ทำเลและการเดินทาง

ทองหล่อ ชื่อนี้ ใคร ๆ ก็รู้จักกันดีว่า เป็นย่านที่มีความคึกคักตลอดแทบจะ 24 ชม. ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ บริการ คอมมูนิตี้สถานบันเทิง โรงพยาบาล ที่พักอาศัย ฯลฯ แม้จะเป็นถนนที่มีความยาวเพียง 2.4 กิโลเมตร แต่กลับมีครบทุกความต้องการ ของวิถีชีวิตคนเมืองหลวง และเป็นแหล่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัยอย่างไม่เสื่อมคลาย แถมแต่ละที่ก็มีสไตล์แตกต่างจากร้านทั่วไป สวยเก๋ มีเอกลักษณ์โดดเด่น ถึงกับหากบอกใคร ๆ ว่า มาทานข้าว หรือนั่งจิบกาแฟในย่านทองหล่อแล้วล่ะก็ จะหรูดูดีขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในกรุงเทพ ซึ่งเพียงแค่เอ่ยชื่อทุกคนก็จะมีภาพอยู่ในหัวได้ทันที โดยไม่ต้องอธิบายอะไรต่อ เสมือนเป็น “เบเวอร์ลีฮิลล์กรุงเทพ”
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทาง Homezoomer ได้มีโอกาสพาทุกท่านไปเดินสำรวจรอบ ๆ ย่านทองหล่อ ในช่วงเย็นๆ ถึงหัวค่ำ คราวนี้เราลองมาเดินดูซอยทองหล่อช่วงต้นกันค่ะ ว่าปัจจุบันมีอะไรมาอัพเดทกันบ้าง

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทองหล่อเป็นถนนสายหนึ่งที่สำคัญอย่างมากในกรุงเทพฯ ช่วงต้นเชื่อมกับถนนสุขุมวิท ช่วงปลายเชื่อมกับถนนเพชรบุรี จากแผนที่ของทองหล่อช่วงต้น ระยะจาก BTS ทองหล่อ จนถึงปากซอยทองหล่อ 1 ประมาณ 370 เมตร เรียกได้ว่าเดินกันได้แบบสบาย ๆ ช่วงท้ายซอยสามารถทะลุออกไปถึงซอยสุขุมวิท 53 ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายจะออกถนนสุขุมวิท แต่หากเลี้ยวขวาก็จะทะลุกับท้ายซอยทองหล่อ 5 และ 9 ได้

สถานที่ตั้งจริงของ The Bangkok Thonglor เป็นพื้นที่แปลงหัวมุมปากซอยทองหล่อ 1 พอดี เป็นทำเลที่หาไม่ได้ง่าย ๆ แล้วนะคะ สะดวกทั้งการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายท่ามกลางย่านใจกลางเมืองแบบนี้ รับรองว่าความพิเศษที่ทาง LH ให้มานั้นต้องร้อง “WOW” กันแน่นอน

แปลนของชั้น 7-21 แต่ละชั้นมีทั้งหมด 7 ห้อง ซึ่งจำนวนห้องที่ไม่มากนี้ทำให้ไม่เกิดความวุ่นวาย ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว บันไดหนีไฟตรงกลาง 2 จุด สุดทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของทุกชั้นเป็นกระจกที่ถูกออกแบบ Monsoon นวัตกรรมเฉพาะจาก LH ให้มีทั้งลมพัดผ่านและแสงสว่างเข้ามาได้ตลอดทางเดิน

แปลนชั้น 23-26 แต่ละชั้นมีทั้งหมด 5 ห้อง ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว บันไดหนีไฟตรงกลาง 1 จุด และริมฝั่งขวา 1 จุด การวางรูปแบบอาคารและห้องพักทั้งหมดจะอยู่ในทิศเหนือ และใต้เท่านั้น เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด

