ทำเลและการเดินทาง

สำหรับทำเลของคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ HYDE SUKHUMVIT11 ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และอยู่ในจุดศูนย์กลาง CBD กรุงเทพฯ เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ สำหรับคอนโด HYDE SUKHUMVIT 11 ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท11 โครงการห่างจาก BTS นานา เพียงแค่ 450 เมตร ถือว่าอยู่ในช่วงที่เดินได้ค่อนข้างที่จะสบาย  สำหรับซอยสุขุมวิท11 จะเป็นซอยที่มีชาวต่างชาติมาเที่ยว และพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นชาวเกาหลี ญี่ปุ่น ชาวตะวันตก และอื่นๆ  ทำให้คอนโด HYDE SUKHUMVIT11 ค่อนข้างจะคึกคัก ไม่เงียบเหงาสักเท่าไหร่

มาดูภาพนี้ ภาพนี้กำลังแสดงถึงระยะทางจาก โครงการห่างจาก BTS นานา เพียงแค่ 450 เมตร  ส่วนใครที่ใช้ BTS นานา (สายสีเขียว) เป็นประจำ สถานีนานานี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่าง สถานีสำคัญๆ จากนานาไปจำนวน 3 สถานี

BTS ขาเข้า สถานนีนานา – เพลิตจิต – ชิดลม – สยาม

BTS ขาออก สถานีนานา – อโศก – พร้อมพงษ์ – ทองหล่อ

ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากสถานีนานา ที่อยู่กึ่งกลางและถัดไปอีก 3 สถานี ล้วนแล้วเป็นจุดสำคัญของกรุงเทพฯ เท่านั้นเลย

ในส่วนของทางด่วนจะอยู่ใกล้กับทางด่วนเพลินจิต

การเดินทางไปยังโครงการคอนโด HYDE SUKHUMVIT11 สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โดยการเดินทางด้วยรถยนต์ จะเริ่มตั้งแต่สุขุมวิท3 (ซอยนานา) ขับตรงตามทางไปก่อน เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายด้านหน้า

จนมาถึง ซอยทางลัดไปอโศก (ตรงข้ามโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) เป็นเส้นทางลัดที่สามารถลัดทะลุไปยังอโศก โดยจะตัดผ่าน สุชุมวิท11 สุขุมวิท 13 จนไปถึงถนนอโศก

เลี้ยวซ้ายเข้า ซอยทางลัดไปอโศก (ตรงข้ามโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์)

พอเลี้ยวซ้ายเข้ามาให้ขับตรงจนไปเจอสามแยก

เจอแยกให้เลี้ยวขวาตามทางไปเลยนะครับ

เลี้ยวขวามาเสร็จก็ให้เลี้ยวซ้ายตามทาง

พอเลี้ยวซ้ายมาแล้วให้เตรียมเลี้ยวขวาอีกครัง

เลี้ยวเข้ามาภายในซอยสุขุมวิท11 เป็นที่เรียบร้อย

ขับตรงตามทางมานิดนึงก็จะเจอ Sales Gallery  ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดได้เลยครับ (สำหรับคนที่อยากเข้ามาชมโครงการจริง จอดรถที่ Sales Gallery เพื่อติดต่อนะครับ)

ส่วนตัวคอนโดจะอยู่ตรงข้ามกับ Sales Gallery เราจะพาไปชมตัวคอนโดกันนะครับ

HYDE SUKHUMVIT11 คอนโดสูงพร้อมอยู่ จะมีจำนวน 2 อาคาร โดยจะแยกเป็น Tower A สูง 39ชั้น และTower B สูง 9 ชั้น ซึ่งทางเข้าของโครงการจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกติดกับถนนสุขุมวิท11 Tower B ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 จะเป็นพื้นที่ Automatic Parking และสวนส่วนกลางจะยกไปชั้นบนสุดเป็นสวนลอยฟ้า สำหรับนั่งพักผ่อน โดยพื้นที่จอดรถแบบปกติจะอยู่ชั้นใต้ดินลงไปอีก 3 ชั้น โดยทางเข้า Automatic Parking จะต้องวนรถไปทางด้านหลังอาคารเพื่อมายังที่จอดรถครับ นอกจากพื้นที่สีเขียวรอบโครงการแล้ว ระหว่าง Tower A และ Tower B ยังมีสวนไว้รองรับให้มีความเป็นธรรมชาติจริงๆ และส่วนของ Tower A จะอยู่ด้านใน  (สำหรับรีวิวนี้จะพูดถึงแค่ Tower A เท่านั้นนะครับ)

