ทำเลและการเดินทาง

โครงการ THE EDITOR ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ซึ่งอยู่ติดกับ BTS สะพานควาย แบบใกล้มาก เพียง 20 ม. เท่านั้น เดินออกมาจากหน้าโครงการ ก็เจอสะพานขึ้นรถไฟฟ้าเลยทีเดียว และสะพานขึ้น-ลง BTS สะพานควาย ก็สามารถขึ้น-ลง ได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งทางออกหมายเลข 1 และ 3 สามารถกระจายคนได้ดีในช่วงเวลาเร่งด่วน และการคมนาคมที่สะดวกสบาย เดินทางได้หลากหลาย ทั้ง BTS, TAXI, วินมอไซต์ แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้น ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับทางด่วนกำแพงเพชร ด้วย Area ที่อยู่ในความเจริญ ใกล้สถานที่ทำงานสำหรับคนเมือง ไม่ว่าจะเป็น SCG, ซอยรางน้ำ, สยาม, หรือจะนั่งรถไฟฟ้ายิงยาวมาถึง อโศก แหล่งทำงานของคนเมืองอีกจุด โดยนั่งรถไฟฟ้าเพียงต่อเดียว โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ ก็เพิ่มความสะสวกสบาย และไม่เสียเวลาอีกด้วย  สำหรับใครที่มีญาติอยู่ต่างจังหวัด ต้องการมาหาที่โครงการ ก็เดินทางได้สะดวก แค่ลงอนุสาวรีน์ชัย จุดศูนย์กลางการคมนาคม และนั่ง BTS เพียง 3 Step ก็ถึงโครงการ และสำหรับคนที่ชอบ Shop แนวสตรีท ลุยๆ ก็อยู่ใกล้สวนจตุจักร นั่ง BTS เพียง 1 Step ก็ถึงแล้วค่ะ ถ้าพูดถึง Lacation ถือว่า ok เลยนะค่ะ เดินทางสะดวก ของกินเยอะ ไม่ว่าจะเป็น JJ หรือซอยประดิพัทธิ์ก็ตาม

การเดินทางไปยังโครงการดิ เอดิเตอร์ สะพานควาย เริ่มต้นจากถนนราชวิสุมุ่งหน้าไปยังถนนพหลโยธิน  ตอนนี้เราขับรถอยู่บนถนนราชวิสุ ที่พึงผ่านร.พ.พระมงกุฏเกล้า และด้านหน้าขวามือจะเป็นร.พ.ราชวิถี

ขับตรงมาซักพัก จะเจออนุสาวรีย์ชัย ให้เราเตรียมตัวเลี้ยวซ้าย เพื่อวิ่งเข้าสู้ถนนพหลโยธิน

ขับเบี่ยงซ้ายไปตามวงเวียนเลยค่ะ

เมื่อขับเบี่ยงซ้ายมาแล้ว ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนพหลโยธิน จุดสังเกตุ ให้ขับเลี้ยวซ้ายตามแนวรถไฟฟ้าไปเลยค่ะ

เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ก็ขับตรงตามแนวรถไฟฟ้าไปเรื่อยๆ

จะผ่านจุดขึ้นทางด่วนสนามเป้า – อนุสาวรีย์ ให้เราขับตรงต่อไป

ขับมาซักพัก จะผ่านร.พ.พญาไท 2 อยู่ทางซ้ายมือ

ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ จะผ่าน BTS สนามเป้า

ผ่าน BTS อารีย์

แล้วจะเจอ 4 แยกสะพานควาย ให้เราขับตรงข้ามแยกไป ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปประดิพัทธิ์, เลี้ยวขวาไปสุทธิสาร, ตรงไป ไปลาดพร้าว

เมื่อถึงแยกสะพานควายก็ขับตรงไปเลยคร๊า

เมื่อขับข้ามแยกมาแล้ว จะเจอ BTS สะพานควาย ให้เราขับชิดซ้ายไว้เลยค่ะ ใกล้ถึงโครงการแล้ว

เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ The Editor เลยค่ะ โครงการนั้นจะอยู่ติดกับ BTS สะพานควาย เลยค่ะ

สำหรับคนที่มา  BTS ให้ลงสถานีสะพานควาย

เมื่อเดินลงบันไดมา

ก็จะเจอโครงการ The Editor เลยค่ะ อยู่ใกล้กันมากก

โครงการนี้สามารถใช้ทางออกได้ 2 ทางเลยนะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางออกที่ 3

หรือทางออกที่ 1ก็จะลงไปเจอโครงการ The Editor เลยค่ะ โครงการนั้นจะอยู่กึ่งกลางระหว่างทางออกที่ 1 และ 3 เลยค่ะ ข้อดีคือ ช่วงไหนที่คนเยอะ เราก็สามารถใช้ทางออกได้ 2 ทาง ไม่ต้องไปรอ หรือเสียเวลากับช่องทางออกที่มีคนเยอะ

อัตราค่าโดยสาร BTS สะพานควาย ห่างกับหมอชิตแค่ 1 สถานี อย่างนี้ก็เดิน JJ สบายเลยค๊า

เดี๋ยวเราจะพาไปออก ทางออกหมายเลข 3 กันค่ะ

ทางเดินสกายวอล์ค

เมื่อลงบันไดมาแล้ว ให้เดินย้อนกลับไปยังหน้าโครงการ

บรรยากาศทางเดินใต้ BTS สะพานควายก่อนเข้าโครงการ

มองไปด้านขวาก็เห็นโครงการ The Editor เด่นชัดแล้วค่ะ

มาถึงหน้าโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราเข้าไปชมด้านในโครงการกันเลยค่ะ

Floor Plan ชั้น 1 : โครงการ THE EDITOR ผังโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดที่ดิน 1 – 1 – 73 ไร่ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินอยู่ติดริมถนนใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กับ BTS สถานีสะพานควาย เมื่อเข้าไปยังโครงการ บริเวณด้านหน้าจะเป็นสวนหย่อมขนาดเล็กอยู่ติดริมรั่วโครงการ ซึ่งช่วยในการบังสายตาจากคนภายนอก และเพิ่มความสดชื่นให้กับคนในโครงการ ถนนโดยรอบโครงการกว้าง 6 ม. ซึ่งพื้นที่ด้านล่างสามารถจอดรถได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถ Visitor สำหรับเพื่อนๆลูกบ้าน ที่จอดไม่นานเท่าไหร่ ด้านหน้าโครงการจะมี Shop อยู่ 1 ยูนิต และมีพื้นที่นั่งเล่น Out Door เมื่อเดินเข้าไปยัง Lobby จะเป็นจุดเชื่อมกับห้อง Mail Box และลิฟท์ ส่วนลิฟท์นั้นมีทั้งหมด 3 ตัว แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว เป็นลิฟท์ Lock ชั้นค่ะ ในส่วนของพื้นที่จอดรถนั้นจะอยู่ชั้น 2 – 6 สามารถจอดได้ 45 % หรือประมาณ 110 คัน (รวมซ้อนคัน) ซึ่งส่วนใหญ่คนที่อยู่โครงการนี้จะเน้นการเดินทางโดยรถไฟฟ้ากันอยู่แล้วค่ะ

