ทำเลและการเดินทาง

Parkway@Ease โครงการบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 190/1 ซึ่งเป็นซอยที่เป็นโครงการบ้านของธารารมณ์โดยเฉพาะ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มจากศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุดที่แยกรามคำแหง-สุวินทวงศ์) ผ่านหน้าโครงการพอดี หน้าโครงการมี Sports&Spa ที่มีชื่อเสียง ทั้งสนามกีฬาหลากหลายประเภทที่ได้มาตรฐานในการแข่งขันระดับประเทศ คลาสเรียนออกกำลังกายก็มีให้เลือกครบ ฝั่งตรงข้ามก็มีโลตัส บิ๊กซี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อยู่ล้อมรอบ

พื้นที่สีเขียวทั้งหมดนี้เป็นของธารารมณ์ค่ะ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด สีฟ้าคือพื้นที่ของ Sports&Spa ส่วนโครงการ Parkway@Ease จะอยู่ท้ายสุดตรงพื้นที่สีน้ำเงิน

เริ่มต้นการเดินทางบนถนนรามคำแหง ฝั่งขาออก ผ่านจุดขึ้น-ลง ถนนกาญจนา วงแหวานรอบนอกฝั่งตะวันออก

ตรงผ่านแยกมิสทีน

ก่อนถึงแยกลาดบัวขาว ให้ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลย

ลงสะพานมาแล้วจะเจอโลตัส กับบิ๊กซี อยู่ติดกันทางซ้ายมือ สังเกตทางขวามือจะเห็นป้ายโครงการขนาดใหญ่

เลยบิ๊กซีมาไม่ไกล ให้ชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพาน

กลับรถใต้สะพาน

เมื่อกลับรถแล้ว ผ่านเคกะรามคำแหง ให้ชิดซ้ายไว้

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามคำแหง 190/1 ติดถนนใหญ่ด้านหน้าจะมี Sale Office ตั้งอยู่

แปลนบ้านแบบ Momento 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 50 ตร.ว. ขึ้นไป

ชั้นล่าง จากประตูทางเข้าหน้าบ้าน ห้องแรกจะเป็นห้องรับแขก พื้นที่ขนาด 3.60*3.10 ม. ถัดเป็นพื้นที่เดียวกันเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4-6 ที่นั่ง ซ้ายมือเป็นประตูกระจกสามารถออกไปทางข้างบ้านได้ หลังโต๊ะทานข้าวเป็นห้องครัว พื้นที่ขนาด 3.00*2.80 ม. มีประตูออกไปทางหลังบ้านทำเป้นพื้นที่ซักล้างได้ บันไดอยุ่ตรงกลางบ้านติดกับห้องครัว มีห้องเก็บของใต้บันได มีห้องนอนทางขวามือของบ้าน พื้นที่ขนาด 2.70*3.60 ม. มีประตูกระจกออกไปทางข้างบ้านได้ ติดกับห้องนอนเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง พื้นที่ขนาด 2.70*1.60 ม.

ชั้นบน จากบันไดตรงกลางบ้าน ซ้ายมือทางด้านหลังบ้านเป็นห้องนอนแรก พื้นที่ขนาด 3.00*3.20 ม. ติดกัยเป็นห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง พื้นที่ขนาด 1.40*3.00 ม. ตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องนอน พื้นที่ขนาด 2.70*4.30 ม. มีประตูเชื่อมต่อกับ Master Bedroom ทางหน้าบ้าน พื้นที่ขนาด 6.00*3.90 ม.มีระเบียงหันออกทางหน้าบ้าน พื้นที่ขนาด 4.90*1.00 ม. และห้องน้ำในตัว พื้นที่ขนาด 1.80*2.70 ม.

มาเริ่มดูกันตั้งแต่หน้าโครงการค่ะ แต่ละโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแยกกัน เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีระบบการผ่านเข้า-ออกด้วยบัตร Smart Card 

ข้างป้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นนิติบุคคลของโครงการ Parkway ซึ่งนิติบุคคลก็จะแยกกันแต่ละโครงการเช่นเดียวกัน

บรรยากาศภายใน Parkway@Ease โครงการนี้มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ แต่ในวันนี้ที่เราจะพามาดูกันมีเพียงแบบ Momento ซึ่งมีบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งต่างกัน 2 หลัง และบ้านเปล่าที่ลูกบ้านจะได้จริง ๆ อีก 1 หลังค่ะ

ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วกว่า 30 ยูนิต ซึ่งจะใช้เวลาสร้างจนเสร็จ 100% ทั้งหมด 70 ยูนิต ภายในกลางปีหน้า