1^st Floor Plan พอเข้ามายังโครงการ จุด Drop off จะอยู่หันไปทางทางทิศเหนือ ภายใน Lobby ที่มีความสูงแบบ Double Space ทำให้บรรยากาศภายในนี้ดูโล่งกว้างด้วยความสูง บวกกับทางโครงการเลือกหินสีขาวยิ่งทำให้ดูโล่งสบายตาไม่อึดอัด สำหรับบันไดที่เห็นนี้ ห้องนิติและห้อง Kid’s Room  และ Meeting Room ที่อยู่ชั้นลอย

2^nd – 10^th Floor Plan โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นจากชั้นที่ 2 ถ้าดูจาก Floor Plan แล้ว ทางโครงการจะเอาโถงลิฟท์ไว้ในตำแหน่งตรงกลางของอาคาร โดยมีห้องพักอาศัยอยู่รอบๆ แบ่งออกเป็นแต่ละทิศจำนวนทั้งสิ้น 14 ยูนิต และทำให้ห้องพักแต่ละห้องเป็นแบบ Single corridor โดยห้องพักทุกยูนิตจะไม่หันหน้ามาชนกัน สร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เราไปดูว่าแต่ละทิศมีห้องแบบไหนกันบ้าง

ทิศเหนือ : 3 ยูนิต  ห้องมุม 2 Bedroom Type B 58.54 – 58.62 ตร.ม.จำนวน 2 ยูนิต และ 1 Bedroom Type E 35.15 ตร.ม.จำนวน 1 ยูนิต

ทิศใต้ : 3 ยูนิต 2 Bedroom Type A 52.39 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต และ 1 Bedroom Type A & Type B 32.11 – 32.34 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต

ทิศตะวันออก : 3 ยูนิต ห้องหัวมุม 2 Bedroom Type C 62.56 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต และ 1 Bedroom Type C&D 33.99 – 34.89 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต

ทิศตะวันตก : 3 ยูนิต ห้องหัวมุม 2 Bedroom Type C  63.80 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต และ 1 Bedroom Type C&D 33.99 – 34.89 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต

11^st -15^th Floor Plan จำนวนยูนิตก็ยังเท่ากับชั้นที่แล้ว 14 ยูนิต แต่รูปแบบห้องพักจะมีเปลี่ยนแปลงอยู่ตำแหน่งนึงคือ เปลี่ยนจาก 1 ห้องนอน ไปเป็นห้อง Duplex ชั้น Lower พื้นที่ใช้สอย 63 ตร.ม. ตำแหน่งทิศตะวันออก กับ ทิศตะวันตก ห้องแบบ Duplex (lower) จะเริ่มที่ชั้น 11, 13, 15, 17 ,19, 21, 23, 25, 27

สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน จะอยู่ในตำแหน่งเป็นห้องมุมทุกทิศ เริ่มตั้งแต่ทิศเหนือจะมีห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 Bedroom (Type B) 2 ยูนิต

ห้องมุมใต้จะมีห้องแบบ  2 Bedroom (Type C) จำนวน 2 ยูนิต

16^th Floor Plan สำหรับชั้นเลขคู่ ตำแหน่งห้องแบบ Duplex จะเป็น (Upper) โดยจะมีชั้น 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 26, 28,

และทิศเหนือจะมีการเปลี่ยนจาก ห้องแบบ 1 Bedroom Type E ไปเป็นห้องแบบ Studio (Type A)

17^th– 30^th Floor Plan สำหรับชั้นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งห้องแต่ละแบบ มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 15 ยูนิต โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

