่อนนะคะ

ห้องนอนแรก ฝั่งหน้าบ้าน สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

ข้างประตูห้อง จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีในตัวทุกห้องนอน

ภายในห้องน้ำ วัสดุกระเบื้องเซรามิค แยกโซนเปียก-แห้ง ด้วยพื้นต่างระดับ

เข้ามาดูห้องนอนที่ 2 ฝั่งตรงข้ามกับห้องแรกบ้างค่ะ

ด้านในสุดของห้อง เป็นห้องน้ำ

มีลักษณะเดียวกันทั้งหมดเลยค่ะ

เดินมาอีกฝั่งหนึ่งของชั้น 2 จะมี 1 ห้องนอนซึ่งเป็น Master Room เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบว่า ด้านซ้ายของห้องเป็นส่วนของเตียง

สามารถวางเตียงได้ขนาด 6 ฟุต แถมยังมีพื้นที่เหลือ ๆ สำหรับทั้ง 2 ด้านของเตียง

อีกฝากหนึ่งของห้องจะถูกกั้นเป็น walk in closet และห้องน้ำ

ภายใน walk in closet พื้นที่กว้างดีค่ะ

ภายในห้องน้ำของห้องนี้จะกว้างกว่าห้องอื่นเล็กน้อยค่ะ แต่ใช้วัสดุเดียวกันหมด

สุขภัณฑ์จะหันเข้ามุมพอดี ทำให้ส่วนแห้งกับส่วนเปียกแยกกันชัดเจนขึ้น

ออกมาดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันบ้างค่ะ

ข้างรั้วของโครงการจัดเป็นพื้นที่สีเขียว มีทางสำหรับวิ่งออกกำลังกายได้ด้วย ถนนเมนกว้าง 12 เมตร

รั้วโครงการเป็นรั้วโปร่ง สูง 3 เมตร

ถนนคอนกรีตภายในโครงการ กว้าง 9 เมตร

ภายในโครงการติดตั้งกล้อง CCTV 47 จุด พร้อมทั้งติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้บ้านทั้งหลังด้วยระบบ Magnetic และ Shock Sensor โดยสัญญาณนี้จะส่งไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยส่วนกลางทันทีที่เกิดเหตุ

ป้ายโครงการด้านหน้า

ระบบรักษาความปลอดภัยระดับ Triple Security ตลอด 24 ชม. โดยทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Gate เข้า-ออกด้วยระบบ Access Card

เมื่อผ่านประตูแรกมาแล้ว Sale Office จะอยู่ทางซ้ายมือเลยค่ะ ถือเป็นส่วนของ Guest Area สำหรับผู้เยี่ยมชมโครงการ แยกกับส่วน Residential Area เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน มีรถกอล์ฟรับ-ส่ง ภายในโครงการ

Sale Office จะรวมเป็นส่วนเดียวกันกับ Club House พื้นที่ 52 ตารางเมตร

สระว่ายน้ำระบบเกลือจะอยู่ซ้ายมือของอาคาร

แยกสระเด็ก-สระผู้ใหญ่

ที่ล้างตัวก่อนลงสระ  

ฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ

วิวจากห้องฟิตเนส

โครงการ Bangkok Boulevard พระราม9- ศรีนครินทร์ เป็นโครงการที่เปิดมาได้สักระยะแล้ว แต่ตอนนี้มีการเปิดเฟสใหม่ โดยมีการออกแบบใหม่ทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น หนึ่งใน Urban Sanctuary Collection แบบเรียบหรู ดีไซน์ออกมาได้กำลังพอดี มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ คือ SPACE, MODERNIZE และ DWELLER แตกต่างกันที่พื้นที่ใช้สอบรวมถึงฟังก์ชั่นภายในบ้าน ราคา 8.99-15.99 ล้าน ทั้งหมดมีเพียง 161 หลัง ทำเลที่ตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพกรีฑา สามารถทะลุถนนสายสำคัญทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนศรีนครินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ถนนรามคำแหง ห่างจากทางด่วนพระราม 9 เพียง 5 นาที ใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ราชมังคลากีฬาสถาน ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองวิ่งผ่านถนนศรีนครินทร์ และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้

จุดเด่นสำคัญอยู่ตรงพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว  และฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เองตามการใช้งานเจ้าของบ้าน ทั้ง Double Kitchen ครัวฝรั่งแบบเปิดในตัวบ้าน กับครัวไทยแบบปิด ยื่นออกจากตัวบ้านเป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันควันและกลิ่นเข้าสู่ตัวบ้าน ตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์ครอบครัวที่ชื่นชอบการทำอาหารได้ดีมาก ๆ หรือหากไม่ค่อยได้ใช้งานครัวมากนัก ก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องซักล้างได้สบาย ๆ Double Living Room ห้องนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวแยกออกมาจากส่วนแรกของบ้าน สำหรับเวลามีแขกมาบ้าน แล้วคนในครอบครัวก็สามารถย้ายไปนั่งอีกห้องหนึ่งได้ สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องนอนชั่นล่างสำหรับผู้สูงอายุ หรือห้องโฮมเธียรเตอร์ ก็ยังได้เช่นกัน และ Robi ที่ได้ไอเดียมาจากบ้านแบบญี่ปุ่น ของชานหน้าบ้านเล็ก ๆ ที่เข้ามาเป็นหลุมอยู่ในตัวบ้านด้านหน้า เพื่อป้องกันเวลารองเท้าเปียก พื้นบ้านจะไม้ไม่เปียกตามไปด้วย อีกอย่างการวางรองเท้าไว้ในตัวบ้านก็สามารถป้องกันแดด ฝน ยืดอายุการใช้งานให้กับรองเท้าได้อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงการป้องกันสัตว์ร้ายได้ด้วย สิ่งสำคัญอีกอย่างที่โครงการให้ความสำคัญ คือ ระบบรักษาความปลอดภัย ระดับ Triple Security ตลอด 24 ชม. ด้วยประตูทางเข้าโครงการแบบ Double Gate พร้อมติดตั้ง
สัญญาณกันขโมยในตัวบ้านมาให้ด้วย ระบบ Magneticและ Shock Sensor ทั้งหลัง หากเกิดเหตุฉุกเฉินพร้อมส่ง
สัญญาณแจ้งเตือน ไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยส่วนกลางทันที

เรียกได้ว่าโครงการนี้เกือบทุกอย่างให้มาแบบ Double ขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตามไลฟ์สไตส์ที่แตกต่างกันของแต่ละคน