แปลนห้อง Type 1 A ขนาด 55.8 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ขวามือจะเป็นห้องครัวเปิด ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น มีระเบียงที่กั้นส่วนคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ส่วนด้านซ้ายมือของห้องจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำในตัว พร้อมส่วน WIC (walk-in closet)  การออกแบบห้องของโครงการนี้มีชื่อเรียกว่า Combine Space คำนึงถึงการใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง ลงตัว ใช้ประโยชน์ในทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่า

แปลนห้อง Type 2 D ขนาด 84.1 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูห้อง ขวามือหน้าประตูเป็นเคาน์เตอร์เก็บรองเท้า ถัดไปเป็นห้องน้ำ แยกโซนเปียก-แห้ง ด้านซ้ายมือของห้องตรงข้ามกับห้องน้ำแรก คือ ห้องครัวปิด เมื่อเดินตรงเข้าไป ขวามือเป็นห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นโต๊ะทานอาหารอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ระเบียงเดินจากโต๊ะทานอาหาร แยกส่วนคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ห้องนอนเล็กจะอยู่ต่อจากห้องนั่งเล่น บริเวณข้างเคาน์เตอร์ทีวี และโซนซ้ายมือจะเป็น Master room พร้อมส่วน WIC (walk-in closet) ห้องน้ำในตัว

แปลนห้อง Type 2 F ขนาด 94.2 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ เมื่อเปิดประตูห้อง ซ้ายมือหน้าประตูเป็นเคาน์เตอร์เก็บรองเท้า ถัดไปเป็นห้องน้ำ แยกโซนเปียก-แห้ง ด้านขวามือของห้องตรงข้ามกับห้องน้ำแรก คือ ห้องครัวปิด เมื่อเดินตรงเข้าไปซ้ายมือเป็นห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นโต๊ะทานอาหารอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ระเบียงอยู่หลังเคาน์เตอร์ทีวี แยกส่วนคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ  ห้องนอนเล็กจะอยู่ต่อจากห้องนั่งเล่น บริเวณข้างเคาน์เตอร์ทีวี และโซนขวามือจะเป็น Master room พร้อมส่วน WIC (walk-in closet) ห้องน้ำในตัว

Design Concept

การออกแบบทางสถาปัตยกรรม ใช้คาแรคเตอร์ของทองหล่อเป็นหลัก จุดนี้ทางโครงการมองว่าเสมือน Precious Gems และ Natural Crystals เพราะทองหล่อเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร มีความรุ่งเรืองมาตลอดหลายปีอย่างไม่เสื่อมคลาย เปรียบเทียบได้กับ Jewelry ที่แสดงถึงความเป็น Timeless Design ได้รับความนิยมทุกยุค ทุกสมัย ที่มีแต่มูลค่าเพิ่ม หรูหรา และทรงคุณค่าไม่เคยจางหายไป การออกแบบโครงการนี้จึงเป็นเสมือน Crown Jewels เรียบหรู สง่างาม บนถนนทองหล่อ

อาคารถูกออกแบบให้เป็นกระจกทั้งอาคาร มีการตัดเหลี่ยมมุมให้คล้ายกับ Crystal Design ตามคอนเซ็ปต์ ส่วน Facade ของอาคารจะเห็นเส้นตรงของอาคารเสมือนเหลี่ยมการ Cut ของแท่ง Crystal นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความพิเศษของลายหินอ่อนและทองแดง ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่า ใช้คู่กันเพื่อจะเสริมให้งาน Design มีความทันสมัย โดยเมื่อมองจากภายนอกอาคารจะมองไม่เห็น frame ของกระจกทั้งอาคารและจะมีความเงา แวววาวที่จะเป็นประกายออกจากอาคาร ซึ่งจะเป็นเหมือนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงการ

การวางทิศทางของอาคาร ตั้งใจวางส่วน Corridor ได้รับลมและแสงแดด เพื่อให้ทุกชั้นมีอากาศถ่ายเท ไม่อับ และมีแสงแดดส่องอย่างทั่วถึง ทั้งส่วนกลางและห้องพักอาศัย ไม่ต้องกังวลการปิด-เปิด หน้าต่างเมื่อฝนตก ด้วยการออกแบบ Corridor Air Flow นวัตกรรมเฉพาะจาก LH

