พรีวิว คอนโด ONE 9 FIVE ASOKE – RAMA 9 (วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9)


ONE 9 FIVE ASOKE – RAMA 9

ประเภทที่อยู่ :
คอนโดมิเนียม
สถานที่ตั้ง :
ถนนพระราม 9 ซอย 5 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
ลักษณะอาคาร :
คอนโดมิเนียม High Rise สูง 61 ชั้น 2 อาคาร และร้านค้าเพื่อการพาณิชย์
จำนวนยูนิต :
อาคาร A 954 ยูนิต , อาคาร B 957 ยูนิต
ขนาดที่ดิน :
ประมาณ 11-1-6 ไร่
รูปแบบที่พักอาศัย :
1 Bedroom 25.5 – 41 ตร.ม.

2 Bedroom 55 – 68 ตร.ม.

3 Bedroom 94 – 109.5 ตร.ม.

Penthouse 194 – 271 ตร.ม.

จำนวนที่จอดรถ :
951 คัน คิดเป็น 50 % (ไม่รวมซ้อนคัน)
เฟอร์นิเจอร์ :
Fully Fitted
พื้นที่ :
25.5 – 271.5 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น :
4,500,000 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย / ตร.ม. :
170,000 บาท / ตร.ม.
สร้างเสร็จประมาณ :
คาดว่าแล้วเสร็จ มีนาคม 2564
สิ่งอำนวยความสะดวก :
Grand Lobby , Library Room , Game Room , Theatre Room , Fitness , Meeting Room , Sky Lounge , Mailbox Room , Sauna Room , Pool , Kid’s Club , พื้นที่สีเขียว 8.6 ไร่
เจ้าของโครงการ :
TC Development
โทร :
02 – 245 – 0999

เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ

จอง :
1 Bedroom 30,000 บาท / 2 Bedroom 50,000 บาท
ทำสัญญา :
1 Bedroom 50,000 – 80,000 บาท / 2 Bedroom 100,000 บาท
ค่ากองทุน :
600 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง :
55 บาท / ตร.ม.


พิกัดที่ตั้งโครงการ

Zone :
พระราม9 รัชดาภิเษก สุทธิสาร ห้วยขวาง ศูนย์วัฒนธรรมฯ
รถไฟฟ้าใกล้เคียง :
BTS สายสีเขียวเข้ม อโศก (E4)
MRT สายสีน้ำเงิน พระราม 9
แอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน
จุดขึ้นลงทางด่วน :
ทางด่วนพระราม 9   
สถานที่ใกล้เคียง :
The Grand Rama 9 , Central Rama 9 ,Fortune Town , G – Tower , The Super Tower, The 9th Tower , Uniliver Tower, โรงพยาบาล พระราม 9 , MCOT (อ.ส.ม.ท.) , True Tower , Tesco Lotus, Esplanade Cineplex, ตลาดนัดรถไฟรัชดา, The Street รัชดา , สถานทูตจีน , ศูนย์วัฒนธรรม , AIA Capital Center

ทำเลและการเดินทาง

ที่ตั้งของโครงการคอนโด ONE 9 FIVE จะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9 ใจกลาง New CBD พระราม 9 ซึ่งจะใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำเล NEW CBD ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดกับ G Land เป็นทำเลที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิเช่น Central Plaza Grand Rama9, Super Tower และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆตลอดแนวถนนอโศก- รัชดา นอกจากนี้ยังอยู่ใจกลางแหล่งธุรกิจใหม่ที่จะมีอาคารสำนักงานทั้งไทย และต่างชาติโดยรอบอาคาร ทำให้ทำเลของโครงการนี้มีศักยภาพกว่าที่อื่นๆถ้ามองในมุมนักลงทุนก็น่าลงทุน ถ้ามองในมุมผู้อาศัยจริงๆก็เป็นโครงการที่น่าซื้อเก็บไว้

การเดินทางที่สะดวก สามารถเลือกใช้บริการจาก MRT รถไฟฟ้าใต้ดินที่จะห่างจากตัวโครงการ One9Five เพียงประมาณ 250 เมตร หรือใครที่เดินทางบ่อยๆสามารถเลือกใช้บริการจาก Airport Link สถานีมักกะสันที่อยู่ห่างเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวนั้นเส้นทางการเดินทางถือว่าอยู่ใจกลางเมืองก็ว่าได้เพราะจากโครงการต้องการไป | อโศก เพียงสองแยกไฟแดงก็สามารถถึงอโศก – สุขุมวิท ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร | รัชดาภิเษก เพียง 1 แยกไฟแดง ระยะทางประมาณ 700 เมตร | เพชรบุรีตัดใหม่ 2 แยกไฟแดง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร | ดินแดง – วิภาวดี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร | ทองหล่อ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร | เอกมัย ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร | สยาม ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร | สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร เดินทางจากโครงการ One9five ไปยังสถานที่สำคัญๆจุดต่างๆในกรุงเทพฯถือว่าสะดวก และรวดเร็วมาก เพราะตัวทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองทำให้จะเดินทางด้วยวิธีไหนก็สะดวก

MRT พระราม 9 200 เมตร

Central Plaza Grand Rama 9 250 เมตร

G Tower 200 เมตร

Super Tower 120 เมตร

Fortune Tower 300 เมตร

Airport Link Makkasan 1 กิโลเมตร

Express Way 950 เมตร

สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร

ที่กล่าวมาก็เกือบจะครบระบบของการเดินทางสำคัญๆในกรุงเทพฯ แล้วนะครับ

One9Five Rama9

ตัวที่ตั้งของโครงการจะอยู่ถัดจากอาคาร Unilever เข้าไปด้านหลังเพียงนิดเดียว ตำแหน่งจะประมาณนี้ครับ