เริ่มจากบ้านตัวอย่างหลังแรกกันค่ะ ในสไตล์ Modern Contemporary

หน้าบ้านและข้างบ้านทั้งสองฝั่งมีพื้นที่สำหรับจัดสวน หรือทำเป็นที่นั่งเล่นรับลมนอกบ้านได้

มีพื้นที่จอดรถได้ประมาณ 2 คัน

ประตูหน้าบ้านทุกหลังจะได้เป็นบานไม้สัก ถูกยกสูงขึ้นพร้อมมีเฉลียงหน้าบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

เปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปจะพบกับห้องรับแขกด้านหน้า มีพื้นที่ว่างตรงกลางสำหรับวางโต๊ะทานอาหารก่อนถึงห้องครัว มองไปทางด้าขวาจะเป็นบันได ห้องนอนชั้นล่าง และห้องน้ำ

ไฟใช้แบบดาวไลท์ พื้นปูด้วยแกรนิโต ความสูง Floor to Ceiling 2.8 เมตร

พอก้าวเข้ามาในบ้านสิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือ บ้านมีความสว่างจากแสงธรรมชาติด้านนอกที่ส่องเข้ามาถึงด้านใน ที่สำคัญเลยคือบ้านไม่ร้อนค่ะ

มองออกไปทางหน้าบ้าน จะมีกระจกเข้ามุมที่สามารถมองออกไปทางหน้าบ้านได้ชัดเจน ซึ่งหากมองจากนอกบ้านแบบเมื่อสักครู่ กระจกตรงนี้จะอยู่ข้างประตูบานไม้สัก

ขนาดห้องรับแขกมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาเข้ามุมพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้

ประตูทางซ้ายมือนี้เชื่อมต่อมาจากโรงจอดรถ คือสามารถจอดรถในบ้านแล้วเข้าทางประตูนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินกลับไปทางหน้าบ้าน

ถัดเข้ามาในตัวบ้านจากห้องรับแขก จะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะสำหรับทานอาหาร เชื่อมต่อกับห้องครัวด้านหลังสุด และประตูกระจกออกไปทางื้นที่ข้างบ้าน

พื้นที่กลางบ้านนี้สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4-6 ที่นั่ง แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบโต๊ะได้อย่างสบาย ๆ

เข้าไปดูในห้องครัวปิดกันบ้างค่ะ เมื่อวางเคาน์เตอร์ครัวตามบ้านตัวอย่างนี้แล้วจะพบว่า ยังมีพื้นที่ให้ได้ใช้สอยอย่างสะดวก มีหน้าต่างเป็นกระจกบานสไลด์อยู่ 2 ด้านของกำแพง และด้านในสุดเป็นประตูออกทางด้านหลังบ้าน

O

ห้องครัวถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 2 บาน ขอบอลูมิเนียมเคลือบ Powder Coating ทำให้ห้องครัวดูไม่อับ ทึบ

มีพื้นที่หลังบ้านให้พอสมควร สามารถทำเป็นพื้นที่ตากผ้า และจัดสวนหลังบ้านได้อีก

ประตูไม้ MDF สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ เป็นทางออกไปทางหลังบ้าน

กลับเข้ามาดูในตัวบ้านกันบ้างค่ะ ถัดจากห้องครัวจะเป็นบันได ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องเก็บของ

มาดูห้องนอนชั้นล่าง บ้านตัวอย่างหลังนี้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องสำหรับเลี้ยงเด็กเล็ก ครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กที่ต้องคอยดูแลในช่วงกลางวันก็จะสามารถแยกมาเล่น หรือนอนกลางวันในห้องนี้ได้อย่างสะดวกมากกว่าการขึ้น ๆ ลง ๆ บันไดบ้าน มีกระจกออกไปทางด้านข้างบ้าน และกระจกตรงกับโรงจอดรถ

ติดกับห้องนอนชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำ แยกส่วนเปียก-แห้ง พื้นกับผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ใช้แบรนด์ American Standard

สุขภัณฑ์ใช้รุ่นที่ผสาน Anti-Bacterial Finish ตลอดอายุการใช้งานจากแบรนด์ American Standard

ทางโครงการมีกระจกกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ด้วยเลยค่ะ ซึ่งใช้กระจกแบบ Tempered Glass (หากแตกจะเป็นเม็ดข้าวโพด ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเป็นอันตรายได้)

กลับมาที่บันไดก่อนจะขึ้นไปดูชั้น 2 ค่ะ

เป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีต ใช้ไม้ Engineered Wood เคลือบสี UV Lacquer ซึ่งมีคุณสมบัติด้านความทนทาน ลดการบิดตัว โค้งงอ ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้