ทิศเหนือ เพิ่มห้องแบบ Studio (Type B) จำนวน 1 ยูนิต

ทิศตะวันออก ตัดห้องแบบ 1 Bedroom ออกไป 1ยูนิต และสลับตำแหน่ง Duplex (Lower)

ทิศตะวันตก ก็เช่นกัน ตัดห้องแบบ 1 Bedroom ออกไป 1ยูนิต และสลับตำแหน่ง Duplex (Lower)

31^st Floor Plan สำหรับจำนวนยูนิตลดลงเป็น 11 ยูนิต โดยเปลี่ยนห้องทางทิศเหนือให้เป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน ลดเหลือเพียง 2 ยูนิต และทางทิศใต้ก็เช่นกันเป็นตำแหน่งแบบ 2 ห้องนอน เปลี่ยนเป็นห้องแบบ Penthouse 1 (Lower)

33^rd Floor Plan จำนวนของยูนิตลดลงเป็น 9 ยูนิต เปลี่ยนห้องแบบ Penthouse 2(Lower) มาอยู่ตำแหน่งตรงกลาง และมีพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวเพิ่มเข้ามา

34^th Floor plan จำนวนยูนิตอยู่ที่ 9 ยูนิต โดยจะมี Penthouse 3 (Upper) ต่อเนื่องมาจากชั้น33 ทางทิศใต้

35^th Floor Plan จำนวนยูนิตลดลงเหลือ 8 ยูนิต โดยพื้นที่ทางทิศตะวันออกหายไป และเปลี่ยนพื้นที่เป็นสวนส่วนกลาง ตามกฎหมายในการสร้างอาคาร และเป็นชั้น Upper ของ Penthouse 3 ต่อเนื่องมาจากชั้น 34 ก่อนหน้านี้

36^th Floor Plan ในส่วนของชั้นนี้จำนวนจะเหลือ 7 ยูนิต แตกต่างจากชั้นที่แล้วคือตำแหน่งทิศใต้ที่จะเปลี่ยนจาก 2 ห้องนอน ให้กลายเป็นแบบ 3 ห้องนอน (Type C)

37th Floor Plan พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งชั้นนี้ จะมีที่พักอาศัย 1 ยูนิต สำหรับห้อง Villa Penthouse และยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นห้อง Muti-Purpose Room, Library Room, Golf Simulator Room, Game Room และ Theatre Room

38^th Floor Plan ชั้นสระว่ายน้ำ พร้อม Kid’s pool, Jacuzzi, Steam & Sauna และห้องน้ำส่วนกลาง

39th Floor Plan เป็นพื้นที่ของห้องฟิตเนสเกือบทั้งชั้น และห้องงานระบบต่าง ๆ

ต่อมาเรามาชมโครงการจริงกันเลยครับ คอนโด HYDE SUKHUMVIT11 เป็นคอนโดสูง 9 ชั้น (Tower B ) และ39 ชั้น (Tower A) จำนวนทั้งสิ้น 2 อาคาร  หน้าตาภายนอกของอาคาร A ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ตั้งสูงโดดเด่นภายในซอยสุขุมวิท11 เลยก็ว่าได้

Tower B มีพื้นที่ทั้งหมด 25 ยูนิต ในชั้น 1 ชั้น 1 มีพื้นที่ร้านค้า (Retail)  ทั้งหมด 2 ยูนิต  ชั้น 8- 9 มีที่พักอาศัยทั้งหมด 23 ยูนิต ชั้น 2 – 7 จะเป็น Automatic Parking ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นสวนลอยฟ้า สำหรับนั่งพักผ่อน และพื้นที่จอดรถแบบปกติจะอยู่ในชั้นใต้ดินลงไปอีก 3 ชั้น สามารถเลี้ยวเข้าจอดที่ Tower B ได้ ส่วนการเข้าจอดแบบ Automatic Parking จะต้องขับผ่าน Tower A

เข้ามาภายใน Tower A จะเป็นในส่วนของ Lobby ที่มีความสูงเป็น Double space  มีบันไดทางขึ้นสำหรับชั้นลอย ด้านบนจะเป็นห้องนิติบุคคล , Kid’s room และ Meeting room

พื้นที่ส่วนกลางสีเขียวที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Tower A และ Tower B