การเดินทางมายังโครงการ One9Five มาจากเส้นทางต่างๆดังนี้

มาจากสุขุมวิท – ผ่านอโศก – ข้ามแยกเพชรบุรี – มาเลี้ยวขวาแยกพระราม9 – โครงการ One9Five อยู่ซ้ายมือ

มาจากดินแดง – ขับเข้าถนนพระราม 9 (ฝั่งขาออก) มุ่งหน้าไปสี่แยกพระราม 9 – ขับตรงข้ามแยกมาแล้ว โครงการ One9Five อยู่ซ้ายมือ

มาจากถนนรัชดาภิเษก (ฝั่งขาเข้า) – ขับมาจนถึงแยกพระราม 9 – เลี้ยวซ้าย – โครงการ One9Five อยู่ซ้ายมือ

มาจากถนนพระราม 9 (ฝั่งขาเข้า) ที่มาจากแยกรามคำแหง – ขับตรงมาเรื่อย (ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามสี่แยกพระราม9) มาถึงสี่แยกพระราม 9 กลับรถ โครงการ One9Five อยู่ซ้ายมือ

เรามาชมการเดินทางโดยรถยนต์กันจริงๆบ้าง ซึ่งจะเริ่มจากบนด่วน ขับตามป้ายมุ่งหน้าไปพระราม 9

ขับมาจนจะถึงพระราม 9 ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อลงทางออกถนนรัชดาภิเษก เพื่อที่จะลงไปแล้วเจอสี่แยกพระราม 9

ออกซ้ายตามป้ายที่บอกไป ถนนรัชดาภิเษก (สี่แยกพระราม 9)

พอลงมาจากทางด่วนจะมาเจอถนนอโศก – ดินแดง ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายเลยครับ

เลี้ยวซ้ายมาแล้วตอนนี้จะอยู่บนถนนอโศก – ดินแดง มุ่งหาไปสี่แยกพระราม 9 ให้เราชิดขวาเพื่อจะเลี้ยวขวาตรงสี่แยก

เตรียมเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกพระราม 9

เลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนพระราม 9 (ฝั่งขาออก)

พอเลี้ยวขวามายังถนนพระราม 9 แล้วให้เตรียมตัวชิดซ้ายเลยนะครับ

พอผ่านอาคาร Unilever มาแล้วให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปชมโครงการคอนโด One9Five

เลี้ยวซ้ายเลยครับ จุดสังเกตบริเวณด้านหน้าจะมีป้ายชื่อโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9

ผังโครงการ

โครงการ One9Five เป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น เป็นคอนโดที่สูงที่สุดในย่านพระราม 9 บนที่ดิน 11 ไร่กว่า โดยแบ่งเป็น Tower A 954 ยูนิต Tower B 957 ยูนิต ห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน 25.50 ตร.ม. ใหญ่สุดเป็นห้องแบบ Penthouse 271.50 ตร.ม. ลิฟท์โดยสารมีถึง 6 ตัว และ Service 1 ตัว พื้นที่จอดรถมีถึง 951 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

Master Plan ทางเข้า ออก ที่อยู่ติดถนนพระราม 9 จะหันไปทางทิศใต้ บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีพื้นที่ของ Shop จำนวน 4 ยูนิต ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่สีเขียวและที่จอดรถบางส่วน ทางรถวิ่งจะวิ่งตามเข็มนาฬิกา โดยขับด้านข้างจนไปสุดด้านหลังโครงการแล้ววนออกอีกฝั่งของโครงการ ซึ่งตลอดทางจะมีต้นไม้ และที่จอดรถตลอดแนวทางขึ้นที่จอดรถจะอยู่ทางทิศตะวันตก และด้านหลังสุดจะเป็นพื้นที่ของ Hydroponic Garden, Playground, Sand Play, Community Kitchen, Ev Charger และ Self Car Washing ที่ดูเหมือนโครงการอื่นๆจะไม่มีในนี้ไว้รองรับลูกบ้าน ถือว่าเป็นสิ่งที่คนอยู่คอนโดบางส่วนต้องการอย่างมากสำหรับพื้นที่สำหรับล้างรถ ส่วน Ground Floor ทางฝั่งทิศตะวันออกเกือบทั้งหมดจะเป็น Shop ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 23 ยูนิต

โครงการ One9Five จะมีทั้งหมด 2 อาคาร มีความสูง 61 ชั้นเท่ากัน ซึ่งจะแบ่งเป็นอาคาร A และB สำหรับอาคาร A จะอยู่ด้านหน้าสุด และอาคาร B จะอยู่ด้านหลัง ซึ่งทั้ง 2 อาคารนี้จะเชื่อมต่อกันด้วยอาคาร 8 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ที่เป็นพื้นที่จอดรถ และFacilities Floor ที่อยู่บนชั้นที่ 8 ชั้น Ground ทั้ง 2 อาคารจะมี Layout ที่เกือบจะเหมือนกันทั้งหมด (Mirror) จะแตกต่างตรงที่อาคาร A ด้านหน้าและด้านหลังจะมี Shop อยู่จำนวน 6 ยูนิต แต่อาคาร B จะมีห้องพักอาศัยอยู่จำนวน 3 ยูนิต และ Shop 4 ยูนิต นอกนั้นฟังค์ชันต่างๆ Grand Lobby, Private Mezzanine Lobby, Concierge Room, Mail Box room, Laundry room, Express Storage room, Public room และ Life Lobby อาคารละจำนวน 6 ตัว