ตรงที่พักบันไดมีกระจกทรงสูง แบบบานกระทุ้ง เพิ่มแสงสว่างให้กับบันได ลดการเกิดอุบัติเหตุได้

ชั้น 2 มีทั้งหมด 4 ห้อง คือ 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้อง)

มาดูห้องฝั่งทางขวามือกันก่อนค่ะ ขวามือเป็นห้องนอน ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

ห้องนอนที่ติดกับห้องน้ำนี้เป็นห้องที่อยู่ทางหลังบ้าน มีหน้าต่างกระจกบานสไลด์ 2 บาน พื้นห้องของชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยลามิเนต

ห้องน้ำจะมีลักษณะเหมือนกับด้านล่างค่ะ คือมีอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ถัดเข้าไปเป็นสุขภัณฑ์ และแยกส่วนเปียก-แห้ง กั้นด้วยกระจากแบบ Tempered Glass เช่นกัน

มาดูห้องทางฝั่งด้านซ้าย และตรงกลางกันบ้างค่ะ

เริ่มจากห้องทางซ้ายมือกันก่อนค่ะ มีขนาดใกล้เคียงกันกับห้องนอนเมื่อสักครู่ มีหน้าต่างกระจก 2 จุดเช่นกัน

ห้องนี้มีลักษณะเป็น Connecting Room กั้นประตูไม้ MDF แบบบานสไลด์ เชื่อมกันกับ Master Bedroom จุดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความใกล้ชิดกันกับครอบครัวที่มีเด็กแยกห้องนอน แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่

ผ่าน Connecting Door เข้ามาดูกันที่ Master Bedroom

Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวางมาก ขนาดความยาวเท่ากับตัวบ้าน 

หัวนอนมีหน้าต่างบานกระจกถึง 3 จุด สามารถวางเตียงขนาดคิงไซต์แล้วยังมีทางเดินได้รอบเตียง

มองจากทางปลายเตียง ด้านขวาจะเป็นประตูกระจกบานสไลด์ 2 บาน ออกไประเบียงหน้าบ้าน ตรงลึกเข้าไปทางขวามือมีห้องน้ำในตัว

ภายในห้องน้ำวางแปลนแบบเดียวกันกับห้องน้ำด้านนอก เพียงแต่มีขนาดกว้างกว่า ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องที่มีลวดลายมากกว่า

อ่างล้างหน้าใช้แบบฝังเคาน์เตอร์ เพิ่มพื้นที่สำหรับวางของได้มากขึ้น สุขภัณฑ์อยู่ถัดไปทางด้านขวา ใช้แบบกดชำระ 2.6/4 ลิตร ต่อครั้ง ผิวเซรามิคเคลือบ Proguaed ป้องกันคราบสกปรก พร้อมสายฉีด

ใช้สวิทช์ไฟแบบเรืองแสงได้ในตอนกลางคืน เพิ่มความสะดวกมากขึ้นไม่ต้องเดินหาท่ามกลางความมืด

ตู้ไฟอยู่ที่หน้าห้องน้ำชั้น 2 มีการแยกประเภทไว้ให้ชัดเจน สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด ไฟรั้ว ไฟตรงเฉลียง และโรงรถ ได้อัตโนมัติ

มาถึงบ้านตัวอย่างหลังที่ 2 ค่ะ อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่า จะเป็นแปลนเดียวกัน ใช้วัสดุเหมือนกัน เพียงแต่ตกแต่งต่างกัน

เริ่มจากหน้าบ้าน กระจกเข้ามุมแบบนี้ได้ทุกหลังค่ะ

สังเกตว่าจุดสำคัญของบ้านหลายจุดจะมีการใส่ประตู หรือหน้าต่างบานกระจกเข้าไปเพื่อเพิ่มแสงสว่างภายในบ้านให้เพียงพอ

ห้องครัว เป็นห้องที่มีกลิ่นแปลกปลอมมากที่สุดในบ้าน หากมีทั้งหน้าต่าง และประตูหลายจุดสักหน่อยจะช่วยให้การระบายอากาศทำได้ดีขึ้น

หากมีการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว แนะนำให้ติดตั้งซิงค์ล้างจานเอาไว้ใกลักับหน้าต่างแบบนี้เลยค่ะ จะช่วยระบายความชื้นที่จะเกิดขึ้นเวลาล้างจานได้

เข้าไปดูห้องนอนชั้นล่างกันค่ะ

ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ที่เดินขึ้น-ลงบันไดลำบาก ซึ่งแม้จะเป็นห้องนอนชั้นล่างก็ไม่รู้สึกอึดอัด เพราะมีหน้าต่างกระจกเข้ามุมตรงหัวเตียง

