ทำเลและการเดินทาง

Mulberry Grove The Forestias Villas  (มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า) เป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวใหญ่หลายเจเนอเรชั่น ออกแบบเป็นบ้านคลัสเตอร์ ที่เชื่อมต่อวิลล่าให้เดินถึงกันได้ผ่านทางเดินเชื่อมจากบ้านสู่บ้าน ส่งเสริมให้ครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายช่วงวัยสามารถอยู่ใกล้ชิดกันได้ โดยที่แต่ละวัยยังมีความเป็นส่วนตัว และใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ขของตัวเองได้ในบ้านเดี่ยวของตัวเอง สำหรับ Mulberry Grove The Forestias Villas  จะตั้งอยู่ภายในโครงการ THE FORESTIAS by MQDC ซึ่งเป็นโครงการพักอาศัยที่รวมหลากหลายประเภทบนที่ดินขนาดใหญ่ประมาณเกือบ 400 ไร่ ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด ถือว่าตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก เป็นจุดศูนย์กลางหลักสำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพตะวันออก บางนาเป็นทำเลที่รับช่วงต่อความเจริญเชื่อมต่อมาจากสุขุมวิท ซึ่งเป็นความเจริญที่ขยายมาจากกรุงเทพฯชั้นใน ดังนั้นบางนาจึงได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาทางด้านต่างๆ มาโดยตลอด ส่งผลให้กลายเป็นแหล่ง Lifestyle และเป็นแหล่งที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่สุดทางกรุงเทพฯตะวันออก นอกจากนั้นการเดินทางก็แสนจะสะดวก ใกล้กับถนนเส้นสำคัญหลายสาย รวมไปถึงใกล้กับทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษบูรพาวิถี และถนนกาญจนาภิเษก ในส่วนของรถไฟฟ้าก็ใกล้กับ BTS รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แนวถนนสุขุมวิท) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (แนวถนนศรีนครินทร์) สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครันทั้งศูนย์การค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น

ศูนย์การค้า

Mega Bangna & Ikea

Bangkok Mall

Central Bangna

Central Village

Index Living Mall

King Power Sirivaree

Market Village

Paradise Park

Seacon Square

สถานพยาบาล

โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

โรงพยาบาลศิครินทร์

โรงพยาบาลสิรินธร

โรงพยาบาลไทยนครินทร์

สถานศึกษา

Bangkok Patana School

Berkeley International School

Concordian International School

International Community School

Raffles American School

St.Andrews International School

Thai-Singapore International School

The American School Of Bangkok

Wells Internation School

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas เราจะเริ่มต้นตั้งแต่บนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร (ฝั่งขาออก) มุ่งหน้าไปยังบางนา โดยไปลงทางออกบางนา หลังจากนั้นให้ขับตรงตามทางไปจนถึงเมกา บางนา บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะใช้สะพานกลับรถเดียวกับสะพานที่เชื่อมกับเมกาบางนา หลังจากกลับรถมายังถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า) ให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงโครงการ THE FORESTIAS by MQDC ทางซ้ายมือ

หลังจากลงมาจากทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เข้าสู่ถนนบางนา-ตราด ให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 5 กม. ก็จะไปถึงสะพานกลับรถบริเวณเมกาบางนา

ขับตรงตามทางไปเรื่อยๆนะครับ สังเกตป้ายไปเมกา บางนาเอาไว้ครับ

ขับมาประมาณ 5 กม. จะมาเจอป้ายกลับรถ และทางเข้าเมกา บางนา ให้เตรียมตัวเข้าซ้ายเพื่อเข้าไปยังทางคู่ขนานเพื่อที่จะขึ้นสะพานกลับรถกลับไปยังฝั่งขาเข้า

เข้าซ้ายเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ

ขึ้นมาบนสะพานแล้วให้ขับชิดขวาเอาไว้เพื่อที่จะกลับรถนะครับ

ขับชิดขวาเพื่อกลับรถนะครับ สะพานกลับรถนี้จะเป็นสะพานเดียวกับสะพานเข้าไปยังเมกา บางนา

พอลงมาจากสะพานกลับรถเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาเข้า) แล้วให้ขับตรงตามทางไปประมาณ 1.2 กม. THE FORESTIAS by MQDC จะอยู่ติดกับถนนใหญ่ทางซ้ายมือ

ขับตรงตามทางมาก่อนนะครับ

จากสะพานกลับรถมาประมาณ 1.2 กม. ก็จะมาถึง THE FORESTIAS by MQDC ทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ

ROSEBERRY 4 Bedroom บนที่ดิน 140 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,203 ตร.ม. มีจำนวน 11 ยูนิต

ชั้นใต้ดิน จะเป็นชั้นสำหรับจอดรถจำนวนทั้งสิ้น 4 คัน และเป็นพื้นที่ล้างรถที่ทางโครงการจะติดตั้งน้ำแรงในส่วนนี้ไว้ให้เรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ

ชั้นที่ 1 บนชั้นนี้จะมีพื้นที่สวนสีเขียวที่ทางโครงการปลูกหญ้าพร้อมต้นไม้มาให้สวยงาม นอกจากนั้นยังเป็นชั้นของห้องแม่บ้านจำนวน 2 ห้อง ครัวไทย ห้องพนักงานขับรถ และพื้นที่นั่งเล่น

ชั้นที่ 2 สำหรับชั้นนี้ถือว่าเป็นชั้นทางเข้าภายในบ้านหลัก ซึ่งบริเวณด้านหน้าทางเข้าจะเป็นพื้นที่ของ Courtyard ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่กลางบ้าน ในส่วนของภายในบ้านจะประกอบไปด้วย Living Room, Entertainment Room, Dining Room, Powder Room, Show Kitchen, Family Room, Terrace, ห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2

ชั้นที่ 3 สำหรับบนชั้นนี้จะมีห้องนอนจำนวน 2 ห้อง ซึ่งจะเป็นห้องนอนที่ 3 กับ Master Bedroom ซึ่งตำแหน่งจะอยู่คนละมุมของตัวบ้านมี Walk in Closet และระเบียงส่วนตัวทั้ง 2 ห้อง ซึ่งตรงกลางจะเป็นพื้นที่ของโถงบันได และตำแหน่งของห้องพระ

VISIONBERRY 5 BEDROOM ที่ดิน 165 ตร.วาพื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. มี 20 ยูนิต

ชั้นใต้ดิน สำหรับบ้านแบบนี้จะมีพื้นที่ใหญ่กว่าแบบแรก ซึ่งชั้นใต้จะมีพื้นที่จอดรถถึง 5 คัน มีพื้นที่สำหรับล้างรถ ห้องเก็บของขนาดใหญ่ และห้องระบบต่างๆ

ชั้นที่ 1 ชั้นนี้จะมีทางเข้าออกภายในบ้าน ลิฟท์โดยสาร พื้นที่ของสวนสีเขียว พื้นที่นั่งเล่นด้านนอก ห้องแม่บ้าน ห้องคนขับรถ ห้องซักรีด ความพิเศษของบ้านแบบนี้คือจะมีสระว่ายน้ำเพิ่มขึ้นมา และมีห้องอเนกประสงค์สามารถทำเป็นห้องฟิตเนสส่วนตัวภายในบ้านได้

ชั้นที่ 2 สำหรับบนชั้นนี้ฟังก์ชันภายในบ้านก็จะคล้ายๆกับบ้านแบบที่แล้วนะครับ ซึ่งด้านนอกจะมี Courtyard เข้ามาภายในบ้านจะแบ่งออกเป็น Living Room, Entertainment Room, Dining Room, Powder Room, Show Kitchen, Terrace, Family Room, ห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2

ชั้นที่ 3 ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 3 และ Master Bedroom ซึ่งตำแหน่งจะอยู่คนละมุมบ้านเช่นกัน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยบริเวณตรงกลางบ้านจะเป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นลง และโถงสูงแบบ Double Volume ที่เชื่อมต่อมาจากชั้นล่าง โดยจะมีความสูงถึง 9 เมตร ทำให้บ้านดูสูงโปร่ง และกว้างเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีบ้านตัวอย่างให้ชมกันจริงๆ ด้านล่างนะครับ

LEGENDBERRY 6 BEDROOM ที่ดิน 210 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,724 ตร.ม. มี 6 ยูนิต