Floor Plan 2 – 3 (A Tower& B Tower) ที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นนี้ โดยห้องพักชั้นที่ 2 จะมีจำนวนทั้งหมด 8 ยูนิต และชั้นที่ 3 จำนวนทั้งหมด 7 ยูนิต สำหรับห้องพักที่นี่จะเป็นห้องมุมเกือบทั้งหมด เนื่องทางโครงการได้ออกแบบ Floor Plan ให้เกือบทุกยูนิตวางในตำแหน่งไม่เท่ากัน ทำให้เกิดมุมในแต่ละยูนิตขึ้นมา สำหรับอาคาร A ห้องพักอาศัยจะหันไปทางทิศใต้ และตะวันตก อาคาร B ห้องพักอาศัยจะหันไปทางทิศเหนือ และตะวันตก

4 Floor Plan (A Tower& B Tower) จำนวนห้องพักอาศัยจะมีจำนวนที่มากขึ้นเป็น 15 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งห้องที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือห้องทางทิศใต้ และตะวันออก ( A Tower ) และห้องทางทิศเหนือ และตะวันออก ( B Tower ) พื้นที่ตรงกลางที่เชื่อมระหว่าง 2 อาคารก็ยังเป็นพื้นที่จอดรถ

Floor Plan 5 – 6 (A Tower& B Tower) สำหรับห้องพักอาศัยจะมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ยูนิต ซึ่งจะเหมือนกับชั้นที่ 4 ตำแหน่งแต่ละ Room Type จะเหมือนกันเช่นกัน พื้นที่ตรงกลางที่เชื่อมระหว่าง 2 อาคารก็ยังเป็นพื้นที่จอดรถ

Floor Plan 7 (A Tower & B Tower) สำหรับห้องพักอาศัยจะมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ยูนิต ซึ่งจะเหมือนกับชั้นก่อนหน้าที่ จะแตกต่างตรงพื้นที่จอดรถตรงกลางชั้นนี้จะเป็นโถงที่เชื่อมต่อมาจากชั้นที่ 6

Floor Plan 8 (A Tower & B Tower) ชั้นนี้จะไม่มีห้องพักอาศัย เนื่องพื้นที่ทั้งหมดของชั้นนี้ถูกวางไว้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด บริเวณตรงกลางจะเป็นพื้นที่สีเขียว และสระน้ำขนาดใหญ่

พื้นที่ภายในทั้ง 2 อาคารจะมีฟังก์ชันการใช้งานต่างๆเหมือนกัน (Mirror) Residence Lounge, Library Room, Yoga Zone, Private Spa, Pool Lounge (Semi Outdoor), Swimming Pool, Jacuzzi, Hot/Cold Tub, Stream Room, Sauna Room, Theatre Room, Golf Simulator Room, Fitness Central, Cross Fit Zone, Boxing Area, Locker Room, Kid’s Club และ Games Room พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ทั้งหมดมีความใหญ่ถึงประมาณ 8.6 ไร่ ถือว่าใหญ่ที่สุดในย่านพระราม 9 ก็ว่าได้

Floor Plan 9 – 29 (A Tower & B Tower) ทั้ง 2 อาคารจะมี Floor Plan ที่เหมือนกัน ตำแหน่งของ Room Type ต่างๆ ก็เหมือนกัน มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ยูนิต/ชั้น/อาคาร

โดยวางห้องแบบ 2 ห้องนอน (Type C ขนาด 55 ตร.ม. ทิศตะวันตก และ Type D ขนาด 68 ตร.ม. ทางทิศตะวันออก) ไว้ตำแหน่งมุมทั้ง 4 ทิศ

ห้องแบบ 1 ห้องนอน (Type F1 และ E จะหันไปทางทิศตะวันตก | Type F และ E จะหันไปทางทิศตะวันออก )

ห้องแบบ 1 ห้องนอน (Type A และ B จะหันไปทางทิศใต้ | Type A และ B จะหันไปทางทิศเหนือ

โดยโถงลิฟท์จะอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตึก ทำให้ห้องพักอาศัยที่นี่เป็น Single Corridor ไปในทันที

Floor Plan 30 – 31 (A Tower & B Tower) สำหรับชั้นที่ยูนิตที่หายไปจะเป็นห้องฝั่งทางทิศตะวันตก ที่จะหายไปจำนวนทั้งสิ้น 4 ยูนิต

Floor Plan 32 – 55 (A Tower & B Tower) จำนวนยูนิตจะกลับมาเท่าเดิมคือ 18 ยูนิต จะแตกต่างตรงห้องแบบ 1 ห้องนอนตำแหน่งทิศเหนือ และทิศใต้จาก Type A และ B เปลี่ยนเป็น Type A1 และ B1 ซึ่งขนาดจะลดลงประมาณ 4 ตารางเมตร

Floor Plan 56 – 58 (A Tower & B Tower) Floor plan จะเปลี่ยน จำนวนยูนิตจะลดลงเหลือเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น  จะเหลือห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A1 36 ตร.ม. เพียง 2 ยูนิตต่อชั้น นอกนั้นอีก 8 ยูนิตจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดซึ่งจะมี Type L 67 ตร.ม. (ทิศตะวันตก) | Type J 94 ตร.ม. (ทิศเหนือและใต้ ฝั่งตะวันตก)  |Type K 109.50 ตร.ม. (ทิศเหนือและใต้ ฝั่งตะวันออก)   | Type L1 69.50 ตร.ม. (ทิศตะวันออก)

