“ชญาดา บิซ เพลส” (Chayada Biz Place) ศรีนครินทร์-อ่อนนุช ทาวน์โฮมสไตล์ออฟฟิศ ไอเดียใหม่ สมดุลของชีวิตและการทำงาน
“ชญาดา บิซ เพลส” (Chayada Biz Place) ศรีนครินทร์–อ่อนนุช
ทาวน์โฮมสไตล์ออฟฟิศ ไอเดียใหม่ สมดุลของชีวิตและการทำงาน
บนทำเลที่ดีที่สุด เปิดตัวเริ่มต้น 14 ล้านบาท
“สวอน เอสเตท” เปิดตัวโครงการทาวน์โฮมสไตล์ออฟฟิศ “ชญาดา บิซ เพลส” (Chayada Biz Place) ศรีนครินทร์–อ่อนนุช ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น 44 ยูนิต แบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ บนทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุดพร้อมความโดดเด่นรอบด้าน รองรับความสมดุลที่ลงตัวของการใช้ชีวิตและการทำงาน ด้วยดีไซน์ฟังก์ชันการปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง บนแนวคิดทำให้ลูกค้าพึงพอใจในยามซื้อ มีความสุขในยามอยู่อาศัย และมีความสบายใจในยามที่ต้องขาย ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาการลงทุนที่อยู่อาศัยที่คุ้มค่าระยะยาว เพื่อเป็นรางวัลความสำเร็จในชีวิต เปิดตัวเริ่มต้น 14 ล้านบาท
นายเทธดา อุชุปาละนันท์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท สวอน เอสเตท จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการซื้อที่อยู่อาศัยว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่ไม่ได้มองการซื้อบ้านเป็นเพียงค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต แต่มองเป็นปัจจัยเพื่อการออมเงินและการลงทุนมากกว่า ดังนั้น เทรนด์การซื้อบ้านในปัจจุบันและอนาคตภาพรวม คือ ‘การซื้อที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และมีความคล่องตัวในการซื้อขาย’ จึงมีความสำคัญมากที่โครงการจะต้องเข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการ นั่นคือตอบโจทย์ความสมดุลของชีวิตที่ทำงานหนักแต่ก็ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน กลุ่มนี้จึงไม่ลังเลที่จะให้รางวัลเรื่องบ้านกับตัวเอง แต่ต้องเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้ราคาสูง–แต่หากทำให้เกิดผลสำเร็จในแผนการดำเนินชีวิตระยะยาวก็พร้อมจะตัดสินใจทันที
ทั้งนี้เมื่อนำเอาเทรนด์การซื้อบ้านมาผนวกกับกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯได้ทำให้คุณเทธดา ผลักดันโครงการใหม่ในชื่อ ‘ชญาดา บิซ เพลส’ (Chayada Biz Place) ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นลูกค้าหลักที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 35-53 ปี ที่มีการศึกษาดี ความรู้ความชำนาญ สามารถทำงานหรือบริหารธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พร้อมมีความฝันที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง ผ่านที่อยู่อาศัยที่มีรูปแบบและทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าให้ไปได้ไกลถึงเป้าหมาย โครงการดังกล่าวจึงมีจุดเริ่มต้นพัฒนาขึ้น ‘ในทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุด’ บนโซน ศรีนครินทร์–อ่อนนุช ซึ่งมีทำเลอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครฯ และติดกับถนนเส้นหลัก ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับพื้นทีสมุทรปราการซึ่งเป็นทำเลรอง ทำให้มีราคาที่ตอบโจทย์ต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และยังรองรับต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้แบบครอบคลุม