ชั้นที่ 1 สำหรับบ้านแบบนี้จะเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีห้องนอนถึง 6 ห้อง พื้นที่ใช้สอยบนชั้นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 684 ตร.ม.แต่บ้านแบบนี้จะไม่มีชั้นใต้ดินนะครับ สำหรับพื้นที่จอดรถของบ้านแบบนี้จะอยู่บริเวณด้านข้างของตัวบ้าน สามารถจอดรถได้ถึง 6 คัน ซึ่งบริเวณที่จอดรถจะมีห้องระบบ ห้องเก็บของ และพื้นที่สำหรับล้างรถ ถัดมาจะเป็นห้องแม่บ้านจำนวน 2 ห้อง ซึ่งภายในห้องแม่บ้านนั้นจะมี Living Area และห้องน้ำส่วนตัวด้วยนะครับ ถัดมาจะเป็นห้องสำหรับคนขับรถ ห้องครัวไทย ห้องซักรีด ต่อมาจะเป็นพื้นที่สำหรับผู้พักอาศัย ซึ่งบนชั้นนี้จะมี Family Dining Room, Family Lounge, Powder Room ถัดออกด้านนอกบริเวณด้านข้างของตัวบ้านจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่ทางโครงการออกแบบมาเป็นรูปตัว L กินพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้ายาวจนมาสุดด้านหลังของตัวบ้าน ซึ่งจะติดกับสระว่ายน้ำส่วนตัว

ชั้นที่ 2 สำหรับชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ทางเข้าหลักที่มีบันไดเชื่อมต่อมาชั้นที่ 1 พอขึ้นมาจะเจอกับ Courtyard ขนาดใหญ่ ถัดเข้ามาภายในบ้านจะมีพื้นที่ Formal Living room, Working Room, Powder Room, Show Kitchen, Formal Dining Room, Living and Entertainment Room, Terrace และ Glass House ซึ่งแต่ละส่วนจะมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่มากถึง 423 ตร.ม.

ชั้นที่ 3 สำหรับชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องนอนจำนวน 4 ห้อง ซึ่งจะกระจายไปอยู่ตามมุมของตัวบ้านทั้งหมด ซึ่งแต่ละห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่เลยครับ มี Walk in Closet และระเบียงส่วนตัวทุกห้อง ซึ่งระเบียงจะเชื่อมต่อกันระหว่างห้องนอนที่ 3 กับห้องนอนที่ 4 นอกเหนือจากห้องนอนแล้ว บริเวณตรงกลางบ้านจะเป็นพื้นที่ของ Study Room, Family Living Room และ Fitness Room

ชั้นที่ 4 จะเป็นชั้นสูงสุดของบ้านแบบนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย Master Bedroom, Bedroom5, ห้องพระ และ Terrace

โครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas เป็นโครงการ บ้านคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่ให้สมาชิกในครอบครัวสามารถอยู่ด้วยกันได้เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ รวมคนทุกช่วงวัยอยู่ด้วยกันเอาไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยได้รับแรงบรรดาลใจมาจากวิถีชีวิตของครอบครัวคนไทยที่หลายเจเนอเรชั่นจะอาศัยอยู่ในบ้านระแวกใกล้ ๆ กัน โดยบ้านในโครงการนี้จะเชื่อมต่อกันผ่านทางเดินระหว่างบ้าน 2 หลังให้สามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างง่ายดายเหมือนกับเป็นบ้านหลังเดียวกันเลยครับ

บ้านตัวอย่างหลักแรกจะเป็นบ้านแบบ Roseberry เป็นบ้านที่มีขนาดเล็กที่สุดในโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas  มีพื้นที่ใช้สอย 1,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับ และสามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน ความพิเศษของบ้านที่นี่คือภายในบ้านจะเย็นสบาย เพราะมีการติดฉนวน และระบบต่างๆ เพื่อกันความร้อนเข้ามาภายในบ้าน ในส่วนตัวกระจกรอบตัวบ้านจะมีความหนาถึง 2 ชั้น และแยกออกจากกันทำให้ความร้อนจากภายนอกไม่สามารถส่งต่อเข้าไปในตัวบ้านได้

