ทำเลและการเดินทาง

จากแผนที่จะเห็นได้ว่า  Mori Haus Sukhumvit 77 (โมริ เฮาส์ สุขุมวิท 77) ตั้งอยู่ในพื้นที่ T77 (Sansiri Town Sukhumvit 77) เป็นทำเลที่สะดวกทั้งเรื่องของการเดินทาง โดยด้านหน้าโครงการติดกับซอยสุขุมวิท 77 ระหว่างซอยอ่อนนุช 1 และอ่อนนุช 3 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 1.4 กิโลเมตร มีสะพานแสนสำราญเชื่อมไปอีกฝั่งซึ่งเป็นด้านหลัง สามารถทะลุออกใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แล้วยูเทิรน์ไปซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งเชื่อมกับซอยสุขุมวิท 71 หรือจะขึ้นทางด่วนตรงด่านพระขโนงก็มีระยะทางแค่ 500-600 เมตร ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมากมาย เช่น บิ๊กซีอ่อนนุช ที่สามารถเดินถึงได้ด้วยระยะทางไม่เกิน 200 เมตร BTS อ่อนนุช, โลตัสอ่อนนุช, สถานีตำรวจพระขโนง ฯลฯ

เริ่มต้นการเดินทางจาก BTS พระขโนง ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าสู่อ่อนนุช

ผ่านสามแยกพระโขนง

เลี้ยวซ้ายที่แยกอ่อนนุช เข้าสู่ซอยสุขุมวิท 77

เลี้ยวซ้ายระหว่าง Blocs77 และ The Base Sukhumvit77 เข้าสู่อาณาจักร T77

ว

ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ด่านแรกของทางเข้าด้านหน้า แต่หากใครอยากใช้ตรงนี้เป็นเส้นทางลัดเพื่อออก ซอยสุขุมวิท 71 หรือขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็สามารถผ่านได้ค่ะ โดยต้องเสียค่าผ่านทางรถยนต์ 20 บาท/เที่ยว จักรยานยนต์ 10 บาท/เที่ย

หลังจากผ่านระบบรักษาความปลอดภัยด้านหน้ามาแล้ว ก็จะขึ้นสะพานข้ามคลองพระขโนง ซึ่งมีทางเดินเท้าแยกอยู่ด้านข้าง

เมื่อลงสะพานจะเห็นคอนโด The Base Park West Sukhumwit 77 ตั้งตระหง่านอยู่ทางซ้ายมือ

เลี้ยวขวาเข้าสู่ภายในคอมมูนิตี้ Habito ซึ่ง Sales Gallery จะตั้งอยู่บนชั้น 3

เรามาดูทางเข้า-ออกด้านหลังกันบ้างค่ะ เส้นทางนี้จะตั้งอยู่ระหว่าง The Base Park West กับ The Base Park East

เมื่อออกมาจากโครงการแล้วจะเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้าย

ยูเทริน์ใต้ทางด่วน

เมื่อยูเทริน์แล้ว เลี้ยวซ้ายซอยแรกจะก็จะเข้าสู่ซอยปรีดีพนมยงค์ 2 แต่หากไม่เลี้ยวซ้าย สามารถตรงไปประมาณ 400 เมตรก็จะพบกับด่านพระขโนง ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ก็คึกคักไม่เบาเหมือนกันค่ะ

พอถึงปากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ก็จะถึงซอยสุขุมวิท 71 บังคับเลี้ยวซ้ายก็จะเข้าสู่สามแยกพระโขนง

Master Plan Ground Floor เป็น 2 อาคาร รูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ทางเข้า-ออกหลัก อยู่ด้านทิศตะวันตก ทางออกที่ 2 ทิศใต้ มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร A และ B ซึ่งมีกว่า 2,000     ตร.ม. พื้นที่โดยรอบเน้นต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น ตามคอนเซ็ปต์ TREES OF LIFE

Floor plan อาคาร A ชั้น 2 จำนวน 23 ยูนิต Corridor 1.5 เมตร ลิฟท์ 2 ตัว แบบล็อคชั้น บันไดหนีไฟ 3 จุด วิวภายนอกหันหน้าทิศเหนือ และทิศตะวันตก ส่วนวิวสระว่ายน้ำหันทางทิศใต้ และตะวันออก