Floor Plan ชั้น 7 – 22 : จะเป็นที่พักอาศัยทั้งหมด เฉลี่ยมีที่พักอาศัย 15 ยูนิต / ชั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่มากจนเกินไป จึงมีความเป็นส่วนตัวมาก ห้องหัวมุมจะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 34, 36, 45 ตร.ม. จะเป็นห้อง 1 Bedroom และ 52 ตร.ม. จะเป็น 2 Bedroom ส่วนตำแหน่งห้องที่อยู่ช่วงกลาง ทางทิศเหนือ และใต้นั้นจะเป็นขนาด 27 ตร.ม. 1 Bedroom  และทิศตะวันออก กับทิศตะวันตก นั้นจะเป็นขนาด 28 ตร.ม. 1 Bedroom เช่นกันค่ะ รูปทรงของตัวโครงการจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งลิฟท์จะอยู่ช่วงกลาง จึงกระจายคนเข้า-ออก ห้องได้สะดวกสบาย แบ่งเป็นฝั่งซ้าย และขวา เลยทำให้เกิดความรู้สึกเวลาเดินเข้าห้องไม่รู้สึกไกลมาก และมีความเป็นส่วนตัว Corridor : 1.5 ม. ส่วนบันไดหนีไฟก็อยู่กึ่งกลางเช่นกัน และสามารถเข้า-ออก ได้ 2 ประตูทั้งฝั่งซ้าย และขวา เวลามีเหตุฉุกเฉินก็สามารถกระจายกันลงประไดหนีไฟได้ ในส่วนของห้องเก็บขยะนั้น จะเป็นประตู 2 ชั้น แล้วถึงจะทิ้งขยะ จึงช่วยเก็บกลิ่นของขยะที่จะออกมาด้านนอกได้อีกชั้นนึง

Floor Plan ชั้น 23 : จะเป็น Facility ทั้งชั้น มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 20 x 4 ม. ลึก 1.2 ม. ตลอดแนว และมีจากุซซี่อยู่ริมสระ, มีพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ, ห้องสตรีม แยกช/ญ, โซนอ่านหนังสือ และพื้นที่ทำงาน, Fitness และห้องสควอช และในพื้นที่ส่วนกลางนี้ยังมีบริการ Wi-Fi ด้วยนะค่ะ

Floor Plan ชั้น 24 : Roof Top เป็นพื้นที่โล่ง สำหรับเล่นโยคะ และพื้นที่จอดฮอชั้นบนค่ะ

Plan One Bedroom ขนาด 27.21 ตร.ม. เมื่อเข้าไปในห้องจะเจอ Pantry ครัว เดินถัดไปจะเป็นห้องนอน ที่อยู่ติดกับระเบียง พื้นที่นั่งเล่น หรือดู TV นั้นจะอยู่ด้านปลายเตียงค่ะ

Plan One Bedroom ขนาด 28.26 ตร.ม. Type นี้ตอนแรกมองว่าแปลกๆนะค่ะ แต่พอไปชมห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะว่า จัดมาได้งามมาก เปิดประตูเข้าไป จะเป็น Pantry ครัว ที่มีไซด์ขนาดพอดี ที่เหมาะสมกับห้อง 28.26 ตร.ม. ก่อนไปยังห้องนอนจะมีประตูบานสไลด์ ที่กั้นระหว่างห้องครัว และจุด Work in Closet พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาริมหน้าต่างได้ และระยะห่างการดู TV ถือว่า OK เลยค่ะ การจัดห้องในฟังก์ชั่นแบบนี้ทำให้ในส่วนห้องนอนดูโล่ง เกินกว่าขนาด 28.26 ตร.ม.อีกค่ะ ไว้เดี๋ยวเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกันนะค่ะ

Plan One Bedroom ขนาด 34.78 ตร.ม. จากแปลนจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว จะรู้สึกถึงความกว้าง และโล่งของพื้นที่นั่งเล่นมาก เพื่อโซนพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกับริมหน้าต่าง ทำให้เรามองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างโล่ง ปลอดโปร่ง ด้านข้างโซฟา ได้ทำครัวเป็นรูปตัว L ที่ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับคนที่ทำอาหารไม่หนัก หรือเล็กๆน้อยๆ ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นกั้นด้วยประตูเปิด-ปิด พื้นที่ภายในห้องนอน สามารถวางเตียงประมาณ 5 ฟุตได้ มีจุด Work in Closet ส่วนตัว เป็นฟังก์ชั่นที่ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนค่ะ