ข้างเตียงก็เป็นประตูกระจกบานสไลด์ออกไปข้างบ้าน สามารถเปิดออกไปรับลมธรรมชาติได้

ห้องน้ำชั้นล่างอยู่ติดกับห้องนอนชั่นล่าง สะดวกมากสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ

สังเกตที่พื้นระหว่างประตูห้องน้ำค่ะ มีตะแกรงดักน้ำแบบยาวกั้น คือแทนที่จะกันน้ำกระเด็นออกด้วยพื้นแบบต่างระดับ ก็ใช้แบบนี้แทน เพื่อความปลอดภัยกรณีผู้สูงอายุ และเด็ก และยังช่วยดักน้ำระหว่างห้องน้ำและภายนอกได้

ขึ้นไปดูชั้น 2 ค่ะ

เริ่มจากห้องทางฝั่งขวามือ

ห้องนอนทางฝั่งหลังบ้าน

ห้องน้ำติดกับห้องนอนแรก

ห้องนอนที่ 2 ซึ่งเป็น Connecting Room

ทางซ้ายมือเป็นประตูบานสไลด์ ส่วนทางขวาเป็นประตูหลักเชื่อมกับทางเดินหลักของชั้น 2

สุดท้ายที่ห้อง Master Bedroom ห้องนี้ถูกตกแต่งให้มีฉากกั้นกลางห้อง เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งได้เต็ม ๆ สำหรับคุณผู้หญิง

แม้จะถูกกั้นก็ไม่ได้ทำให้ห้องดูเล็กลงเลยค่ะ แต่กลับเป็นสัดส่วนชัดเจนขึ้น

มีหน้าต่างบานกระทุ้งแบบยาวทั้งสองข้างของหัวเตียง และยังมีหน้าต่างกระจกบานสไลด์ด้านข้างเตียงอีกด้วย

มุมจากปลายเตียงจะเห็นได้ว่าห้องกว้างขวางมาก ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด

ออกไปดูระเบียงหน้าบ้านกันบ้างค่ะ

สังเกตที่ระบบล็อคของประตูกระจกบานสไลด์ทุกบานของโครงการนี้ จะเป็นแบบ Multi-point Lock เพิ่มความปลอดภัย    มีความแน่นหนา เวลาลมพัดก็จะไม่มีเสียงลมกระทบกับกระจก  

ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค กั้นด้วยกระจกนิรภัย ราวระเบียงอลูมิเนียมสีดำ

ระเบียงกว้าง ชมบรรยากาศความเงียบสงบภายในโครงการได้ดี

วิวจากชั้น 2 ของบ้านค่ะ

มีพื้นที่สามารถทำเป็น walk in closet ตรงหน้าห้องน้ำในตัวได้

ภายในห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ค่ะ

บ้านสุดท้ายกันแล้วค่ะ บ้านนี้จะเป็นบ้านเปล่าที่สร้างเสร็จแล้ว ลูกบ้านก็จะได้บ้านสวย ๆ แบบนี้เลยค่ะ รั่วบ้านเป็นเหล็กโปร่งสีดำ สูง 2 เมตร

หน้าบ้านทุกหลังจะมีที่สำหรับเก็บขยะแบบอำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกบ้านไม่ต้องเดินออกนอกรั้วมาทิ้งขยะ และผู้ที่มาเก็บขยะก็สามารถเปิดช่องเล็ก ๆ นี้เก็บขยะไปได้เลย

ข้างบ้านมีเฉลียงออกมาให้ พร้อมปั๊มน้ำที่มุมหลังบ้าน

ไม่ต้องเปิดไฟก็มีแสงสว่างเข้ามาในตัวบ้านแบบที่เห็นเลยค่ะ ซึ่งทางธารารมณ์นั้นนอกจะใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของลูกบ้านที่อยู่อาศัยจริงในการคำนึงถึงแสงสว่างแล้ว ยังคำนึงถึงเรื่องความเย็นภายในบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนในบ้านอยู่อย่างเย็นสบาย ด้วยการเลือกใช้อิฐมวลเบาคุณภาพสูงไม่อมความร้อน บริเวณห้องรับแขกก็มีฟังก์ชั่นในการรับลมธรรมชาติไหลผ่านเข้ามาได้ โดยใช้หลักการแบบ Passive Cooling  และยังมีเรื่องสีทาภายในบ้าน ใช้ชนิดเช็ดล้างได้ ป้องกันแบคทีเรีย และเชื้อรา ห้องกันการจับตัวของฝุ่น และไม่มีสารระเหยที่เป็นพิษ