Floor Plan 59 – 60 (A Tower & B Tower) จะเป็นห้องแบบ Duplex

Type P1 ทิศเหนือ และใต้ | Type P2 ทิศตะวันตก | Type P3 ทิศตะวันออก

Floor Plan 61 (A Tower & B Tower) จะเป็นพื้นที่ของ Sky Lounge สำหรับลูกบ้าน

Room Type A ขนาด 40.50 ตร.ม. ห้องแบบ 1 ห้องนอน ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่ทางทิศเหนือ และใต้ ตั้งแต่ชั้น 4 – 7 และ 9 – 31 ทั้ง A Tower และ B Tower ฟังก์ชันภายในห้องแบ่งส่วนการใช้งานได้อย่างชัดเจน เดินเข้ามาจะเจอส่วนครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งชุดครัวจะเป็นตัว L เข้ามุมเรียบร้อย ถัดเข้ามาเป็น Living Area เป็นพื้นที่ของตำแหน่งวางชุดโซฟา และชั้นวางทีวี ซึ่งตำแหน่งของห้องแบบนี้จะอยู่ตำแหน่งตรงกลางทิศเหนือ และใต้ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องลมของอาคารทำให้ระเบียงของห้องแบบนี้จะอยู่ด้านข้างของห้อง ถือว่าเป็น Layout ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อย เข้ามาในส่วนห้องนอนที่จะกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนระหว่าห้องนอน กับห้องนั่งเล่น ห้องน้ำจะเป็น Double Access ที่สามารถเข้า ออกจากห้องนอนหรือเข้า ออกบริเวณส่วนครัว  ห้องแบบนี้จะทำให้ห้องดูใหญ่ และกว้างเป็นพิเศษถ้าเปิดประตูกั้นบานเลื่อนตรงระหว่างห้องนอน กับห้องนั่งเล่น

Type A1 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตร.ม.ห้องแบบนี้จะมี Layout และตำแหน่งห้อง เหมือนกับแบบ Type A เพียงแต่ขนาดจะเล็กลงเหลือ 36 ตร.ม. และมีตั้งแต่ชั้น 32 – 58 ทั้ง A Tower และ B Tower

Room Type B ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตร.ม. ตำแหน่งห้องแบบนี้จะอยู่ทางทิศเหนือ และใต้ ทั้ง A Tower และ B Tower ทั้ง  ตั้งแต่ชั้น 9 – 31 ฟังก์ชันของห้องแบบนี้จะแตกต่างจาก Type A ตรงที่ส่วนของครัวจะกั้นเป็นสัดส่วน (ครัวปิด) บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้อง ทำให้มีพื้นที่ส่วน Living Area ใหญ่ขึ้น และเชื่อมต่อไประเบียงทางด้านในสุด  ส่วนห้องนอนในแบบนี้จะมีขนาดที่เล็กลงกว่าแบบ Type A และ กั้นเป็นสัดส่วนกว่า Type A เช่นกัน ซึ่งห้องแบบนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า Type A นิดหน่อย  ห้องน้ำเป็น Double Access เหมือนกันกับห้องแบบ Type A

Type B1 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36.50 ตร.ม.ห้องแบบนี้จะมี Layout และตำแหน่งห้อง เหมือนกับแบบ Type Bเพียงแต่ขนาดจะเล็กลงเหลือ 36.50 ตร.ม. และมีตั้งแต่ชั้น 32 – 58 ทั้ง A Tower และ B Tower

Room Type C ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตร.ม. เป็นห้องมุมทางทิศเหนือ และใต้ฝั่งทิศตะวันตก  ตั้งแต่ชั้น 7 และ 9 – 55 ห้องแบบนี้จะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ครัว 1 Living Area ฟังก์ชันการใช้งานของห้องนี้จะเจอส่วนครัวเป็นอันดับแรกเวลาเข้ามาภายในห้อง ถัดเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area ที่สามารถเชื่อมออกไปยังระเบียงได้ ห้องนอน Master จะอยู่ด้านในสุดมีห้องน้ำในห้อง ส่วนห้องนอนที่ 2 จะอยู่ตำแหน่งตรงกลางของห้อง และใช้ห้องน้ำที่ 2 ที่อยู่ด้านนอกตรงข้ามกับห้องนอนที่ 2 พอดี

Room Type D ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 68 ตร.ม. เป็นห้องมุมทางทิศเหนือ และใต้ฝั่งทิศตะวันออก ตั้งแต่ชั้น 7 และ 9 – 55 ห้องแบบนี้จะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ครัว 1 Living Area ห้องแบบนี้จะมีห้องตัวอย่างให้ชมจริงๆด้านล่างต่อจากนี้นะครับ  ห้องแบบนี้จะได้ Layout ที่มีพื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนได้อย่างลงตัว และเต็มพื้นที่ เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวที่เป็นแนวยาว และมี Island ที่เชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร ถัดมานิดหน่อยบริเวณทางเข้าห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำที่ 2 พื้นที่ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Living Area และ dining ยาวจนไปถึงทางออกไปยังระเบียง ซึ่งระเบียงจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน อีกจุดจะเข้าออกบริเวณส่วนครัว มาถึงห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่จะอยู่ด้านในสุด ห้องนอน Master จะอยู่ตรงตำแหน่งมุมของอาคารพอดี ทำให้ห้องนอนสามารถรับวิวได้ถึงสองทิศ ห้องน้ำในตัว และมีอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ติดถัดไป ซึ่งจะไม่มีห้องน้ำในตัว

Room Type E ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35.50 ตร.ม. เป็นห้องทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ตั้งแต่ชั้น 7 และ 9 – 55 ห้องแบบนี้จะเป็นห้องที่มีหน้าแคบ และลึก ฟังก์ชันของห้องแบบนี้จัดสัดส่วนได้ลงตัว ครัวกั้นเป็นสัดส่วนด้านหน้า ส่วน Living Area และห้องน้ำอยู่ตำแหน่งกลางห้อง ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด กั้นห้องด้วยประตูแบบบานเลี่อน

Room Type F ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.50 ตร.ม. เป็นห้องทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ตั้งแต่ชั้น 7 และ 9 – 55 จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กสุด Layout แบบนี้จะเป็นแบบที่มาตรฐานมากๆ ด้านหน้าสุดทางเข้าจะเป็นส่วนครัว และห้องน้ำ ถัดเข้าไปเป็นส่วน Living area ที่กั้นห้องนอนที่อยู่ด้านนสุดด้วยประตูแบบบานเลื่อน เวลาเปิดประตูบานเลื่อนจะทำให้ห้องดูกว้าง และไม่อึดอัด ส่วนระเบียงจะอยู่ด้านในสุดเชื่อมต่อจากห้องนอน