Floor plan อาคาร  B ชั้น 2 จำนวน 19 ยูนิต Corridor 1.5 เมตร ลิฟท์ 2 ตัว แบบล็อคชั้น บันไดหนีไฟ 3 จุด วิวภายนอกหันหน้าทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนวิวสระว่ายน้ำหันทางทิศเหนือ และตะวันตก

Floor plan อาคาร  A ชั้น 3 จำนวน 24 ยูนิต

Floor plan อาคาร  B ชั้น 3 จำนวน 20 ยูนิต

Floor plan อาคาร  A ชั้น 4 จำนวน 24 ยูนิต

Floor plan อาคาร  B ชั้น 4 จำนวน 20 ยูนิต

Floor plan อาคาร  A ชั้น 5 จำนวน 24 ยูนิต

Floor plan อาคาร  B ชั้น 5 จำนวน 20 ยูนิต

Floor plan อาคาร  A ชั้น 6 จำนวน 24 ยูนิต

Floor plan อาคาร  B ชั้น 6 จำนวน 20 ยูนิต

Floor plan อาคาร  A ชั้น 7 จำนวน 24 ยูนิต

Floor plan อาคาร  B ชั้น 7 จำนวน 20 ยูนิต

Room Layout  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด35.00-35.75 ตร.ม.

Room Layout  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด35.75-36.00 ตร.ม.

Room Layout  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 46.00-46.75 ตร.ม.

Room Layout  1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 47.25-47.75 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 67.50 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 68.50 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 68.25 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 69.25 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 80.75-81.00 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 82.00 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 82.00 ตร.ม.

Room Layout  2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 82.75-83.00 ตร.ม.

Room Layout  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 116.50 ตร.ม.

Room Layout  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 117.50 ตร.ม.

แผนผังของบริเวณ T77 ทั้งหมด โดย Mori จะอยู่สุดถนนของโครงการ ซึ่งสมารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากสุขุมวิท 77 และสุขุมวิท 71 เข้าจากซอยปรีดีพนมยงค์

โมเดลด้านอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารด้านหน้าของโครงการ ทางเข้าโครงการจะหันไปยังทิตะวันตก ถ้าดูจากโมเดลแล้ว ตัวโครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ท โดยเน้นต้นไม้ สีอาคาร ดูแล้วให้ความเป็นธรรมชาติ ดูร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อน

ทางเข้า-ออก มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นด่านที่ 2 ถ้านับจากการเข้ามายัง T77 รั่วโดยรอบเป็นแบบโปร่งสลับทึบ สูง 3 เมตร

โมเดลด้านข้างระหว่างอาคาร A และ B ด้านทิศเหนือ

มุมด้านบนจะเห็นว่าทั้งสองอาคารมีลักษณะรูปตัว L โอบเข้าหากัน

ทิศตะวันออก อาคาร B

ทิศใต้ที่จะห่างจากโครงการ park count ที่กำลังก่อสร้างเช่นเดียวกัน ซึ่งห่างกันถึง 20-25 เมตร ทำให้ผู้พักอาศัยในทิศนี้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป

บริเวณส่วนกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคาร A และ B มีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร จะมีทั้ง The  glass ที่จะเป็นล็อบบี้ให้ได้นั่งพักผ่อนพร้อมฟรี wifi ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ สระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์ม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกสดชื่นแก่ผู้พักอาศัย

ภาพรวมอีกมุมหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า Mori Haus อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนพื้นที่สีเขียวรายล้อม เสมือนนำรีสอร์ทสวย ๆ มาตั้งไว้กลางกรุงเทพ

เรามาชมห้องตัวอย่างก่อนสัมผัสบนพื้นที่จริงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2560 จากทางโครงการ ตั้งอยู่ใน Habito ชั้น 3 แต่ห้องตัวอย่างจะมีให้ชมเพียง 1 ห้อง จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 68.50 ตร.ม.