บริเวณชั้นนี้จะออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนสีเขียวภายในบ้าน ทำให้บ้านร่มรื่นเป็นอย่างมาก

ถัดเข้าด้านในจะเป็นตำแหน่งประตูเข้าออกบ้าน ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนที่กั้นความเป็นส่วนตัวภายในบ้านด้านใน

เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลยนะครับในส่วนนี้

ตรงบริเวณหน้าทางเข้าที่ชั้นที่ 1 จะเป็นโถงโล่งอีกเช่นกันตรงนี้สามารถวางเก้าอี้นั่งเล่นได้

บริเวณหลังบ้านจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ ตรงนี้ทางโครงการจัดให้เป็นโซนพักผ่อนเล็กๆ มีบ่อเลี้ยงปลาขนาดย่อมไว้ให้เป็นไอเดียกับผู้ซื้อครับ

เข้าไปภายในของชั้นที่ 1 จะเป็นห้องแม่บ้าน และห้องครัวไทย ซึ่งทางโครงการจะ Built in ชุดครัวยี่ห้อ Bertazzoni จาก Italy มาให้ครบทั้งชุดเพื่อรองรับการใช้งานของครอบครัวขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่

ส่วนต่อมาไปชมชั้นใต้กันต่อครับ ซึ่งทางลงจะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านพอดี

นี่จะเป็นบันไดลงไปยังชั้นใต้ดิน บริเวณบันไดส่วนนี้ทางโครงการจะติดตั้งไฟสว่างไว้ให้ด้วยนะครับ

เป็นที่จอดรถที่สวยงามมากๆ

เมื่อลงมาที่ชั้นใต้ดินจะเจอพื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ถึง 4 คัน และติดตั้ง EV Charger ไว้ให้เรียบร้อย และมีพื้นที่สำหรับล้างรถอีกด้วย

ตรงนี้เป็นส่วนห้องเก็บของ บริเวณพื้นที่จอดรถที่ทางโครงการทำมาให้เป็นไอเดียครับ สามารถเก็บเครื่องมือ อุปกรณ์ดูแลรถเอาไว้ที่บริเวณนี้ได้ด้วยครับ

บริเวณชั้นใต้ดินโครงการได้จัดเป็นมุมนั่งเล่นแบบเท่ๆ ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง

ถัดมาขึ้นไปชมชั้นที่ 2 กันต่อ นี่จะเป็นบันไดหลักสำหรับเข้าบ้าน ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าสุดของตัวบ้านเลย

เมื่อขึ้นมาแล้วเราจะพบกับ Courtyard ซึ่งทางโครงการลงต้นไม้มาให้ด้วยเลยครับ ทำให้บริเวณนี้ร่มรื่นไม่ต่างจากชั้นแรกเลยครับ

ทางเข้าไปยังภายในบ้าน ถ้าดูจากภาพนี้ทางโครงการจะติดตั้งกระจกใสบานใหญ่มาให้ทั่วบ้านเลยครับ ทำให้บ้านดูกว้างเป็นพิเศษ เราเข้าไปชมด้านในกันต่อเลยครับ

เข้ามาจะเจอกับ Living Room เป็นอันดับแรก พื้นที่โซนนี้จะเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ

ภายใน Living Room จะมี Powder Room ห้องน้ำสำหรับแขกมาให้ด้วยนะครับ

ส่วนถัดมาจะเป็น Dining Room

ตรงนี้จะเป็นโซนรับประทานอาหาร ซึ่งทางโครงการได้จัดให้มี Pantry เล็ก ๆ และ Island สำหรับเตรียมอาหารหรือนั่งเล่นได้ด้วยเช่นกัน

เดินเข้ามาภายในบ้านบริเวณโถงกลางบ้าน จะเป็นพื้นที่ Family Room ซึ่งจะมีความสูงถึง 8.2 เมตร โดยทางโครงการจะออกแบบให้มีทางเดินขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ให้ดูเป็นไอเดีย

มุมนี้จะเห็นถึงความสูงของโถงที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ไปยังชั้นบนได้อย่างลงตัว