Plan One Bedroom ขนาด 36.35 ตร.ม. ฟั่งก์ชั่นของห้องนั้น อารมณ์จะคล้ายๆกับขนาด 34.78 ตร.ม. ต่างกันที่รูปทรงแปลนนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส

Plan One Bedroom ขนาด 45.91 ตร.ม. เป็น 1 ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้าง เยอะ ปาร์ตี้กับเพื่อนได้สบายเลยคร๊า ส่วนภายในห้องนอนนั้นดูโล่ง และสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่ โดยไม่อึดอัดเลยค่ะ

Plan Two Bedroom ขนาด 52.19 ตร.ม.

ตอนนี้เราก็อยู่ที่หน้าโครงการ THE EDITOR กันแล้วนะค่ะ เดี๋ยวเข้าไปชมภายในโครงการพร้อมๆกันเลยค่ะ

หน้าโครงการจะมีซุ้ม รปภ. คอยดูแล 24 ชม. รปภ.ที่นี้ปริการดีมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้า-ออกโครงการก็คอยโบกรถ หรือดูรถให้ตลอด

บรรยากาศถนนภายในโครงการ เป็นคอนกรีตปั้มลายบริเวณด้านหน้าโครงการ ส่วนด้านหลังโครงการจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบค่ะ

มุมย้อนกลับไปยังทางเข้าโครงการ จะเห็นได้เลยคะว่า BTS อยู่ติดกับโครงการมว๊ากก เพียง 20 ม.เท่านั้น เดินสะดวกสบาย และเวลาขึ้นรถไฟฟ้าก็ขึ้นได้ทั้งฝั่งซ้าย และขวา หน้าโครงการมีพี่วินมอไซต์ และรถ Taxi วิ่งผ่านตลอดเวลาค่ะ

รั่วโครงการสูง 2.5 ม. งั้นเดี๋ยวเราพาทัวร์ด้านหลังโครงการกันนะค่ะ

ด้านหลังโครงการจะมีพื้นที่จอดรถเล็กน้อย สำหรับญาติๆเพื่อนบ้านที่มาหา ก็สามารถจอดชั้นล่างได้นะค่ะ ส่วนบริเวณที่จอดรถของลูกบ้านจะอยู่ที่ชั้น 2 – 6 จอดได้ 45 % ค่ะ

มุมสูง จะเห็นขอบกำแพงลานชั้นจอดรถ ตัวตึกที่นี้ออกแนว โมเดิร์น Classic With A Twist

ย้อนกลับที่หน้าโครงการกันต่อค่ะ ถ้าใครจะขึ้นลานจอดรถ ก็เลี้ยวขวาจากหน้าโครงการแล้วขึ้นลานจอดได้เลยค่ะ

มีจัดพื้นที่สวนหน้าโครงการเล็กน้อย

บรรยากาศทางขึ้นลานจอดรถ ความสูงที่รถขึ้นได้อยู่ที่ 2.1 ม.นะค่ะ

หน้าตาพื้นที่ลานจอดรถชั้นบนก็เป็นตามภาพเลยค่ะ

งั้นเดี๋ยวเราไปต่อที่ Lobby ชั้นล่างกันต่อเลยค่ะ ก่อนเข้า Lobby จะมีพื้นที่นั่งเล่น Out Door ไว้สำหรับนั่งรอเพื่อน หรือนั่งเล่นชิวๆด้านหน้าโครงการก็ได้ค่ะ

แง้มประตูเข้าไปดูภายใน Lobby กันคร๊า

Lobby ที่นี้จัดออกมาได้ “แนว” ไม่เหมือนใครจริงๆค่ะ จากความรู้สึกออกสไตล์ลอฟท์ ที่ดูโมเดิร์นทันสมัย ดูอบอุ่นๆดีค่ะ