Lobby ที่เป็นดั่งหน้าตาแรกของบ้าน ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีด้วยหินอ่อน เตาผิง ประดับตกแต่งด้วยงาน Art สะท้อนถึงความสง่างาม และให้ความรู้สึกอบอุ่น ตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เข้ามาสัมผัส โดยมี Concierge คอยต้อนรับและดูแลลูกบ้านทุกท่านเป็นอย่างดี

Facility : Green Resting Area

Green Quarter สวนชั้น Ground ขนาดพื้นที่สีเขียวท่ามกลางเมืองใหญ่แห่งนี้ จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอาคารเล็กได้อีกหนึ่งจุด แต่ด้วยความคำนึงถึงการใช้ชีวิตของลูกบ้านอย่างแท้จริง LH จึงเลือกที่จะใส่พื้นที่สีเขียวลงไป เพื่อความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งมีทั้งต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น จัดสวนพุ่มไม้เล็ก ๆ เพื่อความผ่อนคลาย มีกำแพงน้ำไหล เพื่อเพิ่มความรู้สึกสดชื่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติยิ่งขึ้น

Sky Terrace 22nd Floor พื้นที่สีเขียวแบบ Out Door อีกหนึ่งส่วน ที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกระดับในการพักผ่อน พร้อมชมวิวของน่านฟ้าของกรุงเทพฯ อย่างไร้อาคารสูงบดบัง

Upper Sky Terrace 28th Floor พื้นที่สีเขียวที่ต่อเนื่องจาก fitness และ reading lounge เพื่อสูดอากาศหลังการออกกำลังกาย หรือนั่งเปลี่ยนบรรยากาศอ่านหนังสือ

และ Automatic Parking ระบบจอดรถอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลหรือหงุดหงิดกับการวนหาที่จอดรถซึ่งเสียทั้งเวลา และสร้างมลภาวะ ระบบนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด ประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ และยังใช้เวลาในการเรียกรถเพียง 1-3 นาที

Top Tripple floor facilities

ตำแหน่งที่ดีที่สุดของโครงการนี้ อยู่ที่ 3 ชั้นสูงสุดของอาคาร ซึ่งส่วนมากมักจะทำเป็นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ที่สุดของแต่ละโครงการ แน่นอนว่าจะมีเพียงไม่กี่ห้องที่ได้รับบรรยากาศที่ดีที่สุด แต่ LH คิดใหม่ ทำใหม่ เพราะในส่วนของ 3 ชั้นบนสุดที่ให้มาเต็มพื้นที่แบบ Fulll Floor Facility Design โดยตั้งใจทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศที่งดงามของกรุงเทพฯ อย่าง Full Experiences บนยอด Crown Jewels ไปพร้อม ๆ กัน โดยทั้ง 3 ชั้น มีการออกแบบ First class design facilities ให้บรรยากาศส่วนกลางรายล้อมด้วยการตกแต่งพื้น ผนังและฝ้า เพดาน ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์แบบ First Class Hotel

Sky Reading Lounge 28th Floor โซนสำหรับคนรักหนังสือ ให้ความเป็นส่วนตัวพร้อมบรรยากาศใจกลางกรุงเทพ

Sky Fitness 28th Floor การออกกำลังการที่สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวเมือง

Sky Japanese Onsen 29th Floor ความผ่อนคลายเหนือระดับ กับ Onsen แบบญี่ปุ่นแท้ ที่ให้มาเต็มพื้นที่ทั้งชั้น แยกหญิง-ชาย ตกแต่งอย่างละเมียดละไม ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและรักษาสุขภาพได้ทุกวัน

360° Sky Swimming Pool 31st Floor การว่ายน้ำแบบเป็นส่วนตัว บนชั้นสูงสุดทั้งชั้น 360 องศา เสมือนการว่ายน้ำรอบเกาะ ท่ามกลางดวงดาว และแสงไฟใจกลางเมือง