“แนวคิดหลักของ ชญาดา บิซ เพลส คือทำบ้านให้ลูกค้า ‘พึงพอใจในยามซื้อ มีความสุขในยามอยู่อาศัย และมีความสบายใจในยามต้องขาย’ เป้าหมายเราจึงเป็นการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดและต้องไม่เป็นภาระให้กับลูกค้าในอนาคต นั่นเพราะเราเข้าใจในวัฏจักรของตลาดบ้านเป็นอย่างดี เพราะหากลูกค้ามีความจำเป็นต้องขายบ้าน เราก็อยากให้ลูกค้าสามารถขายได้รวดเร็วและได้ราคา ซึ่ง ชญาดา บิซ เพลส มีศักยภาพมากพอที่จะตอบโจทย์แนวคิดนี้ทุกด้าน” คุณเทธดา กล่าว
สำหรับชญาดา บิซ เพลส (Chayada Biz Place) เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น สไตล์โฮมออฟฟิศ เน้นรูปแบบความหรูหราอินเทรนด์ที่สามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย มีทั้งหมด 44 ยูนิต แบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย 248 ตร.ม. บนเนื้อที่เริ่มต้น 24.8 ตร.ว. ที่ตัวบ้านและผังโครงการถูกออกแบบเป็น Private Luxury โดยเมื่อผ่านเข้ามาทางซุ้มประตูสีขาวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมสวนและต้นไม้ใหญ่ไว้ จะเห็นตัวอาคารที่ออกแบบไว้อย่างสวยงามล้อมวงหันหน้าเข้าหากัน ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นน่าอยู่ อีกทั้งในโครงการยังมีอาคารพิเศษ 14 ยูนิตที่สามารถเปิดเข้า–ออกได้ 2 ทาง เพราะมีด้านหลังติดถนนนอกโครงการ เหมาะกับการปรับใช้ประโยชน์เปิดร้านทำธุรกิจ พร้อมจุดเด่นที่ช่วยเติมเต็มความดุลทั้งการพักอาศัย การทำงาน การเดินทาง ได้ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น
- จุดเด่นที่ตัวโครงการ เพราะเป็นการผสานกันระหว่าง ทาวน์โฮม กับ โฮมออฟฟิศ จึงเป็นที่มาของคำว่า ‘ทาวน์โฮมสไตล์โฮมออฟฟิศ’ บนทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและทำธุรกิจ ข้อดีทาวน์โฮมที่ไม่ใช่อาคารพาณิชย์คือลูกค้าสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารในเงื่อนไขเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า กู้ได้มากกว่าและนานกว่าการกู้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
- จุดเด่นที่ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ปากซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 67 เดินทางได้สะดวก ใกล้กับเส้นทางคมนาคมและสถานที่สำคัญหลายเส้นทาง อาทิ ถนนบางนา–ตราด, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา, เมกะบางนา, อิเกีย บางนา, รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, สนามบินสุวรรณภูมิ และยังได้เปรียบในแง่ทำเลการขาย–ทำธุรกิจที่เข้าถึงง่าย จดจำง่ายอีกด้วย
- จุดเด่นที่เป็นโครงการใหม่ มีบรรยากาศรายล้อมด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติ Panoramic Gaden View ที่กว้างสุดสายตา และพื้นที่ Clubhouse สไตล์โมเดิร์น รองรับการผ่อนคลายจากช่วงเวลาการทำงาน ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การทำธุรกิจที่ช่วยสร้างภาพจำดีเป็นที่ชื่นชอบของผู้มาเยือน
- จุดเด่นเรื่องที่จอดรถ ภายในโครงการมี Convenient Parking Lot ที่จอดรถรวมกว่า 200 คัน เป็นที่จอดในแต่ละยูนิตรวม 88 คัน และที่จอดนอกยูนิตอีกกว่าร้อยคัน รวมไปถึงที่จอดนอกโครงการ ซึ่งสามารถรองรับกับลูกบ้านและแขกคนสำคัญที่เข้ามาร่วมทำกิจกรรมหรือการสันทนาการ เพื่อสร้างช่วงเวลาดี ๆ ได้เป็นอย่างดี
- จุดเด่นเรื่องฟังก์ชัน ตัวบ้านได้รับการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย จากรูปแบบ 3.5 ชั้น ที่นำครึ่งชั้นนี้ไปมอบให้กับห้องมาสเตอร์ แบบ Double Volume จนกลายเป็นห้องที่โอ่โถงและกว้างขวางสมเป็นห้องของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง รวมถึงมีฟังก์ชันเพื่อความปลอดภัยแบบ 2 ชั้น Smart Security หรือ Double-gated Security ที่คอยปกป้องดูแลและสอดส่องเฝ้าระวังอันตรายตลอด 24 ชั่วโมง