มุมมองย้อนกลับจากทางเข้า Lobby

ชั้น 1 ก็จะเป็นห้อง MAIL BOX ด้วยนะคะ

บรรยากาศภายในห้อง MAIL BOX

โถงลิฟท์ ก็ได้บรรยากาศเช่นนี้เลยนะค่ะ จะแบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ส่วนลิฟท์ขนของ จะเข้าจากทางด้านนอก เพราะเหมาะสำหรับการขนย้าย ที่ขนของลงจากรถแล้วขึ้นลิฟท์ได้เลย โดยที่ไม่ต้องผ่าน Lobby ค่ะ

ลิฟท์ของโครงการ จะเป็นลิฟท์ Lock ชั้นนะค่ะ เดี๋ยวเรากดลิฟท์ไปที่ชั้น 7 เพื่อไปชมห้องตัวอย่างกันค่ะ

เริ่มจาก 1 Bedroom ขนาด 28.26 ตร.ม. กันก่อนเลยค่ะ ก่อนเข้าห้องนั้น Step พื้นทางเข้าจะยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันตัวแมลง หรือฝุ่นที่แม่บ้านทำความสะอาดจะเข้ามาภายในห้องเรา ในส่วนของตัวห้องที่ล/ค จะได้รับนั้นจะเป็นแบบ Fully Furnished มี ตู้เก็บรองเท้า Build in, ครัว Build in, เตียง + ฟูกที่นอนขนาด 5 ฟุต และหัวเตียงก็เป็น Build in ด้วยนะค่ะ, โต๊ะข้างเตียง, Sofa, โต๊ะกลาง + เก้าอี้, ชั้นวาง TV, ตู้เสื้อผ้า Build in คือ..ก็แทบครบทุกอย่างขาดเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่านที่โครงการไม่ได้ให้

พื้นภายในห้องจะปูด้วยลามิเนต หนา 8 มม. ตู้เก็บรองเท้านั้นชั้นล่าง ไว้เก็บรองเท้า ส่วนชั้นบนสามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆใส่กล่องเก๋ๆ ก็สวยดีนะค่ะ

ประตูทางเข้าขนาด 0.90 x 2.20 ม. เป็นแบบประตูก้านโยก Lock 2 ชั้น มีตาแมว

เมื่อเข้าไปภายใน จะเป็นส่วน Pantry ครัวที่อยู่ทางด้านหน้า ประตูที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องครัวนั้น จะเป็นประตูบานสไลด์ที่เปิด-ปิด สลับฝั่งกับ Work in Closet คือ..เท่ดีนะค่ะ มันทำให้ห้องดูโล่ง และรู้สึกใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ลองจินตนาการดูว่าถ้าห้องครัวถูกปิดทึบ จะดูอึดอัดแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีประตูปิด กลิ่นของอาหารก็เข้าห้องนอนไปอีก เป็นฟังก์ชั่นประตูบานสไลด์ที่ทำออกมาดีเลยทีเดียว

ครัว….ชุดครัว Build in ได้ตามภาพเลยค่ะ

Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ + ผนังกันเปื้อนที่เป็นกระเบื้อง, มีเตาไฟฟ้า 2 หัว,ซิ้งค์ล้างจาน, Hood ดูดควัน ยี้ห้อ MEX บานประตูเปิด-ปิดของชุดครัวเป็นแบบ Soft Close

มาชมส่วนของห้องนอนกันบ้างง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ Floor To Ceiling 2.6 ม. ไฟ เป็นไฟดาวไลท์ทั้งหมด

มุมมองจากปลายเตียง ที่นอนนั้นจะอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งสามารถให้แสงลอดผ่านมาได้ ช่วยเพิ่มความสว่างภายในห้อง และด้วยประตูระเบียงที่มีความสูงถึง 2.55 ม. แทบจะพื้นถึงเพดาน จึงทำให้ห้องดูโล่งมากยิ่งขึ้น *แต่ถ้าใครอยู่ทางฝั่งแดดบ่ายก็ปิดม่านกันร้อนหน่อยก็ดีนะค่ะ