Unit living

วัสดุ คัดสรรมาเป็นอย่างดี รองรับการใช้งานจริงได้และสวยงามมีระดับควบคู่กัน เช่น Pantry : Top ใช้หิน Decton Quart มีความคงทน สวยงาม กระเบื้องเหมาะสมกับการใช้งานจริงทั้งในห้องน้ำส่วนเปียก ส่วนแห้ง และผนังตกแต่งต่าง ๆ และยังได้ Brand คุณภาพชั้นนำระดับโลก เช่น ชุดครัว Kupperbush (Germany) อปุกรณ์ห้องนำ้ Hansgrohe (Germany) รวมถึง Tailor Made กระจกห้อง WIC ด้วยลายผ้า และห้อง Shower ด้วยสี Euro Gray ที่ให้ความสวยงาม พร้อมทั้งช่วยพรางในการใช้งาน

การออกแบบภายในห้องพักเป็นลักษณะ Combine Space คำนึงถึงการใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่องในชีวิตจริง เช่น Dining-Living / Bedroom-WIC-Restroom เพื่อให้ได้ใช้ทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ผนังห้องติดอากาศเป็นกระจก Floor-To-Ceiling Height ทุกยูนิต ทำให้ได้ดื่มด่ำกับวิวด้านนอกอย่างเต็มที่ เพิ่มแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ห้องพักมากขึ้น ส่วนระเบียงออกแบบให้เป็น Double Skin Balcony เพื่อให้ได้ใช้งานทั้ง Outdoor และ Indoor Space ตอกย้ำการทำพื้นที่ทุกตารางนิ้วออกมาได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด รวมถึงช่วยลดฝุ่นจากภายนอก และเพิ่มความปลอดภัยจากอาคารสูงได้อีกด้วย

ภายในห้องพักยังเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้อีก เช่น ทุกห้องจะมี Mailbox ที่หน้าห้องพัก จดหมายจะถึงหน้าของพักของลูกบ้านได้เลย เครื่องดูดอากาศภายในห้องน้ำเป็นระบบ Sensor ช่วยหน่วงเวลาในการดูดอากาศ ระบบ home automation ที่สนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้ดี ด้วยการควบคุมการปิด-เปิด ไฟ เครื่องปรับอากาศ สั่งได้จากทาง Internet และ VDO Door Phone เพื่อใช้ติดต่อกับ Reception ส่วนกลาง เมื่อมีแขกมาติดต่อลูกบ้าน

โครงการ The Bangkok Thonglor ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม ทั้งการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว และสาธารณะ โดยห่างจาก BTS ทองหล่อ เพียงประมาณ 300 เมตร ที่ดินหัวมุมซอยทองหล่อ 1 ซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ เลยในปัจจุบัน ด้านหน้าคอนโดเป็นซอยสุขุมวิท 55 ด้านข้างคือต้นซอยทองหล่อ 1 ที่สามารถทะลุด้านท้ายซอยสู่ซอยสุขุมวิท 53 สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากมายทั้งในทองหล่อเอง ถนนสุขุมวิท และถนนเพรชบุรี ที่ออกไปทางช่วงปลาย

ตัวโครงการมีความใส่ใจถึงการใช้ชีวิตจริงของลูกบ้านเป็นหลัก ตั้งแต่การออกแบบวางแปลนอาคาร ทิศทางของแต่ละยูนิต การออกแบบภายใน วัสดุ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตั้งใจให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์จริง ถือเป็นอีกหนึ่งคอนโดระดับพรีเมียม ที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย รับรองว่าหากมีความเคลื่อนไหวอะไรออกมาอีก Homezoomer จะรีบนำมาให้รับชมกันอย่างแน่นอน

สนใจสอบถามข้อมูลจากโครงการโดยตรงได้ที่ 1198 และ www.lh.co.th/thebangkokthonglor
เพราะ” ที่บางที่ … บอกคุณค่าได้ไม่รู้จบ”