ทำเลและการเดินทาง

FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) เป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก การเดินทางเข้าออกถือว่าสะดวกเลยครับ สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการจะตั้งอยู่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 13 ซึ่งจะเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนสุขสวัสดิ์ (ห่างจากโครงการ 300 เมตร) กับถนนราษฎร์บูรณะ (ห่างจากโครงการเพียง 180 เมตร) ดังนั้นจากโครงการจะสามารถเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทางหลักๆ ซึ่งทั้ง 2 ถนนนี้ถือว่าเป็นถนนเส้นหลักสำคัญในการเดินทางบริเวณโซนนี้

ถนนสุขสวัสดิ์เป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อมาจาก (ฝั่งขาเข้า) ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง ถนนรัชดาภิเษก (สะพานพระราม3) ถนนกรุงธนบุรี ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เชื่อมกับสะพานตากสิน – CBD สาทร) ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนถึงความสะดวกในการเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯชั้นในอย่าง CBD สาทร และถนนพระราม 3 ทำได้สะดวกเป็นอย่างมาก มากไปกว่านั้นยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร จะเป็นเส้นทางทางด่วนที่ข้ามฝั่งไปยังฝั่งกรุงเทพชั้นในเพียงไม่กี่นาทีสามารถเข้าถึงกรุงเทพชั้นในได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจะเป็นอีก 1 จุดเด่นสำคัญของทำเลที่ตั้งของโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) นี้เลยครับ

ในส่วนถนนพระราม 2 ก็ถือว่าเป็นถนนเส้นสำคัญอีกสายที่อยู่ใกล้กับโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) ความพิเศษของพระราม 2 จะถูกเรียกว่าเป็นโซนศูนย์การค้าภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในโซนกรุงเทพตอนใต้เลยก็ว่าได้ ดังนั้นความเจริญในด้านต่างๆ ที่เกิดจากการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เกิดขึ้นอย่างครบครัน จุดเด่นอีกจุดที่ใกล้กับถนนพระราม2 คงจะเหมาะกับใครที่ต้องเดินทางไปโซนสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ยาวไปทางภาคใต้เป็นอย่างมาก

กลับกันไปยังฝั่งขาออกของถนนสุขสวัสดิ์ จะเป็นถนนยาวจนไปสุดช่วงพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ ระหว่างนั้นจะตัด และเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญอย่าง ถนนประชาอุทิศ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนอุตสาหกรรม) ที่เชื่อมต่อกรุงเทพรอบนอกเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจากโครงการถ้าเลือกใช้ทางพิเศษกาญจนาภิเษกข้ามฝั่งไปจะสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทได้อย่างรวดเร็วมากๆ

ความพิเศษที่ใกล้กับถนนราษฎร์บูรณะ คงจะเป็นในเรื่องของการเดินทาง ถนนราษฎร์บูรณะเป็นถนนที่ไม่ยาวมาก แต่เชื่อมกับถนนเจริญนครที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับถนนกรุงธนบุรี สะพานตากสินที่ข้ามฝั่งไปยัง CBD สาทรได้อย่างรวดเร็ว ความพิเศษอีกอย่างของถนนราษฎร์บูรณะ จะเป็นถนนวิ่งเรียบขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นจุดเด่นของบริเวณนี้จะเป็นสถานที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบทั้งหมด อาทิเช่น ICONSIAM ร้านอาหารริมน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย สามารถการันตีได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมากครับ

จุดเด่นสำคัญของโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) คือใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ สถานีบางปะกอกเพียง 800 เมตรเท่านั้น ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นครับ

นอกจากการเดินทางที่สะดวกแล้ว ที่ตั้งของโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าต่างๆ โรงเรียน โรงพยาบาล รวมไปถึงสำนักงานต่างๆ อีกด้วย ยิ่งเพิ่มความสมบูรณ์แบบในการอยู่อาศัยเข้าไปอีกครับ

ศูนย์การค้า

BigC บางปะกอก 600 เมตร

Makro บางปะกอก 600 เมตร

ตลาดอินดี้ ดาวคะนอง 1.1 กม.