ประตูเป็นระบบ Digital Lock ของ samsung เพื่อความปลอดภัยของเจ้าของห้อง

ภาพแรกที่เห็นเมื่อชมห้องตัวอย่าง เพดานมีความสูงโปร่ง  Floor to Ceiling ความสูง 2.7 เมตร ไม่รู้สึกถึงความอึดอัด โดยด้านขวามือจะเป็นตำแหน่งที่ Built ตู้สำหรับใส่รองเท้า และอุปกรณ์อื่นๆ บนตู้สามารถเป็นที่วางของ หรือตกแต่งด้วยดอกไม้ ห้องที่นี่จะให้เป็น Fully Fitted นะคะ พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้สวยงาม

กลางห้องจะเป็น living room พื้นที่กว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 คนได้สบาย ๆ

ด้านขวาติดกับประตูด้านหน้า และ living room จะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนไว้อย่างได้ดี

เคาน์เตอร์ด้านหน้าประตูทางเข้า ลิ้นชักทั้งหมดเป็นแบบ soft close สำหรับเป็นตู้รองเท้า และเก็บของอื่นๆ

เคาน์เตอร์ด้านหน้าประตูทางเข้า ลิ้นชักทั้งหมดเป็นแบบ soft close สำหรับเป็นตู้รองเท้า และเก็บของอื่นๆ

กระจก Double Skin แบบตัดแสง UV ขอบกระจกอลูมิเนียม เคลือบพาวเดอร์โค้ทสีดำ จะมีความสูงเท่าเพดาน ทำให้รู้สึกโปร่ง มีแสงสว่างส่องเข้ามาอย่างเพียงพอ

บริเวณระเบียงห้อง กั้นด้วยรั้วเหล็กโปร่งสีดำ

คอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศที่อยู่ตรงระเบียง หันหน้าออกข้างนอกมีไม้ระแนงกั้นเพื่อระบายความร้อนออกสู่

ภายนอกระเบียงกว้าง 1.5 เมตร สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นได้

เราเข้ามาเดินชมบริเวณ Living Area กันต่อ ด้านหลังโซฟา สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้มากถึง 4-6 ที่ แถมยังมีพื้นที่เหลือๆ ดูแล้วไม่อึดอัด

ระยะห่างระหว่างโซฟา และโทรทัศน์ ประมาณ 1-1.50 เมตร เป็นระยะที่็นระยะธนกำลังพอดีไม่ชิดจนเกินไป

อีกมุม Living room ซึ่งจะเห็นห้องครัว(ปิด) จะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวห้อง ซึ่งส่วนครัวนี้จะถูกกั้นด้วยกระจก และประตูกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งจะมีระบบระบายอากาศแบบพิเศษ ทำให้เวลาทำครัวหนัก เบา เรื่องกลิ่น และควัน ลดน้อยลง

ด้านหลังโซฟา พื้นที่เหลือๆ ถือว่าให้พื้นที่ Living room มากทีเดียว รองรับผู้อยู่อาศัยแบบเป็นครอบครัวได้

ด้านในห้องครัวขนาดกำลังพอดี ท็อปเคาน์เตอร์ทำจากหินสีดำ มาพร้อมกับ Hood Hob

ลิ้นชักและประตูทุกบานเป็นแบบ soft close มีฟังชั่นตอบโจทย์การใช้งานครบถ้วน

มุมนี้ถ่ายจากหน้าประตูห้องนอนใหญ่ ลองเข้าไปดูห้องนอนเล็กด้านซ้ายของห้องกันก่อนค่ะ

หากเปิดประตูห้องแล้วหันมาทางซ้ายมือจะเห็นมุมมองนี้ ซึ่งเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำติดกับประตูค่ะ

ประตู Double access เชื่อมระหว่างห้องนอนเล็ก และ Living room

มาถึงห้องนอนใหญ่กันแล้วนะคะ  โดยห้องนี้จะอยู่ทางขวามือของห้อง กว้างขวางเหมาะแก่การพักผ่อนมากค่ะ

อีกมุมของห้องนอนใหญ่ มีทางเดินทั้งสองด้านของเตียง แถมปลายเตียงยังสามารถวางโต๊ะเล็กๆได้อีกค่ะ และมีตู้เสื้อผ้า   ให้เช่นกัน

กระจกภายในห้องนอนเป็นบานใหญ่ สูงชนเพดานเช่นเดียวกันกับ living room ทำให้ห้องดูโล่ง โปร่งมากขึ้น