มุมสูงภายในห้องนอน พื้นที่จากผนัง ถึงปลายเตียงยังเหลืออีกเยอะค่ะ

มุมมองย้อนกลับ จะเห็นประตูบานสไดด์ อย่างที่บอกไป ประตูบานนี้จะปิดทั้ง โซน Pantry ครัว และจุด Work in Closet

มุม Sofa ก็จัดออกมาแนวนี้เลยค่ะ สามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่นั่งได้ 2 คน เต็มที่ก็ 3 คน ดูจากทรงตั้งแต่ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวาง TV จะเป็นโทนสีเทาเป็นหลัก ให้เข้ากับ Koncept Classic With A Twist

มาถึงจุด Work in Closet ทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่มีกระจกเป็นหน้าบาน ไว้สำหรับแต่งตัวด้วยนะค่ะ

ภายในก็เป็นตามภาพเลยค่ะ แต่ที่เจ๋งคือเมื่อเปิดประตูเสื้อผ้าฝั่งขวา จะมีไฟเปิดอัตโนมัติเลยคร๊า

มาถึงภายในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็น KOHLER รูปทรงอ่างล้างหน้าจะเป็นทรงลีตามภาพ มีพื้นที่วางของเล็กน้อยได้บริเวณโดยรอบ และได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบ Temper ของ VRH

สุขภัณฑ์รูปทรงตามภาพ พื้นห้องน้ำปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 มม. แบบหยาบ

Hand Shower แต่ว่าเราต้องติดเครื่องทำน้ำร้อนเองนะค่ะ

มาดูระเบียงกันบ้างค่ะ ประตูระเบียงเป็นขอบอลูมิเนียมสีดำ ด้ามจับเป็นก้านโยก Lock 2 ชั้น

มุมมองห้องตัวอย่างอยู่ชั้น 7 หันไปทางทิศตะวันออก จะเห็นเป็นวิวแนวรถไฟฟ้าตามภาพเลยค่ะ (วิวมุมซ้าย)

(วิวมุมขวาแนวเส้นรถไฟฟ้า)

มาชมห้องตัวอย่างอีกห้องกันบ้างค่ะ 1 Bedroom ขนาด 27.21 ตร.ม. เป็น Fully Furnished ของที่ให้ก็เหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะค่ะ เมื่อเปิดประตูมาก็จะเป็น Pantry ครัว

Pantry ครัวก็จะเป็นรูปทรงตัว L ขนาดไม่ใหญ่มาก ได้ตู้ Build in ทั้งบน และล่างแบบเต็มเลยค่ะ

ถือว่าเป็นชุดครัวที่ทำออกมาแล้วใช้พื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่านะค่ะ เพราะทั้งตู้บนและล่าง บิ้วอินตั้งแต่พื้น จนถึงชิดขอบเพดาน ส่วนช่องว่างที่เว้นไว้ เป็นที่วางตู้เย็น

มุมมองย้อนกลับทางฝั่งซ้าย จะเป็นห้องน้ำ และตู้เก็บของ+รองเท้า เดี๋ยวเข้าไปชมห้องน้ำกันก่อนค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ ก็เป็นตามภาพเลยนะค่ะ ส่วนวัสดุก็เหมือนกับแบบที่แล้วเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำ แบ่งโซนเปียก และโซนแห้ง กั้นด้วยกระจกอาบน้ำ

เดี๋ยวเราโฉบไปดูตู้เก็บของกันต่อเลยค่ะ

ตู้เก็บของจะเป็นประตูบานพับทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อเปิดออกมา ชั้นล่างจะเป็นชั้นวางรองเท้า ส่วนด้านบนก็อาจจะไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆก็ได้ค่ะ

โซนพื้นที่นั่งเล่น และเตียงนอน ส่วนประตูระเบียงจะอยู่ช่วงกึ่งกลางของห้อง ทำให้รับแสงที่กำลังพอดี ไม่ทำให้ห้องดูทึบไป

เตียงนอน วางขนาด 5 ฟุตได้ และจะได้แอร์ 1 เครื่อง 17,000 BTU ของ DAIKIN สำหรับห้องขนาด 27,28 ตร.ม.