Lotus บางปะกอก 1.6 กม.

BigC ดาวคะนอง 2.2 กม.

HomePro สุขสวัสดิ์ 9 กม.

Central พระราม 3

Terminal พระราม 3

Central พระราม 2 9 กม.

BigC พระราม 2 9 กม.

สถานพยาบาล

โรงพยาบาลบางปะกอก 1 1.3 กม.

โรงพยาบาลประชาพัฒน์ 1.4 กม.

โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ 1.7 กม.

โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล 1.8 กม.

โรงพยาบาลบางขุนเทียน 1 2.5 กม.

โรงพยาบาลนครธน 6.75 กม.

สำนักงาน

สำนักงานสรรพากร 700 เมตร

สำนักงานเขตราษฎร์บูรนะ 1.75 กม.

สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 2.25 กม.

สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานกทม. พื้นที่ 2 2.6 กม.

ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ราษฎร์บูรณะ 5 กม.

สำหรับการเดินทางจริงๆ เราจะเริ่มตั้งแต่บนทางด่วนพิเศษ ทางเราจะโชว์ให้เห็นว่าการเดินทางเข้าออกจากโครงการไปยังกรุงเทพฯชั้นใน (CBD) ทำได้ง่าย และสะดวกมากๆ โดยจะเริ่มตั้งแต่บนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครมุ่งหน้าไปยังดาวคะนอง โดยขับตามป้ายดาวคะนองไปตลอดเส้นทางนะครับ ระหว่างทางจะข้ามสะพานพระราม 9 แล้วไปลงช่วงถนนพระราม2 (ฝั่งขาเข้า) หลังจากนั้นไปเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณแยกพระราม 2 – สุขสวัสดิ์ หลังจากนั้นประมาณ 150 เมตรให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 13 จะเจอที่ตั้งของสำนักงานโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) ทางซ้ายมือทันที ส่วนตัวโครงการเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) เราจะเริ่มตั้งแต่บนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร โดยทางทีมขึ้นบริเวณคลองเตย ท่าเรือ ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปยังดาวคะนอง โดยขับตามป้ายดาวคะนองนะครับ จะมาดูกันว่ามันสะดวก และรวดเร็วมากแค่ไหน

ให้ขับตามป้ายดาวคะนองไปเรื่อยๆ นะครับ ตอนนี้เราจะอยู่ด้านบนของถนนสาธุประดิษฐ์ ขับตรงตามทางไปก่อนครับ ด้านหน้าจะเป็นสะพานพระราม 9

ขับมาไม่นานจะมาขึ้นสะพานพระราม 9 ข้ามฝั่งไปยังฝั่งธน

จุดสังเกตคือ หลังจากเลยสะพานพระราม 9 มาประมาณ 4 กม. จะมาเจอป้ายดาวคะนอง ให้เตรียมตัวชิดซ้ายเพื่อจะออกไปยังดาวคะนองเพื่อลงไปยังถนนพระราม 2

พอมาเจอป้ายนี้ให้ออกซ้ายเพื่อจะลงไปสู่ถนนพระราม 2

หลังจากลงทางด่วนมาแล้ว ตอนนี้จะอยู่บนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1 กม. จะเจอกับสี่แยก ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์

ขับตรงตามทางจนมาเจอแยก ให้เตรียมตัวเลี้ยวขวานะครับ

เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์แล้วให้ชิดซ้ายทันทีเลยนะครับ เพราะซอยสุขสวัสดิ์ 13 จะห่างจากแยกที่เลี้ยวมาเพียง 130 เมตรเท่านั้น

ข้ามสะพานข้ามคลองให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์13

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 13 เลยครับ

เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอสำนักงานขาย FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) ทางซ้ายทันที

ถึงสำนักงานขายโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ แต่สำหรับที่ดินโครงการจริงๆ จะอยู่เลยเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร ซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือเช่นกันครับ

เราเข้าไปชมห้องตัวอย่างจริงๆ กันเลยครับ

สำหรับการเดินทางเส้นทางอื่นๆ ถ้ามาจากถนนกรุงธนบุรี เข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพียงขับตรงตามทางมาเรื่อยๆ แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอบสุขสวัสดิ์ 13 ก็ถึงละครับ หรือมาจากถนนราษฎร์บูรณะก็สะดวก ดังนั้นที่ตั้งของโครงการสะดวกเข้าออกทั้ง 2 เส้นทางเลยครับ

FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 3 อาคาร ออกแบบมาในสไตล์ Modern ผสมผสานกับ Contemporary ที่นี่จะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงนอกจากจะเป็นคอนโด 8 ชั้นแล้ว ยังมีจำนวนยูนิตเพียง 493 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าไม่หนาแน่นเลยครับ สำหรับอาคารจะถูกแบ่งออกเป็น อาคาร A อาคาร B และ อาคาร C มีแบบห้องให้เลือกอยู่ 3 แบบ 1 Bedroom Lite 22.50 ตร.ม., 1 Bedroom 25.50 – 26 ตร.ม. และ1 Bedroom Plus 32 – 35.50 ตร.ม.

ทิศบริเวณรอบโครงการ

ทิศเหนือ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ทิศตะวันออก ที่ดินเปล่า ตึกแถว

ทิศใต้ อาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น

ทิศตะวันตก บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

Master Plan เริ่มตั้งแต่ทางเข้าออกโครงการจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับถนนซอยสุขสวัสดิ์ 13 เข้ามาภายในโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่บริเวณโดยรอบโครงการ และเป็นพื้นที่จอดรถ อาคาร A จะมีรูปทรงของตึกเป็นตัว L คว่ำหัวซึ่งจะอยู่ฝั่งทางทิศเหนือ สำหรับอาคาร B เป็นรูปทรงตรง จะอยู่ด้านหน้าติดกับถนนหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และอาคาร C ก็จะเป็นรูปตัว L คว่ำหัวจะอยู่ไปทางทิศตะวันตก แต่ละอาคารก็จะมี Lobby ส่วนตัวทั้ง 3 อาคาร พื้นที่จอดรถประมาณ 189 คัน (รวมซ้อนคัน) ความพิเศษของโครงการนี้จะมี Ev Station มาให้ด้วยนะครับ ไปชมรายละเอียดของแต่ละอาคารกันต่อเลยครับ

อาคาร A ชั้นที่ 2 จะถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงตัว L มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 23 ยูนิต โดยห้องในแต่ละแบบก็จะกระจายไปทั่วชั้นเริ่มตั้งแต่

Type A 1 Bedroom Lite พื้นที่ 22.50 ตร.ม. จะมีจำนวนทั้งสิ้น 3 ยูนิต หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

Type B 1 Bedroom 25.50 – 26.00 ตร.ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 13 ยูนิต เป็นแบบห้องที่มีเยอะที่สุดนะครับ ซึ่งจะหันไปทุกทิศเลยครับ ถือว่าเป็นแบบห้องที่มีตำแหน่งให้เลือกเยอะกว่าแบบห้องอื่นๆ

Type C 1 Bedroom Plus จะมีจำนวนทั้งหมด 7 ยูนิต โดยจะแบ่งออกเป็น

C1 ขนาด 33.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะอยู่ติดกับลิฟท์โดยสารหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 1 ยูนิต

C2 ขนาด 32.00-32.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น

C3 ขนาด 34.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะเป็นห้องมุมจำนวนทั้งสิ้น 4 ยูนิต

C4 ขนาด 35.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจำนวนเพียง 1 ยูนิต

