FPT โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 แกร่ง โกยรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท
FPT โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 แกร่ง โกยรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท
บ้านเดี่ยวระดับบนผลตอบรับดี โรงงาน-คลังสินค้า-อาคารสำนักงานมีอัตราการเช่าสูง
กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2566 บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย กางผลประกอบการไตรมาส 3 (เม.ย. – มิ.ย. 66) มีรายได้ 4,468 ล้านบาท กำไรสุทธิ 396 ล้านบาท หลังธุรกิจที่อยู่อาศัยได้รับแรงตอบรับดี โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวเซกเมนต์ระดับบน ด้านธุรกิจอุตสาหกรรม – พาณิชยกรรมมีรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการเติบโตสูง รับอานิสงส์การย้ายและขยายฐานการลงทุนมาไทย รวมถึงการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเต็มที่ ส่วน ผลประกอบการ 9 เดือน (ต.ค. 65 – มิ.ย. 66) สามารถทำรายได้ 11,598 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,031 ล้านบาท
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า FPT สามารถสร้างรายได้ของไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2566 (เมษายน – มิถุนายน 2566) ได้อย่างมั่นคงจากธุรกิจที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยผลประกอบการไตรมาส 3 ของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2566 (มกราคม – มีนาคม 2566) มีรายได้รวม 4,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จาก 3,424 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จาก 318 ล้านบาทพร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญในการบริหารจัดการเงินทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพและคงสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อรองรับโอกาสการฟื้นตัวของตลาด ภายใต้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นในการรับมือสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงเสริมความพร้อมเข้าลงทุนธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการควบคู่กับการบริหารจัดการองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตามเป้าหมายในด้านผลประกอบการรอบระยะเวลา 9 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – มิถุนายน 2566) FPT มีรายได้รวม 11,598 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 7,691 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 2,061 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 1,846 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,031 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2566 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยสร้างรายได้ 2,708 ล้านบาท เป็นผลมาจากการออกแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่องและสามารถสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถกวาดยอดขายได้ 6,134 ล้านบาท โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปได้รับการตอบรับดี ซึ่งไตรมาส 3 ได้เปิดโครงการ อัลพีน่า พระราม 2 บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ราคา 20 – 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีโครงการดำเนินการอยู่ 78 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 108,700 ล้านบาท และในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2566 (กรกฎาคม – กันยายน 2566) เตรียมเปิดตัวบ้านและทาวน์โฮมเพิ่มอีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 2,830 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีแบ็กล็อกอีกกว่า 1,000 ล้านบาทที่จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมสามารถทำรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการได้ถึง 710 ล้านบาท แรงหนุนมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากยุทธศาสตร์ China Plus One และภูมิศาสตร์การเมืองโลกที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานและขยายการลงทุนมายัง
ประเทศไทย ซึ่งมีที่ตั้งบนทำเลยุทธศาสตร์พร้อมด้วยศักยภาพที่เหมาะกับการเป็นฐานการผลิต ทำให้โรงงานและคลังสินค้า
ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เช่า โดยได้ส่งมอบอาคารคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) ให้กับผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่อันดับต้นของเอเชียแปซิฟิก มีพื้นที่ใช้สอยรวม 20,000 ตร.ม. ในโครงการเฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (บางพลี 7) เฟส 2 จังหวัดสมุทรปราการ และสามารถรักษาอัตราการเช่าของพอร์ตโฟลิโอได้สูงถึง 86%
ด้านกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม พอร์ตโฟลิโอของอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอในพื้นที่ CBD และโครงการมิกซ์ยูสมีอัตราการเช่าสูงถึง 93% ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการที่รองรับการใช้งานของผู้เช่า ผู้ใช้อาคาร และลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยล่าสุดอาคารที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการทั้งปาร์คเวนเชอร์ เอฟวายไอ เซนเตอร์ และสามย่านมิตร
ทาวน์ผ่านการรับรองจาก WiredScore มาตรฐานระดับโลกการันตีความสามารถด้านการเชื่อมต่อและโครงสร้างด้านสาธารณูปโภคดิจิทัลของอาคารเทียบเท่าในระดับสากล ส่วนศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์และสีลมเอจมีทราฟฟิกสูงต่อเนื่อง เป็นผลจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยมากขึ้น ซึ่งจากการขยายตัวของภาคท่องเที่ยวได้ส่งผลบวกต่อธุรกิจโรงแรมด้วยเช่นกัน
จากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่เติบโตขึ้น รวมถึงรายได้ค่าบริหารจัดการ การขายที่ดิน และการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท ย่อยที่ดำเนินธุรกิจด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของ FPT ที่ปรับการใช้เงินลงทุนในอนาคตเพื่อมุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจหลัก ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ รับรู้รายได้อื่น ๆ รวม 1,050 ล้านบาท สำหรับโครงการในอนาคต FPT มีแผนพัฒนาสินทรัพย์โครงการเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ตเมนต์ (Mayfair Marriott Executive Apartment) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เพื่อเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ และเพิ่มผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน ไตรมาส 3 (เมษายน – มิถุนายน 2566)
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน | ไตรมาส 3/2566 (เมษายน – มิถุนายน) (ล้านบาท) |
รายได้รวมสุทธิ | 4,468 |
– รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ | 2,708 |
– รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ | 710 |
– รายได้อื่น ๆ | 1,050 |
กำไรสุทธิ | 396 |
ตารางเปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้านการเงิน รอบระยะเวลา 9 เดือน (ตุลาคม 2565 – มิถุนายน 2566)
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน
รอบระยะเวลา 9 เดือน |
2566 (ล้านบาท) |
2565 (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) Y-o-Y |
รายได้รวมสุทธิ | 11,598 | 11,830 | -232 | -2.0 |
– รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ | 7,691 | 8,457 | -766 | -9.1 |
– รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ | 2,061 | 1,728 | 333 | 19.3 |
– รายได้อื่น ๆ | 1,846 | 1,645 | 201 | 12.2 |
กำไรสุทธิ | 1,031 | 1,740 | -709 | -40.7 |
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer