ฝนตกหนัก น้ำท่วมบ้านควรทำอย่างไร ?

รวม 7 ข้อ ตรวจเช็คบ้านหลังน้ำลด

ช่วงนี้ที่กรุงเทพฯ เจอมรสุมมากมาย ล่าสุดก็เจอกับพายุเข้า ทำให้ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจนหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ถึงกับน้ำท่วมเลยทีเดียว พื้นที่ใจกลางเมืองอย่างเส้นสุขุมวิทก็ยังไม่รอด ท่วมหนักจนทำให้เจ้าของบ้านหลายบ้านถึงกับเพลียเลยทีเดียว เพราะหลังจากน้ำลดแล้วปัญหาข้าวของในบ้านเสียหายก็จะตามมาเยอะแยะมากมาย วันนี้เราเลยได้รวบรวมวิธีดูแลบ้านหลังจากประสบกับเหตุน้ำท่วมมากฝากเพื่อน ๆ กัน ต้องทำอะไรบ้าง ไปเช็คพร้อม ๆ กันเลย…

ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

เมื่อเกิดน้ำท่วมสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือรีบปิดวงจรไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด หรือสับคัตเอาต์ไปเลย เพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าเดิน แต่หากน้ำลดแล้วให้ลองเปิดวงจรไฟฟ้าขึ้นอีกครั้ง (คัตเอาต์ต้องมีฟิวส์เสมอ) หากเปิดแล้วไฟฟ้าทำงานได้ปกติ แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่หากยังมีน้ำขังอยู่ตามสายไฟบางจุด คัตเอาต์จะตัดไปเองและฟิวส์จะขาด ให้รอสัก 1 วันให้สายไฟแห้งสนิทค่อยซื้อฟิวส์มาเปลี่ยน แล้วลองเปิดวงจรไฟฟ้าอีกครั้ง แต่หาตัดไปอีกแนะนำให้โทรหาช่างไฟฟ้ามาจัดการ

สำรวจแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือควรสำรวจแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าละเอียด ตามซอกหลืบ มุมห้อง หรือตามเฟอร์นิเจอร์ อาทิ สัตว์เลื้อยคลานทั้งที่เป็นอันตรายและไม่อันตราย แต่หากพบสัตว์ที่อันตราย ไม่ควรจับด้วยตัวเองให้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ หรือผู้เชี่ยวชาญมาจัดการ

คราบสกปรกบนพื้นและผนังบ้าน

เนื่องจากน้ำที่เข้ามาท่วมบ้านนั้น เป็นน้ำที่ไม่สะอาดที่ขึ้นมาจากท่อ เพราะฉะนั้นน้ำเหล่านี้จะมาพร้อมกับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคมากมาย หลังจากน้ำลดไปแล้วเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะยังคงติดอยู่ตามกำแพง พื้น หรือตามเฟอร์นิเจอร์ที่โดนน้ำท่วมนั่นเอง วิธีจัดการคือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำฉีดพรมบนพื้นผิวบนที่ต้องการทำความสะอาด และทิ้งไว้ 10-15 นาที และใช้แปรงขัดช่วย จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ที่สำคัญอย่าลืมสวมใส่เครื่องมือป้องกัน ก่อนลงมือทำความสะอาด เช่นถุงมือ หน้ากากอนามัย เป็นต้น

สำรวจเฟอร์นิเจอร์

สำรวจเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านแต่ละชิ้นว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน โดยเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทจะมีวิธีจัดการที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ควรทำความสะอาดและปล่อยให้แห้งในที่ร่ม ไม่ควรนำไปตากแดดอย่างยิ่งเพราะจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เกิดการบิดงอจนอาจมีใช้งานไม่ได้อีก หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเบาะหรือฟองน้ำ เช่น เก้าอี้ โซฟา อาจต้องตัดใจทิ้งเนื่องจากฟองน้ำเหล่านี้ถึงทำความสะอาดแล้ว แต่เชื้อโรคก็ยังคงไม่ไปไหน หากเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวต์อินต่าง ๆ ที่ไม่สามารถเครื่องย้ายได้ ให้ตรวจดูสภาพ หากไม่ได้เสียหายมากจนใช้งานไม่ได้เลย ก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้อยู่แต่ควรทำให้เฟอร์นิเจอร์แห้งสนิทก่อน ด้วยการเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้อาการได้ถ่ายเทและไล่ความชื้นออกไป หรือจะเปิดพัดลมช่วยก็ได้

วอลเปเปอร์เสียหาย

หากโดนน้ำเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดการหลุดล่อน เมื่อน้ำลดจะเกิดเป็นเชื้อรา ให้ทำการลอกวอลเปเปอร์ที่ชำรุดออก และปล่อยให้กำแพงแห้งสนิท ค่อยทำการติดวอลเปเปอร์ใหม่

กลิ่นอับไม่พึ่งประสงค์

กลิ่นเหม็นจากท่อน้ำ สามารถใช้กากใบชาแห้ง หรือกากกาแฟช่วยดูดซับกลิ่นอับเหล่านี้ได้ และไม่ควรใช้น้ำยาที่มีกลิ่นหอมเทราดลงในท่อ เนื่องจากจะทำให้กลิ่นเหม็นรุ่นแรงขึ้น ควรเปิดประตูและหน้าต่างไว้เพื่อให้อากาศได้ระบายและถ่ายเท่ ช่วยไล่ความชื้นที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับไม่พึ่งประสงค์ได้

ระบบประปา

อย่าลืมทำการตรวจสอบปั้มน้ำว่าใช้งานได้หรือไม่ หากปั้มที่โดนน้ำท่วม ไม่ควรใช้งานอีกต่อไป เพราะอาจก่ออันตรายจากการที่น้ำท่วมขังในมอเตอร์ ควรเรียงช่างหรือผู้มีความเชี่ยวชาญมาจัดการให้ดีกว่า

 

…
เรียบเรียงโดย Homezoomer

เว็บไซต์ ประกาศ ซื้อ ขาย บ้าน มือ1 มือ2 :  Hubzoomer.com

ติดตามข่าวสาร รีวิวบ้านและคอนโด สาระน่ารู้ : Homezoomer