อาคาร A ชั้นที่ 3 – 8  มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 23 ยูนิต ตำแหน่งของแบบห้องต่างๆ ก็จะเหมือนกับชั้นที่ 2

Type A 1 Bedroom Lite พื้นที่ 22.50 ตร.ม. จะมีจำนวนทั้งสิ้น 3 ยูนิต หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

Type B 1 Bedroom 25.50 – 26.00 ตร.ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 13 ยูนิต เป็นแบบห้องที่มีเยอะที่สุดนะครับ ซึ่งจะหันไปทุกทิศเลยครับ ถือว่าเป็นแบบห้องที่มีตำแหน่งให้เลือกเยอะกว่าแบบห้องอื่นๆ

Type C 1 Bedroom Plus จะมีจำนวนทั้งหมด 7 ยูนิต โดยจะแบ่งออกเป็น

C1 ขนาด 33.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะอยู่ติดกับลิฟทืโดยสารหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 1 ยูนิต

C2 ขนาด 32.00-32.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น

C3 ขนาด 34.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะเป็นห้องมุมจำนวนทั้งสิ้น 4 ยูนิต

C4 ขนาด 35.50 ตร.ม. ตำแหน่งจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจำนวนเพียง 1 ยูนิต

อาคาร B ชั้นที่ 2 ความพิเศษของอาคารนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางซึ่งจะประกอบไปด้วย ตัวสระเป็นระบบเกลือ ยาว 15.5 เมตร, ห้องฟิตเนส, Co-Working Space และสวนสีเขียว สำหรับแบบห้องบนชั้นที่ 2 นี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ Type A ซึ่งจะมีจำนวนทั้งสิ้น 9 ยูนิต หันไปด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนห้องมุมทั้งหมดของชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ Type C3 จำนวน 4 ยูนิต  และห้องแบบ Type B จำนวน 2 ยูนิต ตำแหน่งจะอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

อาคาร B ชั้น 3 – 8 จะจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 19 ยูนิต/ชั้น แบ่งออกเป็น

Type A ขนาด 22.50 ตร.ม. จำนวน 9 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

Type B ขนาด 25.50 – 26.00 ตร.ม. จำนวน 5 ยูนิต ทั้งหมดจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

Type C3 ขนาด 34.50 ตร.ม. จำนวน 4 ยูนิต ตำแหน่งจะเป็นห้องมุมทั้งหมด

Type C4 ขนาด 35.50 ตร.ม.มีเพียง 1 ยูนิต หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

อาคาร C ชั้นที่ 2 – 8 แปลนและตำแหน่งของแบบห้องจะเหมือนกันทั้งหมดนะครับ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น

Type A ขนาด 22.50 ตร.ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 7 ยูนิต/ชั้น โดยทั้งหมดจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

Type B ขนาด 25.50 – 26.00 ตร.ม. จำนวนทั้งสิ้น 17 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งของห้องจะกระจายไปทุกทิศ และเป็นห้องมุมด้วยนะครับ ซึ่งใครที่ชอบห้องแบบนี้จะมีตัวเลือกที่เยอะกว่าแบบอื่นๆ

Type C1 ชนาด 33.50 ตร.ม. มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งจะอยู่ติดกับลิฟท์หันเข้าไปยังภายในโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

Type C2 ขนาด 32.00 – 32.50 ตร.ม. จะมีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งจะหันเข้าด้านในโครงการทางทิศตะวันตะวันออกเฉียงเหนือ

Type C3 ขนาด 34.50 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งจะเป็นห้องมุมทั้งคู่

Type C4 ขนาด 35.50 ตร.ม. มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งจะหันไปด้านนอกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