บริเวณ Family Room ตรงนี้จะอยู่ติดกับบันไดขึ้นลง และลิฟท์ส่วนตัว

บริเวณนี้สามารถมองออกไปยัง Courtyard ที่อยู่ด้านนอกได้ด้วยครับ ทำให้บริเวณนี้กว้างใหญ่เป็นพิเศษ

มุมนี้ตกแต่งออกมาได้สวยงามมากๆ

ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่ 2 เข้ามาภายในจะเจอกับตำแหน่งของเตียงขนาด 3 ฟุต

นอกจากนี้ยังมี Walk in Closet กับห้องน้ำส่วนตัว เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนรับแขกมากครับ

ห้องน้ำของห้องนี้เป็นแนวยาวลึกเข้าไป จัดวางได้ลงตัวมากครับ มี Shower Box เอาไว้แบ่งแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกัน และมีช่องแสงสามารถรับแสงจากธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาได้ด้วยครับ

ส่วนต่อมาจะเป็นห้องนอนที่ 1 ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งมุมของตัวบ้าน เข้ามาภายในห้องจะเจอ Walk in Closet เป็นอันดับแรก ภายในจะ Built in เป็นตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของต่างๆ

มุมนี้จะเป็นมุมของโต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนการใช้งานออกจากกันมาให้เรียบร้อย สำหรับห้องนี้จะออกแบบมาไว้สำหรับคนสูงอายุไว้ด้วยนะครับ พื้นที่จึงต้องใหญ่นิดนึง

บริเวณตำแหน่งของเตียงในห้องนอนที่ 1 จะอยู่ตรงกลางของห้อง และติดตั้งกระจกรอบด้านทำให้ได้รับแสงจากธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ในตอนกลางวัน ทางโครงการเลือกใช้กระจกตัดแสง และกันความร้อน จะทำให้ภายในห้องเย็นสบาย

บันไดทางขึ้นไปยังชั้นที่ 3 พื้นเลือกใช้เป็นหินอ่อนดูสวยงาม หรูหรามากครับ

ขึ้นมายังชั้นที่ 3 สำหรับชั้นนี้จะเป็นชั้นของ Master Bedroom และห้องนอนที่ 3

ภาพนี้จะเป็นโถงทางเดินบนชั้นที่ 3 จะเห็นได้ว่าแทบไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลย แสงในบ้านส่วนใหญ่นี้เป็นแสงจากธรรมชาติจากด้านนอก ทำให้เราสามารถประหยัดการใช้ไฟในตอนกลางวันได้อีกด้วย

ห้องต่อมาจะเป็นห้องนอนที่ 3 ซึ่งจะกั้น Walk in Closet มาให้เรียบร้อย

สำหรับพื้นที่ Walk in Closet ของห้องนอนที่ 3 จะเห็นว่าขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถ Built in ตู้เสื้อผ้า ชั้นเก็บของ และโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัวมากๆ

ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนที่ 3 ภายในจะแบ่งส่วนการใช้งานระหว่างส่วนเปียก กับส่วนแห้งเอาไว้อย่างชัดเจน

ตำแหน่งของเตียงขนาด 5 ฟุตนี้จะหันออกไปด้านนอก โดยทางโครงการจะติดตั้งเป็นกระจกใสมาให้รอบห้อง ทำให้สามารถรับวิว และแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่

นี่จะเป็นอีกมุมภายในห้องนอนที่ 3

ออกมายังระเบียงด้านนอกของห้องนอนที่ 3 พื้นที่ในส่วนนี้ถือว่าใหญ่มากๆ

บนชั้นที่ 3 ทางโครงการออกแบบให้มีห้องพระมาให้ด้วยนะครับ ซึ่งขนาดกำลังพอดีเลยครับ

ห้องสุดท้ายจะเป็น Master Bedroom ซึ่งจะเป็นห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านนี้ เข้ามาภายในจะเจอ Walk in Closet เป็นอันดับแรก ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ

เข้ามาภายในห้องน้ำของ Master bedroom ก็จะแบ่งสัดส่วนการใช้งานออกจากกัน พื้นที่อาบน้ำกั้นส่วนด้วย Shower Box ตรงกลางห้องจะเป็นตำแหน่งของ His & Her ถัดมาจะเป็นอ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวอยู่ริมหน้าต่างแบบเต็มบานแบบนี้ดูสวยมากเลยครับ