มุมพื้นที่นั่งเล่น

ก็เป็นได้ทั้งโต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน โต๊ะนั่งเล่น แต่ระยะห่างการดู TV สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันใกล้ หรือระยะประชิดไปนิดนึงนะค่ะ

มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า

Build in ตู้เสื้อผ้าก็ได้ตามภาพเลยค่ะ

ในส่วนที่ได้เพิ่มเติมมาของห้อง TYPE นี้คือชั้นวางของที่อยู่ใต้แอร์ 1 จุดค่ะ

ขนาดระเบียงของ TYPE นี้ถือว่ากว้างสำหรับห้องขนาด 27 ตร.ม. สามารถออกมานั่งเล่น ชมวิวได้

มุมติดตั้งเครื่องซักผ้า

ระแนงกั้น คอมเพรสเซอร์แอร์ สามารถเปิดเข้าไปเก็บของหรือตากผ้าได้

วิวนี้จะหันมาทางทิศใต้ เห็นร.พ. เปาโล, Big C

และ City View ค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟท์ของชั้น 7 งั้นเดี๋ยวเราจะพาไปชม Facility ชั้น 23 กันต่อเลยค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟท์ชั้น 23 เป็น Facility ทั้งชั้น

เริ่มจากห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานริมสระก่อนเลยนะค่ะ

ตกแต่งออกมาแบบเรียบง่าย

ดูโปร่ง โล่ง สูง มีพื้นที่เยอะพอสมควร ดูแล้วไม่อึดอัด เมื่อเปิดประตูออกไปก็เป็นสระน้ำแล้วค่ะ

บรรยากาศริมสระ อย่างกับชายทะเล อิอิ…

ว่ายน้ำ แล้วเห็นวิวแบบนี้ คงฟินกันน่าดูละค่ะ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 20 x 4 ม. ลึก 1.2 ม.

อยากลองไปนั่งเล่นดูมั้ยค่ะ ^^

เวลานั่งเล่น นอนเล่น สูดหายใจลึกๆ แล้วมองวิวแบบนี้ โอ้วว..คงผ่อนคลายกันทั่วหน้า

ข้างๆสระว่ายน้ำ จะมีห้องขนาดเล็ก ไว้นั่งเล่นชมวิวอีกจุดค่ะ

ห้องน้ำ ช/ญ ชั้น 23

มี Steam Room ทั้ง ช และ ญ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ

เดี๋ยว.. ยังไม่หมด จะพาไปชมห้อง Fitness และมุมอ่านหนังสือกันต่อค่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ก็จะเป็นบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ ตกแต่งออกมาได้สวย และมีเอกลักษณ์ของสไตล์โมเดิร์น คลาสสิคดีค่ะ

มุมอ่านหนังสือ เป็นโต๊ะยาว

ซูมม… ชัดๆ

มุมมองย้อนกลับ

ถัดจากโซนอ่านหนังสือ อีกมุมจะเป็นโซน Fitness นะค่ะ

เครื่องเล่นก็ได้ตามภาพเลยนะค่ะ ห้องมุมด้านในสุดทางขวามือจะเป็นห้องสควอช

ห้องมุมด้านในสุดทางขวามือจะเป็นห้องสควอช

บรรยากาศภายในห้องสควอช

ต่อไปจะเป็นชั้น 24 เป็นชั้นดาดฟ้า

โครงการได้จัดเป็นพื้นที่โล่ง ไว้สำหรับเล่นโยคะ และพื้นที่จอดฮอ แต่ทางขึ้นมาชั้นดาดฟ้าไม่มีลิฟท์นะค่ะ และทางเดินค่อนข้างมืด ถ้าใครจะใช้ส่วนกลาง นั่งเล่น ชมวิว คิดว่าชั้น 23 ดูเวิร์คสุดค่ะ