Type A ขนาด 22.50 ตร.ม. สำหรับห้องแบบนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโครงการ แต่รูปแบบห้องออกแบบมาได้อย่างลงตัว แยกส่วนการใช้งานออกจากกัน ห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้พื้นที่จะดูกว้างเป็นพิเศษ ส่วนแรกจะเป็น Living Area สามารถวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง และโต๊ะรับประทานอาหารได้อย่างพอดี ทางโครงการจะให้ชั้นวางทีวีมาให้ด้วยนะครับ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ข้อดีในการใช้กระจกใสจะทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด สามารถมองจากด้านหน้าสุดเข้าไปด้านในสุดได้โดยไม่มีอะไรมาบังสายตา ส่วนต่อไปจะเป็นส่วนใช้งานซึ่งจะแยกออกไปไว้ด้านข้างของตัวห้อง ดังนั้นส่วนครัว และห้องน้ำ ห้องแบบเหมาะกับใครที่ชอบทำอาหารเป็นอย่างมาก เพราะส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ทำให้การถ่ายเทของอากาศทำได้ดี สำหรับห้องแบบนี้ถึงจะมีขนาดเล็กแต่ฟังก์ชันการใช้งานถือว่าดีเลยนะครับ และจะมีห้องจำนวนยูนิตทั้งโครงการเยอะเป็นอันดับ 2 นะครับ

Type B ขนาด 25.50 – 26.00 ตร.ม. สำหรับห้องแบบนี้จะมีจำนวนมากที่สุดในโครงการ 242 ยูนิต การออกแบบถือว่าลงตัวได้มาตรฐาน รูปแบบห้องจะกั้นส่วนการใช้งานออกจากกันอย่างชัดเจน เอาพื้นที่ Living ไว้ด้านหน้าสุด เชื่อมต่อกับส่วนครัวปิด และระเบียง แล้วแยกเอาห้องนอนไปไว้อีกด้านของห้อง และมีห้องน้ำในตัว ห้องแบบนี้ถือว่าเป็นแบบห้องที่อยู่แล้วสบายลงตัวเป็นอย่างมากครับ

Type C1 ขนาด 33.50 ตร.ม. จะมีเพียง 1 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งจะมีอยู่อาคาร A และ อาคาร C ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะอยู่ติดลิฟท์ของแต่ละชั้น ข้อดีคือได้ Living Area ขนาดใหญ่ มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา กั้นห้องนอนเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด และห้องน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่

C2 ขนาด 32.00 – 32.50 ตร.ม. จะมีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น และมีอยู่แค่อาคาร A และอาคาร B ซึ่งทั้งโครงการจะมีอยู่เพียง 14 ยูนิต การออกแบบของห้องแบบนี้ก็ยังถือว่าลงตัวเป็นอย่างมาก ส่วนแรกคือ Living Area ที่มีขนาดใหญ่ ได้ส่วนครัวแยกออกเป็นสัดส่วน ทำให้พื้นที่ Living Area ไม่มีอะไรมาแชร์พื้นที่ ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ตำแหน่งด้านหน้าสุดของตัวห้อง จุดเด่นของห้องนี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมา และกั้นห้องนอนเป็นสัดส่วน แถมยังมีระเบียงส่วนตัวในห้องนอนอีกด้วย

C3 ขนาด 34.50 ตร.ม. จะมีอยู่ทุกอาคาร โดยทั้งโครงการจะมีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 70 ยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่ห้องแบบนี้จะเป็นห้องมุมทั้งหมด ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องถือว่าดีเลย แยกพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เอา Living Area ไว้ด้านหน้าสุด ความพิเศษของห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้าง ส่งผลให้พื้นที่บริเวณ Living Area ดูกว้างใหญ่เป็นพิเศษ ถัดเข้าไปกั้นห้องนอน กับห้องอเนกประสงค์ แล้วแยกส่วนการใช้งานอย่างส่วนครัว และห้องน้ำไปไว้ด้านข้างของตัวห้อง ถือว่าเป็นแปลนห้องที่ดีมากๆ สามารถอยู่ได้จริงๆ