พื้นที่สวนส่วนกลางจะมีโต๊ะเพื่อสำหรับนั่งพักผ่อนอยู่ 2 ชุด

สำหรับห้องตัวอย่างจะมีให้ชมอยู่ 5 ห้อง โดยจะแบ่งออกเป็น  Studio / 1 Bedroom / 2 Bedroom / 3 Bedroom และDuplex

ห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องตัวอย่างแบบห้อง Studio ขนาด 27 ตร.ม. ถ้าดูจาก Layout ห้องแบบนี้จะหน้าแคบแต่ยาวลึก ดังนั้นตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์จะถูกวางได้ตาม Layout ของห้องได้อย่างลงตัวพอดี โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ดังต่อไปนี้ ชุดครัว ฐานเตียง ชั้นวางห้วเตียง 2 ชิ้น ชุดโซฟา พร้อมโต๊ะกลาง โต๊ะรับประทานอาหารมาพร้อมกับเก้าอี้ 2 ตัว และตู้เย็น Microwave

Studio ก็ได้ประตูเป็น Digital Door Lock

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอชุดครัวที่ถูกติดตั้งขนานยาวไปกับผนังห้อง

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน จากภาพก็จะเห็นตำแหน่งวางชุดโซฟา และส่วนในสุดติดกับหน้าต่างจะเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

ส่วนเตียงจะถูกวางในตำแหน่งตรงกลางของห้อง สำหรับห้องนี้จะไม่มีประตูมากั้นแยกแต่ละส่วน ทำให้ห้องแบบ Studio ขนาดเพียง 27 ตร.ม. ดูกว้าง โล่ง สบายตาไม่มีอะไรมาบดบัง

วัสดุภายในห้อง

หน้าต่าง  Aluminium Frame with Safety Glass

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Kohler or equivalent

แอร์  Conceal Split Type, Trane or equivalent

Built-in ชุดครัว-Gloss Spray Paint

อุปกรณ์ต่างๆของชุดครัว  Cooker, Hood, Microwave Oven, Electrolux or equivalent

ประตู Digital Door Lock

Inside all Lift-cars Key Card Access Control

ห้อง Studio จะใช้กระเบื้อง Granito ลายหินอ่อน (Homogeneous Tile)

สุขภัณฑ์มาตรฐานจาก Kohlor โถสุขภัณฑ์ มีฉากกั้นอาบน้ำ Shower box กระจกใสแบบ Tempered แยกส่วนแห้ง-เปียก พื้นที่อาบน้ำก่อธรณีขึ้นเล็กน้อย ฝักบัวมีทั้ง Rain shower และ Hand shower

สำหรับห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียก และแห้ง ออกจากกัน ได้อย่างลงตัว ตู้บนสามารถเก็บของได้ ตู้ล่างก็เช่นกัน

ห้องตัวอย่างถัดมาจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 34.5 ตร.ม. สิ่งที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ ฐานเตียง Queen Size, Night Table, Sofa, Coffee Table, Love seat, Dining Table และDining Chair

สำหรับห้องแบบนี้ถูกออกแบบมาให้พื้นที่ ครัว Living area กับพื้นที่ห้องนอน แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่ส่วนแรกพอเปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัวที่ Built-in มาให้ถึงสองด้าน ส่วน Living area จะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน

พื้นที่ของ Pantry ครัว ที่ถูก Built-in ชุดครัวแบบหน้าบาน Hi-gloss บานพับ Soft close พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน Teka และ Hob+hood จาก Electrolux

Built-in ตู้และช่องสำหรับ Microwave

พอเข้ามาด้านในจะพบตำแหน่งการวางชุดโซฟาติดกับหน้าต่าง

และยังมีโซฟาอีกชุดที่วางตำแหน่งกลางห้อง เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ดูทีวี และพื้นที่กลางห้องนี้จะสามารถกั้นด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อนไว้สำหรับกั้นส่วนของห้องนอน กับ Living Area หรือจะไม่ปิดห้องก็จะดูกว้างโล่งไปอีกแบบ

ภาพนี้จะเห็นระยะการนั่งดูทีวี ซึ่งอยู่ระยะกำลังดีในการรับชม  (สำหรับห้องจริงจะไม่มีทีวีให้นะครับ)

ห้องจะดูกว้างเป็นพิเศษถ้าเราเลื่อนปิดประตูกระจกที่กั้นออก ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ

มองจากมุมนี้จะเห็นว่าจะมีพื้นที่ Walk in Closet นิดนึงบริเวณก่อนทางเข้าห้องน้ำ

ห้องตัวอย่างห้องต่อมาจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 63 ตร.ม. จะมีอยู่ 2 ตำแหน่ง ซึ่ง 2 ตำแหน่งนี้ระเบียงจะอยู่ทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก

ประตู Digital Door Lock ยี่ห้อ Kaba

เปิดประตูเข้ามาภายในห้องแบบ 2 ห้องนอน สิ่งแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ของ Pantry ครัว ส่วนที่ติดกันจะเป็นพื้นที่สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

ถูก Built-in ชุดครัวแบบหน้าบาน Hi-gloss บานพับ Soft close พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน Teka และ Hob+hood จาก Electrolux ส่วนที่ติดกันจะเป็นพื้นที่สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

ทางโครงการ Built-in ช่องสำหรับวาง Microwave เข้าช่องมาให้เรียบร้อย จาก Electrolux

นอกจากโครงการติดตั้ง Digital Door Lock และ Video Door Phone

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งของ Living Area ซึ่งสามารถวางชุดโซฟา และโต๊ะกลาง โดยยังมีพื้นที่ใช้สอยวางสิ่งของอื่นๆได้อีก

ภาพนี้ถ่ายมาจากบริเวณโซฟามองเข้าไปยังพื้นที่ของห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ตำแหน่งของ Master Bedroom จะอยู่ทางขวามือ และห้องนอนเล็กจะอยู่ตำแหน่งตรงกลาง

เดี๋ยวจะไล่ให้ชมทีละห้องเริ่มด้วยห้องน้ำที่ 2

ห้องน้ำที่ 2 จะสำหรับห้องนอนเล็กไว้ใช้เป็นหลัก

เข้ามาภายในห้องนอนที่ 2 สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตได้อย่างพอดี

สำหรับห้อง Master Bedroom ด้วยขนาดของห้องจะมีพื้นที่วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี

สุขภัณฑ์ห้องน้ำ มาตรฐานจาก Kohler พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อน ขนาด 60×60 ตู้กระจกเต็มบานสามารถเปิดใช้งาน เก็บอุปกรณ์ไว้ด้านในตู้ได้

ห้องตัวอย่างสุดท้ายจะเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน ห้องมุมทางทิศเหนือ ขนาด 85 ตร.ม. บนชั้น 31 ดูจากแปลนทางโครงการเค้าจะจับเอาห้องนอนแยกไว้คนละข้าง โดยมีพื้นที่ Living Area อยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนอน โดยเค้าจะแยกห้องนอนที่ 2 และ3 อยู่ข้างนึง และ ห้อง Master อีกข้าง โดยห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะได้ความเป็นส่วนตัว

เข้ามาภายในห้องจะเจอพื้นที่ส่วนครัว Built-in ชุดครัวเป็นรูป L เข้ามุมห้อง และติดกันจะเป็นตำแหน่งวางตู้เย็น

และพื้นที่ตรงข้ามกับชุดครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร

มุมนี้จะมองเข้าไปยัง Bedroom 2 และ Bedroom 3

ภายในห้องน้ำ

ห้องนอนที่ 2 ตกแต่งห้องให้เป็นสีชมพู

อยู่ภายในห้องนอนที่ 2 มองออกไปยังทางเข้าห้อง

ถัดมาจะเป็น Bedroom 3 จะมีพื้นที่สำหรับเตียงใหญ่กว่าห้องที่แล้ว

ออกบริเวณ Living Area มองไปทางเข้าห้อง Master Bedroom

สำหรับพื้นที่ติดตั้งทีวีจะอยู่บริเวณ Living Area หน้าห้อง Master Bedroom พอดี

เข้ามาภายในห้อง Master bedroom ซ้ายมือจะพื้นที่ของตำแหน่งเตียง ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ

ห้อง Master Bedroom นี้จะเป็นห้องน้ำในห้อง และติดตั้งอ่างน้ำมาให้ด้วย

อ่างอาบน้ำที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ภายในห้องแบบ 3 Bedroom

นอกจากมีอ่างแล้ว ยังมี Shower Box ให้มาด้วยนะครับ

ห้องตัวอย่างถัดไปจะเป็นแบบ Duplex พื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม. ซึ่งห้องแบบนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่ 11 (Lower) สลับกับชั้นคู่ ที่เป็น Upper

ประตูเป็น Digital Door Lock

เปิดเข้ามาภายในห้อง จะเจอส่วนครัว (ซ้าย) เป็นอันดับแรก และห้องอเนกประสงค์ (ขวา)

Built-in ชุดครัวแบบหน้าบาน Hi-gloss บานพับ Soft close พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน Teka และ Hob+ood จาก Electrolux ส่วนที่ติดกันจะเป็นพื้นที่สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

สำหรับห้องอเนกประสงค์ทางขวามือ สามารถปรับเปลี่ยนให้ห้องเป็นห้องอย่างอื่นก็ได้ เช่นห้องทำงาน

ห้องแบบ Duplex ตำแหน่ง Living Area จะเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เพราะจะได้ความโปรงโล่งจากความสูงของห้อง

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ชั้น (Lower)

มุมสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร จะมีพื้นที่สำหรับ 2 ที่นั่ง

ขึ้นไปชมชั้น Upper

บันไดที่จะขึ้นไปชั้น Upper ที่กันตกจะติดตั้งเป็นกระจกยิ่งทำให้ห้องยิ่งดูโปร่ง โล่งมากขึ้นอีก

มุมนี้จะขึ้นมาอยู่ชั้น Upper แล้วมองลงไปชั้น Lower จะเห็นตำแหน่งที่วางชุดโซฟาบริเวณ Living Area ได้อย่างชัดเจน

สำหรับห้องนอนบนชั้น Upper จะติดตั้งเป็นกระจกใส เพื่อให้ห้องดูกว้างอีกเช่นกัน

ห้องนอนสำหรับห้องแบบ Duplex (Upper)

พื้นที่ส่วนกลาง (Facility) จะอยู่ที่ชั้น 37, 38 และ 39

อีกมุมที่เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือที่สามารถชมวิวเมืองได้พร้อม ๆ กัน

เริ่มต้นตั้งแต่ Library อยู่ที่ชั้น 37

Multi-Purpose เชื่อมต่อกับ Private Library & Co-working space

เคาน์เตอร์บาร์ และพื้นที่ครัวที่ ลูกบ้านจะสามารถใช้เป็นที่จัด Private Party

ต่อด้วยห้อง Golf Simulator room

Theatre room

ถัดมาจะเป็น Game Room

สระว่ายน้ำก็จะอยู่บนชั้น 38 เช่นกัน โดยจะแยกสระเด็ก และผู้ใหญ่ ที่มาพร้อมกับ Jacuzzi Swimming Pool

ขึ้นมาชั้นที่ 39 จะเป็นพื้นที่ของ Fitness และ ห้อง Sauna & Steam room

โครงการ HYDE SUKHUMVIT 11 (ไฮด์ สุขุมวิท 11) คอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 2 อาคาร A สูง 39 ชั้น และ อาคาร B สูง 9 ชั้น อำนวยความสะดวกด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์อย่างครบครัน เช่น Fitness , Jacuzzi Swimming Pool , Sauna & Steam Rooms , Theatre Room , Multi-Purpose Room ฯลฯ ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 27 – 160 ตร.ม. พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished และ Fully Fitted และใกล้กับสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Terminal 21 , Emquartier , Central embassy , SIAM Paragon, Bamrungrad Internationnal , Samitivej , Exchange Tower , Interchange Tower , All seasons Tower , Central world , Central chidlom , The Em district อยู่ใจกลางแหล่ง Office Building ต่าง ๆ อโศก เพลินจิต ชิดลม วิทยุ และ MRT สถานีสุขุมวิท (Interchange) BTS สถานีอโศก

สุขุมวิท11 (นานา) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของถนนสุขุมวิท เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความสำคัญของกรุงเทพฯ ด้วยศักยภาพทำเลของนานาที่ตั้งอยู่ใจกลาง CBD กรุงเทพฯ ทำให้ความเจริญได้เข้ามายังนานาอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดเวลา นอกเหนือจากนั้นที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามาทำให้โซนนานามีการพัฒนาที่ดินกลายเป็นที่พักอาศัยแบบแนวสูงเป็นจำนวนมาก แต่ในเรื่องของที่ดิน ที่ราคามีการขึ้นในทุกปีๆ ทำให้ที่พักอาศัยแนวราบเกิดขึ้นน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแบบแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ถ้าให้โฟกัสเกี่ยวกับที่พักอาศัยในโซนนี้ สุขุมวิท 11 จะเป็นซอยที่เหมาะและสะดวกสบายสำหรับการทำที่พักอาศัย สุขุมวิท 11จะอยู่กึ่งกลางระหว่างเพลินจิต และอโศก ทำให้ในเรื่องการเดินทางนั้นสะดวกรวดเร็วในการเดินทางไปจุดต่าง ๆ ภายในกรุงเทพฯ จาก BTS นานา เพียง 1 สถานีถึง อโศก และ เพลิตจิต

เพียง 2 สถานีถึง พร้อมพงษ์ และชิดลม เพียง 3 สถานีถึง ทองหล่อ และสยาม สำหรับทำเลสุขุมวิท 11 จะเป็นทำเลที่สะดวกสบายในทุก ๆ ด้าน ทำให้ชาวต่างชาตินิยมมาพักอาศัยกันในโซนนี้เปนจำนวนมาก

สำหรับโครงการ HYDE SUKHUMVIT 11 (ไฮด์ สุขุมวิท 11) เป็นหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะซื้ออยู่เอง หรือซื้อเพื่อลงทุน เนื่องจาก Demand ในโซนนี้มีค่อนข้างเยอะ เมื่อเอาโครงการมาเทียบทำเลที่ตั้ง ราคา และสิ่งต่าง ๆ กับโครงการอื่น ๆ ที่อยู่โซนพร้อมพงษ์ ทองหล่อแล้ว โครงการ HYDE SUKHUMVIT 11 (ไฮด์ สุขุมวิท 11)  ถือว่าคุ้มกว่า ทั้งเรื่องทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองมากกว่า ราคาต่อ ตร.ม.ที่ถูกกว่า ซึ่งการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุอยู่ในระดับมาตรฐานเหมือนกัน

นอกจากการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองแล้ว การซื้อลงทุนเพื่อปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะอยู่ในย่านที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติอยู่จำนวนไม่น้อย ด้วยทำเลใจกลางเมือง และอยู่ในแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว อย่าง BTS สถานีนานาเพียง 450 เมตร สำหรับการปล่อยเช่ายูนิตในโครงการ ส่วนใหญ่ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาท/ตร.ม ขนาดห้องเริ่มต้นสำหรับการปล่อยเช่า เริ่มที่ห้องแบบ 1 bedroom ขนาด 34 ตร.ม ขึ้นไป ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 28,000 บาทขึ้นไป หรือสามารถปล่อยเช่าในราคาที่สูงกว่านี้ได้ Rental Yield สำหรับการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 4-5% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เมื่อดูจากสัดส่วนการแบ่งขายห้องพักอาศัยแต่ละยูนิตในโครงการสำหรับชาวต่างชาตินั้นค่อนข้างได้รับความนิยม และเหลือเพียงไม่กี่ยูนิตเท่านั้น เมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัยแล้ว ถือว่าการซื้อเพื่อปล่อยเช่าห้องให้ชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อในระดับที่สามารถเช่าห้องอยู่ในใจกลางเมืองได้ไม่ยากนัก

line : @hydesukhumvit11

Facebook : hydesukhumvit11

website : www.hyde11.com

IG : grandeasset

Tel : 094 405 1111