Zoom โชว์รูม

เรามาชมภายใน Sales Gallery ของโครงการคอนโด One 9 Five กันเลยครับ ด้านในจะมีห้องตัวอย่างทั้งสิ้น 4 ห้อง เป็นแบบ 1 ห้องนอนจำนวน 3 ห้อง และห้องแบบ 2 ห้องนอน จำนวน 1 ห้อง

บริเวณด้านหน้า Sales Gallery จะมีป้ายชื่อโครงการเด่นชัดอยู่ติดกับถนนใหญ่พระราม 9

เข้ามาภายใน Sales Gallery สิ่งแรกที่เห็นจะเป็นโมเดลอาคารของคอนโด One 9 Five ตั้งอยู่โดดเด่น เป็นคอนโดสูง 61 ชั้น จำนวน 2 อาคาร แบ่งเป็น Tower A ด้านซ้ายมือ และ Tower B ทางด้านขวามือ

ทางเข้า ออก โครงการ จะอยู่ติดกับถนนใหญ่พระราม 9 ซึ่งหันไปทางทิศใต้

มุมนี้จะมองมาจากถนนพระราม 9 ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มุมนี้จะเห็น Tower A และ Tower B ได้อย่างชัดเจน

ภาพมุมสูงมองไปยังบริเวณด้านหน้าเริ่มตั้งแต่ทางเข้า ออก เข้ามาจะเจอพื้นที่สวนสีเขียวขนาดค่อยข้างใหญ่ก่อนที่จะผ่านเข้าไปยังจุด Drop Off ที่จะอยู่ด้านหลังถัดจากพื้นที่สวนสีเขียว

พื้นที่ส่วนกลางที่อยู่อาคารเชื่อมต่อระหว่าง Tower A กับ Tower B บนชั้นที่ 8 ที่มีสระว่ายน้ำที่มีความยาวถึง 100 เมตร และพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น

นี่คือภาพจำลองของ Facilities บนชั้นที่ 8

ภาพนี้คือ Tower B ที่หันไปทางทิศใต้ ห้องด้านนี้จะเป็นห้องทั้งแบบ 1 ห้องนอน Type E&F และห้องแบบ 2 Type Dห้องนอนที่เป็นห้องมุมทั้งซ้าย ขวา

มุมนี้จะเป็น Tower A ด้านทิศเหนือ ด้านนี้จะสามารถมองเห็นพื้นที่ Facilities ที่อยู่ชั้น 8 ได้

อาคารที่จอดรถที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Tower A และ Tower B

ภาพนี้จะมองจากด้านหลังโครงการฝั่งทิศตะวันตก ย้อนกลับไปทางเข้า ออก โครงการ

มุมนี้ก็มองจากด้านหลังเช่นกัน แต่เป็นฝั่งทางด้านทิศตะวันออก

บริเวณด้านหลังโครงการจะมีพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆมากมาย

ภาพจำลองของสวนสีเขียวด้านหลังของโครงการ

มุมนี้จะเป็นมุมมองจากทางทิศใต้ มองเข้าไปโครงการ

One 9 Five Tower A และ Tower B

มาชมห้องตัวอย่างกันจริงๆบ้างครับ ห้องตัวอย่างแรกจะเป็นห้อง Type A ขนาด 40.50 ตร.ม. ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่ทางทิศเหนือ และใต้ ตั้งแต่ชั้น 4 – 7 และ 9 – 31 ทั้ง A Tower และ B Tower

สำหรับโครงการนี้ห้องที่ได้รับมอบจะเป็นแบบ Fully Fitted ซึ่งจะมีชุดครัว ตู้เก็บของ  และตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์เป็น Kohler แอร์ฝั่งฝ้ายี่ห้อ Daikin 1 ห้องนอนจะได้จำนวน 2 ตัว | 2 ห้องนอนจำนวน 3 ตัว ความสูงภายในห้อง Floor to ceiling 2.7 เมตร บริเวณครัวจะสูง 2.45 เมตร

ชุดครัวที่ได้รับจะมีทั้งตู้ล่าง และบน เป็นตู้ Built in ออกแบบพิเศษ หรือเทียบเท่า ตามภาพนี้เลยครับ Top ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ลายหินอ่อน หน้าบานจะเป็น Hi Gloss และ Soft Close ทั้งหมด

มุมนี้จะมองเข้าไปในส่วนด้านในที่เป็นพื้นที่ของ Living Area และ ห้องนอน

ก่อนจะเข้าไปชมด้านในมาแวะดูห้องน้ำกันก่อน ห้องน้ำจะเป็นแบบ Double Access ภาพนี้จะเป็นด้านที่เข้า ออก จากด้านนอกบริเวณส่วนครัว

ถัดเข้าถึงบริเวณ Living Area จะเห็นได้ว่าห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อ และห้องจะดูโล่งกว่าปกติ เพราะเปิดประตูกั้นแบบบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ถ้าต้องกันความเป็นส่วนตัวก็ปิดประตูกั้นไป

ชั้นวางทีวีจะอยู่ติดผนังด้านข้างของห้อง ประตูที่เห็นตรงกลางนั้นจะเป็นทางออกไปยังระเบียง เพราะตำแหน่งห้อง Type นี้ จะอยู่ติดกับช่องลมของอาคารพอดี

เข้ามาถึงส่วนของห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างสบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่ด้านข้างทั้งสองด้านไว้เป็นที่เดินได้อีกต่างหาก

มุมนี้จะมองเข้าไปยังทางเข้าห้องน้ำ

ก่อนจะเข้าไปยังห้องน้ำจะมี Walk in Closet อยู่พอดี ซึ่งทางโครงการจะ Built in ตู้เสื้อให้ด้วยนะครับ