C4 ขนาด 35.50 ตร.ม. ทั้งโครงการมีเพียง 20 ยูนิต มีเฉพาะอาคาร A และอาคาร C มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งของห้องนี้ทั้ง 2 อาคารจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเป็นวิวโล่ง การออกแบบถือว่าดีเลย พื้นที่เพียง 35.50 ตร.ม. แต่สามารถแบ่งการใช้งานได้อย่างลงตัว และห้องดูกว้างมาก เนื่องจากเอาพื้นที่ Living Area เชื่อมกับส่วนครัว โดยไม่มีอะไรมากั้นส่วน ส่งผลให้ห้องดูกว้างขึ้นมาทันที ส่วนห้องนอนกับห้องอเนกประสงค์อยู่ด้านในสุดทั้ง 2 ห้อง และห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างของตัวห้อง ห้องนี้ถือว่าออกแบบมาได้อย่างลงตัวมากเช่นกัน

ก่อนไปชมห้องตัวอย่างจริงๆ มาชมภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของที่นี่กันก่อนนะครับ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะอยู่บนชั้นที่ 2 ของอาคาร B ซึ่งจะประกอบไปด้วยตัวสระเป็นระบบเกลือ ยาว 15.5 เมตร

บริเวณรอบๆ สระว่ายน้ำจะเป็นสวนสีเขียวที่ให้ความร่มรื่น และทางโครงการยังจัดเตรียมเก้าอี้นั่งพักผ่อนไว้ให้บริเวณรอบสระว่ายน้ำ

ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็น Fresh & Flow Fitness ภายในห้องออกกำลังกายทางโครงการจัดเตรียมเครื่อง และอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายไว้ให้อย่างครบครัน

ถัดมาจะเป็น Co-Working Space จะเป็นพื้นที่สำหรับมานั่งทำงาน นั่งพักผ่อน

ภาพบรรยากาศจำลอง Lobby ของอาคาร B

ภาพบรรยากาศจำลองของ Lobby ของอาคาร C

ห้องตัวอย่างที่ 1 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Lite ขนาด 22.50 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดของโครงการ ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องถือว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ กั้นเป็นสัดเป็นส่วน สำหรับห้องที่นี่จะได้เป็นแบบ Fully Furnished ซึ่งจะได้ชุดครัว, ชุดโซฟา, ชั้นวางทีวี, โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้, ฐานเเตียงขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, Digital Door Lock และแอร์  ในส่วนความสูง Floor to Ceiling จะอยู่ที่ 2.4 เมตร

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Living Area เป็นอันดับแรก พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นตำแหน่งการวางของชุดโซฟาขนาดนั่งได้ 2 ท่าน ตรงกันข้ามกับชุดโซฟาจะเป็นชั้นวางทีวี ถ้าดูจากภาพนี้จะสามารถเห็นระยะในการนั่งดูทีวี ซึ่งจะอยู่ในระยะที่กำลังพอดี ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป

ถัดจากชุดโซฟาจะเป็นที่ตั้งของโต๊ะรับประทานอาหาร สำหรับห้องนอนจะกั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน ข้อดีของประตูกระจกใสจะทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัดไม่มีอะไรมาบังสายตา

เข้ามาภายในห้องนอน เตียงที่ได้จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต วางเข้ามุมห้องได้อย่างพอดี แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินบริเวณปลายเตียง และด้านข้างเตียงอยู่พอสมควร ในส่วนของหน้าต่างทางโครงการก็จัดกระจกใสบานใหญ่มาให้กับห้องเลย ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่

มุมนี้จะยืนอยู่บริเวณปลายเตียงมองย้อนกลับไปด้านหน้าของห้อง จะเห็นถึงความโปร่งของห้อง ถึงห้องจะขนาดแค่ 22.50 ตร.ม. แต่ภายในห้องกลับดูไม่อึดอัดเลยครับ

สำหรับห้องแบบนี้จะออกแบบให้ส่วนใช้งานอย่างครัว และห้องน้ำไปอยู่ด้านข้างของตัวห้อง