ดูกระจกเข้ามุมทางหน้าบ้านกันชัด ๆ มุมนี้จะช่วยทำให้มองเห็นหน้าบ้านได้ชัดเจนโดยไม่ต้องเดินออกจากบ้าน

ภายในห้องครัว

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง เราจะได้มาหมดที่เห็นค่ะ ทั้งฝักบัวอาบน้ำ กระจกกั้นส่วนเปียก-แห้ง สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าที่มีการทำที่วางสิ่งของไว้ให้ด้วย

ต่อกันที่ชั้น 2

ห้องนอนแรก

ห้องน้ำชั้น 2

Master Bedroom มุมทางซ้ายมือเป็นช่องลึกเข้าไป สามารถวางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาเอาไว้ข้างเตียงได้เหมาะพอดี

ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom

สุดท้ายเราจะพามาชม Spot&Spa ที่มีชื่อเสียงเรื่องความพร้อมของสนามและอุปกรณ์ทางกีฬา ด้านหน้าโครงการติดกับถนนใหญ่ เปิดทุกวันตั้งแต่ 6.00 – 22.00 น.

ลูกบ้านจะมีสิทธิ์ในการเป็นสมาชิกเข้าใช้บริการฟรี 3 ปี

ฟิตเนสมีอุปกรณ์ครบครัน แบ่งเป็น 3 โซน คือ แมชชีน ฟรีเวท และคาดิโอ

ห้องที่เป็นคลาสเรียนอันหลากหลาย เช่น เทควันโด แอโรบิค ซูมบ้า บอดี้คอมแบท ฯลฯ รวมแล้วประมาณ 40 คลาส/สัปดาห์ โดยคลาสเรียนมีสำหรับทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

ห้องคลาส spining bike

สนามสควอช

สนามเทนนิส

สนามแบตมินตัน

สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก

สระว่ายน้ำ มีลู่แข่ง  ทุกสนามกีฬาได้มาตรฐานระดับการแข่งขันระดับประเทศ

โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Park way @Ease โดยบริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 190/1 เป็นซอยที่เสมือนอาณาจักรของธารารมณ์โดยเฉพาะ ซึ่ง Park way @Ease เป็นโครงการเฟส 5 ที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของพื้นที่ ได้เปรียบเรื่องความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีระบบการจัดการแบบแยกแต่ละโครงการออกจากกันอย่างชัดเจน คือมีนิติบุคคล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แยกของแต่ละเฟสเอง ทำให้การจัดการในเรื่องต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำเลที่ตั้งแม้จะอยู่ช่วงถนนรามคำแหงปลาย ๆ แต่ก็ยังคงเดินทางได้อย่างสะดวก ใกล้กับ ถ.กาญจนา วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เพียง 4 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามโครงการก็มีทั้งบิ๊กซี สุขาภิบาล3 โลตัส สุขาภิบาล3 โฮมโปร สุขาภิบาล3 หน้าโครงการมี Spot&Spa ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักการออกกำลังกาย เพราะมีอุปกรณ์ สถานที่ พร้อมกับมีคลาสสอนหมุนเวียนกันมากมายอย่างครบครัน และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ผ่านหน้าโครงการก็จะยิ่งทำให้การเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองกรุงเทพฯ สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าหายากมากกับการที่โครงการบ้านเดี่ยวจะมีรถไฟฟ้าผ่านหน้าโครงการ

ตัวบ้านถูกออกแบบในสไตล์ Modern Contemporary สามารถตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวที่มีหลายช่วงอายุอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เช่น ห้องชั้นล่างที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ห้องนอนชั้นบนแบบ Connecting Door สำหรับเด็กเล็กกับคุณพ่อ คุณแม่ ให้ได้ดูแลกันอย่างใกล้ชิดแต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ และยังคำนึงถึงการใช้ชีวติอยู่จริงของคนในบ้าน ทั้งพื้นที่ใช้สอยในทุกมุม ทั้งเรื่องของทิศทางลมธรรมชาติที่สามารถพัดเข้าสู่ตัวบ้านได้ตามหลักการแบบ Passive Cooling รวมถึงการใช้วัสดุอิฐมวลเบาที่เป็นฉนวนกันความร้อนไปในตัว จึงทำให้กลายเป็นบ้านประหยัดพลังงานไปด้วย

ส่วนมากแล้วโครงการนี้จะเป็นลูกค้าเดิมของธารารมณ์ หรือลูกค้าใหม่ที่ถูกบอกต่อจากลูกค้าเดิมของที่นี่ จุดนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า ลูกบ้านมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ของธารารมณ์ได้เป็นอย่างดี