มีการแบ่งโซนเปียก กับโซนแห้งไว้ให้อย่างชัดเจน ติดตั้ง Rain Shower พร้อมออกแบบให้มีพื้นที่วางอุปกรณ์ในการอาบน้ำต่างๆ มาให้เรียบร้อย

โดยอุปกรณ์ภายในห้องน้ำของโครงการนี้จะใช้อุปกรณ์จากแบรนด์ Gessi

เข้ามาชมบริเวณด้านในห้องนอนกันต่อครับ ตำแหน่งของเตียงจะตั้งหันออกไปด้านนอก สามารถรับวิวจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่ รอบห้องทางโครงการจะติดตั้งเป็นกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ทำให้ห้องดูกว้างสบายตาเป็นพิเศษ

ตำแหน่งของชั้นวางทีวีจะอยู่บริเวณปลายเตียงพอดี

บ้านตัวอย่างที่สองจะเป็นบ้านแบบ VISIONBERRY 5 Bedroom  ขนาดที่ดิน 165 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 20 ยูนิต

เดินเข้ามาบริเวณชั้นล่างด้านหน้าสุดจะเป็นบันไดทางขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ซึ่งบันไดบริเวณด้านหน้านี้ทางโครงการจะติดตั้งไฟส่องทางให้บริเวณบันไดนี้ด้วย

ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับทางลงไปยังชั้นจอดรถใต้ดิน

และบริเวณตอนนี้จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียว และทางเดินเข้าไปยังด้านหลังของตัวบ้าน

ถัดเข้ามานิดเดียวจะเจอกับประตูเข้าออกไปยังพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน ซี่งทางโครงการจะติดตั้งมาให้ตามแบบนี้เลยนะครับ

เข้ามาภายในแล้วจะเจอกับพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ และยังมีสวนสีเขียวอีกด้วย

พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำขนาดความยาวถึง 9 เมตร

ด้านหลังสุดของบ้านจะเป็นพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนจะลงไปยังสระว่ายน้ำ

มุมนี้จะเห็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านข้างของตัวบ้าน

ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้องฟิตเนสที่ติดตั้งเป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้สามารถรับวิวด้านนอกในเวลาออกกำลังกาย

ติดกับสระว่ายน้ำจะมีทางเข้าออกภายในบ้านด้วยนะครับ

เข้ามาแล้วจะเจอกับโถง ซึ่งบริเวณนี้จะมีลิฟท์ส่วนตัว และบันไดขึ้นลงไปยังชั้นบน

นี่จะเป็นหน้าตาลิฟท์โดยสารส่วนตัว

นี่จะเป็นด้านในของลิฟท์

นอกจากนั้นบนชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของครัวไทย ซึ่งภายในครัวทางโครงการจะติดตั้งชุดครัวที่เห็นในภาพให้ทั้งหมด ซี่งจะเป็นชุดครัวนำเข้าจากประเทศอิตาลี Bertazzoni นะครัผบ สวยงามมากๆ

และติดตั้งมาพร้อมกับลิฟท์ส่งอาหาร

ขึ้นไปชมชั้นบนชั้นที่ 2 กันต่อครับ พื้นบริเวณบันไดก็จะปูเป็นหินอ่อนสี และลายจะประมาณนี้เลยนะครับ

เดินขึ้นมาจากชั้นล่างจะเจอกับพื้นที่ขนาดใหญ่บริเวณตรงกลางของตัวบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็น Dining Area

ซึ่งความสูงบริเวณตรงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 9 เมตร แล้วทางโครงการก็จะติดตั้งกระจกใสไว้ให้รอบด้าน ทำให้บ้านยิ่งดูโปร่งโล่ง และกว้างเป็นพิเศษ

พื้นที่บริเวณตรงนี้สามารถวางชุคโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งได้เกินสิบคนได้อย่างสบายๆเลยครับ

เราย้อนกลับไปยังทางเข้าออกหลักที่อยู่บนชั้นที่ 2 นี่จะเป็นบันไดขึ้นมาจากชั้นที่ 1 บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน

พอเดินขึ้นมาจะมาเจอกับพื้นที่นั่งเล่น และประตูก่อนจะเข้าไปยังภายในตัวบ้าน

เดินเข้ามาด้านในจะเจอ Courtyard ขนาดใหญ่

บริเวณ Courtyard ตรงนี้ทางโครงการจะออกแบบให้ตัวบ้านเป็นกระจกใสขนาดใหญ่ ทำให้สามารถมองเข้าออกไปยังภายในบ้านได้ ทำให้พื้นที่บริเวณดูกว้าง และใหญ่เป็นพิเศษ

อย่างที่บอกครับ โครงการนี้เค้าออกแบบมาให้เป็นบ้านคลัสเตอร์ โดยให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ สามารถพักอาศัยได้หลายเจเนอเรชั่น ดังนั้นบ้านที่นี่จะสามารถเชื่อมต่อกันได้ระหว่างบ้านสองหลัง และนี่จะเป็นทางเชื่อมระหว่างบ้านตัวอย่างขนาดเล็ก กับบ้านตัวอย่างขนาดกลาง

ถัดเข้ามาภายในบ้าน ส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ของ Living Room ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน ซึ่งภายในจะมีพื้นที่ขนาดค่อนข้างที่จะใหญ่มาก ดังนั้นพื้นที่ในส่วนนี้จะสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ

ถัดมาจะเป็น Dining Room ซึ่งจะติดกับ Living Room เลยครับ พื้นที่ในส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งของครัวเล็กๆ ง่ายๆ สามารถวางเป็นโต๊ะรับประทานอาคาร หรือจะเป็น Island สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆได้ครับ

เดินเข้ามาบริเวณตรงกลางของตัวบ้านจะเป็นตำแหน่ง Family Room แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหาร

บริเวณ Family Room จะอยู่ใกล้กับลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้านเลยนะครับ

ถัดมาอีกด้านของตัวบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2 เราเข้ามาชมห้องนอนที่ 2 กันก่อนครับ สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งห้องนี้เป็นห้องเด็กให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ

ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว กั้นส่วนเปียก กับส่วนแห้งออกจากกันมาให้เรียบร้อย พื้น และผนังจะได้ตามภาพนี้เลยนะครับ

ห้องต่อมาจะเป็นห้องนอนที่ 1 ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ ภายในห้องทางโครงการจะกั้นส่วนให้เป็น Walk in Closet มาให้เรียบร้อย

ตำแหน่งของเตียงจะหันออกไปยังด้านนอก ทางโครงการจะติดตั้งเป็นกระจกใสบานใหญ่มาให้รอบห้อง ทำให้ภายในห้องดูกว้าง และใหญ่เป็นพิเศษ แถมยังสามารถรับวิว และแสงธรรมชาติจากด้านนอกได้เต็มที่อีกด้วย

นี่จะเป็นอีกมุมภายในห้องนอนที่ 1 ด้านในสุดจะเป็นตำแหน่งของ Walk in Closet และห้องน้ำในตัว

บริเวณ Walk in Closet จะถูก Built in เป็นตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของ เก็บของ

ภายในห้องน้ำของห้องนอนที่ 1 พื้น และผนังปูเป็นกระเบื้องหินสวยงาม จุดเด่นของห้องน้ำคือได้เพดานสูงมากๆ

กั้นส่วนการใช้งานระหว่างส่วนแห้ง กับส่วนเปียก

ให้ Rain Shower มาให้ด้วยนะครับ ใช้เป็นของ Gessi สีทองแดงสวยงาม

ขึ้นมาบนชั้นที่ 3 สำหรับชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom, ห้องนอนที่ 3 และห้องนอนที่ 4 ในส่วนบริเวณตรงกลางจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น

ตำแหน่งของลิฟท์

ติดกับลิฟท์โดยสารจะเป็นพื้นที่เล็กๆ สามารถทำเป็นห้องทำงานเล็กๆ ได้นะครับ

ก่อนอื่นมาชม Master Bedroom กันก่อนครับ จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้านนี้ ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ห้องน้ำ Walk in Closet และห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Walk in Closet เป็นอย่างแรก ภายในจะเป็นตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของต่างๆ ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของตัวห้อง

ก่อนอื่นมาชม Master Bedroom กันก่อนครับ จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้านนี้ ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ห้องน้ำ Walk in Closet และห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Walk in Closet เป็นอย่างแรก ภายในจะเป็นตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของต่างๆ ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของตัวห้อง

ถัดมาด้านในสุดของห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่งจะแบ่งการใช้งานเป็นส่วนๆเช่นกัน และมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยนะครับ

ตำแหน่งของอ่างอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด

และตำแหน่งของเตียงจะหันออกไปยังด้านนอก ภายในห้องจะติดตั้งเป็นกระจกใสบานใหญ่มาให้ทั่วห้อง ทำให้ห้องดูกว้างใหญ่เป็นพิเศษ สามารถรับวิวจากด้านนอกได้อย่างเต็มที่ สวยมากๆ ครับ

ถัดมาจะเดินมาอีกฝั่งของตัวบ้าน จะเจอกับห้องพระซึ่งจะอยู่ติดกับบันไดขึ้นลง

ระหว่างทางเดินในส่วนนี้ ทางโครงการออกแบบให้เป็นกระจกใสเต็มบานตามภาพนี้ ซึ่งสามารถมองลงไปยังชั้นล่างได้อย่างชัดเจน แถมยังทำให้บ้านดูกว้างไม่อึดอัดเลย

เข้ามาภายในห้องนอนที่ 4

มี Walk in Closet มาให้ด้วยเช่นกัน

ภายในห้องน้ำในตัวของห้องนอนที่ 4 ติดตั้งและกั้นส่วนมาให้เรียบร้อยเช่นกัน

ห้องสุดท้ายจะเป็นห้องนอนที่ 3 เข้ามาภายในจะเจอกับ Walk in Closet ซึ่งจะเชื่อมกับห้องน้ำในตัว

ตำแหน่งของเตียงก็หันออกไปยังด้านนอกเช่นกัน

สรุปได้ว่า Mulberry Grove The Forestias Villas  (มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการ THE FORESTIAS by MQDC ที่เป็น Mega Project เน้นให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ในส่วนของทำเลที่ตั้งถือว่าตั้งอยู่ใจกลางทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากโซนบางนาได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆมาโดยตลอด ส่งผลให้เกิดความเจริญในส่วนต่างๆ และเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง ดังนั้นทำให้โซนบางนานี้ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งในการเดินทางที่อยู่ใกล้กับถนนเส้นหลักสำคัญหลายเส้น รวมไปถึงทางด่วนพิเศษอย่างทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษบูรพาวิถี และถนนกาญจนาภิเษก มากไปกว่านั้นยังใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกัน นอกจากนั้นยังรายล้อมไปด้วยศูนย์การค้า โรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน ทำให้โซนบางนานี้กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และมีเกณฑ์ที่จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ อีกด้วย

สำหรับบ้านเดี่ยวที่นี่จะมีแบบบ้านให้เลือกอยู่ 3 แบบ โดยจะแบ่งเป็น ROSEBERRY 4 ห้องนอน VISIONBERRY 5 ห้องนอน และ LEGENDBERRY 6 ห้องนอน โดยจะมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1,203 – 1,724 ตร.ม. ความพิเศษของที่นี่คือจะเป็น บ้านคลัสเตอร์ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ สามารถอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ได้อย่างสบายๆ และได้ความเป็นส่วนตัว เพราะมีเพียง 37 ยูนิตเท่านั้น ในส่วนของแบบบ้านออกแบบฟังก์ชันมาตอบโจทย์การอยู่อาศัย บ้านขนาดเล็ก และขนาดกลางออกแบบที่จอดรถอยู่ใต้ดิน ทำให้บริเวณบ้านด้านหน้าเปิดโล่งไม่มีอะไรมาบังความสวยของบ้าน จุดเด่นในส่วนอื่นๆคงจะเป็นนวัตกรรมต่างๆ ที่ใส่เข้ามาให้กับบ้าน และเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมได้มาตรฐาน ยิ่งทำให้ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัยได้สมบูรณ์แบบเข้าไปอีก สำหรับผู้สนใจสามารถนัดเพื่อเข้าไปชมโครงการได้แล้ววันนี้