มองย้อนจากห้องน้ำกลับไปห้องนอน สังเกตดีๆ กระจกจะเป็นกระจกบานเต็มสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้ห้องเปิดโล่ง และสามารถรับแสงจากภายนอกได้อย่างเต็มที่

ส่วนมุมนี้จะเป็นภาพรวมของห้องนี้ เวลาเปิดประตูกั้นออก ห้องจะดูกว้างไม่อึดอัด

ในส่วนเตาไฟฟ้าเซรามิกเป็นระบบ induction และเครื่องดูดควันต่อท่อออกด้านนอกอาคารในทุกห้อง ซึ่งจะเลือกใช้ของ MEX

อ่างล้างจานสแตนเลส และก๊อกน้ำนำเข้า

ระยะห่างจากโซฟาไปยังชั้นวางทีวี

ข้างเตียงสามารถหาชั้นมาวางไว้ได้

ห้องตัวอย่างห้องต่อมาเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 41 ตร.ม.

ประตูเข้าห้องเป็น Digital Door Lock ของ YALE

ห้องแบบ  1 ห้องนอน Type B นี้จะแตกต่างจากห้องที่แล้วตรงที่ส่วนครัวจะย้ายมาอยู่เป็นสัดส่วนเป็นครัวปิด ทำให้พื้นที่เข้ามาในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับประทาน ยาวจนไปสุดด้านในจนออกไปยังระเบียงเลย ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกว้างและโล่ง ส่วนอีกฝั่งที่เป็นห้องครัวจะกั้นห้องอย่างเป็นระเบียบ

มุมนี้จะมองไปยังห้องครัวที่กั้นเป็นสัดส่วน และห้องน้ำที่เป็น Double Access

เข้ามาภายในห้องครัวชุดครัวจะถูก Built in เป็นตัว L เข้ามุมเป็นระเบียบเรียบร้อยตามในภาพนี้

เดินออกมาจากห้องครัว ตรงข้ามจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างจะกว้างจึงสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดที่นั่งได้ 4 – 6 ท่านเลยทีเดียว

ถัดเข้ามาในส่วน Living Area พื้นที่วางโซฟาจะสามารถวางโซฟาที่มีขนาดที่ใหญ่ได้สบายๆ ซึ่งขนาดนี้สามารถนั่งได้ถึง 4 – 5 เลยทีเดียว ในห้องตัวอย่างนี้จะติดตั้งทีวีไว้กับผนังเลย ติดตั้งแบบนี้จะทำให้มีพื้นที่มากขึ้นไม่ขวางทางเดินไปยังทางออกระเบียง

มุมนี้จะมองไปยังทางเข้าห้องน้ำ และห้องนอน

ห้องนอนจะกั้นเป็นสัดส่วน

เข้ามาภายในห้องนอน ห้องตัวอย่างนี้จัดออกมาได้น่านอนมากๆ ดูเป็นระเบียบมาก

มองไปยังทางเข้าห้องน้ำ ทางเข้าห้องน้ำทั้งสองข้างจะ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าเอาไว้

พื้นที่ตรงกระจกจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกต่างหาก

เข้ามาภายในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่นี่เป็น Kohler ตู้ใต้อ่างล้างหน้าพร้อมเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว Shower Box เป็นกระจก ที่มาพร้อมกับ Hand Shower & Rain Shower ราวแขวนผ้าเช็ดตัว, สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ยี่ห้อ Englefield

ห้องตัวอย่างที่ 3 ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35.50 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะอยู่ทางทิศตะวันออก และตะวันตก ด้านละ 2 ยูนิต เข้าไปชมด้านในกันเลย

ประตู Digital Door Lock

เข้ามาภายในห้องมองตรงจะเป็นห้องครัวที่แยกส่วนได้อย่างพอดี

มองไปทางซ้ายจะเป็นพื้นที่ของ Living Area และห้องนอน

ภายในห้องครัวจะ Built in ตู้ไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งที่เห็นจะเป็นชุดครัวที่มีตู้บน และล่างที่มาพร้อมกับ Hood Hob หน้าบานเป็น Hi Gloss และ Soft Close ทั้งหมด

อ่างล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยมใช้งานได้ง่าย ถัดไปทางขวาจะเป็นพื้นที่ของเตาไฟฟ้า

เตาไฟฟ้า และที่ดูดควัน MEX จะวางไว้ตำแหน่งของมุมห้องเลย

อีกฝั่งจะ Built in เป็นตู้บน และล่างเช่นกัน แต่เพิ่มเติมคือช่องสำหรับใส่ Microwave

มุมนี้จะมองจากบริเวณส่วน Living Area มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

นั่งอยู่บนเตียงมองไปด้านหน้าจะเจอตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

ทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกนิรภัยพร้อมกรอบอลูมิเนียม  มีความสูงอยู่พอสมควร

ออกมายังระเบียง มีตะแกรงปิด Condensing unit เป็นระเบียบเรียบร้อย

กลับเข้ามาภายในห้อง มองย้อนไปทางเข้าห้อง ซ้ายมือจะเห็นทางเข้าไปยังห้องน้ำ

เข้ามาภายในห้องน้ำ อุปกรณ์ต่างๆจะเหมือนกับทุกห้องที่ผ่านมาครับ 

Top ที่ล้างหน้าจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาวลายหิน

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler

Hand Shower & Rain Shower

พื้นภายในห้องจะเป็นไม้เอ็นจิเนียร์วูดด์ ขนาด 15 มม. ส่วนภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60

 ห้องนอนจะถูกกั้นส่วนด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 68 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็นห้องตำแหน่งมุมทางฝั่งทิศตะวันออก