ห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่ค่ะ

มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยค่ะ

ซ้ายมือกั้นโซนเปียก กระจกจะมีลักษณะยาวกว่าห้องเล็กค่ะ แต่จะมีไฟเป็นกรอบกระจกเหมือนกัน

พื้นระหว่างห้องนอนที่เป็นลามิเนตลายไม้ และพื้นห้องน้ำเป็นเซรามิคลายหินอ่อน

โซนอาบน้ำแบบ Shower พร้อม Rain Shower

บริเวณส่วนกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคาร A และ B มีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร จะมีทั้ง The  glass ที่จะเป็นล็อบบี้ให้ได้นั่งพักผ่อนพร้อมฟรี wifi ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ สระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์ม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกสดชื่นแก่ผู้พักอาศัย

โครงการ Mori Haus ตั้งอยู่ภายในอาณาจักร T77 (Sansiri Town Sukhumvit77) ซอยสุขุมวิท77 ย่านอ่อนนุช ซึ่งก่อนหน้านี้ แสนสิริได้เปิดตัวคอนโดในบริเวณนี้ไปแล้วทั้งสิ้น  5 โครงการ ได้แก่ Blocs77, Thebase sukhumvit77, The Base Park West, The Base Park Est, Hasu Haus และยังมีโครงการทาว์เฮาส์ 4 ชั้น อย่าง Garden Square อีกด้วย แต่ละโครงการได้รับกระแสตอบรับจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างล้นหลาม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า

ทำเลนี้ถือเป็นบริเวณหนึ่งที่ผู้คนเลือกอาศัยอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพทั้งทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมในบริเวณนี้ เช่น บิ๊กซี อ่อนนุช,โลตัส อ่อนนุช เป็นต้น และด้านการเดินทางไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่สามารถเข้า-ออกได้ทั้งสองเส้นทางสำคัญ คือ ด้านหน้าเป็นซอยสุขุมวิท 77 ซึ่งหากตรงเลยไปเรื่อย ๆ จะสามารถเข้าสู่ถนนศรีนครินท์ ถนนพัฒนาการ ผ่านแยกประเวศไปจนถึงลาดกระบังได้เลย ส่วนด้านหลังเป็นซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งทะลุออกสุขุมวิท 71 สู่แยกพระขโนง หรือจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็ระยะทางเพียงประมาณ 500 เมตร จากทางออกด้านหลัง แต่หากไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน ด้วยทางโครงการมีรถรับ-ส่ง ถึง BTS อ่อนนุช ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร แต่ขากลับจาก BTS เข้าคอนโดอาจต้องใช้รถโดยสารค่ะ เพราะระยะทางหากเดินอาจได้เหงื่อบ้าง โดยอาตเรียกวินมอเตอร์ไซต์, แท็กซี่ ไปถึงหน้าคอนโดเลย หรือสองแถวลงหน้าโครงการค่ะ

ตัวโครงการ Mori Haus หากเข้าจากทางสุขุมวิท 77 จะต้องข้ามสะพานแสนสำราญก่อน เมื่อลงสะพานจะเห็น Community mall Habito อยู่ทางขวามือ แล้วเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร มาสุดโครงการก็จะพบกับ Mori Haus อยู่ทางขวามือ รวมระยะทางเข้ามาประมาณ 700 เมตร ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนพฤศจิกายน ปี2560 แต่หากท่านใดสนใจเข้ามาชมห้องตัวอย่างก่อนได้ที่สำนักงานขาย บน Habito ชั้น 3