พื้นที่จอดฮอ

มีสวนบนดาดฟ้า

วิวมองลงมาจากชั้นดาดฟ้า

โครงการ THE EDITOR เพียงคุณลงจากรถไฟฟ้า หรือแม้แต่เพียงอยู่บน BTS สถานีสะพานควายก็เจอแล้ว เป็นสิ่งที่เรียกว่าสะดวกสบายมาก ส่วนใหญ่คนวัยทำงาน พ่อแม่ที่ซื้อให้ลูก ก็ต่างมองอย่างเดียวกันเลยว่า เดินทางสะดวก ของกินเยอะ ค่าครองชีพไม่สูงมาก เพราะบริเวณแถวนี้ของกินไม่แพงจนเกินไป เข้าเมืองสะดวก เดินทางไปทำงานสบาย ไม่เพียงแต่ใกล้ BTS แต่ยังใกล้ MRT กำแพงเพชร ประมาณ 800 ม.อีกด้วย   ใกล้แหล่ง Shopping เช่น Central Ladprao, ยูเนียน มอลล์, JJ, อนุสาวรีย์ ใกล้ร.พ.เปาโล ไม่ต้องกังวลว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุ แล้วกว่าจะถึงร.พ.ที่แสนไกล

ตัวโครงการ THE EDITOR นั้นเป็นสไตล์ โมเดิร์น Classic With A Twist ไม่ได้ออกแนวดิบเกินไป ตัวตึกเน้นโทนสีเทา ดำ เพื่อเน้นความ Classic เรียบง่าย แต่ดูดี ถนนภายในโครงการกว้าง 6 ม. ในส่วนของที่พักอาศัย มีเพียง 240 ยูนิต ถ้าเทียบเฉลี่ยต่อชั้นมีเพียง 15 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัว ไม่จอแจกันเกินไป และด้วยการวางตำแหน่งลิฟท์ และบันไดหนีไฟไว้กลางตึก จึงสะดวกต่อการเข้า-ออก ห้องที่พักอาศัย ไม่ส่งเสียงรบกวนทางเดินมากจนเกินไป ซึ่งราคา ตัวห้อง Floor to Ceiling 2.6 ม. ซึ่งก็ถือว่าสูงพอสมควร จึงทำให้ห้องดูโปร่ง โครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished ซึ่งให้ของเกือบครบหมดทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า รูปแบบ Furniture Build in ส่วนใหญ่เป็นโทนสีเทา จัดออกมาได้ดี ดูเป็นเซ็ท และใช้งานได้คุ้ม แต่ในส่วนของห้องน้ำ คิดว่าน่าจะทำระบบน้ำอุ่น ไว้ให้เลย แต่ต้องมาติดตั้งเอง อาจจะทำให้ห้องน้ำดูแปลกตาไปนิดนึง ซึ่งเทียบต่อ ตร.ม.ตอนนี้อยู่ที่ 150,000 บาท/ตร.ม. ณเดือน ก.ค. 2558 ซึ่งอนาคตการปรับราคาต้องเพิ่มขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว

ตอนนี้ทางโครงการเหลือห้องแค่ 4 Type ให้เลือก คือ

27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.299 ล้านบาท

28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.399 ล้านบาท

45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.149 ล้านบาท

52 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.379 ล้านบาท

วิว และมุมมองที่เห็น ทิศเหนือ : เห็นเป็นสวนจตุจักร (พื้นที่สีเขียว), ทิศใต้ : เป็น city view อนุสาวรีน์ชัย, ทิศตะวันออก : เห็นแนวรถไฟฟ้า, ทิศตะวันตก : โซนพระราม 6

ถ้าใครอยากเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ อยากหาที่อยู่ใหม่ อยากเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น แค่นั่งรถไฟฟ้าไป BTS สะพานควายแป๊บเดียวก็ถึงโครงการแล้วคร๊า