พอเข้ามาภายในห้องจะเจอกับตู้เก็บของที่ Built in ไว้อย่างเรียบร้อย

มองไปทางด้านซ้ายที่ติดกับประตูทางเข้าคือชุดครัวที่ Built in เป็นแนวยาวขนานกับผนังจนไปสุดถึงทางออกไปยังระเบียง มองเข้าไปด้านในจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่เชื่อมติดกับ Island

ครัวที่ได้สำหรับห้องนี้จะยาวเป็นพิเศษ อุปกรณ์วัสดุต่างๆจะเหมือนกับห้องที่ผ่านมาทุกห้อง

มุมนี้เดินเข้ามายืนอยู่ตรงบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารมองไปยังส่วนครัว

Island ถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มากั้นส่วนระหว่างครัว กับ Living Area ได้ดีพอสมควร

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

เข้ามาถึงบริเวณ Living Area

พื้นที่ตรง Living Area นี้จะสามารถวางชุดโซฟาได้ถึง 2 ตัวด้วยกัน ถัดไปด้านในจะเป็นพื้นที่ของระเบียง

มุมนี้จะเห็นทางเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ส่วนห้องขวาสุดจะเป็นห้องน้ำที่ 2

ห้องนอนที่ 2 กับห้องน้ำที่ 2

ภายในห้องน้ำที่ 2 จะทั้งส่วยเปียก และแห้ง

มุมนี้จะมองไปยังด้านในสุดจะเห็นได้ว่าประตูกระจกที่กั้นระเบียงจะมีความสูงมากจนสามารถมองไปด้านนอกได้อย่างชัดเจน

ภาพมุมกว้าง

ห้องนอนที่ 2 ดูใหญ่ และโล่งเนื่องจากกระจกหน้าต่างเป็นกระจกแบบบานเต็มจึงสามารถรับแสงจากภายนอกได้อย่างชัดเจน

มุมย้อนกลับไปยังทางเข้าห้องนอนที่ 2 จะเห็นตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าบริเวณทางเข้าห้อง

มาถึงห้องนอน Master ซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ของเตียงนอน ส่วนขวามือจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนี้เลย

มองเข้าไปยังเตียงนอน กระจกใสๆที่เห็นคือ Sexy bath

ตู้เสื้อผ้าจะ Built in เข้าไปยังผนังทำให้มีพื้นที่เดินเข้าห้องน้ำได้สะดวก

เข้ามาภายในห้องน้ำ ขวามือจะเป็นตำแหน่งของอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ส่วนซ้ายมือคือ Shower Box แต่ที่พิเศษคือภายใน Shower Box นี้จะมีอ่างอาบน้ำอยู่ด้วย

อ่างอาบน้ำจะสามารถมองออกไปยังห้องนอนผ่านกระจกใส

และมุมนี้คือมุมที่มองไปยังห้องน้ำแบบ Sexy Bath ภายใน Master Bedroom

สรุป by Homezoomer

ที่มาของ One 9 Five

ถ้าให้พูดถึงผู้พัฒนาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปัจจุบัน ก็จะมีทั้งที่เป็นบริษัทที่พัฒนาที่ดินกันมาตั้งแต่สมัยก่อน และเพิ่งเกิดขึ้นมาเพียงไม่กี่ปี ที่พักอาศัยในกรุงเทพมหานครจะแบ่งออกเป็นในเมืองชั้นใน และรอบนอกกรุงเทพฯ ทำไมถึงมีเพียงกรุงเทพฯ ชั้นใน และรอบนอก เพราะในปัจุบันกรุงเทพชั้นในที่อยู่ใจกลางเมืองจริงๆ ผู้พัฒนาที่ดินจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม เพราะด้วยราคาของที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแบบแนวราบได้มากสักเท่าไหร่ ดังนั้นเราจะเห็นคอนโดขึ้นกันตลอดเวลาตามทำเลที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน

บวกกับการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน อาจจะเป็นเพราะความเจริญทางด้านต่างๆเข้ามาสู่คนไทย และเทคโยโลยีทางด้านอื่นๆ ในโลกได้เปลี่ยนไปจากการพัฒนาระบบต่างๆ จนทำให้การดำเนินชีวิตประจำวัน และการอยู่อาศัยของคนในปัจจุบันนี้ต้องการอะไรที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นประโยชน์ต่อคนมากที่สุด ดังนั้นที่พักอาศัยใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จะต้องทันสมัยทั้งหน้าตาภายนอกภายใน และสะดวกสบายมากที่สุด จะเป็นคอนโดมิเนียมเกือบทั้งหมดที่เป็นที่นิยมในตอนนี้ และความต้องการปัจจัยหลักๆ ของคนในปัจจุบัน ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยจะมีอยู่เพียงไม่กี่อย่างนั้นก็คือทำเลที่มีความเจริญเข้าถึงอย่างเช่นอยู่ในแนวรถไฟฟ้า อยู่ใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และราคาที่เหมาะสมที่สุด

ในปัจจุบันตอนนี้ถ้าให้พูดถึงทำเลที่เป็นที่ต้องการกับคนหลักๆจะมีอยู่ไม่กี่ที่ และหนึ่งในนั้นก็จะเป็นทำเลที่กำลังเรียกกันอยู่ว่าเป็น NEW CBD ของกรุงเทพฯ นั้นก็คือ “พระราม9” ตรงบริเวณแยกพระราม 9 ที่มีความสะดวกเกือบทุกด้านและยังเป็นทำเลเศษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จนทำให้มีที่พักอาศัยอย่างคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอยู่บริเวณนั้น แต่ด้วยที่ดินที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาที่ดินบริเวณแยกพระราม 9 นั้นมีราคาที่สูง จนผู้พัฒนาที่ดินหลายเล็กๆยังไม่สามารถเข้ามาพัฒนาได้ อาจด้วยปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นราคาที่ดินที่สูง ความชำนาญ และประสบการณ์ ทำให้บริเวณพระราม 9 – อโศก จะมีผู้พัฒนาทางด้านอสังหาฯอันดับต้นๆของประเทศเกือบทั้งหมดที่พยายามหาที่ดินบริเวณพระราม 9 และวันนี้จะมานำเสนอผู้พัฒนาที่ดินที่มีความชำนาญและประสบการณ์กับทำเลพระราม 9 อย่าง TC Development ที่เพิ่งประกาศที่จะขึ้นคอนโดมิเนียมบนทำเลติด NEW CBD