แน่นอนว่าเมื่อเราเลือกทำเลในการเดินทางได้สะดวกโดยเฉพาะการเข้าเมือง ก็ต้องแลกมากับสภาพแวดล้อมที่เป็นเขตชุมชนเมืองใหญ่ ซึ่งตามมาด้วยมลภาวะทางอากาศและเสียง แต่จุดนี้ไม่ใช่กับ Mori Haus แน่นอน เพราะแสนสิริ           มีคอนเซปต์ที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจนมาก คือ Trees of Life ที่ต้องการนำป่าขนาดย่อมมารายล้อมในโครงการ ให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสกับความรู้สึกถึงคำว่า “บ้าน” จริง ๆ ตั้งแต่หน้าโครงการที่มีต้นไม้อยู่รอบ ๆ การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ทั้งหน้าทางเข้า T77 และหน้าโครงการเอง รั้วสูง 3  เมตร ถนนภายในกว้าง 6 เมตร ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 2,000 ตารางเมตร สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มออกแบบสไตล์รีสอร์ท จุดกว้างที่สุด 10 เมตร จุดแคบที่สุด 5 เมตร และจุดยาวที่สุด 25 เมตร พื้นที่สีเขียวเน้นไม้ยืนต้นรอบสระน้ำ พร้อมฟรี wifi ทั่วบริเวณ มีส่วนที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติขนาดย่อมนี้ โดยแยกออกมาจากตัวอาคาร เรียกว่า The Glass Haus เป็นล็อบบี้ และห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครัน สูง 3.5 เมตร หลังคาจัดเป็นพื้นที่สวนเพื่อสร้างความกลมกลืน สามารถขึ้นไปนั่งชมทัศนียภาพของสระว่ายน้ำ และสวนส่วนกลางอีกมุมหนึ่งได้ ทางเข้าโครงการหันหน้าทางทิศตะวันตกตรงข้ามโรงเรียนบางกอกเพลส และทางด่วน ทิศตะวันออกและทิศเหนือจะโล่งไม่มีอาคารสูงบดบัง ทิศใต้จะติดกับ park count ซึ่งห่างกันประมาณ 20-25 เมตรภายในโครงการ

เข้ามาส่วนห้องพัก มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ตั้งแต่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ไปจนถึง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องพักหน้ากว้างพื้นที่ภายในเหมาะสำหรับครอบครัว ภายในห้องจะรู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่ง เพราะความสูง Floor to Ceiling ให้มาถึง 2.7 เมตร ส่วนในห้องน้ำอยู่ที่ 2.5 เมตร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคอนโด Low Rise จะมีความสูงภายในห้องประมาณ 2.4 กระจกทั้งหมดสูงชิดเพดาน ทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความสบาย ไม่อึดอัด แสงสว่างเข้ามาเพียงพอ พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้ ส่วน Living Room พื้นที่มากพอสำหรับวางโซฟา กับโต๊ะอาหาร ถือเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวที่ทำออกมาได้เหมาะ สำหรับทุกวัย ระเบียงขนาด 1.5 เมตร ถือว่ามาตรฐาน การวางคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศถือว่าอยู่ในจุดที่ดี มีการติดระแนงไม้ เพื่อไล่ลมร้อนออกสู่ภายนอก ในบางชั้นมีการปลูกต้นไม้ในกระถางใหญ่มาให้ แต่บางชั้นจะทำกระจกดับเบิ้ล    สกินสูงถึงฝ้าคลุมตัวระเบียง ส่วนห้องครัวที่เชื่อมต่อกับ Living Room ให้ชุดเคาน์เตอร์ TOP แกรนิตสีดำ ดูโมเดริน์ทันสมัย พร้อม Hood Hob พิเศษด้วยเทคโนโลยีระบบระบายอากาศแบบทำให้เวลาทำครัวไม่ว่าจะหนัก หรือเบา ก็หมดปัญหาเรื่องกลิ่น ควันลดน้อยลง ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของห้อง มีเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าให้ ห้องน้ำจะเป็นประตูแบบ Double access เชื่อมระหว่างห้องนอนเล็ก กับ Living room ถือว่าสะดวกทั้งผู้อยู่อาศัยและแขก ภายในห้องน้ำเป็นพื้นแกรนิตลายหินอ่อน ประกอบกับกรอบไฟตรงกระจกเหนืออ่างล้างหน้าดูเรียบหรู พร้อมมีฉากกั้นให้ แยกโซนเปียก-แห้ง พร้อม Rain Shower สุดท้ายภายในห้องนอนใหญ่อยู่ทางขวามือสุด จะให้ของมาเหมือนกับห้องนอนเล็ก แต่จะมีห้องน้ำในตัวที่เพิ่มอ่างอาบน้ำไว้ให้ด้วย

เรียกได้ว่าโครงการ Mori Haus มีความใส่ใจรายละเอียดของตัวห้อง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใส่เข้ามาให้ หรือฟังชั่นการใช้งานต่าง ๆ และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกบ้านตามคอนเซปต์ Trees of Life ได้ดีทีเดียวค่ะ