พื้นที่ของครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเป็นประจำครับ ชุดครัวที่ได้จะได้ทั้งตู้บน และตู้ล่างตามภาพนี้เลยครับ

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก กับส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย ในส่วนของสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ จะเลือกใช้เป็นของ Cotto และ Prema

ห้องตัวอย่างที่ 2 จะเป็นห้องแบบ Type B 1 Bedroom ขนาด 25.50 ตร.ม. สำหรับห้องแบบนี้จะเป็นห้องหน้ากว้าง ส่งผลให้พื้นที่ในแต่ส่วนภายในห้องดูกว้างเป็นพิเศษ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นจะได้มากับห้องเลยนะครับ ยกเว้นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะไม่ได้ สำหรับห้องแบบนี้จะมีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการเลยนะครับ

เข้ามาภายในห้องจะเจอ Living Area เป็นอันดับแรก ซึ่งจะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟา กับชั้นวางทีวีมาพร้อมกับลิ้นชักเก็บของ 2 ช่อง

โซฟาที่ได้จะเป็นขนาด 2 ที่นั่ง ติดกันจะเป็นในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งจะได้โต๊ะ และเก้าอี้จำนวน 2 ตัว ส่วนด้านในสุดจะเป็นครัวปิด ซึ่งจะกั้นส่วนครัวด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

ชุดครัวที่ได้จะเป็นตามนี้เลยครับ

ถัดมาจะเป็นในส่วนของห้องนอน ห้องแบบนี้จะกั้นห้องนอนเป็นสัดส่วนได้ความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ตำแหน่งของเตียงจะวางขนานไปกับหน้าต่างที่เป็นกระจกใสบานใหญ่ ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่เลยครับ เตียงที่ได้จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องสำหรับเก็บของจำนวน 2 ช่อง

ห้องแบบนี้จะได้ห้องน้ำในตัวนะครับ ภายในแยกส่วนเปียก กับส่วนแห้งมาให้เรียบร้อยเช่นกัน

ห้องตัวอย่างที่ 3 จะเป็นห้องแบบ Type C3 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. สำหรับห้องแบบนี้จะเป็นห้องมุมทั้งหมด ซึ่งจะมีอยู่ทุกอาคาร ความพิเศษของห้องแบบนี้คือจะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆ ตามความต้องการของผู้พักอาศัยเลยครับ ห้องที่ได้ก็เป็นแบบ Fully Furnished เช่นกัน

เข้ามาภายในห้องจะเห็น Living Area หลบไปอยู่ทางขวามือได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ

Living Area ให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ บริเวณในส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งของชุดโซฟา ชั้นวางทีวี ตู้รองเท้า และโต๊ะรับประทานอาหาร

Living Area จะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก

อีกฝั่งจาก Living Area จะเป็นในส่วนของห้องน้ำ และส่วนครัวปิด

ภายในห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆที่ผ่านมา แต่จะแตกต่างตรงที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า

ออกมาจากห้องน้ำจะเห็นห้องนอนที่กั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งจะติดกับ Living Area

เข้ามาภายในห้องนอนจะเห็นตำแหน่งของเตียงขนาด 5 ฟุต ที่ตั้งขนาดไปกับหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่

ถัดมาจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งตำแหน่งจะอยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนอนกับส่วนครัว ซึ่งจะอยู่ด้านในสุดของตัวห้องเลยครับ

สำหรับห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆนะครับ สำหรับในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัยเลยครับ

ติดกับห้องอเนกประสงค์ส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนครัว ซึ่งจะได้เป็นครัวปิดนะครับ กั้นส่วนด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน

เข้ามาภายในครัวจะเห็นตำแหน่งของชุดโซฟา Built in ขนาดไปกับห้อง และตำแหน่งของตู้เย็น สำหรับในส่วนครัวนี้จะมีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศด้วยนะครับ

FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 3 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A B C จำนวนทั้งสิ้น 493 ยูนิต บนที่ดินเกือบ 4 ไร่ ในส่วนของห้องจะมีให้เลือกอยู่ 3 แบบหลักๆ Type A 1 Bedroom Lite เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดในโครงการ ขนาดเพียง 22.50 ตร.ม. แต่รูปแบบของห้องแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้อย่างลง แบบห้องต่อมาจะเป็น Type B 1 Bedroom ขนาด 25.50 – 26.00 ตร.ม. จะเป็นห้องที่มีเยอะที่สุดในโครงการ ซึ่งจะกระจายไปทั้ง 3 อาคาร ห้องแบบนี้จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ได้มาตรฐาน กั้นส่วนการใช้งานได้อย่างชัดเจน และมีความเป็นตัวส่วนสูง ส่วนห้องแบบที่สุดท้าย Type C 1 Bedroom Plus จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ ความพิเศษคือจะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง ซึ่งห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน, ห้องเก็บของ หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้พักอาศัยได้เลยครับ ถือว่าน่าสนใจทั้ง 3 แบบเลยครับ ความพิเศษอีกจุดคือจะได้ห้องเป็น Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ ต่อมาในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ของโครงการนี้จะอยู่บนอาคาร B ชั้นที่ 2 ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส. Co-Working Space, สวนสีเขียว และ Lobby ในแต่ละอาคาร สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่มี ภาพรวมถือว่าโอเคเหมาะกับการอยู่อาศัย

จุดเด่นอีกจุดของโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) จะเป็นในส่วนของทำเลที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก เป็นจุดศูนย์การค้าสำคัญอันดับต้นๆ ของโซนกรุงเทพใต้ มีการพัฒนาในส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเจริญเกิดขึ้น และขยายออกมาจากกรุงเทพชั้นในอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ทำเลบริเวณโซนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อย่างเช่นศูนย์การค้า โรงพยาบาล โรงเรียน สำนักงานต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ในส่วนของการเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากๆ เนื่องจากที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 13 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนสุขสวัสดิ์ (จากโครงการ 300 เมตร) และถนนราษฎร์บูรณะ (ห่างจากโครงการเพียง 180 เมตร) ทั้ง 2 ถนนเป็นถนนเส้นสำคัญ ส่งผลให้การเดินทางไปยังจุดอื่นๆ ทำได้สะดวก และรวดเร็ว สามารถเดินทางเข้าออก CBD สาทรได้อย่างรวดเร็วเพียงขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร หรือเดินทางโดยใช้วงแหวนอุตสาหกรรมก็สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนสุขุมวิทได้สะดวกเช่นกัน และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ตัดผ่านในบริเวณโซนนี้ ซึ่งโครงการ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) จะใกล้กับสถานีบางปะกอกเพียง 800 เมตรเท่านั้น ยิ่งทำให้บริเวณโซนนี้จะเดินทางไปไหนก็สะดวก ถ้าเอาจุดเด่นในส่วนต่างๆ มารวมกันแล้วมาเทียบกับราคาเริ่มต้น 1.49  ล้าน (ราคาโปรโมชัน Pre-Sale) เฉลี่ย 62,994 บาท/ตร.ม. ผมว่าโคตรคุ้มมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยดีๆ แต่งครบ เดินทางสะดวก ที่นี่เลยครับ FLEXI Suksawat (เฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์) เป็นโครงการที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้ามองจากภาพรวมทุกอย่างแล้ว และในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ จะมีงาน Pre Sale ความพิเศษของงานนี้คือ เปิดตึกใหม่ ชั้นพิเศษ ซึ่งเป็นชั้นที่ไม่บล็อกวิว มีส่วนลดพิเศษถึง 100,000บาท ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ เฟอร์นิเจอร์ ใครพลาดงานนี้ถือว่าพลาดเป็นอย่างมากครับ