TC Development เป็นบริษัทที่พัตนาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีประสบการณ์กับที่พักอาศัยแนวสูง ซึ่งทาง Tc development ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยโดยเน้นและศึกษากลุ่มคนที่มี Lifestyle แบบ International ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีการใช้ชีวิตประจำวันที่ทันสมัย ตามเทรนด์ บวกกับมีความหรูหราในการใช้ชีวิต เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ชอบการมีสังคม รักการท่องเที่ยวทั่วโลกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ในขณะที่ทำงานก็จะจริงจัง แต่นอกเวลางานก็จะใช้ชีวิตแบบเต็มที่ ให้ความสำคัญกับครอบครัว

นอกเหนือจากนั้น TC Development ยังเป็น Brand ที่สื่อถึงการใช้ชีวิตสะดวกสบายอย่างมีคุณภาพในการอยู่อาศัย คำนึงถึงการอยู่อาศัยอย่างมีระดับ บนความสะดวกสบายมากที่สุด การสร้างที่อยู่อาศัยให้กับคนอยู่เป็นสิ่งที่ TC Development ให้ความสำคัญอย่างมาก ทั้งเรื่อง Brand เรื่องการออกแบบทั้งภายนอก ภายในอาคาร รวมถึงส่วนกลางที่จะให้กับทางลูกบ้าน ส่วนเรื่องวัสดุในห้องพักก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่ง TC Development ได้นิยามคำว่า Luxury ออกมาได้แตกต่างจากเดิมโดยให้มีชีวิตแบบ World Class ในทุกๆวันที่ได้อยู่

คำว่า Luxury สำหรับคอนโดมิเนียมหรือที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่จะเป็นคำที่ฟังแล้วดูแพงจนบางคนไม่กล้าคิดที่จะซื้อหรือเพียงแต่ดู แต่คำว่า Luxury ก็ไม่จำเป็นที่จะมีราคาสูงจนไม่สามารถแตะได้ TC Development ให้คำนิยามของ Luxury Living แนวใหม่ว่าเป็นที่อยู่อาศัยที่มีระดับในแบบคนยุดใหม่ ชอบความหรูหราในแบบทันสมัย เลือกสิ่งที่สามารถนำมาใช้ด้วยกันได้อย่างมีสไตล์ โดยไม่คำนึงถึงราคาเป็นที่ตั้ง โดยมองถึงคุณภาพเป็นหลัก นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับสิ่งที่นำมาใช้ลงตัวมากที่สุด

ดังนั้น TC Development จึงสรรสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินแปลงที่เรียกได้ว่าหาแถบไม่ได้แล้วในโซนพระราม 9 New CBD ให้เป็นที่พักอาศัยโดยให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดเริ่มตั้งแต่

  • Design ออกแบบอาคารทั้งภายนอก และภายใน เลือกใช้ทีมออกแบบระดับ Top ของประเทศมาสรรสร้างที่อยู่ให้มีฟังก์ชั่นในทุกส่วนออกมาให้ดีที่สุด
  • Location ที่มีความสะดวกครบครันทั้งเรื่องการเดินทาง และการใช้ชีวิตประจำวัน
  • Lifestyle ในแบบฉบับคนเมืองที่มีความชอบกับสิ่งที่สามารถเติมเต็มให้กับชีวิตมีความสะดวก และสบาย
  • ตัวโครงการ One9Five เป็น Project ใหญ่ดังนั้นสิ่งที่จะได้แน่นอนคือส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 ไร่ ถือว่าใหญ่ที่สุดใน อโศก – พระราม 9 ทางโครงการทำ landscape ออกมาได้สวยเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเรียกว่า Sky Hill สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในโครงการก็จัดเตรียมไว้ให้ครบและมากกว่าที่อื่น สระว่ายน้ำ Infinity edged Pool มีขนาดความยาวถึง 100 เมตร นับว่าเป็นสระของคอนโดที่ยาวที่สุดในโซนพระราม 9นอกเหนือจากนั้นบนชั้น 8 ยังมี Residential Lounge, Library Room, Theatre Room, Golf Simulators Room, Yoga, Private spa และอื่นๆ บนชั้นที่ 61 จะเป็น Sky Residential Lounge, Private sky Lounge, Private Sky meeting room และ Sky bar จุดเด่นอีกอย่างที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับคือพื้นที่ที่สามารถล้างรถ ซึ่งโดยปกติคอนโดที่อื่นๆจะไม่มีอันนี้ไว้ให้ และ EV Chargers
  • ห้องพักอาศัยโครงการ One9Five เกือบ 60% เป็นห้องมุม (Conner Units) และมีเพียง 18 ยูนิตต่อชั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย

สุดท้ายคือเป็นที่พักอาศัยที่มีแนวคิดใหม่ที่นำเอาความ Luxury มาผสมผสานกับความทันสมัยที่ออกมาแล้วผู้อยู่อาศัยได้รับผลประโยชน์มากที่สุดทั้งชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆภายในโครงการ และที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆโดยรอบโครงการ บวกทั้งเรื่องราคาที่อยู่ในระดับมาตรฐานจริงๆไม่สูงเวอร์จนเกินไป ทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าซื้ออยู่เอง และซื้อไว้ลงทุน


Tag