- จุดเด่นเรื่องวัสดุก่อสร้างและคุณภาพ กำแพงก่อด้วยอิฐมวลเบา 2 ชั้น วัสดุเกรด A ตั้งแต่พื้น ประตูหน้าต่าง สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ตกแต่งหรูหราเหมือนกับบ้านเดี่ยว พร้อมแนวทางที่จะไม่ลดทอนคุณภาพจากราคาวัสดุเพื่อชดเชยค่าที่ดินที่สูงขึ้นกว่าโครงการอื่น ๆ
นอกจากนี้ ชญาดา บิซ เพลส ยังมีแนวทางสำคัญที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับเทรนด์ความต้องการประสบความสำเร็จบนวิถีแห่งความสมดุลของชีวิต หรือ Work Life Balance & Success ซึ่งเป็นแนวทางคนรุ่นใหม่ที่ทำงานหนักเพื่อความสำเร็จอย่างชาญฉลาด และให้รางวัลกับชีวิตอย่างเต็มที่ โดยด้วยความสามารถในการปรับรวมที่อยู่อาศัยกับที่ทำงานให้เป็นสถานที่เดียวกัน เพื่อช่วยให้ได้ทุ่มเทกับงานและครอบครัวได้อย่างเต็มที่ไปพร้อม ๆ กัน
“ความสำเร็จในบริบทของ ชญาดา บิซ เพลส เรายังมองรวมไปถึงการต่อยอดการสร้าง Passive Income ที่เหมาะสมกับด้านการลงทุน ซึ่งเรามั่นใจว่าลูกค้าโครงการจะสร้าง Yield 5% และ Capital Gain 6% ได้อย่างแน่นอน จากศักยภาพระดับสูงทั้ง 4 ด้าน คือ HIGH POTENTIAL การก่อสร้างคุณภาพดี สวยงามทันสมัย ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า, HIGH LIQUIDITY คล่องตัวทางการเงินขายต่อได้ง่าย, HIGH YIELD สามารถสร้างรายได้ คือปล่อยเช่าง่ายและได้ราคาเช่าที่ดี สุดท้ายคือ HIGH PROFIT คือต้องสามารถทำกำไรได้ดีเมื่อต้องการขาย
“ด้วยความพิถีพิถันที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาโครงการฯ อย่างดีที่สุด ทำให้มั่นใจได้ว่า ชญาดา บิซ เพลส จะสามารถปิดโครงการได้ในเวลาไม่เกิน 2 ปี ซึ่งเมื่อหลังจากขายบ้านได้เกินกว่า 50% แล้ว เราจะเริ่มดำเนินการตามเป้าหมายในอีก 3-5 ปีของบริษัทฯ ด้วยการสำรวจตลาดและศึกษาความเป็นไปได้เตรียมพร้อมสำหรับโครงการถัดไป โดยคงกลยุทธ์การพัฒนาให้ความสำคัญกับทำเลเป็นด่านแรก และเรายังมองถึงการซื้อที่ดินแปลงใหม่ เพื่อให้มีความสดใหม่ทันต่อเหตุการณ์และตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในขณะนั้นได้ในทุกมิติ” คุณเทธดา เสริมในตอนท้าย
ทั้งนี้ ในปี 2565-2566 บริษัท สวอน เอสเตท จำกัด ได้มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ จากการเลือกพัฒนาโครงการโดยเน้นทำเลและคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและยึดมั่นในกลยุทธ์การพัฒนาที่สัมฤทธิ์ผล ส่วนในปี 2567 นี้ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอน ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องดำเนินนโยบายแบบประคองตัวไม่เน้นที่การเติบโต และต้องแข่งขันเพื่อแย่งลูกค้าที่มีอยู่จำกัด แต่อย่างไรก็ตาม นับเป็นผลประโยชน์ที่ตกไปยังผู้บริโภค ที่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้ซื้ออสังหาฯ ในราคาที่เพิ่มในอัตราที่ช้าลงอย่างมาก ซึ่งส่วนของโครงการ ชญาดา บิซ เพลส ที่อยู่ในตลาดบ้านทาวน์โฮม จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภค เพราะเป็นจุดสมดุลระหว่างคอนโดมิเนียมกับบ้านเดี่ยว โดยมีจุดแข็งที่ราคาไม่แพงแต่ได้ทำเลดีกว่าบ้านเดี่ยว และไม่ต้องลุ้นกับสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายเหมือนคอนโดมิเนียมนั่นเอง
เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 : Hubzoomer.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer